CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เตียวไก่....นายอำเภอเชื้อโจร (๑) (ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ)

    ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ

                            เตียวไก่.....นายอำเภอเชื้อโจร

          ตอนที่ ๑ รวมพลคิดปล้นกังฉิน

                       พี่น้องขบวนการโจรดังกล่าวนี้  มีอยู่คนหนึ่งเป็นนายอำเภอ ของตำบลตังเกยชึงแขวงเมืองหุนเสียกุ้ยชื่อ เตียวไก่ เป็นคนมีฝีมือเข้มแข็งโอบอ้อมอารีมั่งมีทรัพย์สินมาก

    ผู้ใดยากจนขัดสนมาหาก็ให้เงินทองไปซื้อกิน บรรดาคนที่มีฝีมือเข้มแข็ง ก็เข้ามาสามิภักดิ์เป็นพวกพ้องด้วยทั้งสิ้น เพราะเตียวไก่นั้นยังไม่มีภรรยา ถึงเวลาก็ซักซ้อมเพลงอาวุธอยู่เป็นนิจมิได้ขาด

                       วันหนึ่งใกล้รุ่งเช้าเตียวไก่ยังนอนอยู่  ลุยเหง นายทหารฝ่ายเดินเท้าของเมืองหุนเสียกุ้ยกับพวกทหารมาปลุกตั้งแต่มืด  บอกว่าจับโจรได้คนหนึ่งที่ศาลเจ้าใกล้แม่น้ำตังเคย จะพาตัวเข้าไปในเมือง ผ่านมาก็เลยแวะมาบอกให้ทราบและขอพักก่อนเมื่อสว่างดีแล้วก็จะลาไปต่อ  

    เตียวไก่ก็เชื้อเชิญให้พักตามสบาย แล้วสั่งให้คนใช้จัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงดู

                       เตียวไก่สงสัยว่าผู้ใดเป็นโจร จึงให้ลุยเหงนั่งอยู่คนเดียวก่อน ตนเองแอบไปดูชายที่ถูกมัดอยู่หน้าบ้าน เห็นเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่มีไฝดำที่แก้ม แต่ไม่เคยรู้จักมาก่อน จึงถามว่า

    ".....เจ้านี่มาแต่ไหน เราไม่เคยเห็นหน้าเลย..."

                       ชายผู้นั้นบอกว่าจะมาหาคนชื่อเตียวไก่ที่เป็นนายอำเภอ  เตียวไก่ถามว่ามีธุระสิ่งใด ชายผู้นั้นก็ว่าจะมาบอกลาภให้

    เตียวไก่จึงคิดจะช่วยเหลือ  จึงบอกว่าตนเองคือเตียวไก่  และสอนอุบายให้เอาตัวรอดไว้ ชายผู้นั้นก็ขอบคุณ

                       เตียวไก่กลับมากินโต๊ะเสพสุรากับลุยเหงอยู่จนสว่าง  ลุยเหงก็ขอลาเดินทางต่อไป เตียวไก่ก็ออกมาส่งถึงประตูบ้าน

    ลุยเหงชี้ให้ดูชายที่ถูกมัดอยู่กับเสาหน้าบ้านนั้น ชายผู้นั้นก็ร้องบอกเตียวไก่ว่า

    ".....อาช่วยด้วย  ข้าพเจ้าจากไปหลายปีแล้ว   ครั้นมาหาก็จำทางไม่ได้ เดินทางหลงไปจนค่ำมืด เห็นมีศาลเจ้าก็เข้าพักอาศัยนอน พวกทหารจับตัวมามัดไว้...."

                       เตียวไก่ก็เดินเข้าไปใกล้ แล้วทำเป็นจำได้  จึงด่าว่าด้วยคำหยาบช้าต่าง ๆ แล้วบอกกับลุยเหงว่า  คนนี้เป็นบุตรของพี่ชาย ได้เคยเลี้ยงไว้แต่เล็ก ๆ  ครั้นมารดาตายก็เที่ยวซัดเซพเนจร ไม่ได้กลับมาบ้านเป็นเวลาหลายปี ดีที่จำไฝที่แก้มได้

    พอหันไปหาชายผู้นั้นก็ตวาดเอาว่า

    "...เหตุไฉนเจ้าเที่ยวเป็นโจรให้ท่านลุยเหงจับได้.."

                       ชายผู้นั้นก็เถียงว่าไม่ได้เป็นโจร เพียงแต่เสพสุรามึนเมา นอนหลับอยู่ ทหารก็ไปจับเอาตัวมาเอง เตียวไก่ก็ฉวยไม้เข้าไปตีเอาหลายทีสำทับว่า

    "...มาจนถึงบ้าน ยังไม่เข้ามาหา ไปเที่ยวเสพสุราจนเมา ทำเช่นนี้ชอบแต่ตีเสียให้เกือบตาย...."

                       ลุยเหงชักจะเชื่อจึงให้ทหารแก้มัดออก แล้วก็ขอโทษเตียวไก่ พร้อมกับขอลาไปก่อน

    เตียวไก่ก็ให้ชายผู้นั้นมาคำนับลุยเหง แล้วเตียวไก่ก็ให้เงินลุยเหงสิบตำลึง กับให้ทหารที่มาด้วยตามสมควร ลุยเหงก็ลาออกจากบ้านไป

                       เตียวไก่เอาเสื้อผ้ามาให้ชายผู้นั้นผลัดแล้วซักถามประวัติ ได้ความว่าชื่อ เล่าตง เป็นชาวเมืองโลวจิว ตั้งใจจะมาบอกลาภให้ เผอิญถูกทหารจับตัวไว้ ที่ช่วยให้รอดมาได้นี้เป็นพระคุณที่ยิ่ง

    แล้วเชิญให้เตียวไก่นั่งบนโต๊ะตนเองจะขอกราบไหว้สนองพระคุณ เตียวไก่บอกว่าข้อนั้นไม่เป็นไร แต่เรื่องที่จะบอกนั้นคืออย่างไร

                       เล่าตงก็บอกว่า เนียสิเกียด นั้นเป็นขุนนางอยู่ ณ เมืองปักเกีย ตำบลบ้านไต้เมงฮู้ ได้จัดซื้อเพชรพลอยไว้ถึงสิบหมื่นเหรียญ  จะเอาไปช่วย ชัวเกีย พ่อตาทำแซยิด ณ เมืองหลวง

    ปีก่อนชัวเกียทำแซยิดครั้งหนึ่งแล้ว เนียสิเกียดจัดทรัพย์สิ่งของเงินทองเป็นอันมากเอาไปช่วยชัวเกีย ครั้นเดินทางไปมีผู้ร้ายมาแย่งชิงเอาเงินทองสิ่งของไปสิ้น  จนเดี๋ยวนี้ก็ยังจับตัวโจรผู้ร้ายไม่ได้ แล้วย้ำว่า

    "....มาครั้งนี้เนียสิเกียดจะให้คนคุมเพชรพลอยเข้าไปอีก  ข้าพเจ้าจึงได้มาแจ้งกับท่าน คนที่จะคุมเพชรพลอยนั้นมากสักเท่าไร ข้าพเจ้าไม่กลัวเลย ช่วยกันชิงเอาให้จงได้ ด้วย     เนียสิเกียดกับพ่อตาเป็นขุนนางกังฉิน  เที่ยวข่มเหงกดขี่พวกราษฎรลงเอาเงินทอง จึงได้มีทรัพย์สิ่งของมาก  ถ้าท่านกับข้าพเจ้าไปแย่งชิงเอามาได้  ถึงเทพยดาฟ้าและดินแจ้งความก็ไม่เป็นไร สืบไปภายหน้าโทษทัณฑ์สิ่งใดก็ไม่มีดอก  ท่านจะเห็นประการใด....."

                        เตียวไก่ก็ว่าขอบใจหนักหนา แต่จะขอตรึกตรองดูก่อน  แล้วก็ให้คนใช้พาเล่าตงไปเข้าที่พัก  แต่เล่าตงเสียดายเงินที่เตียวไก่ให้ลุยเหง  จึงแอบคว้ากระบี่ออกจากบ้านเตียวไก่รีบตามไปจนทัน แล้วร้องเรียกลุยเหงให้คืนเงินสิบตำลึง

                        ลุยเหงก็ว่าใช่เงินทองของเล่าตงที่ไหน เตียวไก่ให้จึงได้เอามา  ไม่เอาตัวไปเข้าคุกเพราะเห็นแก่หน้าอา ยังจะมาทวงเอาเงินคืนอีก  

    เล่าตงก็โกรธรำกระบี่เข้าสู้รบกับลุยเหงเป็นหลายสิบเพลงก็เอาชนะกันไม่ได้ ต่างคนว่องไวมีฝีมือสันทัดกันทั้งสองฝ่าย

                       เผอิญที่ตรงนั้นเป็นหน้าบ้านของ โงวหยง เพื่อนของเตียวไก่จึงออกมาห้ามปราม แต่เล่าตงก็ไม่ฟังคงสู้รบกับลุยเหงต่อไปอีกครึ่งวันก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำแก่กัน

    จนเตียวไก่รู้เรื่องตามมาถึงที่เกิดเหตุ โงวหยงแจ้งว่าได้ห้ามปรามแล้วก็ไม่ฟัง เตียวไก่ก็ด่าว่าเล่าตงเป็นอันมาก เล่าตงเห็นเตียวไก่โกรธจึงจำใจต้องหยุด  ลุยเหงบอกว่า

    "...หลานท่านตามมาจะเอาเงินข้าพเจ้าไม่ให้จึงได้สู้รบกัน  โงวหยงมาห้ามหลานท่านก็ไม่ฟัง ข้าพเจ้าว่าท่านมาเองจึงจะให้เงิน...."

    เตียวไก่โกรธมากจึงว่า

    "......ลูกเช่นนี้เห็นจะเลี้ยงไม่ได้  ข้าพเจ้าจะเอาไปตีเสียให้แทบตาย  ท่านอย่าถือโทษโกรธเลย  เห็นแก่หน้าข้าพเจ้าเถิด....."

    ลุยเหงก็ไม่ว่าอะไรขอลาเดินทางต่อไป  

    โงวหยงจึงพูดกับเตียวไก่ว่า

    ".....ถ้าท่านไม่มาเห็นจะเกิดความใหญ่  ซึ่งชายผู้นี้ฝีมือเข้มแข็งนัก แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า ลุยเหงจะสู้ชายผู้นี้ไม่ได้ จึงออกมาห้ามไว้  ถ้าท่านมาช้าลุยเหงก็คงตาย ชายผู้นี้มาแต่ข้างไหนจึงเรียกท่านว่าอา...."

                          เตียวไก่ก็ตัดบทว่าเดิมตั้งใจจะให้คนไปเชิญโงวหยงมาปรึกษากัน พอดีตามเล่าตงมาพบตัว  จึงขอเชิญไปที่บ้านจะได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แล้วก็พากันกลับพร้อมด้วยเล่าตง

                       โงวหยงนี้เดิมไปเรียนหนังสือเป็นขุนนางที่สิวไจฝ่ายบุ๋น ครั้นอยู่มาเห็นว่าบ้านเมืองแปรปรวน จึงได้ฝึกหัดเพลงอาวุธต่าง ๆ ไว้สำหรับตัว และเปิดสอนหนังสือในบ้าน

    วันนั้นจึงสั่งคนใช้ว่าถ้าศิษย์ที่เรียนหนังสือมา จงบอกว่าซินแสมีธุระให้มาเวลาอื่น แล้วก็ใส่กุญแจห้องเดินไปบ้านเตียวไก่  

                          เมื่อเชิญให้โงวหยงนั่งเรียบร้อยแล้ว เตียวไก่ก็เล่าเรื่องของเล่าตงให้ฟังตั้งแต่ถูก    ลุยเหงจับตัวมาจากศาลเจ้า แล้วตนเองได้ออกอุบายให้เป็นหลานจึงรอดตัวมาได้ เล่าตงนั้นตั้งใจมาหาตนเพื่อจะบอกเรื่องที่เนียสิเกียดจะขนเงินทองเพชรพลอย มีค่าถึงสิบหมื่นเหรียญ เอาไปช่วยพ่อตาที่ตังเกียเมืองหลวง ทำแซยิดในวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหก จึงได้เชิญโงวหยงมาปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้

    โงวหยงก็ว่า

    ".....การอันนี้ก็ควรที่จะคิดอ่าน  แต่คนที่จะต้องใช้นั้น มากก็ไม่ได้น้อยก็ไม่ได้ ในตำบลนี้ไม่เห็นมีผู้ใด ตัวท่านกับข้าพเจ้าและเล่าตง สามคนนั้นฝีมือเข้มแข็งสักเท่าไรก็เห็นจะไม่ได้ ต้องแปดคนจึงจะทำการสำเร็จ....."

                          พูดแล้วก็นั่งตรึกตรองอยู่เป็นครู่ใหญ่ก็ระลึกได้ จึงบอกเตียวไก่ว่า มีพี่น้องสามคนคือ อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา และ อวนเซียวชิด อยู่บ้านเจียะเกียดชวน แขวงเมืองเจ๋จิวฮู้ ทั้งสามคน  ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่พูดจาการสิ่งใดก็สัตย์ซื่อมั่นคง  

                       เตียวไก่ว่าเคยได้ยินชื่อเสียงอยู่ แต่บ้านอยู่ไกลประมาณร้อยลี้เศษจะให้ใครไปเชิญมาพูดจากันได้ โงวหยงก็รับอาสาว่าจะไปเอง  เตียวไก่จึงให้จัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงและปรึกษากันต่อไป  

    โงวหยงว่าหนทางจากเมืองปักเกียไปเมืองตังเกียนั้นมีหลายทาง ไม่รู้ว่าเขาจะเดินทางไหน ควรให้เล่าตงไปสืบข่าวดูให้รู้แน่ จะได้คิดการไว้คอยท่า ส่วนตนเองจะเดินทางไปหาพี่น้องแซ่อวนในค่ำนี้  

    เตียวไก่เห็นด้วยจึงตกลงตามที่โงวหยงว่า

                       โงวหยงก็ลาเตียวไก่เดินทางไปแต่คืนนั้น จนถึงกลางวันรุ่งขึ้นจึงถึงหมู่บ้านเจียะเกียดชวน สามคนพี่น้องนั้นเป็นชาวประมง มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำใกล้เคียงกับตำบลเนียซัวเปาะ เที่ยวหาปลาในแม่น้ำเลี้ยงชีวิต

    โงวหยงพบกับอวนเซียวยีก่อน แล้วจึงไปตามอวนเซียวเหงากับอวนเซียวชิด มาเสพสุรากินโต๊ะคุยกันที่บ้านของอวนเซียวยี

                       ทั้งสามคนพี่น้องในขณะนั้นกำลังขัดสนเงินทอง เพราะเล่นการพนันและทำมาหากินไม่ค่อยได้ กำลังคิดหาทางที่จะไปเข้ากลุ่มโจรเขาเนียซัวเปาะ  แต่ยังไม่มีผู้ชักนำ

    โงวหยงจึงพูดจาเกลี้ยกล่อม ให้มาเข้าเป็นพวกเตียวไก่ นายอำเภอตำบลตังเคยชึง  ก่อน  แล้วจึงได้เล่าเรื่องทรัพย์สมบัติของเนียสิเกียด ที่จะส่งไปช่วยพ่อตาให้ฟัง  ทั้งสามพี่น้องก็ยินดีที่จะร่วมมือด้วย  โงวหยงก็ค้างคืนที่บ้านอวนเซียวยี  

    พอรุ่งเช้าจึงพากันเดินทางกลับมาอีกวันหนึ่ง จึงมาถึงบ้านเตียวไก่.
                                     
                                                       ##########

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 31 พ.ค. 49 07:22:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป