CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 100 (ตอนกลาง)

    ฮั่นตง และพวกพากันถอนหายใจออกมา ปรายตามองดูกองกำลังที่ห้อมล้อมตนเองเอาไว้ จากนั้นฟาหลินซีพลันกล่าวว่า “นึกมิถึง จอมยุทธปลอมเหล่านี้ กลับมีอยู่หลายคนที่เป็นพี่น้องเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเรา”

    สิ้นเสียงของฟาหลินซี เหล่าจอมยุทธที่รายล้อมอยู่รอบนอก ถัดจากกองกำลังของซ่งปังออกไป มีหลายคนที่พากันก้มหน้า มิกล้าสบสายตากับพวกฮั่นตง! ที่แท้พวกมันล้วนเป็นมือปราบของทางการ และเป็นพี่น้องร่วมทุกข์สุขของฮั่นตง และฟาหลินซีมาก่อน ยังมีหลายครั้งคราที่พวกมันได้รับความช่วยเหลือจากอดีตยอดมือปราบ มิเช่นนั้นพวกมันคงเป็นปีศาจเฝ้าสุสานแต่เนิ่นแล้ว

    “ผู้แซ่ซ่ง เรากลับคาดเดาไม่ออกจริงๆ” ฮั่นตงหันไปกล่าวกับบุรุษชุดเขียว

    “ท่านหมายถึงศักดิ์ฐานะของเรา ที่ยินยอมโกนหนวดเครา ตบแต่งรูปโฉม หรือหมายถึงเรื่องที่เราคิดคร่ากุมท่านให้กับทางการ?” ซ่งปังกล่าวเสียงเรียบ ใบหน้าขาวซีดที่มีหนวดเรียวยาวประดับเหนือริมฝีปาก พลันค่อยๆ ปรากฎสีแดงขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย จนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงประดุจโลหิต

    ฮั่นตงรู้สึกถึงรังสีอำมหิต และพลังกดดันคุกคามของอีกฝ่ายค่อยทยอยเพิ่มขึ้นตามความเข้มของสีแดงบนใบหน้า ซึ่งยิ่งมายิ่งเข้มข้นมากขึ้นทุกที

    “นี่คือเทพมัจฉาโลหิต....ซ่งปัง! อันแท้จริง!

    ที่แท้ “มัจฉาแห่งแยงซี” กลับเป็นลิ่วล้อของทางการ ที่ทำมาทั้งหมดย่อมเพื่อล่อฮั่นตงออกมานั่นเอง!!! นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทางการมิยื่นมือเข้ายุ่งเกี่ยวกับพวกมัน หาใช่มาจากสาเหตุกลัวเกรงกำลังของพวกมันไม่? แต่เป็นเพราะว่า “ล้วนเป็นพวกพ้องเดียวกัน” จึงมิจำเป็นต้องสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยว

    ทั้งหมดก็เป็นเพียงแผนล่อให้ฮั่นตงออกมานั่นเอง!!!

    “ที่คาดเดาไม่ออก หมายถึงเหตุใด? คนเยี่ยงท่านที่เคยหยิ่งทระนง กลับกลายเป็นสุนัขรับใช้ให้คนจูงจมูก!!!”

    ซ่งปังใบหน้ายังมิแปรเปลี่ยน ทว่าหัวคิ้วสองข้างกระตุกวูบ กล่าวว่า “สุนัขที่ยังมีชีวิต ย่อมประเสริฐเลิศล้ำ กว่าราชสีห์ที่เป็นซากศพ ฮั่นตงตัวท่านเองก็เคยรับใช้ทางการ ไยตัวเรามิอาจรับใช้บ้าง ท่านก็ปล่อยวางเสียบ้างเถิด ยอมจำนนเสีย จะได้ตกตายอย่างที่มีซากศพสมบูรณ์!”

    ฮั่นตงแย้มยิ้มกล่าวว่า “รับใช้ทางการดุจเดียวกัน แต่มาจากเจตนาที่แตกต่าง เรารับใช้ทางการเป็นเพราะเพื่อผดุงความเป็นธรรม ค้ำจุนทวยราษฎร์ ส่วนตัวท่านนั้นเพื่อเหตุใด ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี”

    ซ่งปังยิ้มแย้มเช่นกัน “กล่าวว่า ฮั่นตง หรือมีเพียงตัวท่านจึงสามารถผดุงคุณธรรม ค้ำจุนทวยราษฎร์ เราผู้แซ่ซ่งมิมีสิทธิหรอกหรือ?”

    ฮั่นตง แหงนหน้า หัวร่อออกมาอย่างสุดเสียง หลังจากนั้นพลันใช้แววตาที่คมกริบประดุจใบมีดจ้องมองอีกฝ่าย กล่าวเสียงเย็นเยียบว่า “ค้ำจุนทวยราษฎร์ ผดุงคุณธรรม นึกมิถึงท่านกลับหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้ เพียงเพื่อล่อให้พวกเราปรากฎตัว ท่านเข่นฆ่าผู้คนไปเท่าใด มีผู้บริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหนต้องสังเวยชีวิต ยังกล้ากล่าววาจาเหล่านี้อีกหรือ?”

    ซ่งปังได้ยินเช่นนั้นก็พลันนิ่งเงียบ มันแม้เป็นผู้ที่กล่าววาจาได้คล่องแคล่ว ทั้งยังเป็นผู้มีวาทศิลป์ แต่กลับคำกล่าวหาข้อนี้ของฮั่นตง นับว่ามิอาจปฏิเสธปัดความรับผิดชอบไปได้จริงๆ”

    เสี่ยวโกยที่ด้านข้างทางหนึ่งรับฟังคนทั้งคู่ตอบโต้กัน อีกทางครุ่นคิดหาวิธีรับมืออีกฝ่าย เนื่องเพราะแผนการท้าดวลอีกฝ่ายได้สลายหายไปในพริบตา คนเยี่ยงซ่งปังที่ยินยอมเป็นสุนัขรับใช้ทางการย่อมมิเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับผู้คนเพื่อศักดิ์ศรีอีกแล้ว

    ทันใดนั้นมันได้ยินเสียงแผ่วเบาของฮั่นตงกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เจ้าโกย เหม่ยชิง ข้าพเจ้าเสียใจนักที่ทำให้พวกท่านต้องตกอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนี้”

    เสี่ยวโกยกล่าวตอบโต้ว่า “พวกเราพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย หากครั้งนี้ต้องตกตายจริงๆ ข้าพเจ้าก็มิเสียใจ เพียงแค้นใจที่ตายด้วยน้ำมือของเดรัจฉานแซ่ซ่ง!!!” น้ำเสียงของมันดังลั่นไปทั่วดาดฟ้าเรือ คนของซ่งปังพากันขยับเคลื่อนไหวคิดเข้ารุมสับร่างของอีกฝ่ายให้แหลกสลาย

    ทว่าซ่งปังกลับยกมือห้ามเอาไว้

    เหวินเหม่ยชิงที่ด้านข้างมิกล่าววาจาอันใด เพียงยื่นมือกุมมือของฮั่นตงเอาไว้ มือของนางอบอุ่น และนุ่มนวลนัก

    ด้านฟาหลินซีกล่าวเบาๆ ว่า “น้ำมาก่อทำนบกั้น พวกเราพลิกแพลงตามสถานการณ์ มิแน่ว่าจะไม่มีหนทางรอด!”

    จากคุณ : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - [ 22 พ.ค. 49 21:13:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป