ตอน 5
เสียงโทรศัพทืมือถือดังขึ้นกลางดึก ชุนสะดุ้งตื่น เอื้อมมือไปหยิบมารับ
รู้มั้ยว่าฉันนอนหลับไปแล้ว ชุนบอกกับชินอย่างไม่พอใจนัก
เออน่า ตื่นมาฟังฉันคุยก่อน นะๆ วันนี้มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ชินบอกน้ำเสียงดีใจ
วันนี้ฉันพรีเซ็นท์งาน นายจะเห็นว่าฉันอารมณ์ดีนะวันนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราทำได้ไง ฉันออกไปยืนพรีเซนท์งานหน้าห้อง ทุกคนกลัวว่าจะพูดไม่ได้ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะมันพูดสดไง อาจารย์ให้เวลาห้านาที แต่ฉันพูดได้น้ำไหลไฟดับ จนอาจารย์บอกให้หยุด ฉันถึงได้รู้ว่า เออนะ เรามันก็เก่งเหมือนกันวุ้ย ฉันก็ทำได้นี่หว่า เพื่อนๆ ในห้องต่างอึ้ง ชินพูดพลางหัวเราะ
นายเองก็เหมือนกันนะ นายควรพิสูจน์ตัวเองนะ ต้องมั่นใจในตัวเองว่านายก็ทำได้ เชื่อฉันนะชุนว่านายต้องก็ทำได้เหมือนกัน
ฉันดีใจกับนายด้วยนะ ดีใจด้วยจริงๆ เห็นมั้ยนายเก่งเสมอ แต่ฉันมันไม่เอาไหน ฉันไม่รู้ว่าจะพิสูจน์ตัวเองได้เหมือนอย่างนายรึเปล่า ชุนบอกกับชินแล้วถอนหายใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้พบเจอ ที่เราได้ทำ มันอยู่ที่ว่าฉันเก็บอะไรมาคิดเท่านั้นเอง มันอยู่ที่นายจะมองนะ อย่างนาย นายมองว่าการเรียน สิ่งที่นายทำอยู่เป็นเรื่องอึดอัดเป็นเรื่องน่าเบื่อ ทำไมนายไม่ลองมองมุมอื่นดูบ้างล่ะชุน
จะให้ฉันมองว่ามันเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นน่ะเหรอ ชุนพูดแล้วหัวเราะ
ไม่ใช่ๆๆ นายก็ลองมองว่า อย่างน้อยมันก็ทำให้นายได้อดทนมากขึ้นอะไรอย่างนี้สิ
ชุนนึกขำตัวเองที่เขาได้ถามชินไปอย่างนั้น เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของเขามักจะมองว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่โตสักที
นายลองมองดูด้านบวกของมัน ทุกอย่างมันมีทั้งด้านลบและด้านบวกนะ แม้แต่ปัญหามันก็มีสิ่งที่ดีของมัน เพียงแต่ที่นายท้อกับมัน เพราะนายมองเห็นแต่ด้านลบของมัน ลองเปิดตาให้กว้างสิชุน อย่ามองอะไรทางเดียว มองถึงด้านดีๆของมันบ้าง อย่างน้อย นายลองนึกถึงคำนี้แล้วนายจะเห็นถึงด้านดีๆของมัน ชินเงียบไปเขารอฟังว่าชุนจะพูดอะไรบ้าง แต่เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงของชุน
อย่างน้อยมันก็ทำให้นายได้อดทนมากขึ้น อย่างน้อยมันก็ทำให้นายแข็งแรงมากขึ้น อย่างน้อยมันก็เป็นบทพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นว่านายก็ทำได้ อย่าลืมนายต้องพิสูจน์ตัวเองนะ
ชินได้ยินเสียงรับคำของชุน
ตอนนี้นายทำอะไรอยู่เหรอ ชุนถาม
ฉันกำลังนั่งทำการบ้านอยู่น่ะ ยังคิดไม่ออกเลย
ฉันคงรบกวนเวลาของนายมากแล้ว นายควรจะได้ทำการบ้านต่อเสียที ทำการบ้านต่อเถอะ ฉันไม่อยากรบกวนแล้ว
นี่นายรู้มั้ยงานฉันนะ ตีหนึ่งขึ้นโน่นแหละถึงจะคิดออก ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ แล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยทำต่อให้เสร็จก่อนเข้าเรียน มันจะเป็นอย่างนี้ไง ชินพูดแล้วหัวเราะชอบใจ
แล้วถ้ามันไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ล่ะ ชุนถามชิน
แน่นอน ทุกอย่างในโลกล้วนไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องคิดเผื่อไว้แล้วสิ ฉันก็ต้องมีแผนสองของฉัน นายเองก็เหมือนกัน จะทำทุกอย่างเราก็ต้องคิดไว้แล้ว
ชินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อว่า
ฉันอยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ อยากเรียนจบแล้ว แต่ชุนกลับมีความคิดอีกแบบหนึ่ง
นายรู้มั้ย ฉันกลับไม่อยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เพราะฉันคิดว่า ยิ่งเราโตขึ้นเวลาที่เราได้อยู่กับคนที่เรารักมันก็จะสั้นลง น้อยลงเรื่อยๆ ฉันไม่อยากแก่ด้วย ไม่อยากให้คนรอบข้าง คนที่ฉันรักต้องแก่ตามไปด้วย ฉันกลัวว่าพวกเขาจะตายจากฉันไปเร็วขึ้น ฉันกลัวว่าพ่อกับแม่จะตายจากฉันไป
โอ๊ย นายนี่คิดอะไรของนายกันนะ แต่มันก็จริงของอย่างที่นายว่า
ชินทำเสียงล้อเล่น
นายเองก็เหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่เราก็ควรจะแสดงความรักที่มี ให้เขารู้ ว่าเรารักเขา สิ่งไหนที่ทำแล้วทำให้เกิดความผูกพันและความทรงจำที่ดี ก็ควรทำ ควรจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีความสุข เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ เมื่อเราบอกเราทำให้เขารู้ได้นี่แหละ อย่ารอให้มันสายเกินไปนะ
ชุนพูดเตือนชิน
นายหมายถึงฉันกับพ่อน่ะเหรอ
ใช่ นายกับพ่อ ฉันเชื่อว่าพ่อรักนาย แต่นายอาจจะไม่เข้าใจการแสดงออก ของความรักของพ่อ
ไม่หรอกเขารักคนอื่นมากกว่าฉัน มากกว่านาย
ชุนรู้สึกแปลบในหัวใจเล็กน้อยเมื่อได้ฟังชินพูดประโยคนี้
พ่อเชื่อแม่เลี้ยงมากว่าเชื่อลูกตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะเขารักผู้หญิงคนนั้นมากกว่า แล้วมันเพราะอะไร
ชินยังคงเถียงเสียงหนักแน่น
ฉันหมดศรัทธาในตัวพ่อ ฉันคิดเสมอว่าว่าทำไมพ่อถึงไม่จัดการเรื่องนี้เสียที ฉันคือลูกและพ่อมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อฉัน บางครั้งแค่เรื่องง่ายๆแค่ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพ่อถึงไม่ทำ
ฉันไม่อยากให้นายคิดอย่างนั้นนะ ตลอดเวลาฉันเชื่อมาตลอดว่านายกับพ่ออยู่ด้วยกันด้วยความอบอุ่น
นายรู้มั้ยว่าฉันเกลียดแม่เลี้ยงมากแค่ไหน ฉันเกลียดมัน ได้ยินมั้ยชุน ฉันเกลียดมัน มันมาแย่งพ่อไปจากฉัน จากนาย มันหลอกพ่อ แต่พ่อก็ยอม มันมีชู้ ฉันบอกพ่อ แต่พ่อไม่เชื่อฉัน หาว่าฉันโกหก ชินพูดด้วยความเจ็บใจ
นายแน่ใจได้ยังไงว่าเขามีชู้ ชุนถาม
ก็ฉันเห็นกับตา
เขาอาจเป็นคนรู้จักกัน เป็นญาติกันก็ได้ ชุนให้ความเห็น
นี่ทำไมนายต้องไปแก้ตัวให้มันด้วย ชินว่าน้องชาย
ฉันก็แค่ออกความเห็น บางทีนายอาจเข้าใจผิดไปเอง
ไม่ผิดหรอก ฉันแอบตามไปดู ฉันเห็นที่มันสองคนอยู่ด้วยกัน ฉันถ่ายรูปมาให้พ่อดูด้วย แต่พ่อก็ยังไม่เชื่อ แล้วก็โกรธฉันอีก
บางทีแม่เลี้ยงเขาอาจจะบอกกับพ่อ หรือแก้ตัวอย่างที่ฉันพูดก็ได้ ซึ่งมันก็เป็นเหตูผลที่ฟังขึ้นนะ นายเลยถูกมองว่า เป็นเด็กขี้อิจฉาไง แล้วหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของพ่อกับนายก็แย่ลงเรื่อยๆใช่มั้ย
ชุนถามน้ำเสียงอ่อนใจ
ใช่ นายคิดดูสิ พ่อซื้อบีเอมให้มันขับ พ่อมีทุกอย่างให้กับลูกใหม่ พ่อบ่นทุกครั้งที่ฉันขอเงินค่าเทอม ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่ของพ่อ ทุกวันนี้ฉันต้องทำงาน ความจริงฉันเริ่มทำงานตั้งแต่เรียน ม.ปลายแล้วล่ะ ตอนการเรียนฉันแย่พ่อเอากีตาร์ฉันไปทิ้ง ห้ามคบเพื่อน พ่อไม่คิดบ้างว่าปัญหาครอบครัว การปรับตัวเรื่องการเรียนของฉันมันเป็นยังไง จากที่เรียนสายศิลป์มาเรียนสายวิทย์มันยากแค่ไหน พ่อมีแต่คำถามว่าทำไมถึงทำไม่ได้
ชินพูดด้วยความคับแค้นใจ
ชินนายร้องให้หรือเปล่า ชุนถามเพราะเขาได้ยินเสียงที่เครือของชิน
ฉันเป็นผู้ชายนะไม่ร้องให้หรอก แล้วฉันก็เป็นพี่นายด้วย
นายร้องให้ได้นะ ถ้านายอยากร้อง ฉันจะอยู่ข้างนายเสมอ ชุนปลอบใจ
ถ้านายร้องให้ฉันจะร้องไปกับนาย ชุนเสียงเครือ
ชินได้ยินเสียงฟึดฟัดร้องให้ของชุน
โธ่เอ๊ย ชุนนี่นายร้องให้เหรอเนี่ย นี่ชีวิตฉันเศร้ามากขนาดนั้นเลยเหรอ ชินแสร้งขำ
ชินฉันอยากให้นายคุยกับพ่อ ลองเปิดใจคุยกันสักครั้งสิ
ฉันไม่เจอหน้าพ่อมาเป็นปีแล้วชุน พ่อไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ พ่อย้ายไปเป็นนายอำเภอที่ขอนแก่นหลายปีแล้ว
น้ำตาของชุนรื้นขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วนายอยู่กับใครเหรอชิน ชุนถาม
อยู่บ้านย่า ก็มีอา มีลุง แต่มันก็ไม่เหมือนครอบครัวหรอก
ฉันไม่ค่อยชอบกลับบ้านเท่าไหร่ กลับไปก็ไม่รู้จะคุยกับใคร ไม่มีใครเขาเข้าใจและฟังฉันพูดเหมือนนายหรอก นายเป็นน้องที่ฉันรักนะ ชินบอกกับชุน
เรายังมีน้องอีกใช่มั้ย ชุนถาม
ฉันไม่ค่อยถูกกับน้องเท่าไหร่ เรามีปัญหากันน่ะ มันก็คงเกลียดฉันเหมือนแม่ของมันนั่นแหละ
นายไม่โทรไปหาพ่อบ้างเหรอ ชุนถามชิน
จะให้ฉันโทรไปยังไงล่ะ คุยกันก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ อย่างเมื่อวานฉันโทรไปขอเงินค่าเทอม พ่อก็ว่าฉัน หาว่าค่าเทอมมันแพง ฉันถึงต้องทำงาน มอเตอร์ไซด์คันโทรมๆที่ฉันใช้อยู่ตอนนี้ ก็มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันเอง ฉันเอาไว้ขี่ไปทำงาน หลายๆคนชอบถามว่า เหนื่อยทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทำไมไม่พักงานล่ะ มันไม่ได้หรอก ถ้าไม่ทำงานมันก็ไม่มีตังค์ใช้ อยากได้อะไร ฉันก็ต้องหาเงินซื้อเอง
ชินฉันรู้ว่าพ่อต้องภูมิใจในตัวนาย นายเป็นลูกที่ดีมากเลยนะ ฉันยังภูมิใจที่มีนายเป็นพี่ แต่นายอาจไม่เข้าใจความคิดของพ่อ นายโตทั้งร่างกายและจิตใจ ทำไมพ่อจะไม่ภูมิใจกับลูกชายคนโตเล่า
ชุนปลอบใจชิน
ถ้าแม่รู้ว่านายลำบาก แม่ต้องช่วยนาย ชุนบอกกับชิน
อย่าเลย ฉันไม่อยากให้แม่ต้องเดือดร้อนไปด้วย เพราะหน้าที่เลี้ยงดูฉันคือหน้าที่ของพ่อ ไม่ใช่ของแม่ อย่าบอกแม่นะฉันไม่อยากให้เขารู้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก นายนอนเถอะดึกมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเรียนไม่ทัน ชินรีบตัดบท
จากคุณ :
seem
- [
21 พ.ค. 49 12:38:24
]