Meenas Kitchen : Chapter 14.
-----------------------------------------------------------
มีนา
มีนา ! อย่าเหม่อสิครับ
คริสจับไหล่ฉันเขย่าเบา ๆ เรียกสติให้ฉันละสายตาจากปลายไม้และณัชกลับมา
พูดเบา ๆ ก็ได้หนิ ฉันพูดเสียงอ่อย รีบคนซุปในหม้อตรงหน้า ที่เริ่มส่งกลิ่นไหม้ติดก้นหม้อแล้ว
เวลาทำอาหารต้องตั้งใจและมีความสุข เพราะมันจะส่งผ่านให้รสชาติ รู้ไหมครับ
ฉันก็ทำดีมาตลอด
แค่หม้อนี้หม้อเดียวเอง บ่นอะไรนักหนา
ฉันเถียงอย่างดื้อดึง พยายามเอาเหตุผลค้าง ๆ คู ๆ เข้าแถกเต็มที่
สำหรับคุณอาจจะเป็น 1 ในร้อยจานที่คุณทำ แต่สำหรับลูกค้าเป็นจานเดียวที่เขาจ่ายเงินมากิน
คริสเทศน์อะไรต่ออีกยาวเหยียด แต่คนโดนว่ากลับเอาแต่ชำเลืองมองคนคู่นั้น
เขาอาจจะแค่คุยกันเรื่องงานก็ได้
แต่ฉันก็วิตกจริตไปซะแล้ว ช่วงนี้เวลาเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรต้องแอบมองอย่างระแวงสงสัยทุกครั้งไป
คุณฟังผมอยู่หรือเปล่า !
เปล่า
พูดยาวยืดน่าเบื่อเหมือนคนแก่ ใครจะอยากฟัง
ณัชกับปลายไม้ตามใจคุณจนนิสัยเสียแล้ว รู้ตัวไหม
ฉันส่งยิ้มยิงฟันกลับไป คริสจึงหัวเราะอย่างเหนื่อยใจหันกลับไปทำงานของตัวเองเหมือนเดิม รู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์
อันที่จริงช่วงนี้ฉันมีความสุขการที่ได้ต่อปากต่อคำกับนายสมคิดมากเลย ช่วงนี้เขาไม่ทำอะไรให้รู้สึกอึดอัดหรือไม่สะดวกใจอีกแล้ว ฉันเลยสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ พูดคุยกับคริสหรือแม้แต่การหาเรื่องมาทะเลาะกัน ( นายนั่นเป็นผู้ชายแถมยังพูดไทยไม่เก่ง มีรึจะเถียงสู้มีนาได้
)
ว่าง ๆ ก็เข้าไปนั่งเล่นห้องคริสกับณัช ดูโน่นนี่รื้อของเล่นในห้องแบบไม่เกรงใจเจ้าของห้องก็บ่อยไป
เจ๊เพิ่งเดินนวยนาดเข้าร้านมา ท่าทางสดชื่นร่าเริงผิดปกติ
วันนี้เจ๊เพิ่งซื้อกระเป๋าใบใหม่มา เบื่อใบเก่าละ มี่เอาไปใช้มั้ยจ๊ะ พี่ให้ยืม
แคนหยิบถุงกระเป๋าคริสเตียนดิออร์มาจากหลังรถ
สภาพมันไม่ได้เก่าเลยซักนิด นี่เป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางขายด้วยซ้ำ
ให้มี่ยืมจริง ๆ เหรอคะ !
ฉันแทบจะลงไปกอดเท้าเจ๊แคนดี้กราบขอบคุณน้ำตาไหลพรากอยู่ตรงนั้น
เห็นว่าหาเงินเองได้แล้วไม่กล้าซื้อไม่ใช่เหรอ แลกกับณัชบ้างก็ได้ รายนั้นก็ยืมกระเป๋าเจ๊ไปใช้บ่อย ๆ รักษาให้ดีแล้วกัน
ทีนี้ฉันเลยเข้าใจว่าทำไมณัชถึงมีของแบรนด์เนมสับเปลี่ยนไปใช้ทุกวัน ในที่สุดปริศนาของณัชก็ไขกระจ่างอีกข้อแล้ว
เจ๊ไปเปลี่ยนชุดดีกว่า วันนี้ไปเจอหน้าเพื่อนเก่าต้องแอ๊บแมนทั้งวันน่าเบื่อมั่ก มาก ก จะเป็นเจ๊แคนดี้กลางวันครับ กลางคืนค่ะ ว้าย~ย เก๋เนอะ
ว่าแล้วยัยเจ๊ก็กรี๊ดกร้าดกระโดดหมุนตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด
เธอคนนี้ไฮเปอร์พลังล้นเหลือได้ทั้งวันจริง ๆ
บ่อยครั้งที่ฉันคิดว่าการเปิดร้านของเจ๊แคนดี้เหมือนกับ คนรวยเล่นขายของ ได้ยินจากณัชว่าตระกูลของแคนเป็นเศรษฐีพันล้านระดับต้น ๆ ของไทย มีโรงแรมใหญ่หรูหราห้าดาวหลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ แค่อยู่เฉย ๆ กินเงินปันผลของบริษัทก็มากมายนั่งกินนอนกินก็ใช้เงินทิ้งขว้างไปได้สามชั่วโครตร ตัวเจ๊เองเที่ยวเล่นโผล่ตัวตามปาร์ตี้ไฮโซหรูหราไม่เท่าไหร่ก็เบื่อ เผอิญว่าแคนชอบอาหารอิตาลีเป็นทุนอยู่แล้วเลยเปิดร้านทำกินเองไปเลย ประหยัดดี
ตั้งแต่ร้านนี้เปิดมาก็ไม่มีกำไรเท่าไหร่ เพราะใช้วัตถุดิบอย่างดีและสดใหม่ ขั้นตอนการทำก็ละเอียดปราณีต เรียกว่าทำด้วยใจรักล้วน ๆ
แต่ฉันว่าเรื่องเงินสำหรับแคนมันจิ๊บ ๆ เขาคงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก
แต่วันนี้เจ๊คงต้องออกจากร้านก่อนเวลานะ แบบว่าเจ๊มีธุระล่ะ ส่วนตั๊ว ส่วนตัว
เจ๊เดินวนเวียนไปมารอบตัวฉัน
อืม
ฉันบอก พยายามทำท่าไม่สนใจ
เรื่องนี้เป็นความลับจริง ๆ น้า อย่ามาถามเซ้าซี้ซะให้ยาก เจ๊ไม่บอกหรอก
ถึงจะพูดอย่างงั้นแต่ท่าท่าทีเจ๊ภูมิใจอยากอวดเต็มที่
ขัดกับคำพูดสุดฤทธิ์
เฮ้อ
อยากจะเล่าก็เล่ามาเถอะ มี่ฟังอยู่
วันนี้น้องอ๊อฟจะมารับเจ๊ไปเที่ยวล่ะ !! เจ๊พูดสวนมาทันทีที่ฉันพูดจบ
ว่าแล้ว
(-____-)
ลองยัยเจ๊ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำอีหรอบนี้ละก็ มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหล่ะ
ทั้งที่เมื่อกี๊บอกว่าเป็นความลับแท้ ๆ แต่ตอนนี้เจ๊แกพล่ามไม่หยุด พรรณนาถึงความหล่อล่ำ น่ารักน่ากิน เคี้ยวกรุบ สดกรอบ ( เจ๊พูดถึงคนหรือผักกาดแก้วอยู่เนี่ย ) ของน้องอ๊อฟ หนุ่มน้อยสังกัดโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง ที่เจ๊ซองจู เทียวรับเทียวส่งประเคนทรัพย์สินข้าวของให้ได้ระยะหนึ่งแล้ว
วันนี้แหล่ะ เป็นวันที่น้องอ๊อฟได้ฤกษ์โดน อ๊อฟ ซักที ( ฤกษ์นี้เจ๊แกตั้งเอง )
เจ๊ขึ้นไปแต่งตัวอยู่เป็นนานสองนาน กลับมาด้วยชุดสวยเก๋ไก๋นั่งหน้าชื่นบานที่เคาท์เตอร์ในร้าน พวกฉันทำงานได้ซักพักก็ยินเสียงเพลงโอเปร่าดังโหยหวนที่คุ้นเคยดังมาจากมือถือของเจ๊แคนดี้
สงสัย น้องอ๊อฟจะโทรมาแล้วละมั้ง
ฉันพูดลอย ๆ กำลังนึกจินตนาการถึงหน้าหนุ่มน้อยคนใหม่ของเจ๊
ใครเหรอ ปลายไม้ถาม
คนที่เมื่อกี๊เจ๊เล่าให้ฟังไงพี่ไม้ ว่าเค้า
แอร๊~~~~ มันหลอกชั้น ! มันหลอกช้าน~น !! !
.
จากคุณ :
อันปังแนน
- [
27 พ.ค. 49 13:59:23
]