CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    *** Allan Quatermain *** จอมพรานสุดขอบฟ้า*** บทที่ ๓ สถานี

    แปลจากเรื่อง  Allan Quatermain  ของ SIR  HENRY  RIDER  HAGGARD

    บทที่ ๓

    สถานี

    เราเอาเชือกส่วนที่เหลือมัดไว้กับเรือแคนูอีกลำ        แล้วนั่งรอยามเช้าพร้อมกับแสดงความยินดีกับพวกเราที่เคราะห์ดีหนีรอดมาได้           ซึ่งที่จริงแล้วคงเป็นพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้ามากกว่าความกล้าหาญของพวกเรา          และแล้วก็ถึงยามเช้าไม่บ่อยครั้งนักที่ข้าพเจ้าจะมีความยินดีมากไปกว่านี้ที่ได้เห็นแสงตะวัน         แม้ว่าห่างไปแค่ช่วงลำเรือภาพอันน่าหวาดกลัวปรากฏอยู่ให้เห็น       ที่ท้องเรือลำน้อยร่างของชาวแวควาฟี่โชคร้ายนอนกองอยู่        มีดปักอยู่ที่ทรวงอกพร้อมมือที่ถูกตัดขาดยังกำอยู่ที่ด้าม        ข้าพเจ้าทนดูอยู่ไม่ไหวจึงสาวก้อนหินที่ใช้ยึดเรืออีกลำขึ้นมา        มัดมันเข้ากับร่างของชายผู้ถูกสังหารหย่อนร่างของเขาออกไปจากกราบเรือ       ร่างของเขาจมลงสู่ใต้น้ำไม่เหลืออะไรไว้ให้เห็นนอกจากฟองอากาศเป็นสายผุดขึ้นมา        อนิจจา !   เมื่อเวลาของเรามาถึง      พวกเราทั้งหมดก็จะเหมือนกับเขาไม่ทิ้งอะไรนอกจากฟองอากาศเพื่อแสดงว่าเราอยู่ที่นั่นแล้วก็แตกสลายไปในไม่ช้า        มือของฆาตกรที่สังหารเขาเราเอาโยนลงไปในสายน้ำ    มันค่อย ๆ จมลงไป       ดาบที่ด้ามทำจากงาช้างประดับด้วยทองคำ (เป็นฝีมือของชาวอาหรับ)        ข้าพเจ้าเก็บเอาไว้เป็นมีดล่าสัตว์และมันได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์มาก

    จากนั้นถ่ายคนมาที่เรือของข้าพเจ้าคนหนึ่ง        เราออกเดินทางอีกครั้งด้วยจิตใจที่หดหู่และรู้สึกไม่สบายใจกับอนาคต        หวังอย่างสุดใจว่าจะไปถึงสถานี “ไฮจ์แลนด์” ในตอนค่ำ       สถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก        ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนักทำให้เราเปียกโชกไปทั้งตัวและจำเป็นต้องวิดน้ำออกจากเรือเป็นระยะ       โดยที่สายฝนตกกระหน่ำกลบสายลมไปเสียจนหมดทำให้เราใช้ใบเรือไม่ได้       เราเดินทางไปได้ดีที่สุดด้วยพายของเราเอง

    เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาเราหยุดพักยังพื้นที่โล่งทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ      ฝนซาลงเล็กน้อยจึงจัดการก่อกองไฟขึ้นแล้วจับปลาเอามาย่าง        เราไม่กล้าตระเวนออกไปเพื่อล่าสัตว์        เวลาบ่ายสองโมงเราออกเดินทางอีกครั้งเอาปลาย่างไปเป็นเสบียง        หลังจากนั้นไม่นานฝนตกลงมาหนักยิ่งกว่าเก่า       อีกทั้งแม่น้ำเริ่มมีก้อนหินใหญ่จำนวนมากขัดขวางการเดินทาง       บางช่วงตื้นเขินและกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากมาก         ถึงตรงนั้นเราก็ถอดใจแล้วว่าคงไปไม่ถึงที่พำนักอันปลอดภัยของท่านสาธุคุณแมคเคนซี่ได้ในคืนนี้---ภูมิทัศน์ที่เห็นไม่ทำให้เรามีชีวิตชีวาเลย         เราพยายามอย่างหนักแต่ก็เดินทางได้ไม่เกินหนึ่งไมล์ต่อชั่วโมง          และตอนห้าโมงเย็น (ถึงตอนนั้นพวกเราก็เหน็ดเหนื่อยหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว) เราคำนวณว่ายังคงอยู่ห่างจากสถานีลงมาสักสิบไมล์       เมื่อเป็นเช่นนั้นเราเริ่มมองหาที่พักแรมที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้สำหรับตอนกลางคืน         หลังจากประสบการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมาเราไม่กล้าขึ้นพักแรมบนพื้นดิน      โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตามตลิ่งของแม่น้ำทานาปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนาแน่นเป็นโอกาสให้พวกมาไซห้าพันคนซ่อนตัวอยู่ได้      และในตอนแรกพวกเราคิดว่าจะต้องนอนในเรือแคนูอีกคืนหนึ่ง         แต่เป็นโชคดีพวกเราเห็นเกาะหินขนาดเล็กมีพื้นที่ไม่เกินสิบห้าตารางไมล์โดยประมาณ ตั้งอยู่เกือบกลางแม่น้ำ         เรารีบพายเรือเข้าไปผูกเอาไว้แล้วขึ้นฝั่งพักผ่อนเท่าที่สถานที่จะอำนวย แต่มันไม่สะดวกสบายเลยจริง ๆ            เพราะสภาพอากาศยังเลวอยู่       สายฝนซึมเข้ามาในผ้าใบจนทำให้เราหนาวไปจนถึงกระดูกและยังทำให้เราก่อกองไฟขึ้นมาไม่ได้          แต่มันก็มีสิ่งปลอบใจอยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับฝน       พวกแวควาฟี่บอกว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้พวกมาไซเข้าโจมตีกลางสายฝนเพราะพวกมันไม่ชอบเป็นอย่างยิ่งที่จะไปไหนมาไหนเวลาเปียก       บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกมันไม่ชอบอาบน้ำเป็นคำกล่าวประชดจากกัปตันกู๊ด        เรากินปลาเย็นเฉียบเปียกโชกไม่มีรสชาติเพราะมันมีอยู่แค่นั้น     ยกเว้นอัมสโลโปกาส เหมือนกับพวกซูลูโดยทั่วไปไม่ชอบกินปลา     แต่ดื่มบรั่นดีแทนซึ่งโชคดีมีเหลืออยู่ไม่กี่ขวด       และแล้วมันก็เป็นการเริ่มต้นของราตรีอันแสนจะทรมานเท่าที่ข้าพเจ้าเคยประสบมา       ยกเว้นครั้งหนึ่ง---เมื่อเราสามคนขาวเกือบจะตายเพราะความหนาวเย็นบนพื้นหิมะของยอดเขาที่มีชื่อว่าเนินอกของพระนางชีบาในการเดินทางสู่ดินแดนกุกัวนา---มันดูเหมือนกับว่ายาวนานจนไม่มีที่สิ้นสุด       ครั้งหรือสองครั้งที่ข้าพเจ้ากลัวว่าชาวแวควาฟี่สองคนจะตายเพราะความเปียกชื้นความหนาวเย็นและการอยู่ในที่โล่ง        ที่จริงแล้วถ้ามันไม่เป็นเพราะมีบรั่นดีในเวลาที่เหมาะสมข้าพเจ้าแน่ใจว่าพวกเขาต้องตายแน่        เพราะไม่มีชาวอาฟริกาคนใดจะทนได้มากนักในที่โล่ง      ซึ่งมันจะเริ่มจากการเป็นอัมพาตก่อนแล้วก็จะฆ่าเขาไปในที่สุด         ข้าพเจ้าได้เห็นว่านักรบเหล็กผู้ชราอัมสโลโปกาสยอมรับกับสภาพได้อย่างอดทน      เปรียบกับพวกแวควาฟี่ที่ร้องบ่นคร่ำครวญไม่หยุดปาก     เขาไม่เคยเอ่ยปากบ่นเลยสักคำ        เรื่องทำท่าจะเลวร้ายลงอีกเมื่อประมาณตีหนึ่งพวกเราได้ยินเสียงนกฮูกที่เป็นลางร้ายส่งเสียงร้องขึ้นมาอีก       เราเตรียมตัวรับการโจมตีถ้าหากว่าพวกมันจะพยายาม        ข้าพเจ้าคิดว่าเราไม่อยู่ในสภาพที่จะต้านรับได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ          ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นเสียงจากนกจริง        หรือว่าเจ้าพวกมาไซจะคิดแผนการโจมตีไม่ออก       ซึ่งพวกมันไม่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นนี้       พวกมันถนัดการโจมตีตามพุ่มไม้หรือท้องทุ่ง       ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเราก็ไม่พบเห็นพวกมันเลย

    ในที่สุดอรุณรุ่งก็ทอแสงข้ามท้องน้ำที่มีหมอกน่ากลัวปกคลุมอยู่มา          พร้อมกับแสงตะวันฝนก็หยุดตก        ดวงอาทิตย์เจิดจ้าดูดซับหมอกร้ายและทำให้อากาศหนาวเย็นอบอุ่นขึ้น     ชาไปทั้งตัวและเกือบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงเราลากตัวเองลุกขึ้นยืน       ออกไปยืนรับแสงสว่างสดใสและกล่าวคำขอบคุณ        ข้าพเจ้าพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมมนุษย์โบราณจึงบูชาพระอาทิตย์      โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสภาพชีวิตของพวกเขากระทำให้ต้องออกมาอยู่กลางแจ้ง

    ภายในครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเราออกเดินทางอีกครั้งทำเวลาได้อย่างรวดเร็วจากความช่วยเหลือของสายลม        จิตใจของเรากลับคืนมาพร้อมกับแสงอาทิตย์         และเราพร้อมที่จะหัวเราะให้กับความยากลำบากและอันตรายที่เกือบจะทำให้เราย่อยยับในวันที่ผ่านมา

    เราเดินทางอย่างร่าเริงจนกระทั่งเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา       ขณะที่เรากำลังคิดที่จะหยุดพักเหมือนปกติ       เพื่อพักผ่อนและยิงสัตว์มาเป็นอาหาร        แม่น้ำที่หักโค้งโดยทันทีทำให้ภาพบ้านแบบชาวยุโรปมีเฉลียงล้อมรอบตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเขาโอบล้อมด้วยกำแพงศิลาสูงมีคูน้ำล้อมอยู่ภายนอกปรากฏแก่สายตา         ต้นสนขนาดมหึมาตั้งอยู่เคียงข้างกลบรัศมีของตัวบ้านไปจนหมดสิ้น        สิ่งที่เราเห็นเหมือนกับสถูปเจดีย์เมื่อสองวันก่อนจากกล้องส่องทางไกลโดยไม่ทราบว่ามันชี้บอกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีปฏิบัติงาน         ข้าพเจ้าเป็นคนแรกที่เห็นตัวบ้านและระงับใจไว้ไม่ไหวต้องส่งเสียงร้องแสดงความยินดีออกมาอย่างเบิกบานใจ         คนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันรวมทั้งพวกพื้นเมืองร่วมแสดงความยินดีอย่างแข็งขัน         ตอนนี้ไม่มีความคิดที่จะหยุดพักอีกแล้ว       เราตรากตรำเดินทางต่อไปแต่เป็นโชคไม่ดีบ้านแม้จะดูว่าอยู่ใกล้แต่เป็นหนทางอีกยาวไกลทางแม่น้ำ       จนในที่สุดเมื่อเวลาบ่ายโมงเราก็มาอยู่ภายใต้เนินที่ตัวบ้านตั้งอยู่        พุ่งเรือเข้าสู่ฝั่งเราลงจากเรือ       ขณะที่กำลังลากเรือขึ้นตลิ่ง       เราได้เห็นร่างคนสามคนแต่งกายแบบชาวอังกฤษรีบร้อนลงมาตามหมู่ไม้มาพบเรา

    “คุณผู้ชาย    คุณผู้หญิง    และคุณหนู”    กัปตันกู๊ดกล่าวคำอุทานออกมา      หลังจากมองสำรวจคนทั้งสามผ่านแว่นตาของเขา     “เดินมาด้วยชุดทันสมัย      ผ่านสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี    มาพบกับพวกเราในสถานที่เช่นนี้      “ให้ตายดับเถอะ     ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่สุดที่พวกเราพบเห็นมา”  

    กัปตันกู๊ดพูดถูก :   ดูเหมือนว่ามันจะแปลกประหลาดและผิดที่ผิดทางไปจริง ๆ ---เหมือนกับว่าเป็นฉากออกมาจากความฝันเสียมากกว่า      หรือไม่ก็เป็นอุปรากรจากอิตาลี่มากกว่าจะเป็นเหตุการณ์จริง        และสัมผัสของความไม่เป็นจริงไม่ถดถอยลงเลยเมื่อเราได้ยินการแนะนำตัวกับพวกเราด้วยเสียงหนักแน่นของชาวสก็อต     ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้

    “สวัสดีครับ  ท่าน”    เป็นคำกล่าวของคุณแมคเคนซี่     ชายผมสีเทารูปร่างผอมเกร็งใบหน้าแสดงว่าเป็นคนใจดีแก้มสีแดง     “ผมหวังว่าพวกท่านจะสบายดี       พวกพื้นเมืองบอกผมว่าเมื่อสักชั่วโมงกว่ามาแล้วพวกเขาพบว่ามีคนขาวนั่งเรือแคนูสองลำขึ้นมาตามแม่น้ำ       พวกเราจึงลงมาพบพวกท่าน”

    “พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นใบหน้าของคนผิวขาวอีกครั้ง      ให้ฉันได้บอกพวกท่านเถอะ”      คุณผู้หญิงกล่าวแทรกขึ้นมา---ท่าทางเป็นผู้ดีดูมีเสน่ห์

    เราถอดหมวกเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ      แล้วกล่าวแนะนำตัวเอง

    “และตอนนี้”   คุณแมคเคนซี่ กล่าวขึ้น   “พวกท่านทั้งหมดคงจะหิวและเหน็ดเหนื่อย     ไปกันเถอะท่านสุภาพบุรุษ       และพวกเราดีใจจริง ๆ ที่ได้พบพวกท่าน        คนผิวขาวคนสุดท้ายที่มาเยี่ยมพวกเราคือ อัลฟองเซ---คุณจะได้พบกับอัลฟองเซในไม่ช้า---นั่นมันเมื่อปีหนึ่งผ่านมาแล้ว”

    จากคุณ : Sv - [ 24 พ.ค. 49 17:28:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป