CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สามก๊ก ศึกเซ็กเพ็ก

    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kazama&date=19-05-2006&group=15&blog=1

    ศึกผาแดง Battle of Red Cliffs (赤壁之戰)หรือศึกเซ็กเพ็ก Battle of Chìbì เป็นสงครามที่มีความสำคัญที่สุดสงครามหนึ่งในสมัยสามก๊ก ศึกผาแดงนี้เกิดขึ้นในปี 208 โดยฝั่งหนึ่งเป็นกองทัพพันธมิตรของเล่าปี่และซุนกวนทางตอนใต้ และอีกฝั่งคือทัพของโจโฉทางตอนเหนือ ซุนกวนและเล่าปี่นั้นได้ชัยชนะเหนือโจโฉ ทำให้ความพยายามในการยึดดินแดนทางใต้ของโจโฉต้องล้มเหลวลง นอกจากนั้นศึกผาแดงนี้ยังเป็นศึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

    ปี 208 โจโฉได้ครองดินแดนภาคเหนือของจีนทั้งหมด หลังจากได้รับชัยชนะเด็ดขาดกับการต่อสู้กับเผ่า Wuhuan ในปี 207 ทำให้ดินแดนภาคเหนือ มั่นคงปลอดภัยจากการรุกราน หลังจากได้รับชัยชนะ ทัพของโจโฉก็มุ่งหน้าลงใต้แทบจะทันทีในปี 208 จุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดศัตรูหลักทางภาคใต้ ในระหว่างนั้น เล่าเปียวผู้ครองมณฑลเกงจิ๋วได้เสียชีวิตในปีนั้น

    เล่าเปียวมีบุตรสองคนคือ เล่ากี๋และเล่าจ๋อง เล่าเปียวให้เล่าจ๋องแต่งงานกับหลานสาวของชัวฮูหยิน ภรรยาคนล่าสุดของเขา ทำให้ชัวฮูหยินชอบเล่าจ๋องและไม่ชอบเล่ากี๋ ชัวมอน้องชายของชัวฮูหยิน และเตียวอุ๋นบุตรของพี่สาวชัวมอกีอคน ทั้งคู่เป็นที่โปรดปรานของเล่าเปียว และทุกวันพวกเขาจะใส่ร้ายเล่ากี๋และสรรเสริญเล่าจ๋อง

    เล่ากี๋เป็นกังวลมาก เขาถามขงเบ้งว่าเขาจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร แต่ขงเบ้งปฏิเสธที่จะตอบเขา ต่อมาไม่นานพวกเขาได้ไต่หอคอยด้วยกัน เล่ากี๋สั่งให้เอาบันไดพาดออกไป แล้วพูดกับขงเบ้งว่า เวลานี้เราอยู่ต่ำกว่าที่สวรรค์จะได้ยิน และสูงกว่าคนเบื้องล่างจะฟังเราได้ คำที่ท่านพูดมา จะมีเพียงข้าคนเดียวที่ได้ฟัง ท่านจะสามารถพูดได้หรือไม่

    ขงเบ้งตอบว่า ท่านไม่เคยได้ยินเรื่อง ShenSheng อยู่ภายในต่อมาจึงได้รับอันตราย ในขณะที่ Chong’er หนีจากไปและรักษาชีวิตได้ เล่ากี๋เข้าใจทันที และวางแผนลับที่จะลอบออกไปนอกเมือง

    ในเวลานั้นหองจอเสียชีวิต เล่ากี๋จึงขอให้เล่าเปียวแต่งตั้งเขาแทนที่หองจอ เล่าเปียวจึงตั้งให้เขาเป็นเจ้าเมือง กังแฮ

    ต่อมาเล่าเปียวล้มป่วยหนัก เล่ากี๋จึงกลับมาเพื่อจะไปเฝ้าไข้ที่เตียง แต่ชัวมอและเตียวอุ๋นกลัวว่าถ้าเขาได้พบเล่าเปียวแล้วพ่อลูกจะกลับมาดีกันอีกครั้ง แล้วเล่าเปียวจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนผู้สืบทอด พวกเขาจึงบอกกับเล่ากี๋ว่า ท่านแม่ทัพสั่งให้ท่านไปดูแลเมือง กังแฮ และนั้นเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เวลานี้ท่านกลับละทิ้งชาวเมืองของท่านและมาเกงจิ๋วโดยไม่มีคำอนุญาต ท่านจะทำให้ท่านเล่าเปียวผิดหวังและทำให้อาการป่วยทรุดหนักขึ้น นี่ไม่ใช่วิธีของลูกจะแสดงความกตัญญูต่อบิดา พวกเขาหยุดเล่ากี๋ไว้นอกประตูและปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าพบเล่าเปียว เล่ากี๋ได้แต่ร้องไห้เศร้าโศกกลับไป

    ต่อมาเมื่อเล่าเปียวตาย ชัวมอ เตียวอุ๋นและพรรคพวกได้ยกเล่าจ๋องให้เป็นผู้สืบทอด เล่าจ๋องส่งตราตำแหน่ง Marquis ไปให้เล่ากี๋ แต่เล่ากี๋โกรธมากและเขวี้ยงตราตำแหน่งลงกับพื้น เขาตั้งใจที่จะกลับไปร่วมงานศพและใช้โอกาสนี้ยึดอำนาจ แต่ในช่วงนั้นกองทัพโจโฉได้ยกทัพมาพอดี เล่ากี๋จึงหนีไปยังตอนใต้ของแยงซี

    ขุนนางของเล่าจ๋องหลายคนรวมทั้งเกงอวดเจ้าเมือง Zhangling และ ฮูสวน ขุนนางผู้ใหญ่ในสังกัดตะวันออก ได้แนะนำให้เขายอมจำนนต่อโจโฉ พวกเขาแนะให้เล่าจ๋องยอมจำนนต่อโจโฉ โดยให้เหตุผลว่า มีหลักสำคัญสำหรับการต่อต้านหรือยอมอ่อนน้อมและจัดการกับสถานการณ์ของผู้เข้มแข็งและผู้อ่อนแอ

    เมื่อข้ารับใช้ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังคำสั่งนายตัวเอง เขาได้หันหลังให้กับหน้าที่ที่ควรปฏิบัติ การตั้งรัฐ Chu (ชื่อเรียกดินแดนตอนใต้ในอดีต) ขึ้นมาต่อต้านกับแผ่นดินจีนย่อมนำอันตรายมาสู่เรา การเป็นพันธมิตรกับเล่าปี่เพื่อต่อสู้โจโฉ เราก็ไม่อาจสู้โจโฉได้

    เมื่อมองตามสามข้อนี้ ท่านตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบมาก ท่านจะต่อสู้โจโฉได้อย่างไร ท่านมีความสามารถเทียบเท่าเล่าปี่หรือไม่ ถ้าเล่าปี่ยังไม่สามารถเทียบได้กับท่านโจโฉ ต่อให้ท่านครอบครอง Chu ทั้งหมดก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้ แล้วถ้าเล่าปี่เป็นคู่ต่อสู้กับโจโฉได้จริง เขาย่อมไม่ยอมรับใช้ท่านตลอดไป เล่าจ๋องเห็นด้วยกับคำแนะนำของพวกเขา

    ในเดือนที่เก้า โจโฉมาที่เมือง ซินเอี๋ย เล่าจ๋องถือจดหมายแนะนำตัวมาต้อนรับโจโฉและยอมจำนนทั้งมณฑล

    ขุนนางของโจโฉบางคนสงสัยว่านี่เป็นกับดัก แต่ Lou Gui พูดว่า ทั้งแผ่นดินต่างตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ผู้นำแต่ละคนต่างช่วงชิงอำนาจที่มากขึ้นจากฮ่องเต้ เวลานี้เล่าจ๋องได้นำหนังสือแนะนำตัวมามอบให้ นี่แสดงว่าเขานั้นเชื่อถือได้ ดังนั้นโจโฉจึงนำกองทัพมุ่งหน้าต่อไป

    ในเวลานั้นเล่าปี่ตั้งค่ายอยู่ที่ Fan แต่เล่าจ๋องไม่กล้าบอกเล่าปี่เกี่ยวกับการยอมจำนน แต่ในที่สุดเล่าปี่ก็รู้เรื่อง เขาส่งคนสนิทไปถามเหตุการณ์กับเล่าจ๋อง และเล่าจ๋องได้ส่ง ซงต๋งมาบอกข่าวกับเล่าปี่ ในเวลานั้นโจโฉได้เดินทัพมาถึง Wan เล่าปี่ประหลาดใจและตกใจมาก

    ท่านทำเช่นนี้ เล่าปี่พูดกับซงต๋ง ท่านไม่เตือนข้าเลยแม้แต่คำเดียว เวลานี้หายนะกำลังมาถึงตัวข้า ท่านค่อยมาบอกให้ข้ารู้ นี่เท่ากับจำกัดหนทางของข้า เล่าปี่ชักดาบแล้วหันไปทาง ซงต๋งถ้าข้าตัดหัวท่านในตอนนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น และต่อไปเราคงจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก คนที่มีเกียรติย่อมละอายใจที่จะฆ่าคนอย่างท่าน เล่าปี่จึงปล่อยตัว ซงต๋งไป

    แล้วเล่าปี่ก็เรียกขุนนางเขามาประชุม บางคนแนะนำให้โจมตีเล่าจ๋องเพื่อยึดมณฑลเกงจิ๋ว เล่าปี่พูดว่า เมื่อท่านเล่าเปียวตายไป เขาวางใจฝากลูกของเขากับข้า ข้าไม่สามารถละทิ้งหน้าที่นี้เพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นเมื่อข้าตายไป ข้าจะไปพบหน้าท่านเล่าเปียวได้อย่างไร

    เล่าปี่นำทัพของเขาออกจากค่าย เมื่อเขามาถึงเมือง ซงหยง เขาขี่ม้าอย่างเร็วไปเรียกเล่าจ๋องให้ออกมาพบ แต่เล่าจ๋องกลัวและไม่กล้าแสดงตัว ขุนนางและประชาชนหลายคนของมณฑลเกงจิ๋วต่างมาร่วมกับเล่าปี่ เมื่อเล่าปี่ผ่านหลุมฝังศพของเล่าเปียว เขาหยุดไว้อาลัยครู่หนึ่ง ร้องไห้แล้วจากไป

    ในเวลานั้นเขามาถึงเมืองซงหยง คนติดตามเล่าปี่มีจำนวนมากกว่าแสนคน สัมภาระจำนวนหลายพันเกวียน ทำให้เล่าปี่เดินทางได้วันละเพียงสิบลี้ เขาส่งกวนอูนำทัพแยกไปต่างหากทางเรือหลายร้อยลำให้ไปคอยเขาอยู่ที่ กังเหลง

    บางคนบอกกับเล่าปี่ว่า ท่านควรจะเดินทางอย่างรวดเร็วไปป้องกัน กังเหลง แม้ว่าท่านจะมีผู้คนจำนวนมากอยู่กับท่าน แต่มีทหารเพียงน้อยนิด ถ้าทหารของท่านโจโฉตามมาทัน ท่านจะรับมือเขาได้อย่างไร

    เมื่อคิดทำการใหญ่ เล่าปี่ตอบ ผู้คนถือเป็นสิ่งสำคัญ เวลานี้พวกเขาต่างพากันมาพึ่งข้า จะให้ข้าทอดทิ้งพวกเขาได้อย่างไร

    อองอุ้ย ได้พูดกับเล่าจ๋องว่า โจโฉรู้ข่าวว่าท่านยอมแพ้และเล่าปี่ได้หนีไป เขาย่อมไม่ระมัดระวังตัว และจะมาหาท่านด้วยทหารเพียงน้อยนิด ถ้าท่านมอบทหารให้ข้าไม่กี่พันคน ข้าจะโจมตีเขาที่ด่าน แล้วทัพโจโฉก็จะแตกพ่ายไป เมื่อท่านสามารถจับตัวโจโฉได้ อำนาจของท่านจะครอบคลุมไปทั่วแผ่นดิน แล้วท่านก็จะปลอดภัย และสามารถมองหาโอกาสสำหรับการใหญ่ต่อไป แต่เล่าจ๋องไม่เห็นด้วยกับเขา

    เพราะว่าคลังอาวุธที่นั่น โจโฉกลัวว่าเล่าปี่จะยึดเมือง กังเหลง เขาจึงทิ้งสัมภาระและนำทัพไปเมือง ซงหยง ด้วยทหารเคลื่อนที่เร็ว ที่นั่นเขารู้ว่าเล่าปี่ได้หนีไป เขาจึงนำทหารม้าห้าพันนายเข้าตามโจมตี ในวันเดียวโจโฉเดินทางมากกว่าสามร้อยลี้มาถึงเนิน เกงสัน ใน เมืองตงหยง เล่าปี่ละทิ้งลูกเมียของตัวเอง หนีไปพร้อมกับขงเบ้ง เตียวหุย จูล่งและทหารม้าไม่กี่สิบคน โจโฉจับกองทัพของเขาและสัมภาระได้ทั้งหมด

    มารดาของชีซีถูกโจโฉจับตัวได้ และชีซีได้ขออภัยต่อเล่าปี่ โดยเอามือชี้ที่หน้าอกตัวเองพูดว่า ในตอนแรก เหตุผลที่ข้าพยายามวางแผนให้ท่านได้บรรลุการใหญ่นั้นเพราะว่าพื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ (หัวใจ) เวลานี้ข้าสูญเสียมารดาข้า จิตใจของข้าสับสน และไม่สามารถช่วยงานท่านได้ ข้าขอร้องให้อนุญาตให้ข้าจากไป แล้วชีซีก็ไปหาโจโฉ

    เตียวหุยนำทหารม้ายี่สิบคนป้องกันจากด้านหลัง เขายึดแม่น้ำและทำลายสะพาน หน้าตาเตียวหุยดุดัน เขาแกว่งทวนของเขา ตะโกนว่า ข้าคือเตียวหุย พวกเจ้าจงมาสู้และตายกับข้า ไม่มีทหารของโจโฉคนไหนกล้าเข้าไปใกล้เขา

    ลูกน้องบางคนพูดกับเล่าปี่ว่า จูล่งหนีขึ้นเหนือไปแล้ว เล่าปี่ขว้างขวานสั้นใส่เขาพูดว่า จูล่งไม่มีทางละทิ้งข้าไป ไม่ช้าจูล่งก็กลับมา พร้อมกับนำตัวเล่าเสี้ยนมาด้วย

    พวกเขามาพบกองทหารที่นำโดยกวนอู แล้วจึงข้ามไป Mian เล่ากี๋มาสบทบกับทัพของเล่าปี่พร้อมทหารหมื่นคน แล้วเล่ากี๋ก็พาทั้งหมดไปที่ แฮเค้า

    ก่อนหน้านั้น เมื่อโลซกได้ข่าวว่าเล่าเปียวเสียชีวิต เขาพูดกับซุนกวนว่า มณฑลเกงจิ๋วนั้นติดกับชายแดนของเรา แม่น้ำแยงซีและภูเขานั้นเป็นอุปสรรคยากแก่การโจมตีและช่วยในการป้องกัน มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์เป็นหมื่นลี้ ผู้คนก็มั่งคั่ง ถ้าเราสามารถยึดครองได้ เราจะใช้มันเป็นที่มั่นของอาณาจักรได้

    เวลานี้เล่าเปียวเพิ่งเสียชีวิต บุตรชายทั้งสองของเขาก็ไม่ลงรอยกัน บรรดาขุนนางก็แยกกันเข้าข้างแต่ละคน เล่าปี่เป็นวีรบุรุษของแผ่นดิน เขาต่อสู้กับโจโฉและมาอยู่กับเล่าเปียว แต่เล่าเปียวอิจฉาในความสามารถของเขาจึงไม่ได้มอบหมายตำแหน่งที่สำคัญให้แก่เขา ถ้าเล่าปี่เข้าร่วมกับบุตรเล่าเปียว และถ้าพวกเขาจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ เราควรจะสงบศึกกับเขาและทำสัญญาเป็นพันธมิตรกัน ถ้าพวกเขาทะเลาะกัน เราควรจะวางแผนยึดครองเกงจิ๋ว

    ข้าขออนุญาตเป็นฑูตส่งสารแสดงความเสียใจแก่บุตรของเล่าเปียว ในขณะที่ข้าอยู่ที่นั่น ข้าจะแสดงความเสียใจของเราและเป็นมิตรกับคนที่มีอำนาจในกองทัพพวกเขา และข้าจะแนะนำเล่าปี่ให้รวบรวมทัพของเล่าเปียวมาร่วมมือกับเราต่อสู้โจโฉ เล่าปี่จะยินดีและรับข้อเสนอของท่าน ถ้าเขาตกลง แผ่นดินก็จะสงบ ขอให้ท่านรีบส่งข้าไปก่อนที่โจโฉจะยกทัพมายึดเกงจิ๋ว ซุนกวนจึงส่งโลซกไป

    โลซกมาถึง แฮเค้า เขารู้ว่าโจโฉได้เคลื่อนพลมาสู่มณฑลเกงจิ๋ว โลซกจึงเร่งเดินทางทั้งวันและคืน จนมาถึงเมือง Nan แต่ในเวลานั้น เล่าจ๋องได้ยอมจำนนและเล่าปี่ได้หนีลงใต้

    โลซกจึงตรงไปหาเล่าปี่ และเจอกับเขาที่เนิน เกงสัน ใน เมืองตงหยง เขาบอกถึงความคิดซุนกวนต่อเล่าปี่และถกปัญหาสถานการณ์แผ่นดินเพื่ออธิบายว่าทำไมพวกเขาจึงควรเป็นมิตรกัน แล้วเขาจึงถามเล่าปี่ว่า ท่านเล่าปี่ คิดวางแผนจะไปที่ไหน

    เล่าปี่ตอบว่า ข้ามีเพื่อนเก่าแก่คนหนึ่ง อาวสิ้วเจ้าเมืองซังงาวข้าจะไปหาเขาเพื่อรับใช้

    โลซกจึงเอ่ยขึ้น แม่ทัพผู้สังหารคนชั่วช้า ซุนกวน นั้นเฉลียวฉลาดและจิตใจกว้างขวาง เขาเคารพคนมีฝีมือและปฏิบัติต่อบัณฑิตด้วยความเคารพ ผู้นำทั้งหมดของดินแดนใต้แม่น้ำแยงซีได้ยอมรับใช้เขา เวลานี้เขาครองหัวเมืองใหญ่ถึงหกหัวเมือง ทหารของเขาก็ล้วนแต่เชี่ยวชาญการสงคราม และมีเสบียงอาหารจำนวนมาก เขาเข้มแข็งพอที่จะดำรงความเป็นอิสระไม่ขึ้นกับใครได้

     
     

    จากคุณ : kazama - [ 19 พ.ค. 49 19:14:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป