ความคิดเห็นที่ 1
บทที่ 6: ยิ่งห่างไกล ใจยิ่งผูกพัน
เมื่อแมนเข้าเรียนพลตำรวจ ช่วงนั้นถือเป็นครั้งแรกที่เราเริ่มได้เจอกันน้อยลงถึงขั้นเหลือแค่อาทิตย์ละครั้งคือตอนแมนกลับจากโรงเรียนพลตำรวจในช่วงสุดสัปดาห์
ยิ่งห่างไกลกัน เราก็ยิ่งรักกัน ฉันคิดถึงแมนทุกนาที ทุกลมหายใจเลยจริงๆ เหมือนแมนเป็นส่วนนึงของความคิดฉันตลอดเวลา
บางครั้ง ฉันจะนัดแมนที่ห้างแถวบ้านตอนแมนกลับจากโรงเรียนพลฯ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ถือกระเป๋าหนังสี่เหลี่ยม หัวเกรียนมาเชียว ตัวก็ดำกว่าเดิมเยอะมากๆ น่าสงสาร พอเจอหน้ากัน เราต่างก็ยิ้มกว้าง ความดีใจและความสุขแสดงออกทางแววตาอย่างชัดเจน
วันเวลาผ่านไปรวดเร็ว ระหว่างที่แมนเข้าพลตำรวจ ฉันก็ทำงานธนาคาร และต่อมาก็ตัดสินใจลาออกมาสอบเรียนต่อป.โท
และแล้วแมนก็เรียนจบ และตัดสินใจสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจต่อเลย
ปีนั้นเป็นปีสุดท้ายที่แมนมีสิทธิ์ เพราะแมนอายุครบ 25 พอดี ฉันก็เสียวนิดๆเพราะว่าถ้าพลาด ไม่รู้ว่าชีวิตแมนจะไปทางไหน คงไม่เป็นพลตำรวจไปตลอดหรอก อาจจะต้องใช้วุฒิป.ตรีสอบเข้าแทน ซึ่งแมนไม่อยากเพราะกลัวจะไม่รุ่งในชีวิตราชการถ้าไม่ได้ผ่านโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
แต่ผลออกมาแมนก็สอบได้ แมนดีใจมาก ฉันก็ดีใจไปด้วย แม้ว่าแมนจะต้องเสียเวลาอีกถึง 4 ปี กว่าจะได้ทำงานเป็นจริงเป็นจังก็ตาม
ฉันไม่แคร์เลยที่แมนเริ่มต้นช้า ฉันไม่อายใครๆที่ฉันเรียนป.โทจะจบแล้วแฟนฉันเพิ่งเข้ารร.นายร้อย ฉันไม่สนว่าจบออกมาแล้วเงินเดือนแมนจะน้อยแสนน้อย
เมื่อแมนเข้าโรงเรียนนายร้อยใหม่ๆ ก็เจอกฎสารพัดมากมาย ถ้าทำผิดนิดเดียวจะต้องถูกกัก ไม่ได้กลับบ้าน แมนทั้งเหนื่อยทั้งท้อ
ในสมัยนั้นโรงเรียนนายร้อยห้ามนักเรียนพกมือถือ (ไม่รู้สมัยนี้ยังห้ามอยู่ไหมนะ ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว) และนักเรียนจะมีเวลาอิสระแค่คืนวันพุธซึ่งเค้าจะปล่อยให้นักเรียนเข้าไปใช้เวลาว่างได้ที่ร้านอาหารดาวเงิน(ในโรงเรียนนายร้อยนั่นแหละ)
แมนต้องต่อคิวโทรศัพท์ยาวมาก เพื่อจะโทรหาฉัน และได้คุยก็เพียงไม่กี่นาที แต่แมนก็โทรมาได้ทุกพุธ เราคิดถึงกันมากมาย แมนขอให้ฉันเขียนจดหมายหาแมนทุกวัน ฉันตกลง
ทุกวันฉันจะเล่าเรื่องราวต่างๆ แมนก็จะตอบฉันมา (แต่ไม่ได้ตอบทุกวัน) แมนบรรยายชีวิตความยากลำบากที่นั่นให้ฉันฟัง
หลังจากผ่านช่วงแรก โรงเรียนจะเปิดให้ญาติไปเยี่ยมได้ ฉันซึ่งไม่เคยไปไหนไกลๆ ยอมที่จะขึ้นรถตู้ไปหาแมนคนเดียว พอไปถึงโรงเรียน มองไปทางไหนก็คิดว่าใช่แมนไปหมด ก็ฝึกกันจนตัวดำ ผมเกรียน สูงๆผอมๆเหมือนกันเกือบทุกคนเลยหนิ
เมื่อแมนเดินมาหาฉัน ฉันรู้สึกราวกับเพิ่งตกหลุมรักครั้งแรก ฉันยังคงดีใจมากๆที่ได้เห็นหน้าแมน แมนก็เช่นกัน พอเห็นหน้าฉันแมนก็จะยิ้มกว้าง แสดงออกทางสีหน้าว่าดีใจมากๆ บางทีก็แอบจับมือฉันใต้โต๊ะ (เค้าห้ามค่ะ)
มีครั้งหนึ่ง แมนถูกกักบริเวณ และบอกให้ฉันไปเยี่ยม วันนั้นคนที่นั่งคุมหน้าป้อมเป็นพลตำรวจซึ่งไม่รู้เรื่อง พอฉันไปถึง พลตำรวจคนนั้นบอกว่า "ห้ามเยี่ยมครับ วันนี้นักเรียนมีภารกิจ" (ทั้งที่ความจริงวันนั้นไม่ได้ห้ามเยี่ยมแต่อย่างใด)ฉันงงมาก และเศร้าด้วย แต่ก็ต้องยอมกลับ ไม่รู้จะต่อรองกับเขาได้ยังไง ฉันเดินกลับไปขึ้นรถตู้ด้วยความหดหู่
พอกลับถึงบ้าน ไม่กี่วันต่อมา จดหมายจากแมนก็มาถึงฉัน แมนบรรยายความรู้สึกวันนั้นให้ฟังว่าแมนเหนื่อยมาก และตั้งตารอเวลาที่ฉันจะไปเยี่ยม รอแล้ว รอเล่า ฉันก็ไม่ไป (ซึ่งความจริงวันนั้นไม่ได้ห้ามเยี่ยมเลย คนอื่นเค้าไปเยี่ยมกันได้) จนถึงเย็น แมนก็หมดความหวัง จนแมนน้ำตาไหลออกมา
ฉันเล่าให้ฟังแบบนี้ดูไม่ซึ้งใช่ไหม แต่ในจดหมายน่ะ ฉันอ่านแล้วจะร้องไห้ตาม และไม่สามารถจะหยิบจดหมายฉบับนั้นมาอ่านซ้ำได้อีกเลย ครั้งนึงฉันเคยบอกเลิกแมนและเก็บข้าวของเก่าๆ ฉันเผลออ่านจดหมายฉบับที่แมนเขียนให้ฉันตอนวันครบรอบ 1 ปีที่คบกันกับจดหมายฉบับนี้เข้าถึงกับปล่อยโฮ (จะเล่าเหตุการณ์นั้นในบทต่อๆไปนะจ๊ะ)
จากคุณ :
cute neko
- [
25 พ.ค. 49 13:03:49
]
|
|
|