เวียดนาม...เพราะฝันถึงจึงไปหา
อันโตนิโอ
ล่องเรือ
เรือหัวมังกรทอดลำนิ่งริมตลิ่งแม่น้ำหอม เกยหัวเรือเข้าฝั่ง คนเรือใช้เศษเหล็กเก่า ๆ มาเชื่อมทำเป็นบันไดโย้เย้ เกี่ยวด้านบนไว้กับกราบเรือปล่อยบันไดขั้นสุดท้ายห้อยลอยสูงจากพื้นเกือบสองคืบ ผมให้ต่ายก้าวขึ้นบันไดก่อน ผู้หญิงเอเซียตัวเล็ก ๆ ขึ้นบันไดนี้ค่อนข้างทุลักทุเลต่างกับสาวฝรั่งร่างสูงใหญ่ก้าวพรวดเดียวถึงบนเรืออย่างสบาย ๆ ผมสำรวจนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวกันคร่าว ๆ เห็นว่ามีทั้งหมดราวสิบห้าคน ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งตามเคย ที่เป็นเอเซียเห็นจะมีผมกับต่าย หนุ่มเวียดนามหนึ่งคนและสาวญี่ปุ่นอีกหนึ่งคนเท่านั้น
บนเรือกว้างขวางนั่งกันได้สบาย ขนาดของมันพอ ๆ กับเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำในบ้านเราเพียงแต่ของเขาจะกันส่วนที่นั่งสำหรับผู้โดยสารไว้ครึ่งตอนหน้า ส่วนตอนกลางยกพื้นสูงมีประตูเปิดปิดได้เป็นที่พักของคนเรือซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ส่วนด้านหลังสุดมีไว้สำหรับคนขับใช้ควบคุมเครื่องยนตร์ของเขา ตลอดทั้งลำมีหลังคาเก๋งคลุมกันแดดกันฝนได้ดี และส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือล่องแม่น้ำหอมนี้ก็คือส่วนโขนเรือที่สลักเสลาเป็นรูปหัวมังกรทาด้วยสีสดใสสวยงาม มีบ้างบางลำเป็นรูปหัวไก่ แต่นาน ๆ จะเห็นสักลำ
ชาวเรือหัวมังกรหากินกับนักท่องเที่ยว อยู่กันเป็นครอบครัวภายในเรือนั้นเลย ส่วนใหญ่แล้วพ่อจะเป็นคนขับและดูแลทางด้านเครื่องยนตร์กลไกกับการบำรุงรักษาเรือซึ่งเปรียบเสมือนบ้านและสำนักงาน แม่จะคอยดูแลต้อนรับผู้โดยสาร ทำอาหารและประกอบการค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรือเช่นรับเอาโปสการ์ด เสื้อผ้าและบรรดาของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ มาขายระหว่างการเดินทาง ส่วนลูกก็ทำหน้าที่เป็นลูกมือจิปาถะ หากเป็นลูกชายมักเน้นหนักไปทางพ่อ ถ้าเป็นลูกสาวก็ช่วยต้อนรับผู้โดยสาร จัดโต๊ะเสิร์ฟอาหารกลางวันและขายเครื่องดื่มกับสินค้าที่ระลึกแบบเดียวกับแม่ วันหนึ่ง ๆ ชาวเรือพวกนี้จะรับนักท่องเที่ยวได้เพียงหนึ่งเที่ยวเท่านั้น เพราะใช้เวลานานตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงสี่โมงเย็น รายได้คงพอเลี้ยงกันไปวันต่อวันไม่มากนัก
วิธีการที่จะล่องลำน้ำหอมหรือซมเฮืองได้อย่างละเมียดละไมภายในเวลากะทัดรัดที่สุดคือซื้อทัวร์เรือหัวมังกรนี้แหละ ราคานั้นไม่แพง ออกถูกมากด้วยซ้ำหากนำมาเทียบกับเมืองไทย ผมเคยเที่ยวแม่น้ำบางปะกงเริ่มจากท่าน้ำวัดหลวงพ่อโสธรไปจนถึงตลาดวัดจีนสโมสร ไม่มีแวะขึ้นชมฝั่งรายทางจนกว่าจะถึงที่หมาย ไปกลับใช้เวลาราวสี่ชั่วโมง ตลอดเส้นทางเสิร์ฟเพียงน้ำอัดลมถ้วยเดียว ค่าโดยสารคนละ 100 บาท แต่ที่เว้ เรือล่องแม่น้ำหอมใช้เวลาทั้งสิ้นรวม 8 ชั่วโมง แวะขึ้นชมสุสานจักรพรรดิกับเจดีย์ริมน้ำ 4-5 แห่งแถมยังมีอาหารเที่ยงบนเรืออีกหนึ่งมื้อ ค่าใช้จ่ายตกคนละ 25,000 ด็อง หรือราว ๆ 75 บาทเท่านั้นเอง
บริเวณท่าเรือหัวมังกรจะอยู่ตรงริมฝั่งสวนสาธารณะทางทิศใต้หรือฝั่งเมืองใหม่ ห่างจากสะพานตรังเทียนไปทางขวาราว ๆ สองร้อยเมตร ทุกลำลอยนิ่งเฉียงเอาหัวเกยฝั่ง มีการจัดลำดับเข้าคิวกันเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
ในเรือมีเก้าอี้พลาสติกตั้งวางสองแถวหันหน้าเข้าหากันหันหลังให้หน้าต่าง พอเริ่มออกเดินทาง ทุกคนดูพร้อมใจกันขยับเขยิบเก้าอี้นั่งเฉียงเอาแขนพาดขอบหน้าต่างชมวิวทิวทัศน์กันด้วยใบหน้าเปรมสุข ผู้โดยสารมี 15 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก นอกจากผมและต่ายแล้วก็มีหนุ่มเวียดนามคนหนึ่งและสาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นชาวเอเซีย
...
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 21:43:09