ในประเทศเล็กๆทางตอนใต้ของจีน ปกครองด้วยกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม พระองค์ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาราษฎร์ พระองค์มีแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจน ขาดแคลน การกีดกันทางสังคม รวมไปถึงผู้ด้อยโอกาสทั้งหลาย ราษฎรจึงสรรเสริญทั่วหน้า ชื่นชมยินดีในพระปรีชาสามารถ
แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เป็นหนึ่งหมู่บ้านที่รวมปัญหาทุกอย่างไว้ที่นั่น และไม่มีใครคิดจะแก้ตามแนวพระราชดำริ
หญิงสาวชื่อมุกดาย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้สิบปีแล้ว ชาวบ้านหญิงชายหลายหน้าไม่ชอบเธอ ผู้หญิงกลัวว่าความสวยของเธอจะยั่วยวนผู้ชายในหมู่บ้าน ส่วนหนุ่มน้อยใหญ่ก็เที่ยวไล้เที่ยวขื่อ ตอแย และเมื่อไม่เล่นด้วยก็ทำกร่างตลอดจนด่าทอเมื่อรู้สึกว่าตนเสียหน้าที่มุกดาไม่รับไมตรี
มุกดาย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้หลังจากยายสายตาย ช่วงเวลานั้นชาวบ้านไร้นามถูกกรงขังแห่งหัวใจปิดกั้นหมดแล้ว เธอไม่หนทางจะช่วยได้อีกจึงหนีออกมาตามคำสั่งของยาย ความถลำลึกนั้นยากเกินกว่าเด็กสาวตัวเล็กๆจะเอื้อมมือไปจัดการ บางที
หมู่บ้านแห่งใหม่อาจพอเยียวยาได้ เธอเคยคิดเช่นนั้น
และเมื่อมุกดามาถึงที่นี่ เธอจัดการดัดแปลงบ้านของตนให้กลายเป็นโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า มุกดาเคยเป็นเด็กกำพร้านอนใต้สะพานกินน้ำสกปรก เธอรู้ว่าเด็กที่ขาดต้องการอะไร มุกดาได้ผู้ช่วยแสนดีชื่อไพฑูรย์ เขาคือชายหนุ่มยากจนที่หลงรักเธอ
ชาวบ้านชอบใจใหญ่ที่มุกดาสร้างโรงทานและโรงเลี้ยงเด็ก พวกเขาบอกว่า มันแสดงถึงความมีใจกุศลของชาวหมู่บ้านทุกคน
แต่พวกเขาไม่ชอบใจมุกดา เงินสักบาทไม่เคยช่วย เสี้ยนไม้สักเสี้ยนไม่เคยยื่น เหงื่อสักหยดไม่เคยตก นี่หรือคือใจกุศลของพวกเขา
ทุกวันมุกดาจะออกไปชักชวนให้เด็กๆออกมาเล่น ร้องเพลง และเรียนหนังสือ ใครหิวเธอจะให้ทานข้าวในโรงทาน ใครป่วยเธอจะรักษา ลูกคนรวยเล่นหัวลูกคนจน ลูกคนจนร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันกับลูกคนรวย ในสังคมเด็กที่มุกดาสร้างขึ้นไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการกีดกัน ไม่มีคำว่าลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ เด็กกำพร้าขอทาน
แต่สังคมผู้ใหญ่ไม่ใช่ พวกเขายังมีกรงขังของหัวใจที่แบ่งกั้นความยากดีมีจน ความมียศกับความไร้ศักดิ์ พวกเขาพยายามกั้นขวางไม่ให้ลูกๆของตนต้องยุ่งเกี่ยวกับเด็กไร้ชาติ ไร้สกุล เด็กต้อยเด็กต่ำโสโครก อีกทั้งยังเกลียดบทเพลงที่มุกดาขับขาน เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นบทเพลงแห่งปีศาจที่ทำให้ลูกๆของพวกเขาดื้อและเกเร
แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อวันหนึ่ง เด็กชายลูกผู้ใหญ่บ้านหาเรื่องชกต่อยกับเด็กชายยากจน เด็กชายลูกผู้ใหญ่บ้านปากแตก เด็กชายยากจนตาเขียว มุกดาลงโทษเด็กทั้งคู่และสั่งสอน อารมณ์เด็กไม่นานก็หาย แต่แผลไม่ได้หายเร็วด้วย เมื่อผู้ใหญ่บ้านเห็นก็โกรธแค้น ยกพวกพลชาวบ้านที่พร้อมจะหาเรื่องมุกดาอยู่แล้วมาทำลายบ้านของเธอ
คนทำลายไม่ได้เป็นคนสร้าง พวกเขาสะใจที่ได้ทำลายสถานที่บ่งบอกใจกุศลของพวกเขา เด็กๆกำพร้ายากไร้หลายสิบชีวิตร้องไห้ระงม ยื้อแย่งมีดไม้จากผู้ใหญ่ก็โดนผลักกระเด็นล้ม มุกดาห้ามเขาไม่ฟัง ลูกๆเขาห้ามเขาไม่ฟัง ไพฑูรย์ห้ามเข้าก็ใช้ไม้กระหน่ำตีกระหน่ำทุบจนแทบจมดิน
หากมีปีกดั่งนกจะผกผิน
มุกดาร้องเพลง น้ำตาคลอ แล้วบ้านของเธอก็เหลือแต่เศษไม้หลุมบ่อ ไม่มีอะไรให้ทำลายอีกแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งหลายลดไม้รามือ ฉุดกระชากลูกตนให้กลับบ้านพร้อมกำชับไม่ให้มาหามุกดาอีก
ทุกคนคิดว่าพวกผู้ใหญ่คงพอใจแค่นั้น แต่มันไม่แค่นี้
ในค่ำคืน ใต้เพิงเก่าๆหลังคารั่ว ชาวบ้านพากันรุมซ้อมเด็กยากจน มือหนึ่งทุบเท้าหนึ่งกระทืบ ย่ำซ้ำเหยียบซ้ำ เลือดออกปากออกตา แขนขาฟกช้ำจ้ำเขียว กระดูกเหมือนจะหัก เลือดแดงผสมฝุ่นดำ น้ำตาเด็กไหลผู้ใหญ่สะใจ เด็กไม่ร้องสักแอะ เด็กคงจุกลึกเสียดล้ำถึงหัวใจ
รุ่งเช้า เด็กชายรู้สึกถึงมืออ่อนนุ่มอบอุ่นจับมือเขาไว้ กลิ่นน้ำหอมแสนหวาน น้ำตาหยดหนึ่งหลั่งให้กับความอาดูร
หญิงสาวชื่อมุกดาอุ้มศพเด็กชายไว้แนบอก เธอวางร่างเด็กน้อยหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน บ้านที่รวยที่สุด แต่แล้วน้ำใจที่สุด
เธอจะใช้ที่นี่เป็นที่ฌาปนเด็กชาย!
เปลวไฟลุกโชนโชติช่วง สว่างกล้าสู่ฟากฟ้า เปลวไฟสีส้มร้อนแรงขนาดมหึมาแทบจะกลืนคนทั้งหมู่บ้านได้ ผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ลูกน้องดับไฟ ไฟไม่ดับ จึงเปลี่ยนคำสั่งจับตัวมุกดากับไพฑูรย์แทน จับสองคนไปมัดที่หลักบนเนินเขาหลังหมู่บ้านรอการชำระโทษ
ใครต่อใครต่างพากันไปดู ไม่มีมือช่วยมีแต่มือหยิบหินขว้างปา ไม่มีปากปลอบมีแต่ปากด่า หินก้อนหนึ่งโดนหัว ก้อนหนึ่งโดนหน้าและก้อนต่อๆมาก็โดนเต็มตัวจะระบมร้าว
ชาวบ้านหมายจะเผาคนทั้งคู่ให้ตายไปด้วยกัน แต่เมื่อเริ่มจุดไฟ ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงจนลืมหูลืมตาไม่ได้ ดุจจะล้างความชั่วร้ายให้หมดทั้งหมู่บ้าน เม็ดฝนเม็ดใหญ่หยดใกล้ชิดแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศเลย
ไฟหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านดับ แต่อนิจจา ฝนตกหนักถึงสามวันสามคืนไม่ให้ใครหยุดพักผ่อน น้ำท่วมเลนไหลซุงไม้กระแทกบ้านเรือนพังยับ น้ำพัดเด็กยากไร้หายไปจากหมู่บ้าน เด็กมีพ่อมีแม่ พ่อแม่บางคนก็ถอดฝาประตูให้ลูกนั่งส่วนตัวเองตาย และบางคนก็ผลักลูกให้จมหายหวังให้ตนเองรอด
คน
ถูกขังด้วยกรงของหัวใจ กรงขัง
ที่พระเจ้าสร้างขึ้น
รุ่งเช้าวันที่สี่ ฝนหยุดตก ฟ้ากระจ่างใสอย่างไม่เคยมี พระอาทิตย์สุกใสสว่างปรีดีกับการชำระล้างความโสมม
องค์กษัตริย์เสด็จทางน้ำ พระองค์ทรงพบเด็กหญิงชายผู้ยากไร้นอนเกยตื้นอดอาหารแต่ไม่ตายพระองค์ให้มหาดเล็กเอาขึ้นเรือ ครั้นเสด็จถึงกลางหมู่บ้านที่บัดนี้มีแต่เวิ้งน้ำ เห็นเพียงเด็กหญิงชายไม่ถึงสิบชีวิตนั่งบนแผ่นไม้กระดานร้องไห้งอแงก็ทรงช่วยไว้ ชำเลืองแลเห็นซากผีตายเน่าก็ได้แต่เวทนา
บนเนินมีคนสองคนถูกมัดติดกับหลักไม้ พระองค์ทรงพบและเข้าไปช่วยเหลือไว้ ทรงไต่ถามว่าคือใคร เด็กๆพากันทูลว่า ชายและหญิงคู่นี้คือคนที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน เขาทั้งคู่ต้องข้อหา อยุติธรรม!
ในสายตาของมุกดา วันนี้พระอาทิตย์ดูแจ่มจ้าสดชื่นเหลือใจ ฟ้าใสสว่างเหมือนยิ้มให้เธอ บนนั้นคงมียายสายกับเด็กชายยากจนอยู่ด้วยกัน
หากมีปีกดั่งนกผกผิน
จะโบยบินแข่งวิหคบนฟ้า
หากฉันมีครีบดั่งมัจฉา
จะแหวกว่ายธาราสาคร
แม้มีแค่สองมือสองเท้า
จะย่ำก้าวไปตามใจสอน
กระพือโหมดวงไฟไม่ให้รอน
ให้ดวงใจดวงอ่อน อิศรา
...........................................................................
จากคุณ :
คายตรี
- [
18 พ.ค. 49 09:24:48
]