CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กาลครั้งหนึ่งที่เรา(เคย)รักกัน ตอนที่ 2 แรกพบ ฮือๆ เข้ามาอ่านกันหน่อยค่า

    ตอนที่ 1ค่ะhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4393874/W4393874.html

    ตอนที่ 2 แรกพบ

    30 พ.ค.  วันแรกพบสัมพันธ์

    อันฌิสามาถึงลานกว้างใต้ตึกอเนกประสงค์ก่อนเวลาที่รุ่นพี่นัดเกือบหนึ่งชั่วโมง   เมื่อสักครู่ปลายฟ้าโทรมาบอกว่าเพิ่งออกจากบ้าน    หญิงสาวกดเบอร์โทรศัพท์หาเพื่อนที่จบมาจากโรงเรียนเดียวกันแต่อยู่คนละภาควิชากับเธอ

    “ฮัลโหล  พั้นช์  อยู่ไหนเนี่ย”  เสียงใสห้วนจัด   ก็แม่เพื่อนตัวดีของเธอน่ะสิ   นัดไม่เป็นนัด   นี่ก็ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ที่ไหน

    “แหม  เสียงดุมาเชียว  ฉันก็กำลังจะเดินไปหานั่นแหละ  แวะซื้อของกินนิดหน่อยเอง   รออยู่นั่นนะ”  เสียงหวานแบบแปร่งๆเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ


    อันฌิสานั่งรอไม่นานนัก   เพิ่มศักดิ์  หรือ พั้นช์  กะเทยร่างอรชร(ไปทางยักษ์วัดแจ้ง) ก็ส่งเสียงมาแต่ไกล

    “รอนานมั้ยแก  เนี่ยซื้อลูกชิ้นมาฝากด้วย   ได้ยินเสียงแล้วรู้ว่าต้องหิวแน่ๆเลย” เพื่อนชาย(ใจหญิง)รีบยื่นถุงลูกชิ้นที่แวะซื้อมาเป็นอภินันทนาการแก่อันฌิสา   ด้วยรู้อารมณ์หญิงสาวดี

    “เออ  มานั่งได้แล้วไม่ต้องมาพูดมากหรอก  ดีนะว่ามีเพื่อนมาด้วยไม่งั้นแกเละแน่”  พูดพร้อมกับยิ้มเผื่อแผ่ไปยังคน 3-4 คนด้านหลังเพื่อน

    “นี่เพื่อนๆฉัน  คนนี้ดาว  คนนี้โอ  น้ำ   นั่นปอ  ส่วนคนนี้ดิว  เพื่อนโรงเรียนเก่าของนังโอมัน   และทุกคนนี่อิ้งเพื่อนโรงเรียนเดียวกับพั้นช์เองค่า”  เพิ่มศักดิ์ เอ้ย พั้นช์   จีบปากจีบคอแนะนำ

    “หวัดดีอิ้ง  ดิวเห็นอิ้งตั้งแต่วันปฐมนิเทศแล้วล่ะ”  ผู้ชายที่นั่งตรงหน้าเอ่ยทัก  ในขณะที่อันฌิสาได้แต่ทำหน้างงๆ

    “เหรอ  เห็นที่ไหนล่ะ  เราว่าวันนั้นเราก็อยู่แต่ในห้องภาคตลอดเลยนะ”  

    “ก็เห็นที่ห้องภาคนั่นแหละ  ดิวก็อยู่ภาคเดียวกับอิ้งนะ  สงสัยจะจำดิวไม่ได้ล่ะสิเนี่ย”  คนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดขึ้นมาตะหงิดๆ   ก็แหมความจริงวันนั้นรุ่นพี่ก็ให้ทำความรู้จักกันแล้ว  แต่ด้วยจำนวนคนที่ค่อนข้างเยอะ  เธอก็เลยยังจำชื่อใครไม่ได้มากนัก


    “เอ่อ  อืมขอโทษนะ  เราก็อยู่กับฟ้าทั้งวันเลยไม่ค่อยรู้จักใครน่ะ”

    “ไม่เป็นไรหรอก  ก็เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานนี่  แล้วอีกอย่าง  อิ้งต้องยังไม่รู้แน่เลย   ว่าเราสองคนมีพี่เทคคนเดียวกัน”  ดนัยณัฐยักคิ้วพลางหยิบตะเกียบขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายใบเท่   ส่งให้อันฌิสาดู

    “อืม  จริงๆด้วย บังเอิญจังเลยนะ”  หญิงสาวยิ้มได้เป็นครั้งแรกของวัน

    “นี่ๆ  จะคุยกันอีกนานมะ  ดิวนี่ล่ะก็  คนสวยให้ท่าตั้งนานทำเป็นไม่ยอมคุย  เชอะ” กะเทยที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่นานเอ่ยขึ้น   เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งโต๊ะ   ยกเว้นแต่ดนัยณัฐที่เพียงแค่ส่งยิ้มแหยๆกลับไปให้เท่านั้น

    ++++++++++++++++++++++++++++++++


    เสียงกลองในจังหวะสามช่าดังกระหึ่มจากใต้อาคารกระจายไปทั่วสารทิศ   ปลุกอาการคึกคักได้จากทุกคนที่ได้ยิน  รุ่นพี่ชายหญิงที่แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีขาวอันเป็นเครื่องแต่งกายของสตาฟฟ์กำลังทำหน้าที่เอนเตอร์เทนรุ่นน้องอย่างสุดฤทธิ์  

    “ซู่ซ่า  ซู่ๆซ่าๆ ปาทังก้าปาทังกี้  เฟรชชี่ ซูซี่ ปาทังกี้ปาทังก้า”

    “น้องคะ  เดี๋ยวพี่จะให้น้องๆเล่นเกมสร้างมิตรภาพกันก่อน   ตอนนี้เราอาจยังไม่ค่อยรู้จักกัน   แต่ต่อไปไม่ว่าจะอีกปี สองปี  หรือ สี่ปี  เราจะยังคงอยู่ด้วยกันแบบนี้  เพราะฉะนั้นต้องทำความรู้จักกันไว้  จะได้มีเพื่อนมากๆ    กติกามีอยู่ว่า  พอพี่เป่านกหวีด 1 ที ให้น้องวิ่งไปหาเพื่อนมา 1 คน จะชายหรือหญิงหรือผู้ฉิงก็ได้นะคะ  จากนั้นให้ถามชื่อ  ชื่อเล่น  ภาควิชาของเค้าไว้  สลับกันนะคะ  พี่จะเป่าไปเรื่อยๆ  ก็ให้น้องเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ   พอเกมจบ พี่จะถามชื่อเป็นการสุ่มให้น้องช่วยกันตอบ  ถ้าตอบได้มีรางวัลด้วยนะ  เอาล่ะค่ะ  จะเริ่มแล้วนะ”

    ‘ปรี๊ดดดดดด’

    อันฌิสากับปลายฟ้ากระโดดแยกจากกันทันที ต่างคนก็ต่างวิ่งหาคู่    อันฌิสากำลังมองหาเพื่อนผู้หญิงสักคน   แต่ดูเหมือนทุกคนจะมีคู่กันหมดแล้ว    เมื่อหันกลับไปมองทางปลายฟ้า    หญิงสาวก็ได้คู่แล้วเป็นผู้ชายที่ดูไม่ค่อยจะเหมือนผู้ชายเท่าไหร่   เวลากำลังจะหมดแล้วด้วยสิ   เป็นไงเป็นกัน

    ‘ฟุ่บ’

    “ดนัยณัฐครับ  ชื่อเล่นชื่อดิว  อยู่เมเจอร์คอมพิวเตอร์”  ดนัยณัฐที่มาจากไหนไม่รู้ฉุดแขนหญิงสาวไว้พอดี  อันฌิสาหันหน้ามาขอบคุณด้วยความโล่งอก

    “แต้งค์กิ้วนะดิว  เกือบแย่แน่ะ  ไม่ต้องแนะนำล่ะมั้ง  รู้แล้วนี่”  

    “อ้าว  ไม่ได้สิ  กติกาต้องเป็นกติกา  ขนาดดิวยังแนะนำตัวก่อนเลย”  ดนัยณัฐพูดเสียงกลั้วหัวเราะ  ดูเหมือนคนตรงหน้าเขาจะเจ้าเล่ห์ไม่เบา   ขนาดกติกาเกมยังแอบโกงเฉยเลย

    “ดิฉันชื่ออันฌิสา  ชื่อเล่นอิ้ง  เมเจอร์คอมเหมือนกัน  พอใจยังคะ คุณระเบียบ” อันฌิสาย่นจมูกใส่ชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้  ซึ่งคนเจ้าระเบียบก็เพียงแค่ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้

    ‘ปรี๊ดดดดด’

    เสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง   ทั้งคู่จึงแยกจากกันไปหาเพื่อนใหม่   แล้วคราวนี้อันฌิสาก็ไม่พลาดเหมือนคราวที่แล้ว   เพราะหญิงสาวกระโจนไปตะครุบเพื่อนผู้หญิงตัวเล็กๆท่าทางน่ารักได้คนหนึ่ง

    “หวัดดีค่ะ  เราชื่ออันฌิสา ชื่อเล่น อิ้งนะ  อยู่ภาคคอม  เธอล่ะ”

    “เราชื่อมณทิรา  ชื่อเล่นมิ้นท์  อยู่ไฟฟ้าจ๊ะ”  ผู้หญิงตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้มสดใส   อันฌิสาเพิ่งสังเกตว่า   คนตรงหน้าตากลมโต  ปากนิด  จมูกหน่อย  เหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบยังไงยังงั้น   ดูสวยงามบอบบางและน่าถนุถนอม

    “ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ มิ้นท์  หวังว่าคงจะได้เจอกันอีกนะ”   อาจฟังดูเหมือนเป็นคำพูดทักทายตามมารยาท  หากแต่คนพูดกลับรู้สึกว่ามันจะเป็นไปได้ตามนั้นจริงๆ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “ทำไงดีอ่ะฟ้า  เราลืมเอาสมุดมา  วันนี้เลกเชอร์วันแรกด้วยดิ” อันฌิสาบอกปลายฟ้าด้วยท่าทางเป็นกังวล

    “อ้าวทำไงล่ะ  เรามีเล่มเดียวด้วย  เอางี้เดี๋ยวเราฉีกแบ่งให้แล้วกันนะ”  

    “ไม่เป็นไรฟ้า  อย่าฉีกเลย  อาจารย์เริ่มสอนแล้วด้วย  ฟ้าจดไปก่อนแล้วกัน   เผื่อเราจดไม่ทันจะได้ยืม”  หญิงสาวบอกเมื่อเห็นปลายฟ้าทำท่าจะฉีกสมุดส่งให้


    “อิ้ง  เอาของดิวแล้วกัน”  ดนัยณัฐที่คงจะได้ยินบทสนทนาของสองสาวยื่นสมุดเล่มหนาสีฟ้าส่งมาให้จากด้านหลัง


    “แล้วของดิวล่ะ เดี๋ยวก็ไม่มีจดหรอก”  อันฌิสาที่รับสมุดมาแล้วก็เปลี่ยนใจส่งกลับไปใหม่ด้วยกลัวว่าคนที่ส่งมาจะไม่มีใช้

    “ของดิวมี 3 เล่ม  แล้ววันนี้ก็เรียนแค่ 2 ตัวเอง  อิ้งเอาไปใช้เถอะ”  คนมีน้ำใจส่งยิ้มกว้างขวางมาให้   สรุปว่าอันฌิสาก็ทำได้เพียงแค่กล่าวขอบคุณเบาๆ   แล้วหันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาจดเลกเชอร์ตามสไลด์ที่ตอนนี้อาจารย์สอนผ่านไปแล้วหลายแผ่น


    “ฟ้า  อิ้ง  ไปกินข้าวกัน”  เพื่อนผู้หญิงที่เรียนด้วยกันเอ่ยชวนเสียงใส

    “อืม  ไปสิ  กินที่ไหนดีล่ะ  อิ้งว่าไง”  ปลายฟ้าตอบรับคำชวนและไม่ลืมที่จะหันมาถามความเห็นอันฌิสาด้วย

    “ยังไงก็ได้นะ   ตอนนี้พยาธิในกระเพาะเราออกมาเต้นระบำกันหมดแล้ว”  คนพูดทำหน้าเหมือนคนป่วยพลางเอามือลูบท้องเป็นการยืนยัน


    เมื่อทั้งหมดเดินมาถึงโรงอาหาร  โต๊ะที่ว่างก็ถูกจับจองจนเกือบหมด  ถึงจะว่างแต่ก็ไม่พอจำนวนคนทั้งหมดอยู่ดี

    “อิ้ง  ฟ้า  ทางนี้”  เมทัศน์  เพื่อนภาควิชาเดียวกันตะโกนพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้ทั้งหมดมานั่งด้วยกัน   อันฌิสาจึงส่งสัญญาณไปว่าจะไปซื้อข้าวก่อนแล้วจะกลับมานั่ง
    วุ้นเส้นต้มยำส่งกลิ่นหอมหวนถูกวางลงบนโต๊ะ  ตามมาด้วยเจ้าตัวที่พร้อมจะก้มหน้าก้มตากินอย่างเต็มที่   ถ้าไม่ติดที่ความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่   เงยหน้าขึ้นมาก็เจอดนัยณัฐส่งยิ้มข้ามฟากมาให้  ซึ่งหญิงสาวก็เพียงแค่ส่งยิ้มกลับไปแล้วหันมาจัดการเสบียงตรงหน้าต่อ

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 20:38:43

    จากคุณ : Snow_PuFF - [ 26 พ.ค. 49 20:37:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป