CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เรื่องรักซึมเศร้า ของเขาและเธอ ตอนที่ 2

    จากความเดิมในตอนที่ 1

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4377983/W4377983.html

    -----------------------------------

    วันคืนผ่านไป ชีวิตก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆตามครรลองของมัน หญิงสาวยังคงไปทำงานเหมือนเดิม นั่งเก้าอี้ตัวเดิม ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิม พูดคุยเรื่องงานกับเพื่อนร่วมงานกลุ่มเดิมๆกับเรื่องเดิมๆที่ไม่พ้นเรื่องงาน ในตอนพักกลางวันผัดกระเพาหมูสับราดข้าวที่ร้านเดิมก็ยังคงเป็นอาหารเที่ยงเมนูเดิมๆของเธอ ทุกๆครั้งที่เธอขับรถกลับบ้านในตอนเย็น ท่ามกลางความมืดนั้น เธอก็ยังคงคิดถึงเขา อดีตผู้ชายของเธอ หญิงสาวไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    วันคืนผ่านไป ชีวิตก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆตามครรลองของมัน ชายวัยกลางคนก็ใช้ชีวิตของเขาไปเรื่อยๆตามประสา ตื่นเช้าไปทำงาน อาจจะนั่งว่าง พูดคุยกับเพื่อนๆอย่างออกรสชาติไปเรื่อยๆ แอบงีบหลับบ้างในเวลาพักกลางวัน และเมื่อเลิกงานก็อาจจะไปงานเลี้ยงกับเพื่อนๆมากมายหลายกลุ่มที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา พักนี้เขาไม่ค่อยคิดถึงหญิงสาว ผู้ชายวัยขนาดเขาผ่านเรื่องราวความรัก การเลิกรามามากมายหลายครั้ง มากจนเขารู้ซึ้งและเข้าใจว่าไม่ควรไปให้ความสำคัญกับมันมากนัก มีผู้หญิงทั้งอายุมากและน้อยหลายคน มากมายหลายหน้าผลัดกันมาให้เขาเลือก คนที่พร้อมไปหมดอย่างเขา ต้องไปสนใจอะไรกับหญิงสาว ก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ป่วยด้วยโรคทางจิตที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่มีวันเข้าใจในความคิดของเธอ ไม่เป็นไร ชายวัยกลางคนคิด ประเทศนี้ยังมีผู้หญิงดีๆที่รอให้เขาเข้าไปทำความรู้จักอยู่อีกเยอะ เขาไม่หยุดอยู่กับที่แค่นี้หรอก

    เกือบสองเดือนแล้วกับอาการป่วยและการรักษากับจิตแพทย์ของหญิงสาว เธอคิดว่าอาการเธอดีขึ้น พ่อแม่พี่น้องที่บ้าน เพื่อนร่วมงานและเพื่อนๆของเธอก็คิดว่าอาการของเธอน่าจะดีขึ้น อาการเศร้าซึมไม่ค่อยมีปรากฏให้ใครๆเห็นอีก รวมไปถึงน้ำตา คงมีแต่เพียงอาการคิดถึงหรือเหม่อในบางขณะที่ยังคงอยู่ เสียงหัวเราะลื่นไหลและมุขตลกเดิมๆที่กลับมาพร้อมๆกับเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของคนหลายๆคนรอบๆตัวเธอที่เป็นห่วงเธอ ทำไมเธอจึงไม่เคยสังเกตุเห็นความรักมากมายที่ล้อมรอบตัวเธอนะ หญิงสาวคิด ตลอดมาเธอเคยคิดว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่รักเธอ เข้าใจเธอ เห็นใจและห่วงใยเธอ จนถึงขณะหนึ่งที่ทุกๆอย่างในชีวิตเธอมันพังทลาย การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ารื่นรมย์อีกต่อไป

    "แล้วฉันจะไปตามรักคนที่เค้าไม่เคยเห็นค่าของตัวฉันอีกทำไม "

    เสียงเบาๆลอดผ่านริมฝีปากที่ขยับน้อยๆของหญิงสาว คำพูดนี้เปล่งออกมาเบามากจนไม่มีใครได้ยิน แต่มันกลับดังก้องซ้ำไปซ้ำมาภายในศีรษะ ภายในใจ ภายในสัมปชัญยะทุกๆส่วนที่เธอรู้สึก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เธอคิดว่าเธอกับเขารักกัน มีอะไรในการกระทำของเขานะที่ทำให้เธอคิดว่าเขารักเธอ และมีอะไรนะที่ทำให้เธอคิดว่าเธอรักเขา ตรงส่วนไหนในชีวิต ในใบหน้า ในร่างกาย หรือในพฤติกรรมของเขากันนะที่เป็นส่วนที่ทำให้เธอรัก

    ความเงียบงันที่มืดดำก็ยังคงเป็นคำตอบของคำถามที่ดังก้องซ้ำไปซ้ำมา............................

    ดึกมากแล้ว อันที่จริงควรเรียกได้ว่าเช้าแล้ว ชายวัยกลางคนลุกขึ้นตื่น ไม่ใช่เพราะเขานอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเขานอนมามากพอจนเต็มอิ่มแล้วต่างหาก การที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่คนเดียวในเวลาตีสองแบบนี้ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนที่แปลกประหลาดอยู่มิใช่น้อย ชายวัยกลางคนเอื้อมมือไปหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตัวเก่าของเค้ามาอย่างเคยคุ้น จัดการต่อระบบเข้าอินเตอร์เนทและเปิดโปรแกรมคุยอย่างชำนาญ เพื่อนทางเนทหลายๆคนยังไม่นอน และอีกหลายๆคนนอนแล้วตื่นมากลางดึกเหมือนอย่างเขา การสนทนากลางดึกออกรสชาติดีทำให้เขาเพลิดเพลินไปได้อย่างพอสมควร ไส้กรอกชีสที่เขากำลังเคี้ยวไปด้วยขณะที่กำลังท่องไปในจักรวาลด้วยคอมพิวเตอร์มีรสชาติอร่อยอย่างที่มันควรจะเป็น แว่บนึงของการสนทนาผ่านโปรแกรม หญิงสาวคนเดิมปรากฏขึ้นในชั่วแล่นของความคิดถึงของเขา ป่านนี้เธอคงกำลังหลับอยู่ ชายวัยกลางคนสะบัดศรีษะไปมาหลายๆครั้งคล้ายกับต้องการไล่สิ่งที่อยู่ในความคิดของเขาออกไปให้หมด อย่าไปสนใจหญิงสาวอีกเลย เพราะเธอไม่โทรมาหาเขาหลายอาทิตย์แล้ว คนอย่างเขาดีเกินกว่าจะไปตามง้องอนผู้หญิงที่เค้าไม่เข้าใจแนวคิดหลายๆอย่างของเธอ ก็ปล่อยเธอไปตามทางของเธอน่าจะดีที่สุด

    ชายวัยกลางคนก็เลือกที่จะสนุกกับเพื่อนทางเนทของเขาต่อไป....................

    วันเวลายังคงผ่านไปเรื่อยๆตามครรลองของมัน ฤดูกาลผันผ่าน จากฝนที่ตกหนักในเดือนพฤษภาคม สู่ลมเย็นๆที่พัดมาจนต้องห่อตัวเพื่อหลบความหนาวในเดือนธันวา เสียงกระดิ่งงานคริสมาสต์ดังมาแผ่วๆพร้อมกับเสียงเพลงจิงเกอร์เบลที่ดังคลออยู่เบาๆ สีเขียวแดงทองของเครื่องตกแต่งต้นสนแพรวพราวไปทั่วย่านร้านค้าและห้างสรรพสินค้า อีกไม่นานจะปีใหม่ หลายๆคนเลือกที่จะทิ้งเรื่องเก่าๆและเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในช่วงเทศกาลนี้ รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของคนหลายๆคน อ้อมแขนที่พร้อมจะอ้ากอดคนที่รัก เสียงหัวเราะและรอยจูบที่พร้อมจะประทับบนริมฝีปากและใบหน้าของหลายๆคน เทศกาลแห่งความเบิกบาน

    หญิงสาวเดินหอบถุงพะรุงพะรังอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหนึ่งแถวห้าแยกลาดพร้าว เธอไม่ชอบไปเดินซื้อของแถวสยาม อโศก สุขุมวิช หรือสีลม เพราะเธอจะรู้สึกแปลกแยกและเป็นคนแปลกหน้าของที่นั่นเสมอ ห้างสรรพสินค้าแถวนั้นไม่มีที่ยืนสำหรับเธอ และไม่มีอากาศมากพอที่จะให้เธอหายใจ วันนี้เธอได้เสื้อกางเกงชุดใหม่สองสามชุด สีที่เธอชอบคือสีน้ำตาลอ่อน หลายครั้งที่เธอพยายามจะเปลี่ยนตัวเองให้หันมาชอบเสื้อผ้าสีสดใส แต่ทุกๆครั้ง เธอจะพบว่าสีที่เหมาะสมกับตัวเธอที่สุด คือสีน้ำตาลอ่อน

    (โปรดติดตามตอนต่อไป)

    แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 49 21:42:55

    จากคุณ : kwan2402 - [ 18 พ.ค. 49 21:39:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป