CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    >>>>..... ใต้แสงจันทร์ ....>>>>> บทที่ 3/2

    กว่าจะได้มาลงตอนต่อจากตอนที่แล้วค่ะ ก็ผ่านมาแล้ววันแล้ว ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่สามารถลงได้ตามที่บอกไว้ เพราะเครื่องคอมฯ เจ้ากรรมเกิดมีปัญหาขึ้นเสียก่อน ทำให้ต่ออินเตอร์เน็ตไม่ได้ กว่าจะเล่นได้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว

    ไม่พูดมากแล้วค่ะ อ่านต่อเลยแล้วกัน

    ..........................................................................

    ในขณะที่สรรพเสียงในกองคาราวานค่อยๆเงียบเสียงลง ผู้คนเริ่มเดินกลับไปยังกระโจมที่พักของตน คงเหลือแต่เวรยามที่มีท่าทางอ่อนเพลียเฝ้ายามอยู่ด้านนอก

    ที่เนินดินสูงถัดไปจากนั้นเล็กน้อย ใต้ร่มไม้หนาทึบ กลับเห็นชายฉกรรจ์นับสิบคน ยืนนิ่งอยู่ในเงามืด มองลงมายังที่กองคาราวาน

    “เราจะล้มเลิกแผนการจริงๆหรือท่านสินธพ”

    สินธพยืนกอดอกนิ่งครู่ ก่อนจะพยักหน้า

    “แม้ผู้อื่นว่าสัจจะโจรจะเชื่อถือไม่ได้ แต่เจ้าก็รู้ดี หากเราลั่นวาจาไปแล้วย่อมไม่กลับคำ”

    ก็เพราะการมีสัจจะนี่แหละที่ทำให้มีโจรมากมายยินยอมมาเป็นลูกน้องด้วย เมื่อนายโจรพูดเช่นนี้ เสียงถอนหายใจอย่างเสียดายของพวกที่ยืนอยู่รอบๆตัวก็ดังขึ้นเกือบจะพร้อมๆกัน ทำให้สินธพหันกลับมามองหน้าบรรดาลูกน้องคนสนิท

    “พวกเจ้าอาจจะรู้สึกลำบากใจที่ต้องล้มเลิกแผนการที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไป แต่ข้าขอบอกก่อนว่าที่ข้ายอมเลิกแผนปล้นครั้งนี้ไม่ใช่เพราะข้ากลัวตาย ข้าเลิกเพราะ...คำสั่งของนาง

    ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ มองตากันอย่างไม่เข้าใจคำพูดของหัวหน้าโจร

    “ข้าขอฟังเหตุผลได้หรือไม่ ข้าไม่อยากเชื่อว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างนั้น ถ้าเลิกแผนการแล้วทำไมท่านยังมายืนมองกองคาราวานอยู่อย่างนี้อีก” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ทางซ้ายมือของสินธพถามขึ้น

    “จะว่าเป็นคนที่ท่านเคยรู้จัก ข้าก็ไม่เห็นว่านางจะทำท่าว่ารู้จักท่านเลย ไม่งั้นท่านคงไม่ได้แผลที่คออย่างนี้”

    หัวหน้าโจรหนุ่มยกมือขึ้นลูบแผลที่คออย่างครุ่นคิด จ้องมองไปยังกระโจมที่เห็นว่าหญิงสาวที่ตนจับตามองมาตั้งแต่เมื่อเย็นเดินเข้าไปพักผ่อน

    “ใช่นางจำข้าไม่ได้ สิ่งนี้แหละที่ทำให้ข้าสับสนอยู่ในขณะนี้”

    เสมาชายหนุ่มที่อายุน้อยที่สุด มองท่าทางหัวหน้าโจรอยู่ครู่ ก่อนจะตัดสินใจถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ “หรือนางจะเป็นอดีตนางนกต่อของท่าน”

    พอสิ้นคำพูดของเสมา ชายหนุ่มที่เหลือก็หัวเราะออกมาเบาๆ

    “เจ้าน่ะ มันเพิ่งเข้ามาได้ไม่นานถึงไม่รู้อะไร ชุมโจรของเราไม่เคยใช้นางนกต่อโว้ย...เสียชื่อเสียงหมด ทำอะไรต้องพึ่งผู้หญิง โจรอื่นรู้เข้าเขาจะหาว่าพวกเราไร้ฝีมือ”

    “ใช่ๆ แล้วถ้ามีนางนกต่อสวยๆอย่างนี้ จ้างให้ข้าก็ไม่ปล่อยให้ไกลตัวหรอกว่ะ เอามาเป็นนางนกต่อใกล้ๆตัวดีกว่า”

    สมุนโจรหัวเราะเสียงดัง แต่แล้วก็ค่อยๆเงียบเสียงลงเมื่อสบตาที่จ้องเขม็งมาของสินธพ

    “ทำไมนางจึงควรจำท่านได้เล่า” อินทร์ชายวัยกลางคนที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มถามขึ้น หลังจากนิ่งเงียบฟังมาตลอด “ข้าก็ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะรับคำสั่งจากสตรี”

    “ข้าไม่เคยรับคำสั่งจากสตรีมาก่อน แต่หากนางสั่ง... ไม่ใช่เพียงข้าเท่านั้นที่ยอมทำตาม แม้แต่ท่านเองก็คงยอมด้วยความสมัครใจเช่นกัน”

    “ท่านยิ่งพูดข้ายิ่งไม่เข้าใจ”

    หัวหน้าโจรหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ อินทร์อาจารย์ดาบฝีมือเยี่ยมที่ติดตามกันมาตลอด  “อิสรวงศ์...”

    อินทร์สะดุ้งเล็กน้อย “อิสรวงศ์...แห่งฉิมพลีนคร?” เขาเหลียวมองกระโจมหลังนั้น เหมือนจะมองให้ทะลุให้เห็นถึงผู้ที่อยู่ข้างใน

    ความคิดคำนึงย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ทุกอย่างยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ ความพ่ายแพ้และความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขา แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขารู้ว่า การเอาชนะด้วยกำลังฝีมือ หรือด้วยเล่ห์เพทุบายนั้น ไม่อาจสยบจิตใจผู้คนไว้ได้ตลอดกาลเท่ากับความเมตตากรุณา

    “ท่านจะปล่อยพวกเราอีกครั้งหรือ?” เขาจำเสียงสินธพที่ถามขึ้นได้ หลังจากถูกจับมาคุมขังอยู่ในคุกที่แสนสบาย เพราะมีข้าวปลาอาหารเลี้ยงดูอุดมสมบูรณ์ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมดยกเว้นขาดแต่อิสรภาพเท่านั้น ซึ่งในช่วง 1 ปีมานี้พวกตนมักวนเวียนเข้า-ออกสถานที่นี้มาหลายครั้งแล้ว

    “แน่นอน ในเมื่อน้องหญิงของเราลั่นวาจาไว้ ก็เหมือนเราลั่นวาจาเช่นกัน เราพูดคำไหนย่อมเป็นคำนั้นเสมอ แล้วพวกเจ้าล่ะ เมื่อไรจึงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองตามที่ให้วาจาสัตย์แก่เรา”

    อินทร์ยังจำสินธพในขณะนั้นได้ ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง กรามขบกันแน่น เพราะดูแลกันมาตั้งแต่ชายหนุ่มเริ่มเข้าสู่วิถีทางโจร ทำให้เขารู้ว่าความพ่ายแพ้แก่สตรีนางหนึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้คงทำให้ศิษย์หนุ่มเกิดความท้อแท้ และละอายใจมากพอดู

    การเติบโตในหมู่คนที่ถือว่าไม่จำเป็นต้องมีสัจจะกับศัตรู หล่อหลอมให้ชายหนุ่มเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีฝีมือดีเยี่ยม และเต็มไปด้วยเหลี่ยมคูทั้งตัว การให้คำสัญญาใดๆ แก่ศัตรูแล้วไม่ทำตามสัญญานั้น เป็นเรื่องที่พบได้เสมอในหมู่โจร

    “พวกเจ้าไปเถอะ...แต่ถ้าพวกเจ้ายังคงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาราษฎร์ของเรา เราก็คงจะได้เจอกันอีก” สุรเสียงแหลมใสนั้นดังมาจากสตรีร่างสูงโปร่งที่ประทับอยู่เคียงข้างยุพราชแห่งอิสรวงศ์

    “ด้วยเงื่อนไขเดิม...” ดวงเนตรเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นทอดพระเนตรหัวหน้าโจรหนุ่มที่ยืนก้มหน้านิ่งด้วยประกายตาอ่อนโยน

    ขณะนั้นสินธพยืนนิ่งมือทั้งสองข้างกำแน่น เวลาผ่านไปชั่วอึดใจใหญ่ ประตูคุกเปิดกว้าง แต่กลับไม่มีใครก้าวออกจากคุกสักคน ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี้ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะหลบหนีออกไป

    “ไม่ล่ะ พอกันที!” ในที่สุดหัวหน้าโจรหนุ่มก็พูดขึ้น

    “ข้าเบื่อเกมแมวไล่จับหนูนี้เต็มทน ข้าจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่”

    “แล้วข้อเสนอที่เราเคยยื่นให้เล่า” พระยุพราชตรัสขึ้น

    “ข้าเกิดมาเป็นโจรไม่เคยคิดจะรับราชการทหาร” ชายหนุ่มตอบสวนขึ้นมาทันที “หรือหากข้าไม่สมัครเป็นทหาร ท่านจะไม่ปล่อยพวกข้า”

    เจ้าฟ้าหญิงสรวล “เราชาวอิสรวงศ์ย่อมนับถือความเป็นอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้นเจ้าจึงมีอิสระทุกประการในการตัดสินใจ จะทำอะไรก็แล้วแต่เจ้าเถอะ หากเจ้ายังไม่เบื่อ ข้าก็ยังคงสามารถเล่นเกมด้วยได้อีกครั้ง...” ดวงเนตรที่มองตรงมานั้นมีประกายรื่นรมย์ “ด้วยเงื่อนไขเดิม...”

    หัวหน้าโจรหนุ่มสะบัดหน้า หันกลับไปให้สัญญาณกับลูกน้อง ก้าวออกจากคุกไป แต่ก่อนที่จะก้าวพ้นบริเวณที่คุมขัง เขาหันกลับมามองเจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์ที่ยังประทับอยู่ที่เดิม

    “แม้ข้าจะเป็นเพียงโจรกระจอก และพวกท่านเป็นถึงบุตรแห่งฟ้า แต่หากพวกท่านมีเรื่องเดือดร้อนใดที่คิดว่าข้าพอจะช่วยเหลือได้ ขอจงสั่งมาได้ ข้าจะทำตามโดยปราศจากเงื่อนไข”

    ++++++++++++++

    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : w_panda - [ 25 พ.ค. 49 21:53:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป