นั่นแกอ่านหนังสืออะไรอยู่น่ะมีนา ยัยพิมเดินเข้ามาถามฉันเมื่อเห็นฉันใจจดใจจ่อกับหนังสือที่อยู่ในมือซะเหลือเกิน วันนี้ฉันกับพิมมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าก่อนกลับเราทั้งสองคนที่เป็นพวกบ้าหนังสือเหมือนกันก็เลยอดไม่ได้ที่จะแวะร้านหนังสือ ถึงไม่ได้ซื้ออย่างน้อยขอแค่ได้เข้าไปเหยียบย่างก็ยังดี (ดูโรคจิตยังไงก็ไม่รู้เนอะ)
วิธีจับผิดเกย์ พิมอ่านชื่อหนังสือที่ฉันถือเอาเมื่อฉันไม่ยอมตอบคำถามของมัน แล้วเสียงของยัยเพื่อนตัวแสบนี่เบาน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ คนที่ยืนอยู่ข้างๆฉันยังหันมามองเลย ฉันรู้สึกหน้าร้อนซู่ขึ้นมาทันทีเลย ฉันรีบคว้าหนังสือแล้วลากยัยเพื่อนตัวดีไปที่เค้าท์เตอร์จ่ายเงินทันที ปากก็พูดกับมันว่า นี่แกจะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย ฉันอายคนเขานะ
อ้าว! ก็ฉันงงนี่หว่า อยู่ดีๆแกก็มาอ่านหนังสือประเภทนี้แทนที่จะเป็นนิยายรักหวานแหววตามแบบฉบับของแก แม่เพื่อนตัวแสบพูดไปหัวเราะไป เพี้ยง! ขอให้มันกรามค้างไปเลย ฉันได้แต่นั่งแช่งมันในใจด้วยความหมั่นไส้
แล้วนี่แกซื้อหนังสือเล่มนี้มาทำไมเนี่ย พิมถามเมื่อเราสองคนเดินออกจากร้านหนังสือแล้ว ขณะที่กำลังเดินผ่านร้านไอศกรีมเพื่อไปยังประตูทางออกของห้าง ฉันก็รู้สึกอยากไอศกรีมขึ้นมาทันที ฉันเลยลากพิมเข้าไปในร้านทันที
อะไรเนี่ยแก อยู่ๆก็ลากเข้ามาในร้านไอติม พิมถามเมื่อเราเดินตามพนักงานของร้านไอศกรีมเข้าไปยังโต๊ะขนาดสี่คนที่อยู่ริมทางเดิน
ก็คนมันอยากกินนี่ เหอะน่าแกนานๆทีคนจะน้อยอย่างนี้นะ ปกติคนแน่นร้านเลย ฉันบอกกับพิมที่นั่งตรงข้ามกับฉันที่นั่งหันหน้าออกไปทางด้านหน้าของร้าน เราสั่งไอศกรีมมาคนละถ้วยเพื่อสนองความอยากของตัวเอง ยัยพิมตอนแรกก็ทำท่าไม่ค่อยอยากจะร่วมวงกับฉันด้วยสักเท่าไหร่ แต่เมื่อดูเมนูต่างๆของทางร้าน สีสันและรสชาติของไอติมแต่ละชนิดก็เย้ายวนใจจนเพื่อนของฉันอดไม่ได้ที่จะต้องสั่งบ้าง
และไม่นานเกินรอไอศกรีมที่สั่งก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะเลย ฉันวางหนังสือ วิธีจับผิดเกย์ ที่หยิบขึ้นมาอ่านระหว่างรอลงบนโต๊ะ แล้วลงมือจัดการกับเจ้าไอศกรีมผู้โชคร้ายเข้าปากด้วยความสุข และแล้วสายตาที่ไม่อยู่สุขของฉันก็พลันเหลือบไปเจอกับมิสเตอร์ดาร์ก ทอล แอนด์ แฮนด์ซั่ม หรือเอกสุดหล่อ ที่วันนี้ยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่เพราะเอกใส่เสื้อยืดสีขาวข้างในแล้วสวยเสื้อเชิ้ตสีน้ำทะเลด้านนอก เข้ากันได้ดีกับกางเกงยาวแค่เข่าสีน้ำตาลอ่อนเดินเข้ามาในร้าน แต่เอ๊ะ! เขาไม่ได้มาคนเดียวนี่หน่า คนที่เดินตามเขามาข้างหลังเป็นผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาหน้าตาดี ขาว ตี๋ เมื่อฉันได้สติหลังจากที่นั่งอึ้งกับภาพที่ได้เห็นไปเสี้ยววินาทีฉันก็รีบสะกิดยัยพิมที่กำลังนั่งตักไอศกรีมเข้าปากด้วยความสุขทันที คนที่โดนขัดความสุขมองหน้าฉันด้วยสายตาที่มีความหมายว่า อะไรย่ะ คนกำลังมีความสุขอยู่ไม่เห็นเหรอไง ฉันรีบกระซิบบอกให้ยัยพิมเรียกเอกมานั่งด้วยกันที่โต๊ะ เพื่อที่ฉันจะได้จ้องจับผิด เอ๊ย! ไม่ใข่ จะได้มองหน้าเอกสุดหล่อชัดๆ
เอก มานั่งด้วยกันก็ได้ พิมยกมือเรียกเอกเมื่อเขาและผู้ติดตาม (ไม่มีวันที่ฉันจะคิดว่าเขาเป็นคู่ขากับเอกหรอก) เดินมาใกล้ๆโต๊ะที่เรานั่งกันอยู่
อ้าว! พิมมากินไอติมเหมือนกันเหรอ เอกทักยัยพิมก่อนที่จะหันมาทักฉันพร้อมกับส่งรอยยิ้มละลายหัวใจนางสาวมีนามาให้ ฉันส่งยิ้มหวานตอบกลับไป
ในที่สุดเอกก็ยอมนั่งโต๊ะเดียวกับเราสองคนจนได้ หลังจากที่เขาพยายามปฏิเสธด้วยความเกรงใจอยู่สองสามครั้ง แต่ยัยพิมก็ไม่ล่ะความพยายามเพราะฉันส่งสายตาไปขอร้องแกมบังคับให้มันทำให้สำเร็จ ฉันเก็บหนังสือ วิธีจับผิดเกย์ ที่วางอยู่บนโต๊ะแทบไม่ทันแน่ะ แล้วถ้าฉันตาไม่ฝาดนะ ฉันว่าฉันเห็นผู้ชายที่มากับเอกแอบหัวเราะฉันด้วย ตอนที่ฉันรีบเก็บหนังสือก่อนที่เอกจะเห็นน่ะ หนอย...อีตาตี๋นี่เป็นใครมาหัวเราะฉันได้ยังไงเนี่ย
พิม มีนา นี่พลเพื่อนซี้สมัยมัธยมเราเอง พลนี่พิม นี่มีนา เพื่อนที่มหาลัยของข้าเอง เอกแนะนำเราสองคนให้รู้จักกับเพื่อนซี้ของเขา เพี้ยง! ขอให้เป็นแค่เพื่อนจริงๆเถอะ
แล้วแผลของมีนาล่ะเป็นไงบ้าง เอกถามเมื่อเขาสั่งไอศกรีมเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับก้มมองดูแผลของฉัน ฉันก็ตอบไปตามจริง เพื่อนของเอกก็มองดูแผลของฉันด้วยแต่ไม่ถึงกับก้มลงใต้โต๊ะเพื่อดูแผลที่เข่าฉัน เพราะเขานั่งคนละด้านกับแผลของฉัน แล้วถ้าตาฉันไม่ฝาดอีกรอบฉันว่าฉันเห็นอีตาตี๋นั่นแอบหัวเราะด้วย อีตานี่ไม่มีมารยาทเลย
ระหว่างที่พวกเราทั้งสี่คนกำลังจัดการกับไอศกรีมนั้น พวกเราก็คุยกันไปด้วย จากการคุยนี้ทำให้ฉันได้รู้อะไรเกี่ยวกับเอกขึ้นมามากพอควรเลย อย่างเช่นความเรียนเก่งของเอก ความเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่ที่ทำให้ฉันต้องกระพริบตาปริบๆด้วยความงงอยู่แป็บนึงก็คือ เอกผู้ที่มีมาดแมนสุดๆกับนายพลเพื่อนของเขาเนี่ยชอบกินไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่ นี่ยังดีนะที่เขายังไม่ให้สตรอเบอร์รี่กันและกันเหมือนในโฆษณาไอศกรีมยี่ห้อหนึ่ง ถ้าเขาให้สตรอเบอร์รี่กันฉันคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้วแน่เลย ระหว่างที่นั่งคุยกันไปฉันดูเหมือนจะเป็นคนพูดน้อยที่สุดเลย เปล่านะ ไม่ใช่ว่าฉันสร้างภาพอะไร แต่ฉันคุยกับพวกเขาไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่น่ะสิ ก็เขาคุยกันแต่เรื่องเทคโนโลยีที่ฉันไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็ฉวยโอกาสนี้แหละแอบสังเกตเอกตามที่ในหนังสือ วิธีจับผิดเกย์ บอก แต่ฉันก็ไม่เห็นอะไรตามที่หนังสือบอกเลย แสดงว่าเอกไม่ได้เป็นเกย์อย่างนั้นน่ะสิ อย่างนี้ฉันก็มีความหวังน่ะสิ
เดี๋ยวมื้อนี้เราเลี้ยงเองละกันนะพิม มีนา เอกบอกเมื่อพวกเราจัดการเจ้าไอศกรีมที่น่าสงสารเสร็จเรียบร้อย ฉันกับพิมปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่เอกก็ไม่ยอมเหมือนกัน เขาอ้างว่าถือเป็นการเลี้ยงขอโทษที่เขาทำฉันหกล้ม ฉันก็เลยพูดอะไรไม่ออก คนอะไรสุภาพบุรุษจริงๆแล้วเอกก็เล่าเรื่องการหกล้มของฉันหันอีตาตี๋เพื่อนเขาฟัง หลังจากที่เห็นนายนั่นทำหน้างงๆ เมื่อฟังจบนายนั่นก็หัวเราะออกมาถึงแม้จะไม่ดังแต่ก็พอจะได้ยินกันทั้งสี่คนนั่นแหละ ฉันได้แต่ส่งสายตาดุๆไปให้นายนั่น ยัยพิมเพื่อนรักของฉันก็เหมือนกัน มันถือคติว่าเพื่อนฉันใครอย่าแตะ ฉันแตะและเตะได้คนเดียว สงสัยเอกเห็นท่าจะไม่ดีเลยชวนพวกเราลุกเพื่อไปจ่ายเงิน ก่อนที่จะมีการวางมวยกันเกิดขึ้น
เอกคืนนี้ข้าไปนอนกับเอ็งนะ ข้าขี้เกียจไปเปิดห้องที่โรงแรม นายตี๋พลพูดขึ้นเมื่อเราเดินออกมาอยู่หน้าร้านไอศกรีมนั่นแล้ว ฉันได้ยินปุ๊บหูผึ่งปั๊บ นายนั่นจะไปนอนห้องเอกเหรอ หรือว่านายนั่นจะเป็น... แล้วเอกล่ะจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า ก่อนที่ฉันจะคิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ เอกก็พูดขึ้นว่า ก็ได้ปกติแกก็นอนห้องข้าอยู่แล้ว โอ้! ไม่นะ
นั่นสิเนอะ ปกติข้าไปนอนที่บ้านเอ็งบ่อยๆด้วยซ้ำไป นายตี๋นั่นพูดพร้อมกับโอบบ่าเอกเอาไว้ เอกก็ไม่ได้ปัดออกหรือขัดขืนแต่อย่างไร สงสัยฉันจะต้องเอาหนังสือเล่มที่ซื้อมาไปเผาทิ้งซะล่ะมั้ง ฮือ ฮือ
งั้นเดี๋ยวเรากับมีนากลับก่อนละกันนะเอก พิมบอกกับเอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบเมื่อนายตี๋นั่นพูดจบ ดูท่าแล้วยัยพิมก็ออกจะหมั่นไส้นายตี๋นี่เหมือนกันทั้งๆที่นายตี๋นี่สเป็กพิมเลยนะเนี่ย
งั้นเดี๋ยวเราไปส่งก็ได้ เรากับพลก็กำลังจะกลับเหมือนกัน เอกพูดเมื่อฟังยัยพิมพูดจบ แล้วก็รีบพูดต่อทันทีเมื่อเห็นฉันกับยัยพิมอ้าปากเพื่อที่จะปฏิเสธ ไม่ต้องปฏิเสธเลย เราว่าพิมคงไม่เอามอไซค์มาถึงนี่หรอก เพราะพิมยังไม่มีใบขับขี่มอไซค์เลยนี่ ฉันกับพิมก็เลยได้แต่เดินตามเอกกับนายตี๋เพื่อนของเอกไปยังที่จอดรถของบริเวณห้าง
จากคุณ :
Crystal Star
- [
26 พ.ค. 49 16:41:33
]