CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แผนลุ้น++++คุณเพื่อนรัก (1)

    เธอมาแล้ว!  

     ธนิสรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นหญิงสาวผมยาวเลยบ่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงสีดำ อย่างที่เขาเห็นจนชินตาในวันทำงานของเธอ  เธอกำลังจะเปิดประตูเข้ามาในร้านเดิมที่นัดพบระหว่างเธอกับเขา เพราะมันอยู่ระหว่างที่ทำงานของเขาและเธอ
        อืม! วันนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ  อะไรหลายๆ อย่างที่เขาตั้งใจจะมาบอกเธอในวันนี้เป็นตัวกระตุ้นให้เขากระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างมาก แต่ก็รีบวางท่าเหมือนว่าวันนี้ไม่มีอะไรเหมือนวันก่อนๆ

    “ขอโทษนะไนน์ พอดีลินอยู่แก้งานต่อ เลยสายไปหน่อย สั่งอะไรมากินหรือยัง” เธอนั่งลงตรงข้ามและส่งยิ้มทักทายอย่างเคย

    “ยัง  รอลินนั่นแหละ”

    “งั้นก็สั่งเลย ลินหิวมากแล้วล่ะ” เธอยิ้มเก๋ พลางหันไปหาพนักงานบริการและสั่งอาหารสองสามอย่าง
    ระหว่างรออาหารนลินีได้มีโอกาสสำรวจคนตรงหน้า

       “นี่ไนน์วันนี้รู้สึกว่านายดูดีจัง มีอะไรพิเศษหรือเปล่าอ่ะ”  หญิงสาวทำสีหน้าอย่างคนรู้ทัน

       ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็กับธนิสน่ะ เป็นเพื่อนกันมานานถึง สี่ห้าปีแล้ว

       ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยวันแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้รู้จักและสนิทสนมกัน เนื่องด้วยกิจกรรมรับน้องแล้วทั้งคู่ได้เป็นบั๊ดดี้กัน ทั้งยังอยู่เอกเดียวกันด้วย  ทำให้ความสนิทสนมยิ่งเพิ่มพูน จนเรียนจบมาแล้วทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันอยู่ และนัดพบกันเมื่อมีโอกาส

    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกน่า” ธนิสเกาท้ายทอยแก้เขินทำให้นลินีรู้ได้ทันทีว่าหมอนี่ต้องมีอะไรแน่ๆ

    “แล้วไหนไนน์บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับลินไม่ใช่เหรอ  เรื่องอะไรอ่ะ” หญิงสาวยังคงถามต่อโดยปล่อยคำถามแรกไปอย่างไม่ต้องการรู้คำตอบอีกแล้ว

    “อือ  แต่กินก่อน ลินหิวไม่ใช่เหรอ”  หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ  อาหารเริ่มทยอยออกมา  ทั้งคู่กินอาหารไปพลางพูดคุยไป โดยหัวข้อที่นำมาพูดคุยระหว่างมื้อวันนี้เป็นเรื่องราวของพวกเขาสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน

    เมื่อมื้ออาหารตรงหน้าเสร็จสิ้นลง ชายหนุ่มจึงชวนหญิงส่าวออกไปข้างนอก

    “ไปไหนน่ะไนน์”

    “ตามมาเถอะน่า”

    นลินีรู้สึกแปลกใจเมื่อรถของธนิสเลี้ยวเข้ามาในสถาบันที่พวกเธอได้จบออกไป

    “มาทำไมที่มหา’ลัยน่ะ นัดอาจารย์ไว้เหรอ”

       ชายหนุ่มยังคงเงียบเพียงเดินนำเธอไปข้างหน้า ทำให้นลินีรู้สึกหมั่นไส้เพื่อนขึ้นมาตงิด  

     ก็รู้อ่ะนะ ว่านายนี่น่ะเป็นคนไม่ค่อยจะพูด สื่อความรู้สึกทางสายตาและการกระทำมากกว่า เพราะคบมาหลายปีจึงรู้ดี  ไม่มีเพื่อนผู้หญิงคนไหนที่สนิทกับธนิสเท่าหล่อน และอาจไม่มีเพื่อนคนไหนที่รู้ใจและรู้นิสัยเขาดีเท่าหล่อนเช่นกัน  
       
        ความคิดหยุดลงเมื่อชายหนุ่มหยุดเดิน

    “ไนน์พาลินมาที่นี่ทำไมน่ะ” นลินีถามเมื่อชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ศาลาริมน้ำข้างๆ คณะที่เขาและเธอเคยเรียน

    “จำได้ไหมลิน เราเจอกันครั้งแรกที่นี่”

     แล้วความทรงจำส่วนที่เธอเคยสร้างไว้ที่นี่ผุดขึ้นมาตามลำดับ ภาพเธอที่กำลังรีบร้อนวิ่งไปข้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะหาสถานที่ที่รุ่นพี่นัดไม่เจอ แล้วความรีบร้อนไม่ดูอะไรนี่แหละที่ทำให้เธอชนกับใครคนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างหน้า  

    “ขอโทษค่ะ “ เธอรีบขอโทษคนตรงหน้า  

    “เธอกำลังจะไปไหนน่ะ” เขาถาม

    “อาคาร 3 น่ะ รู้จักทางไหมคะ”

    “ผมก็กำลังจะไป ไปด้วยกันสิ เธอเป็นเด็กปีหนึ่งเหรอ เอกอะไรน่ะ”

    “เอกพัฒฯ” เธอตอบพลางเดินตามเขาไป

    “ เอกเดียวกันนี่ ผมก็เอกพัฒฯ ผมชื่อไนน์ เธอล่ะ”

    นลินีรู้สึกใจชื้นที่ได้เจอเพื่อนเอกเดียวกัน  “เราชื่อลิน”
    แล้วหลังจากนั้น เธอกับเขาก็ไปสาย คนอื่นเขาจับบั๊ดดี้กันหมดแล้ว กลายเป็นว่าเธอกับเขาต้องจับคู่กันโดยปริยาย

    “อือ จำได้สิ  ก็ตอนนั้น เราทั้งคู่โดนทำโทษ ให้ออกไปเต้นไก่ย่างด้วย  แล้วนายก็เต้นเหมือนไก่ย่างค้างคืนอ่ะ ทำไมจะจำไม่ได้” ว่าแล้วก็อดขำกิ๊กออกมาไม่ได้

    “ว่าแต่ นายมีอะไรจะคุยกับเราเหรอ ถึงต้องมาคุยกันที่นี่น่ะ” หญิงสาวยังคงถามต่อ ไม่สนใจสายตาดุๆ ที่เธอเคยเห็นบ่อยเวลาที่เธอหัวเราะเขาเรื่องกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย (แต่เขาอาย)

    ธนิสมองหน้านลินี เขาเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ  “ลิน เรารู้จักกันมาก็นานแล้วนะ”

    จู่ๆ นลินีก็หัวเราะกิ๊กออกมา ธนิสจ้องเธอเขม็ง “หัวเราะอะไรน่ะ”

    “ก็หัวเราะนายน่ะสิ” นลินีก็ยังคงเป็นนลินีที่มักจะกวนประสาทเขาเสมอ แม้กระทั่งในเวลานี้ เวลาสำคัญที่เขาจะบอกความรู้สึกกับหญิงสาว

    “นายพูดเหมือนแพทเทินจะขอคนแต่งงานอ่ะ คงไม่คิดจะขอเราแต่งงานหรอกนะ” นลินียังคงหัวเราะร่า เพราะระหว่างเธอกับธนิสไม่เคยมีเรื่องกุ๊กกิ๊กหวานแหววอย่างเพื่อนชายหญิงคู่อื่น ทำให้เธออดขำไม่ได้ (และไม่คิดว่าคนอย่างธนิสพูดเรื่องนี้เป็นด้วย)

    ธนิสเริ่มหน้ามุ่ยเหมือนกับทุกครั้งที่โดนเพื่อนตัวดีกวนประสาท แต่ก็นั่นแหละ อดทนไว้ก่อน วันนี้เรามาเพื่อบอกรักเธอ  ธนิสยังคงมองหน้าของเพื่อนสาวตรงหน้าที่ยังหัวเราะไม่หยุด  ถึงนลินีจะชอบกวนประสาทเขา(เป็นคนเดียวที่กล้า)แต่เธอก็น่ารัก
      นลินีไม่ใช่คนที่สวย แต่เธอมีความน่ารักมากมาย เขาค้นพบมันทุกวันๆ ที่อยู่กับหล่อน เป็นเพื่อนคนเดียวที่กล้าด่าว่าเขาเวลาที่แอบอู้ไม่ทำรายงานหรืองานกลุ่ม เป็นคนเดียวที่กล้าปลุกเขาที่มักจะอารมณ์เสียถ้ามีใครปลุก พูดง่ายๆ ว่า ด้วยบุคลิกเขาที่ไม่ค่อยพูด (ไม่นับวันที่เจอเธอครั้งแรก แล้วทักเธอก่อนเพราะความตื่นเต้นกับที่เรียนใหม่) แล้วก็แสดงออกไม่เก่งของเขาทำให้เขามีเพื่อนไม่มาก แต่อาศัยว่าเขาหน้าตาดี คิ้วคมเข้ม และดวงตาที่ใครก็ว่าดุ แต่นลินีบอกว่ามันทำให้เขาดูมีเสน่ห์  ทำให้ยังมีคนมาคบสมาคมกับเขาอยู่บ้าง (ไม่นับเพื่อนๆ ที่นลินีลากไปทำความรู้จักและอยู่กลุ่มเดียวกัน)

    “เรื่องแต่งงานน่ะ ยังหรอก  แต่ตอนนี้อยากขอลินเป็นแฟนก่อนน่ะ  ลินจะว่าไง”

    “หา!” คราวนี้เสียงหัวเราะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงอุทาน “นายว่าไงนะ”

    “หูหนวกหรือไง บอกว่าขอลินเป็นแฟนน่ะ” บทจะกวน นายธนิสก็กวนได้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน

    นลินีเป็นฝ่ายอึ้ง ไม่เชื่อหูตัวเอง ก็ผู้ชายอย่างธนิสน่ะนะ ถึงจะซื่อบื้อไปบ้างในการแสดงออกกับคนทั่วไป ถึงจะอารมณ์ร้ายบางครั้งที่ถูก(เธอ)กวนอารมณ์ แต่ใครช่วยบอกทีว่า อดีตเดือนคณะกำลังขอเธอที่เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ นิสัยออกจะกวนประสาทหน่อยๆเป็นแฟน เนี่ยนะ เขาจะมาไม้ไหนเนี่ย

    “ไนน์ นายได้รับความกระทบกระเทือนสมองส่วนไหนเหรอ เอ! หรือมีแผนอะไรอ่ะ อย่าบอกนะว่า แม่นายกำลังจับนายแต่งงานกะลูกสาวเพื่อนแล้วนายไม่ชอบจึงมาขอความช่วยเหลือจากลิน บอกกันดีๆ น่า ลินช่วยได้” หญิงสาวพูดเองเออเองเป็นฉากๆ  เออแฮะ!  สมแล้วที่ทำงานที่สำนักพิมพ์หนังสือ สงสัยสักวันเจ้าหล่อนคงเขียนนิยายออกมาขายเป็นเล่ม แน่ๆ

    “นี่ อย่ากวนได้มั๊ยลิน ไนน์พูดจริงนะ ไนน์รักลิน” แล้วคำที่เขาเก็บไว้มานานก็ได้พูดออกไป

    หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมา อย่างที่เขาไม่เคยเห็น  ก็ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเห็นสีหน้าอย่างนี้สักครั้ง มีเพียงสีหน้ามาดมั่น แล้วก็สดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา

    “ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” ไม่ใช่น้ำเสียงที่กวนประสาทแต่เป็นน้ำเสียงจริงจังที่ต้องการรู้คำตอบ

    “ไม่รู้สิ  รู้แต่ว่านานแล้ว ตั้งแต่ ปี 3 มั้ง เอ! หรือปี 2 ก็ไม่รู้แฮะ” เขาพูดแล้วเกาท้ายทอยอันเป็นอาการแสดงออกเวลาเขาเขิน (ตอนรับตำแหน่งเดือนคณะเขาจึงเกาท้ายทอยเสมอ)
       หญิงสาวยังคงเงียบ ธนิสใจคอไม่ดี เขาไม่คิดว่านลินีจะปฏิเสธ เพราะที่ผ่านมาเขาก็ไม่เห็นว่าเธอจะคบกับใครเป็นพิเศษ  หรือจะพูดให้ถูกคือ เธอจะเอาเวลาไหนไปคบกับใคร ในเมื่อสมัยเรียน ทั้งสองตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา เป็นคู่หูที่ได้รับการโหวตให้เป็นดาวปาท่องโก๋ของคณะ (เขาเลยเป็นคนเดียวที่ได้มาสองตำแหน่ง)  แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ชายมาสนใจนลินีเพียงแต่พวกนั้นเกรงใจเขาที่คอยเป็นบอดี้การ์ดให้หล่อนเสมอ  หรือว่าเขาจะบอกเธอสายไป หรือเธอตอบรับใครบางคนไปแล้ว

    “ว่าไงล่ะลิน เป็นแฟนไนน์ได้ไหม” เขาถามอีกครั้งด้วยความใจร้อนตามนิสัยของเขาที่มักจะไม่อดทนต่อการรอสิ่งใดเมื่อเห็นเธอก้มหน้างุด

    แล้วดวงหน้าใสก็เงยหน้าอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มกว้างที่เขาชอบมอง “งั้นลินชนะ”

    “อะไรนะ” เขาถามด้วยความงง

    “ลินบอกว่าลินชนะ เพราะว่าลินน่ะชอบไนน์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว แล้วก็รู้สึกรักไนน์ตั้งแต่ปีหนึ่งตอนไปรับน้องเอกแล้วล่ะ” เธอพูดด้วยสีหน้าเขินอาย ซึ่งธนิสเห็นว่ามันน่ารักมาก วันนี้เพื่อนของเขา(ที่กำลังจะกลายเป็นหวานใจในไม่ช้า)สวยมากที่สุดกว่าทุกๆ วัน

    “ลิน  ไนน์ดีใจที่สุด” แล้วเขาก็จับมือหญิงสาวมาไว้ในอุ้งมือที่ใหญ่และแข็งแรงของเขา

    “จากนี้ไป ไนน์ขอสัญญานะว่าจะดูแลลินอย่างดี”

    “ไม่ต้องหรอกไนน์”

    “ทำไมล่ะ” เขางงอีกครั้ง

    “ดูแลลินเหมือนอย่างที่ผ่านมาแหละ ที่ผ่านมาไนน์ดูแลลินดีมาตลอด แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ทะเลาะกันแต่ไนน์ก็ไม่เคยทิ้งลิน ลินรู้ว่าไนน์ทำเป็นไม่สนใจไปอย่างนั้น แต่แอบห่วงลินเสมอไม่ใช่เหรอ”

      แล้วหญิงสาวก็ไม่ได้พูดอีก เมื่อชายหนุ่มคว้าร่างของเธอเข้าไปกอด หญิงสาวเงียบกอดตอบเขาโดยไม่ลังเล

    “ขอบใจมากนะไนน์” มีเพียงเสียงกระซิบเบาๆ ที่ดังอู้อี้อยู่บนแผ่นอกเขา ผู้หญิงตัวเล็กคนที่อยู่ในอ้อมกอดนี่แหละคือคนที่เขาจะดูแลเธอต่อไป และดูแลให้ดีกว่าที่ผ่านมา เขาสัญญากับตัวเอง

                  ***   ///  ***   ///  ***

    (มีต่อค่ะ)

    แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 49 10:14:50

    จากคุณ : ละมุนใจ - [ 17 พ.ค. 49 10:13:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป