ใครว่าแอบรักเพื่อนช่างแสนเจ็บปวด
แล้วถ้าแอบรักแฟนที่จำต้องเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน
อันไหนจะเจ็บกว่ากัน...
ไม่อยากทำให้ลำบากใจ อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไปเหมือนเก่า...
อนัตต์ ชายหนุ่มหน้าตาสะอาดสะอ้าน สไตล์อาตี๋อินเตอร์ กำลังนั่งฟังเพลงจากลำโพงตัวจิ๋วที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เพลงป๊อปร็อคเสียงร้องหนักแน่นโดนใจใครต่อใครจนทำให้ติดอันดับเพลงยอดนิยม คงเพราะเนื้อหาที่กระทบความรู้สึกและตรงใจใกล้เคียงกับเรื่องราวในชีวิตจริงหลาย ๆ คน รวมทั้งอนัตต์ ชายหนุ่มผู้โดนความรักเล่นงานหัวใจให้ทรมานมานานหลายปี เขาน่าจะทำใจและลืมมันให้ได้สักที แต่ความรู้สึกเก่า ๆ ไม่ยอมลบจางหายไป ในเมื่อเขาคงยังต้องเจอวนเวียนอยู่กับมันตลอดเวลา อนัตต์ยังคงนั่งทำงานและฟังเพลงต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้ถึงเวลาของการประชุมวางแผนงานการตลาดกับบริษัทเอเยนซี่ที่ปรึกษาของทางบริษัท ในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้านี้
ไม่ทราบว่าท่านใดมีข้อเสนอ หรือคำแนะนำเพิ่มเติมจากนี้มั๊ยค่ะ
มาริษา หัวหน้าทีมของบริษัทเอเจนซี่ สอบถามผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน แต่ดูท่าทางทุกคนคงพอใจกับบทสรุปของการประชุมนี้
ถ้าอย่างนั้น ทางทีมงานดิฉันจะได้นำแผนงานนี้ไปปรึกษากับทางบริษัท แล้วนำมาเสนอให้กับทุกท่านได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับวันนี้ขอขอบคุณทุกท่านมากค่ะ เธอกล่าวพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ
ทุกท่านครับ หลังจากการประชุมนี้ ขอเชิญร่วมรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหาร.... นะครับ ทางทีมงานเอเยนซี่ด้วยนะครับ คุณทนงค์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประธานของการประชุมกล่าวเชิญผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน
ในขณะที่อนัตต์ กำลังจะก้าวออกจากห้องประชุมนั้น
ไงค่ะ นัต สบายดีหรือเปล่า เธอถามพร้อมสบตาเขา
เอ่อ ก็เรื่อย ๆ นะ ริษาละ เป็นอย่างไรบ้าง งานหนักหรือเปล่า ในใจของอนัตต์เริ่มสั่น ๆ
ค่อนข้างค่ะ ช่วงท้ายปีงานจะเยอะเป็นพิเศษ แต่นัต ดูอ้วนขึ้นนิดหน่อยนะ
จริงเหรอ ผมไม่ค่อยได้สังเกตตัวเองเท่าไหร่
อย่าเอาแต่ทำงาน จนลืมดูแลตัวเองสิค่ะ
ขอบใจที่เป็นห่วงนะ
ก็เราเพื่อนกันนี่ค่ะ
เพื่อนกัน...คำ คำนี้ ทำไมฟังแล้ว อนัตต์ รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ขึ้นมาในใจเหลือเกิน
มาริษา ผู้หญิงที่เขาเคยรักมากที่สุด จนถึงวันนี้เขาก็ยังรักเธออยู่ แต่เธอคงลืมไปหมดแล้ว
...
ริษา อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวทะเลกันนะ
แต่ริษา ว่าอย่าเพิ่งไปเลยค่ะ ใกล้จะสอบแล้ว อยากอ่านหนังสือมากกว่า
โธ่ ไปผ่อนคลายสมองหน่อยเถอะ
นัตค่ะ ริษาไม่อยากพลาดนี่นา ถ้าสอบไม่ได้เกียรตินิยม ก็เท่ากับว่าริษาหมดสิทธิ์เรื่องขอทุนเรียนต่อเลยนะค่ะ
ไปทะเล ก็อ่านหนังสือได้ แถมบรรยากาศดีทำให้สมองปลอดโปร่ง อนัตต์ยังอ้างเหตุผลมาหว่านล้อมเพื่อให้เธอยอมไป
ไม่ก็คือไม่สิค่ะ นัตนี่เซ้าซี้จริง
อนัตต์ คบหาเป็นคู่รักกับ มาริษา ตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตลอดระยะเวลาสี่ปีมาริษา จะเป็นคนตั้งใจเรียนมาก จนบางครั้งอนัตต์รู้สึกว่าเธอรักเรียนมากกว่าเขา
นัตค่ะ ริษาได้ทุนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียแล้วนะ นัตจะรอริษามั๊ย
สองปีนานเหมือนกันนะ แต่ให้นานแค่ไหนนัตก็จะรอริษาจ๊ะ
ริษา จะตั้งใจเรียนให้จบ แล้วรีบกลับมานะค่ะ
คำสัญญานั้น อนัตต์คิดว่าคงผูกมัดใจระหว่างเขาและมาริษาให้มั่นคงและซื่อสัตย์ต่อกันยามที่ต้องไกลห่าง แต่ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่อนัตต์วาดหวังไว้ เพราะยิ่งนานวันเข้า มาริษา มุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการเรียนของเธอทำให้การติดต่อระหว่างกันมีน้อยลง จากที่มาริษา เคยแชตคุยกันทุกวัน กลายเป็นนาน ๆ ครั้ง รวมถึงการตอบอีเมลล์ที่อาทิตย์หนึ่งมีแค่ครั้งเดียว ทั้งที่อนัตต์ส่งให้เธอทุกวันด้วยความคิดถึง มาริษา มักจะอ้างว่าการเรียนเธอนั้นหนักหนาสาหัส เธอต้องอ่านหนังสือค้นคว้าอยู่จนไม่มีเวลาว่างเลย อนัตต์ยอมลงทุนด้วยการโทรระหว่างประเทศหาเธอ แต่..มาริษามักจะบ่นว่าโทรมาให้เปลืองทำไม เธอคุยกับอนัตต์เพียงไม่กี่คำแล้ววางสายทั้งที่คนเสียค่าใช้จ่ายการโทรคืออนัตต์เองแท้ ๆ อนัตต์คิดถึงเธอแทบคลั่ง จนบางทีคิดฟุ้งซ่านไปว่าเธอกำลังมีคนรักใหม่หรือไม่ เขาเริ่มไม่มั่นใจ จนในวันหนึ่งเขาพลั้งปากเอ่ยถามมาริษาออกไป
ริษา ผมถามตรง ๆ นะ ริษากำลังคบกับใครคนอื่นอยู่หรือเปล่า
ทำไม นัตถึงคิดแบบนี้กับริษาค่ะ มาริษาพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างตกใจ
แล้วทำไม ริษาไม่มีเวลาคุยกับผมบ้างเลยละ ผมคิดถึงจนแทบจะบ้าแล้วรู้มั๊ย
ริษาบอกแล้วไงค่ะ ว่าริษาต้องอ่านหนังสือหาข้อมูลในการทำวิทยานิพนธ์ ไม่มีเวลามานั่งแชต นั่งตอบอีเมลล์
แม้แต่จะคุยกับผม ริษายังไม่มีเวลาเลยเหรอ เหตุผลมันฟังไม่ขึ้นเลยนะ
นัต ทำไมคิดแบบนั้น ริษาเสียใจนะ ที่ผ่านมานัตไม่เคยเข้าใจริษาเลยเหรอ
การโต้ตอบเงียบลงไปสักครู่
ริษา ผมคิดถึงคุณนะ จนบางที...
บางที ถ้าความรักที่นัตมีให้ริษา มันทำให้นัตต้องรู้สึกทรมานและกระวนกระวายกับการรอคอย เรามาเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่ามั๊ย เราเลิกเป็นแฟนกันเถอะค่ะ
อนัตต์นิ่งงัน ตกใจกับคำพูดนั้น และเมื่อตั้งสติได้
ริษา...ผมขอโทษ ผมไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้
แต่ริษา อึดอัดค่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทะเลาะกัน มันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนริษาต้องมานั่งเป็นกังวล ริษารับไม่ได้แล้วค่ะ ริษาอยากคิดแต่เรื่องเรียนอย่างเดียว
เอาเป็นว่าผมจะไม่ทำแบบนี้อีก แต่อย่าถึงกับต้องเลิกกันเลยนะ
เราไม่ได้ตัดขาดกันนี่ค่ะ แค่เปลี่ยนสถานะจากคนรักมาเป็นเพื่อน
ไม่นะริษา ผมไม่ยอมนะ
ริษาคิดดีแล้วค่ะ แค่นี้ก่อนนะไว้ค่อยคุยกันใหม่
บทสรุปของการสนทนาในวันนั้น คือคำว่า เพื่อนกัน
ต่อมาในทุกครั้งที่อนัตต์โทรติดต่อไป ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากมาริษา นอกจากคำว่า ริษา สบายดีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เธอไม่ยอมคุยอะไรมากไปกว่านี้จริง ๆ ถ้าในครั้งใดอนัตต์พยายามจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ มาริษาจะวางสายในทันที ช่างจบได้ง่ายดายอะไรแบบนี้ ความรัก ที่สั่งสมมานานหลายปี
.
คิดอะไรอยู่ค่ะ
เปล่านี่ครับ
ริษา เห็นนัตเอาช้อนเขี่ยข้าวบนจานไปมา ไม่ยอมตักกินสักคำ
ไม่นี่ แค่ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่
แหม ริษาแค่ทักว่าอวบขึ้นแค่นี้ ถึงขั้นกินไม่ลงเชียวเหรอ
โอ๊ย กลัวซะที่ไหน
นี่ค่ะ ฉู่ฉี่กุ้งของโปรดนัต มาริษาตักกุ้งตัวใหญ่ใส่ลงในจานของอนัตต์
คุณยังจำได้เหรอ
มาริษายิ้มแทนคำตอบ อนัตต์จ้องมองใบหน้าเนียนใส ตาคม คิ้วสวยเรียวได้รูป ยามเมื่อริมฝีปากเผยอยิ้มโลกทั้งใบช่างสว่างสดใสเสียนี่กระไร ไม่รู้ว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้งเขาไปถึงไหน คนที่เขาเคยรักมากที่สุดอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง แต่เขาไม่สามารถจะเอื้อมไปคว้ามาไว้ครอบครองได้สักที
จากคุณ :
ใบเตยหอม
- [
18 พ.ค. 49 16:42:21
]