CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เทรักหมดหัวใจ...ให้เธอ (นางฟ้าของผม) ตอนที่ 1 ... .ภาคต่อจากหวานใจ ยัยทอมบอยค่ะ ใครคิดถึงแพรดาวก็มาอ่านกันเน้อ

    เรื่องสั้นแบบยาวๆหน่อยๆมาอีกแล้วค่ะ ^__^
    ใครจำเรื่องพี่รันกับน้องริน และหนูอุนกับพี่จีได้ อย่าพลาดเรื่องนี้นะค

    เป็นการรวมตัวกันของสองเรื่องนี้ค่ะ
    แต่เป็นภาคของใครกับ ... ใคร ต้องลองอ่านกันดุนะคะ ^^


    ผีเสื้อ

    เทรักหมดหัวใจ...ให้เธอ (นางฟ้าของผม)

    ตอนที่ 1

    อากาศในกรุงเทพมหานครก็ยังคงร้อนเหมือนเช่นทุกๆวัน จนคนที่เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศต้องหยีตาลงมองภาพรอบๆกายเมื่อเดินลงมาจากรถยนต์ ยืนนิ่งอยู่บนฟุตบาท

    “เป็นไง...ไม่ได้มาตั้งสองปี ดูเปลี่ยนไปบ้างไหม” อีกหนึ่งร่างสูงเอ่ยถามหลังจากกดล็อครถเรียบร้อยแล้ว หันมองเห็นเพื่อนสนิทที่อยู่ๆมันก็หนีไปเรียนต่อ ปล่อยให้เขาออกเทปร้องเพลงในวงการดนตรีอยู่คนเดียว และเมื่อสองปีกว่าๆผ่านไป มันก็กลับมา ในมาดที่ดูแปลกออกไปนิดหน่อย

    ดูสุขุมขึ้น...และนิ่งแม้กระทั่งในแววตา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าการไปเรียนต่อและใช้ชีวิตลำพัง ทำให้ร่มธรรม เพื่อนสนิทของเขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

    แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาเลย ก็คือความรักน้องสาวของมัน ที่เมื่อเจอหน้ากันที่สนามบินก็กอดและออกอาการดีใจแบบเวอร์ๆตามสไตล์พี่ชายผู้หวงน้องสาวแบบสุดๆ

    ก็เข้าใจดีอยู่หรอก...ห่างกันไปตั้งนานแบบนั้น

    แถมยังได้ข่าวว่า ในเดือนแรกๆนี่ พี่ชายคนนี้โทรหาน้องสาวแทบจะทุกคืน
    เล่นเอาโดนน้องสาวบ่นกลับไปให้จ๋อยไปหลายคืนว่า
    “บ้านไม่ได้เป็นองค์การโทรศัพท์นะพี่รัน”

    คิดแล้ว นทธรก็หัวเราะหึๆออกมา ตอนคิดออกว่าคนโดนบ่นทำหน้ายังไงหลังจากได้ยิน
    จนคนข้างๆหันมองอย่างไม่เข้าใจ

    “หัวเราะอะไรของแกน่ะ ไอ้นัท แล้วนี่จะเข้าไปด้านในได้หรือยัง ร้อนจะตายชักอยู่แล้ว” บ่นพลางทำหน้าย่น เพราะอากาศร้อนๆ นทธรเลยพยักหน้า ก่อนจะเดินนำเพื่อนรักที่หน้าตาไม่สบอารมณ์เข้าไปด้านในตึกของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งพวกเขาเป็นศิลปินในสังกัดนี้อยู่



    เพียงก้าวแรกที่ย่างเข้าไปในตัวตึกที่ถูกตกแต่งไว้ในสไตล์เรียบง่าย ด้วยโทนสีขาวและดำ ทันสมัยตามสมัยนิยม เสียงของเหล่าพนักงานต้อนรับที่เคาท์เตอร์ก็ดังทักทายพวกเขามากันเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว

    “ว้าย!! นั่นพี่รันไม่ใช่หรือคะ”

    เสียงหวานวี้ดว้ายเรียกให้เจ้าของชื่อหันไปยิ้มให้เสียทั้งดวงตา อ่อนหวานและอ่อนโยนเฉกเช่นพี่รันคนเดิมเมื่อสองปีก่อน

    “พี่รันจริงๆด้วย ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ”

    แล้วก็วิ่งตรงเข้ามาถามสุ้มเสียงหวาน ร่มธรรมพยักหน้าก่อนจะขยับเข้าไปยืนข้างๆ แย้มปากเห็นรอยยิ้มละไมใส่กล้องมือถือของพวกสาวๆ

    นทธรได้แต่ยิ้มมอง เห็นความนิยมในตัวเพื่อนสนิทที่ไม่ได้สร่างซาลงเลย
    แล้วสาวๆก็ต้องถูกขัดใจเมื่อใครบางคนเดินออกมาเห็นเข้า

    “ตาย! นี่พวกเธอ บริษัทไม่ได้จ้างให้มาถ่ายรูปกับนักร้องนะยะ! กลับไปทำงานกันได้แล้ว!” สาวร่างบางในชุดทำงานสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวหันไปเอ็ดเหล่าสาวๆประชาสัมพันธ์เสียงเข้ม จนคนมองอย่างร่มธรรมแซวใส่

    “แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พี่เนื้อนวลยังเฮี้ยบไม่เปลี่ยนเลยนะครับ”

    เนื้อนวล ผู้จัดการส่วนตัวของนทธรหันมาทำท่าจะบอกว่า “แน่สิยะ!” หากพอเห็นว่าเป็นใครที่พูดก็ทำตาโต แล้วแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างๆดีใจที่ได้พบคนตรงหน้า

    “ตายแล้ว! น้องรัน! กลับมาเมื่อไหร่กันเนี่ยจ๊ะ” หล่อนถามพลางเข้ามาคุยใกล้ๆ

    คนถูกถามมองอดีตผู้จัดการส่วนตัว สมัยที่เขาเคยออกเทปกับที่นี่ ทว่าในเวลานี้เขาได้หมดสัญญากับสังกัดลงแล้ว อมยิ้มให้พร้อมกับตอบคำถามของเธอ

    “เพิ่งมาถึงเมื่อวานตอนเย็นๆครับพี่เนื้อนวล”

    “ดีจังเลย ... มานี่ดีกว่าจ้ะ ตอนนี้กำลังจะมีประชุมเรื่องอัลบัมใหม่ของน้องนัทพอดีเลย พวกทีมโปรดิวเซอร์คงดีใจที่ได้เจอเรา” เนื้อนวลว่าพลางเดินนำไปยังส่วนที่ว่า เขากับน้องนัทเลยเดินตามไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่จางหาย



    แล้วก็จริงอย่างที่เนื้อนวลพูดเอาไว้ เมือ่เขาก้าวเท้าเข้าไป เหล่าทีมงานที่เคยสร้างผลงานร่วมกับเขาก็ต่างกรูเข้ามาถามไถ่ ออกอาการแสดงความคิดถึงกันอย่างท่วมท้น

    ขนาดที่ร่มธรรมเองยังคาดเอาไว้ไม่ถึง

    เลยกลับบ้านด้วยรอยยิ้มสุขหัวใจ จนเพื่อนที่อาสาขับรถให้แซวออกมา
    “ยิ้มไม่หุบเลยนะไอ้รัน”


    คนยิ้มไม่หุบยิ่ง หันไปยิ้มกว้างกว่าเดิม
    “ก็คนมันดีใจนี่หว่า ไม่คิดว่าทุกคนยังจะให้ความสำคัญกับฉันขนาดนี้” เขาดีใจจริงๆ

    “ดีใจด้วยล่ะกันนะ ... เอ้อ ว่าแต่แกจะยอมรับข้อเสนอของพี่บีแกหรือเปล่า”

    นทธรกำลังถามถึงเรื่องที่พี่บี โปรดิวเซอร์ชวนให้ร่มธรรมมาร้องเพลงร่วมด้วยในอัลบัมนี้สักเพลงสองเพลง ในตอนนั้นร่มธรรมยังหาคำตอบไม่ได้เลยบอกได้แต่ว่าขอเก็บมาคิดก่อน เพราะเขาเองก็อยากจะพักว่างๆสักระยะ ขนาดเรื่องงานเรื่องการเขายังไม่ได้คิดวางแผนอะไรเลย

    “ไม่รู้สิ ฉันอยากจะพักนิ่งๆก่อนในช่วงนี้ ยังไม่อยากทำอะไรเลย”

    แม้แต่งานเพลงที่เขาชอบนักชอบหนาก็ตาม

    นทธรฟังอย่างเข้าใจ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น นทธรหยิบรับแล้วกรอกเสียงหวานลงไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา
    “ว่าไงครับน้องริน”

    น้องริน....เรียกสายตาของคนข้างๆที่นั่งเฉยๆให้หันมองขวับ

    จริงสิ...น้องสาวเขากับไอ้หมอนี่...คบกันอยู่นี่นา เฮ้อ คิดแล้วเขาอดจะปวดใจแปล๊บๆไม่ได้ ความรู้สึกตอนนี้เหมือน...แม่นกมองดูลูกนกบินออกห่างจากอกด้วยสายตาอาลัยนัก

    “กำลังกลับครับ ใช่พี่ขับรถอยู่ ... คุยกับพี่รันไหม”

    สักครู่นทธรก็ยื่นโทรศัพท์ให้ร่มธรรม ความคิดเจ็บแปลบก็เหือดหายเมื่อเสียงหวานๆใสๆของน้องสาวดังผ่านโทรศัพท์มา

    “จ๋าน้องริน” เสียงที่ขานกลับ ไม่หวานน้อยไปกว่านทธรเสียเท่าไหร่เลย คนขับรถแอบเบนสายตาไปมองเจ้าของเสียงด้วยรอยยิ้มขันๆ

    ... เฮ้อ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ไอ้รันเพื่อนของเขาก็อ่อนหวานกับน้องสาวได้อยู่เสมอๆ
    อดคิดไม่ได้เลยว่า ถ้าเพื่อนเขามันมีแฟนขึ้นมา จะหวานกับแฟนมันได้ขนาดไหน

    แล้ว...จะหวงพอๆกับที่มันหวงน้องสาวหรือเปล่า

    ประเด็นหลังที่นึกขึ้นมา ทำเอานทธรแอบขมวดคิ้ว ด้วยถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ น่าสงสารหรือดีใจแทนผู้หญิงคนนั้นดีที่จะได้รับความรักแบบไม่มีจำนวนจำกัดและวันหมดอายุจากเพื่อนเขาคนนี้

    “น้องรินอยากกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่รันซื้อไปฝาก เอาเค้กหรือไอศกรีมไหมคะ ... อะไรไดเอทเหรอ น้องรินไม่อ้วนสักหน่อย ใครบอกว่าน้องรินอ้วน?...ไอ้นัทมันบอกเหรอน้องริน ...”

    ประโยคหลังคนพูดตวัดสายตามามองไอ้นัทที่ว่า คนถูกมองเบนสายตามามองอย่างไม่เข้าใจ
    เขาไปบอกว่าน้องรินอ้วนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นจะจำได้เลย?

    แต่ประเดี๋ยวหนึ่ง ดูเหมือนน้องรินจะปฏิเสธกลับมา เลยทำให้ร่มธรรมลดอาการเข้มลง แล้วหันไปพูดจ๊ะจ๋ากับน้องสาว จนกระทั่งน้องรินจะวาง คนเป็นพี่อิดออดนิดหน่อยก่อนจะสัญญาว่าจะซื้อของกินไปฝาก เอาแบบโลว์แฟตด้วย จึงจะวางสายกันไปเสียที

    สุดท้าย ที่เคยคิดกันว่าจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนั้น เป็นอันต้องแวะห้างสรรพสินค้าระหว่างทางแทน



    “แกว่าน้องรินของฉันอ้วนเหรอ ไอ้นัท” ร่มธรรมหันไปถามเมื่อทั้งคู่เดินอยู่ในโซนร้านอาหารของตัวห้าง

    นทธรขมวดคิ้วด้วยเขาไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น
    “ไม่นี่ ฉันว่าน้องรินไม่ได้อ้วนสักหน่อย” เขาตอบ

    พี่ชายยังไม่หายอาการหน้านิ้วคิ้วมุ่น ยกมือขึ้นแตะคาง ครุ่นคิด

    “แล้วทำไมน้องสาวฉันถึงได้ลุกขึ้นมาไดเอตล่ะ? ต้องเป็นแกที่ไปพูดอะไรเข้าแน่นอนเลย” ร่มธรรมปักใจเชื่อสนิท เพราะแรงบันดาลใจของน้องสาวที่จะลดความอ้วนจะต้องมีผลมาจากเพื่อนของเขาซึ่งเป็นคนรักแน่ๆ

    อีกอย่าง ไอ้นัทมันเป็นคนซื่อบื้อน้อยซะเมื่อไหร่...อาจจะเผลอพูดอะไรที่ทำให้น้องสาวเขาคิดแบบนั้นก็ได้

    “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ บางทีอาจจะเป็นอารมณ์ของเด็กผู้หญิงก็ได้” นทธรค้านเสียงแข็ง เขาไม่เคยพูดอะไรในทำนองนั้นแน่ๆ เขาคิดเสียอีกว่าน้องรินน่ารักในแบบนีอยู่แล้ว ไม่ได้อ้วนไปหรือผอมไป อีกอย่างเขาก็ไม่รักน้องรินที่อ้วนหรือผอมเสียหน่อย

    “งั้นเหรอ” ร่มธรรมเลิกคิ้วสูง ในใจยังตะหงิดๆไม่หายกับอารมณ์ของเด็กผู้หญิงอย่างที่นทธรบอก

    “รีบๆซื้อดีกว่าไหม จะว่าไปฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน” นทธรเอ่ยชวน ทั้งคู่จึงเลิกสนใจประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่


    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : iNt_GaL - [ วันวิสาขบูชา 21:24:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป