หลังจากกำหนดวันแต่งงาน และรูปแบบการจัดงานที่ไม่เหมือนงานแต่งงาน แต่เหมือนงานรวมญาติมากกว่า เรื่องนี้แพมเป็นต้นคิดเอง แพมยืนยันว่า จะไม่มีการแต่งชุดเจ้าสาว การเสริมสวยชนิดมโหฬาร เข้าคอร์สเจ้าสาวอะไรพวกนั้น และจะไม่มีการไปถ่ายรูปที่ wedding studio ด้วยเพราะแพมรู้สึกว่ามัน fake ค่ะ ซึ่งพี่ภูก็เห็นด้วย ซึ่งรวมถึงไม่มีการตระเวนแจกการ์ดด้วย
เราจะจัดงานเลี้ยงแบบกันเองในหมู่ญาติและเพื่อนสนิทค่ะ จะนับเป็นงานรวมญาติครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยจัดแซยิดให้อาเหล่าม่า อาจจะเหมาร้านอาหารโปรดที่พวกเราสองครอบครัว และญาติๆชอบ หรืออาจจะจัดที่บ้านของพี่ภู บรรยากาศจะต้องสนุกสนาน รื่นเริงและอบอุ่นค่ะ จะมีหลานๆของเราทั้งสองวิ่งเล่นกันเต็มงาน อาหารจะต้องอร่อยสุดๆ และเป็นอาหารโปรดของพวกเรา ทั้งไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น อิตาเลียน และญวน
บ๊ะ! ชักน่าสนุกขึ้นมาเหมือนกันนะนี่ ทำให้นึกอยากแต่งงานมากขึ้นอีกนิดนึง แต่ชีวิตมักเล่นตลกกับเราเสมอนะคะ คิดอุบายสารพัดหาทางเลี่ยงการแต่งงานซะแทบแย่ ยังไม่สำเร็จ แต่อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรเลย ก็ได้เลื่อนการแต่งงานสมใจจริงๆ
ต่างกันแต่ว่า คราวนี้ดูเหมือนเราทั้งสองคนจะถูกน็อคทั้งคู่ และน้ำตาท่วมจอเลยค่ะ (คำเตือน: ใครที่เป็นโรคหัวใจ ขอเตือนว่าอย่าอ่านต่อค่ะ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะคะ)
ก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงไม่ถึงสองอาทิตย์ พี่ภูเดินทางไปต่างประเทศอย่างกะทันหัน แม้จะกะทันหันแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่มีใครสงสัยหรือระแคะระคายอะไรเลย
พี่ภูเดินทางกลับมาพร้อมกับ...ผู้หญิงคนนึง พ่อแม่พี่ภูอึ้งไปนิดหน่อยเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น ญาติๆของเราก็รู้สึกแปลกๆกัน แต่ก็ทักทายพี่ภูและผู้หญิงคนนั้นอย่างปกติ มีแพมคนเดียวที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แพมคิดว่าเธอคงเป็นเพื่อนของพี่ภู ซึ่งเพื่อนของพี่ภูก็เหมือนเพื่อนของแพมด้วย
แต่หลังจากกลับมา เพียงอาทิตย์เศษๆก่อนจะถึงวันแต่งงาน แพมกลับแทบไม่ได้เจอหน้าพี่ภูเลย ดีที่เราไม่ได้จัดงานแต่งแบบมีพิธีรีตองเหมือนใครเขา จึงไม่มีอะไรต้องทำให้ยุ่งยากมากนัก
พี่ภูบอกแพมว่า มีธุระสำคัญที่จะต้องไปจัดการ ก็เลยมาหาแพมไม่ได้ แพมก็ไม่ได้ซักไซร้ไล่เลียงอะไร เพราะคิดว่าต้องให้เกียรติและเคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ภู
ความจริงแพมคงจะไม่รู้อะไรเลย ถ้าไม่บังเอิญมีผู้หวังดีมาบอก แต่เป็นผู้หวังดีจริงๆนะคะ ไม่ได้เรียกแบบประชดนะ ผู้หวังดีคนนี้เป็นเพื่อนของพี่ภู ซึ่งแพมก็รู้จัก เป็นคนดีค่ะ และที่เขามาบอกแพมก็เพราะหวังดีกับแพมและพี่ภูจริงๆ
ใช่แล้วล่ะค่ะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักเก่าของพี่ภู เธอเพิ่งเลิกกับสามีค่ะ พี่ที่เป็นเพื่อนพี่ภูเล่าว่า พี่ภูรักกับผู้หญิงคนนี้มานานหลายปีทีเดียว แต่เพื่อนๆพี่ภูไม่มีใครชอบเธอเลย เพราะเธอเป็นคนที่ เหลวแหลก (นี่เป็นคำที่เพื่อนพี่ภูใช้)
เธอใช้ผู้ชายเปลือง เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่น่าสงสาร พ่อแม่ของเธอหย่ากัน เธออยู่กับแม่ซึ่งแต่งงานใหม่ ต่อมาแม่ได้ตายจากไป พ่อเลี้ยงแต่งงานใหม่ และทั้งสองคนไม่ต้องการเธอซึ่งเป็นส่วนเกินอีกต่อไป เธอไปหาพ่อ แม่เลี้ยงก็ไม่ต้องการเธอ เธอต้องสู้ชีวิตตามลำพังคนเดียว ...นี่คือประวัติคร่าวๆของเธอ
เพื่อนพี่ภูเล่าต่อไปว่า พี่ภูเกื้อกูลเธอคนนั้นตลอดเวลา ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่า และคบกันอยู่นานหลายปีทีเดียว
แต่สุดท้าย เธอก็ยังทิ้งพี่ภูไปมีคนอื่น แล้วไปอยู่เมืองนอก เพื่อนพี่ภูได้ข่าวว่าเธอกลับมาไทยแล้ว จึงได้รีบมาเล่าให้แพมฟัง เพราะกลัวเธอจะติดต่อพี่ภูอีก และกลัวพี่ภูจะใจอ่อนกลับไปหาเธอซึ่งเพิ่งเลิกกับสามี เพราะพี่ภูเป็นคนดีเกินไป
อนิจจา! เพื่อนพี่ภูยังไม่รู้เลยว่า พี่ภูเอง ที่เป็นคนไปรับเธอคนนั้นกลับมาเมืองไทยด้วยตัวเอง
(เชิญติดตามอ่านต่อพรุ่งนี้นะคะ แต่งไปแต่งมายาวกว่าที่คิดค่ะ วันนี้เลยยังไม่จบ แต่คิดว่าพรุ่งนี้คงจะจบแน่ๆแล้วล่ะค่ะ)
งานเขียนทุกชิ้นของ galdewis ไม่ว่าที่อยู่ในถนนนักเขียน หรือปรากฏในที่อื่นใด ไม่ว่าในโลกจริงหรือโลกไซเบอร์ เป็นงานเขียนอันมีลิขสิทธิ์ และสงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้อ่านเท่านั้น[u/] ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ [u]ไม่ว่าจะใส่ชื่อผู้เขียนหรือไม่ มิฉะนั้นอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ อันเป็นคดีอาญา และต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด ไม่ว่าจะมีข้อความคุ้มครองลิขสิทธิ์นี้กำกับไว้หรือไม่ก็ตาม
ตอนจบค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4406671/W4406671.html
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 49 17:41:11
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 49 17:53:27
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 21:14:24
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 11:27:03
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 11:10:10
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 11:07:45
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 09:55:17
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 21:32:12
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 21:24:06