แสงแดดต้นเดือนพฤษภาคมยามเที่ยงวันร้อนระอุ
เหมือนเคย สองเท้าเล็กๆ พาร่างของเด็กน้อยวัย 7-8
เดินแทรกช่องว่างระหว่างยานพาหนะบนท้องถนนไป
อย่างช้าๆ มือเล็กๆ ที่เป็นสีคล้ำแดดยกขึ้นปาดเหงื่อบน
หน้าผากใต้หมวกมีปีกเล็กๆ ใบเก่า ก่อนจะไปป้ายเช็ด
กับเสื้อและกางเกงที่ดูเก่าแก่ มอมแมมไม่แพ้กัน สายตา
สอดส่ายเข้าไปในรถช้าๆ อย่างมีความหวัง
เด็กน้อยค่อยๆ ยืนหยุดอยู่หน้ากระจกของรถทีละคัน
ส่งสายตาอ้อนวอนเข้าไปข้างใน รอคอยว่า จะมีใครเปิด
กระจกรถ และบอกว่าต้องการซื้อดอกจำปีห่อใบตองที่
เหลืออยู่ครึ่งตะกร้าที่เขาประคองอยู่บ้างไหม
หากคันแล้วคันเล่า มีเพียงสายตาที่มองผ่านกระจก
รถ ซึ่งภายในเปิดแอร์เย็นเฉียบ บ้างก็เป็นสายตาแสดง
ความสงสาร บ้างก็เป็นสายตาแสดงความรังเกียจ เลย
ไปถึงสายตาแสดงความรำคาญ แต่เด็กน้อยไม่มีทาง
เลือกอื่น เขาเคยชินกับสายตาเหล่านี้พอสมควรแล้ว
สัญญาณไฟกำลังจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียวใน
ไม่ช้า และเด็กน้อยก็รู้ดีว่า ใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องขึ้นไป
ยืนบนฟุตบาทเพื่อรอสัญญาณไฟครั้งต่อไป
ขณะที่เขากำลังจะหมดความหวังอยู่แล้ว กระจกหน้า
ต่างของรถยนต์คันสีเทากระทัดรัดซึ่งภายในมีผู้หญิงอายุ
มากกว่าเป็นคนขับ ส่วนที่นั่งด้านข้างคนขับซึ่งติดอยู่กับ
กระจกด้านที่เขายืนอยู่ก็เปิดออก
เด็กน้อยได้ยินเสียงของหญิงสูงวัยกว่าดังจากข้างใน
เอาเงินให้เด็กสิบบาทก็พอ ไม่ต้องซื้อหรอก ที่บ้านมี
เยอะแยะ
และเขาก็เห็นผู้หญิงคนที่อายุน้อยกว่าก้มลงไปด้าน
ข้าง หยิบเหรียญขึ้นมา และส่งให้เขา
เด็กน้อยสั่นศีรษะแรงๆ เปล่งเสียงจากคอที่ว่างเปล่า
เบาหวิว ไม่เอาครับ
ขายยังไงคะ ผู้หญิงคนอายุน้อยกว่าถาม
สามกำยี่สิบบาท เขาตอบอย่างคล่องแคล่ว ด้วย
เพราะพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่หนแล้ว
ผู้หญิงคนที่อายุมากกว่าบอกข้ามมา ให้หนู เอาเงิน
ไปสิบบาท แต่ไม่ซื้อ
เด็กน้อยหน้าเสียสั่นศีรษะแรงๆ อีกครั้ง ความอัดอั้นตัน
ใจจุกอยู่ในอกจนดันน้ำตาที่พยายามเก็บงำเอ่อขึ้นมาคลอ
ตา เขายังจำความเจ็บปวดที่เคยรับได้ดี และไม่อยากจะ
ทำผิดซ้ำเดิมอีก หลุดปากบอกออกไปเสียงสั่นๆ
เดี๋ยวหนูโดนตี
ใครจะตีหนู
คำถามง่ายๆ แต่คำตอบกลับยากหนักหนา เด็กน้อย
ได้แต่ส่ายหน้า
หนูไม่รู้
ผู้หญิงสูงวัยเริ่มจะอารมณ์เสีย ด้วยเสียงที่เพิ่มความ
ดังขึ้น อะไรกัน ใครจะตีหนู หนูไม่รู้หรอกหรือ พ่อแม่อยู่
ไหน
พ่อแม่...พ่อแม่คืออะไร เด็กน้อยไม่รู้เลยสักนิด และ
ตอบไปตามจริง
หนูไม่รู้...
ผู้หญิงอายุน้อยกว่าก้มลงไปหยิบเงินเพิ่ม และหันไป
บอกคนขับว่า ซื้อของน้องเค้าไปเถอะแม่
เด็กน้อยเกือบจะยิ้มออกมาได้ แต่สิ่งที่ได้ยินต่อมาทำ
ให้เขาใจเสีย เพราะผู้หญิงสูงวัยกว่าพูดว่า ไม่ต้องให้
ไม่เอาสิบบาท ก็ไม่ต้องให้เลยก็แล้วกัน
สมองสั่งให้ขาออกก้าวเดินต่อ เพราะคงหมดหวังแล้ว
แต่เด็กน้อยไม่สามารถขยับขาออกเดินได้ เขารู้สึกหมด
แรงจนแทบอยากจะทรุดนั่งลงตรงนั้น มือน้อยๆ กำห่อ
ใบตองสามห่อเอาไว้แน่น ส่งสายตาแสดงความสิ้นหวัง
ออกไป
แต่ผู้หญิงอายุน้อยกว่ากลับส่งเหรียญ 10 บาทให้เขา
สองเหรียญและรับดอกจำปีห่อใบตองที่ถือเอาไว้สามห่อ
ไป ทำให้ตะกร้าที่แม้น้ำหนักจะน้อย แต่หนักอึ้งในความ
รู้สึกเบาลงไปมากเหลือเกินสำหรับเด็กน้อย
เจ้าของรถสีเทายังไม่ปิดกระจกหน้าต่าง เด็กน้อยจึง
ยังไม่ได้เดินต่อไป เขาเห็นผู้หญิงอายุน้อยกว่าเอี้ยวตัว
ไปทางด้านหลังรถ หูก็ได้ยินเสียงแว่วออกมา
ให้เด็กไปเถอะแม่ ถ้าคิดจะช่วยนะ อย่าให้เงินเลย
ซื้อให้หมดๆ ไปดีกว่า เด็กจะได้ไปพัก ให้เงินไป ก็ไม่ถึง
เด็กหรอก
แต่ให้เงินไป ก็เหมือนสนับสนุนพวกชั่วๆ บังคับเด็ก
มาเดินขายของ เสียงนั้นบ่งบอกอารมณ์หงุดหงิดได้เป็น
อย่างดี "สังคมเราทุกวันนี้มันแย่จริงๆ"
ถ้าจะไม่สนับสนุน แม่ก็ต้องใจแข็ง ไม่เปิดกระจกมา
ตั้งแต่แรก ผู้หญิงอายุน้อยกว่าบอก
ผู้หญิงสูงวัยกว่าชะโงกหน้ามาทางเขา หนูไปร้องเรียน
ปวีณาเลย รู้จักไหม มูลนิธิปวีณาน่ะ
เด็กน้อยส่ายหน้า คำว่ามูลนิธิแปลว่าอะไร ปวีณาคือ
ใคร ร้องเรียนคืออะไร
ผู้หญิงอายุน้อยกว่าหันกลับมาแล้ว เธอบ่นกับคนที่อยู่
หลังพวงมาลัยเบาๆ แม่ก็ เด็กจะไปรู้เรื่องอะไร และเธอ
ก็ส่งขวดน้ำเล็กๆ ให้เขาขวดหนึ่ง
ตอนแรกเด็กน้อยไม่กล้ารับ แต่เมื่อเธอพูดย้ำด้วยใบ
หน้าแสดงความเห็นใจ ให้น้อง เอาไปดื่มนะคะ
เด็กน้อยจึงรับมาด้วยความตื้นตัน มันคงจะช่วยให้คอ
ที่แห้งผากจากแสงแดดที่แผดเผาชุ่มชื่นขึ้นมาได้บ้าง
แสงไฟเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ผู้หญิงในรถทั้ง
สองจึงรีบบอกให้เด็กน้อยขึ้นไปบนฟุตบาท และปิดกระจก
หน้าต่างลง
ไม่นานรถยนต์คันสีเทาก็แล่นตามรถยนต์คันอื่นๆ หาย
ลับไปจากสายตา
เด็กน้อยถอนหายใจ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่หยาดไหล
ลงมาโดยไม่รู้ตัว เขาไม่เข้าใจหรอกว่า ความรู้สึกรวดร้าว
ในอกตอนนี้คืออะไร สิ่งที่ผู้หญิงสองคนนั้นพูดคืออะไร...
พ่อแม่ ร้องเรียน มูลนิธิ... เขารู้เพียงแต่ว่าถ้าวันนี้ขายดอก
จำปีในตะกร้านี้ไม่หมด กลับไปถึงห้องเล็กๆ ที่อับทึมคับ
แคบห้องนั้น เขาจะต้องโดนไม่เรียวฟาดอย่างแน่นอน
ดวงตาสีดำสนิทที่อ่อนแรงเหม่อมองไปยังสัญญาณไฟ
รอเวลาที่มันจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและสีแดง
อีกครั้ง ด้วยความหวังว่า รถติดครั้งต่อไป ดอกจำปีใน
ตะกร้าของเขาจะขายหมดสักที
Poovadee Tuchinda
7/5/06
23.20 pm
At home
แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 49 23:39:32
จากคุณ :
Clear Ice
- [
7 พ.ค. 49 23:35:33
]