ตอน 12
ตลอดทางที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์กลับมายังหอพัก ชุนนึกถึงแต่เรื่องที่ได้คุยกับชินที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เขาไม่เข้าใจและไม่อาจตอบตัวเองได้ว่ากำลังรู้สึกหรือเป็นอะไรอยู่ เพียงแต่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันไม่ใช่ความสุข และหากจะเรียกว่าความทุกข์มันก็คงไม่มากมายขนาดนั้น
เมื่อมาถึงห้องเขาเปิดประตูเข้าไป ถอดกระเป๋าสะพายออกวางบนโต๊ะแล้วเดินไปที่เตียงนอนทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรงพลางคิดขึ้นมาได้ว่าเขาลืมพูดประโยคหนึ่งกับชิน
ฉันรู้ว่าต้องมีวันที่จบ แต่ฉันก็อยากให้ช่วงเวลานี้มันยาวนานที่สุด ชุนรำพึงกับตัวเอง
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ชุนหันไปทางประตูนั้นและเห็นมันถูกเปิดออก ต้นก้าวเข้ามาในห้องพลางผิวปากอารมณ์ดี เขาถอดรองเท้ากองไว้ที่หน้าห้องแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า
เฮ้ย นายเป็นอะไรทำหน้าเหมือนไปกินข้าวมาแล้วเจอจิ้งจกอยู่ในจานเลยว่ะ
ต้นล้อเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของชุน
ไม่ใช่หรอกฉันโชคร้ายกว่านั้นอีก
ต้นหันมามองทำหน้าสงสัยขณะกำลังหยิบเอาผ้าเช็ดตัวออกมา
ฉันกลืนมันเข้าไปเลยน่ะสิ
หึๆ เข้าใจเล่นนะโว้ย คนอุตส่าห์เป็นห่วง
ต้นปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเดินมานั่งลงที่เตียงของเขาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
ตกลงนายเป็นอะไรกันแน่เหรอชุน ต้นถามเสียงจริงจัง
ไม่มีอะไรหรอกฉันก็แค่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง ชุนมองต้นซึ่งกำลังงุ่นอยู่กับบางสิ่งอยู่
นั่นนายทำอะไรน่ะ ชุนถาม
ฉันกำลังจะโทรหาผู้หญิง
ต้นบอกแล้วยิ้มเขินแต่เขาไม่ได้มองหน้าชุน
นี่นายเพิ่งจะไปกินข้าวมาด้วยกันนะโว้ย มาถึงหอปุ๊บก็จะโทรแล้วเหรอ
พลันชุนก็ฉุกนึกขึ้นมาได้พลางพยักหน้า
อ๋อจะถามว่าเขาถึงหอรึยัง
เปล่า ฉันไปส่งเขากลับหอเองแหละ
โอ้โหไอ้ต้นไม่ค่อยเลยนะ ทำอะไรเกรงใจมั่งสิโว้ย ฉันอิจฉานะ
ชุนทำตาโตว่าต้นซึ่งเอาแต่นั่งหัวเราะ
เฮ้อหมั่นไส้โว้ย
ชุนร้องโวยวายพลางล้มตัวลงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ต้นหันมาเห็น
เฮ้ยๆ นั่นนายจะนอนแล้วเหรอ ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ
เออ ฉันของีบก่อน ตื่นค่อยอาบ
เสียงชุนงัวเงียจนฟังเกือบจะไม่เป็นคำพูด
เช้าน่ะดินายตื่นน่ะ เมื่อคืนก็อย่างเนี้ย
ฮัลโหล สวัสดีครับ พลอยเหรอครับ.......
..........................................................................
ชินเมื่อวันพุธทำไมฉันติดต่อนายไม่ได้เลย ไปหาที่หอก็ไม่เจอ เครื่องนายทำไมโทรเข้าไม่ติด
นายก็เจอฉันวันนี้แล้วไง ชินพูดด้วยท่าทางที่อิดโรย
ไปหาที่คุยกันเถอะ
ชินบอกแล้วขี่รถนำออกไป ชุนรีบขี่ตาม
ชุนจอดรถเคียงกับรถของชินที่จอดอยู่ก่อนแล้ว พลางนึกในใจว่ารถของชินดูไม่เหงาอีกแล้ว เขานึกขันความคิดของตัวเอง
จากนั้นก็เดินไปนั่งลงข้างๆชินและมองตามสายของชินออกไป
นายกำลังมองดูคนกลุ่มนั้นเหรอชุนเอ่ยถาม
ทุกครั้งที่ฉันมาที่นี่ ฉันก็จะเจอครอบครัวนี้เสมอ มันดูอบอุ่นดีนะ
ชินยังคงมอง สายตาของเขายังคงชื่นชมอยู่กับภาพที่เห็น
ชุนเหลียวกลับมามองหน้าชินทันทีและเขาก็ละสายตาจากชินหันกลับไปมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง
บางทีถ้าเด็กคนนั้นได้มองมาทางนี้ เขาอาจจะคิดว่าที่ตรงนี้ดูอบอุ่นดีก็ได้นะ
ชินหันมามองหน้าชุน เขาซ่อนยิ้มเล็กๆไว้ที่มุมปาก
ชิน นายเป็นคนที่บอกกับฉันเสมอว่าชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกัน เพราะคนเรามันไม่เหมือนกันไงชิน รูปแบบความอบอุ่นที่เราได้รับมันจึงไม่เหมือนกันด้วย
เด็กคนนั้นอยู่ท่ามกลางความอบอุ่นของเขาอยู่ตรงนั้น นายเห็นใช่ไหม
ตัวนายกับฉันก็กำลังอยู่ท่ามกลางความอบอุ่นของตัวเองอยู่ตรงนี้เหมือนกัน นายเคยเห็นบ้างหรือเปล่า
ชุนถอนหายใจยาวก่อนเอ่ยต่อ เขาไม่ได้หันไปมองหน้าชินขณะที่กำลังพูด
สิ่งที่เรียกว่าความอบอุ่น มันไม่ได้ล็อกความหมายหรือคำจำกัดความไว้เพียงแค่ว่า เป็นความรู้สึกที่ลูกได้อยู่ท่ามกลางพ่อแม่พร้อมหน้าเท่านั้นนะ มันมีอยู่ในทุกที่ท่ามกลางเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรัก หรือคนที่ห่วงใยเรา
นายไม่รู้สึกอบอุ่นบ้างเหรอที่ได้อยู่กับน้องชายนายในตอนนี้
ชินหันมาหัวเราะคำพูดของชุน ส่วนชุนก็รู้สึกอายกับสิ่งที่เขาพูดไปเช่นกัน
อบอุ่นสิ อบอุ่นเสียจนฉันรู้สึกร้อนเลยล่ะ ชุนหัวเราะคำพูดของชินบ้าง
ขอบในจะที่เป็นห่วงฉัน ซึ่งไม่ค่อยมีใครเขาห่วงฉันหรอกฉันรู้สึกอบอุ่นมาก (ชินเน้นเสียง) จริงๆ
เสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน
นายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าทำไมอาทิตย์ที่แล้วฉันถึงติดต่อนายไม่ได้ ชุนถามชิน
ชินทำท่าคิดก่อนตอบ
อาทิตย์ที่แล้วล่ะเหรอ อ๋อ ฉันไม่ว่างเลย ฉันกลับไปนอนบ้านบ้าง บ้านเพื่อนบ้าง พอเรียนเสร็จฉันก็ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อนต่อน่ะ กว่าจะเสร็จก็ดึกดื่น กลับถึงบ้านก็นอน ไม่ได้รับโทรศัพท์เลย แบทหมดฉันก็ทิ้งมันไว้ที่หอ เหนื่อยจริงๆอาทิตย์ที่แล้วเนี่ย
ก็นายชอบบ่นว่าเหนื่อยเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วทำไมนายต้องทำอะไรเยอะแยะด้วยล่ะ ทำไมไม่ผ่อนเรื่องใดเรื่องหนึ่งลงบ้าง ชุนออกความเห็น
เรื่องดนตรีฉันทิ้งไม่ได้หรอก มันเป็นทั้งเพื่อนและเป็นความรักของฉัน ส่วนเรื่องงาน เคยมีคนถามเหมือนกันนะว่าทำไมไม่มีเวลาแล้วยังทำงานหนัก ก็มันช่วยไม่ได้นี่ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้ ฉันอยากมีเงินไว้ซื้อของฟุ่มเฟือยหรือใช้จ่ายสร้างความสุขให้ตัวเองบ้าง
ชุนก้มหน้านิ่งมองต้นหญ้าข้างหน้า
ไม่เป็นไรหรอกน่า ถึงเหนื่อยแต่ก็คุ้ม ดีออกชีวิตนายมีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะ ชีวิตมีความหมายดีออก ฉันสินอกจากเรียนแล้วฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ยิ่งวันไหนที่ว่างมากๆหรือหยุดยาวหลายๆวันมันก็น่าเบื่อนะเหมือนอยู่ไปเรื่อยชีวิตไม่มีความหมายยังไงก็ไม่รู้
ชุนบ่นแล้วหันมามองหน้าชิน
อ๋อ นี่รู้แล้วเหรอว่าชีวิตมีความหมายมันเป็นยังไง
ชินพูดพลางใช้หางตามองชุน
พูดถึงเรื่องเรียน การเรียนของนายตอนนี้ล่ะเป็นยังไงบ้าง โอเครึยัง ชินถามชุน
"ก็ดีขึ้นมาก ฉันรู้แล้วว่าควรตั้งใจและพยายามอ่านหนังสือให้มากกว่าเดิม ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอะไรนักหนาหรอก มันลงตัวดีแล้วล่ะ
เห็นมั้ยล่ะ ฉันบอกแล้วว่าสิ่งที่นายกำลังเรียนอยู่น่ะดีอยู่แล้ว
ชินชอบใจในสิ่งที่เขาเคยพูดไว้
ชุนหันไปมองเห็นเขายิ้มอย่างอารมณ์ดี
ชินพ่อไม่กลับมาเชียงใหม่บ้างเหรอ ชุนเอ่ยถามขึ้น
ชินถอนหายใจยาว พลางทอดสายตาออกไปไกล
นายอยากรู้เหรอ พ่อกำลังจะมาเชียงใหม่เร็วๆนี้แหละ
ชินพูดเหมือนเขาไม่ต้องการเอ่ยถึงเรื่องพ่อเท่าใดนัก
ฉันอยากเจอพ่อ ชุนบอกเสียงตื่นเต้น
นายอยากเจอพ่อ ชินขมวดคิ้วมองหน้าชุน
นายแน่ใจเหรอชุน เขาถามเสียงเอื่อย
ทำไมล่ะ ชุนสงสัย
พ่อไม่ได้มาคนเดียวนะชุน พ่อเขาก็มากับครอบครัวของเขา
ก็ไม่แปลกนี่ ฉันเองก็ไม่ได้คิดแคร์เรื่องนั้นอยู่แล้ว
ชุนบอกและยิ้ม
ฉันกลัวว่านายจะจะเสียใจน่ะสิที่ได้เจอพ่อ ฉันไม่อยากให้นายต้องผิดหวังในตัวพ่ออีกคน
ชินก้มหน้าลงเขาไม่อาจสบตากับชุนได้อีก
ทำไมนายถึงคิดว่าฉันจะผิดหวังในตัวพ่อด้วยล่ะ
นายไม่เคยพบกับความผิดหวังแบบฉัน นายคงไม่รู้หรอกและนายคงไม่กลัวด้วย
นายมีครอบครัวที่อบอุ่น ชีวิตที่ราบรื่น เวลาที่เจอหน้าแม่ทุกครั้งนายไม่ต้องมาทะเลาะกันเหมือนฉันกับพ่อ ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่กลัวแล้วล่ะว่าจะต้องผิดหวังในตัวพ่ออีกสักกี่ครั้ง ฉันเสียใจจนชิน น้อยใจไปก็เท่านั้น แต่ถ้าเป็นนายฉันเป็นห่วงว่านายจะรับไม่ได้
ชินเงยหน้าขึ้นสบตากับชุนอีกครั้ง
นายยังไม่เข้มแข็งพอ การที่นายได้เจอกับพ่อมันอาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจนายมากเกินไป
ชุนนั่งเงียบเหมือนเขากำลังใช้ความคิด
นายคิดให้ดีก่อนนะชุนถามตัวของนายเองว่านายพร้อมแล้วหรือยัง พร้อมที่จะเจอกับความผิดหวังและความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น
นายจะยืนไหวมั้ย ถ้าพ่อมีท่าที่เฉยชา เขาอาจจะใช้เวลานึกอยู่นานว่าชุนคือใคร นายกับพ่อไม่ได้ผูกพันกัน แม้กับฉันความสัมพันธ์ของฉันกับพ่อนายก็รู้ว่ามันห่างเหินแค่ไหน
พ่อคงไม่ได้เดินเข้ามากอดนาย แทนที่เขาจะดีใจเมื่อได้พบหน้าลูกชายอีกคน เขาอาจจะรีบแนะนำภรรยาและลูกชายคนใหม่ให้นายรู้จัก และที่ร้ายไปกว่านั้นฉันกลัวว่า เมียใหม่ของพ่อจะคิดว่านายมาแสดงตัวเป็นลูกเพื่อหวังสมบัติ ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีสมบัติอะไร หึๆ
ชินหัวเราะเยาะคำพูดของเขาเบาๆ
อืม หรือพ่อกับแม่เลี้ยงอาจจะคิดว่าต้องรับผิดชอบนายเป็นภาระเพิ่มขึ้นอีกคน โอ๊ย ยิ่งพูดก็ยิ่งเลวร้ายเกินไป ฉันอาจจะพูดเกินไป แต่ว่าถ้ามันเป็นแบบนี้จริงๆหรือทำนองนี้ล่ะชุน นายเตรียมใจแล้วเหรอ
ชินหันมาถามชุนอีกครั้งให้แน่ใจ
ทั้งสองคนต่างเงียบไป ทอดสายตาออกไปทางเดียวกัน แสงแดดในตอนเย็นหายไปแล้ว ผู้คนที่เดินตัดสนามผ่านไปมาน้อยคนลงไปเรื่อยๆ
ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องผิดหวังหรอกชิน นายอย่าห่วงไปเลย ชุนเอ่ยขึ้น
ชินหันมามองหน้าเขา
เพราะฉันไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวพ่อ
เหมือนอย่างที่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวนายอีกแล้ว ฉันจึงจะไม่มีวันเสียใจ นายคือคนที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ ฉันเคยคาดหวังในตัวนาย หวังว่านายจะเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้แต่มันก็ไม่ใช่ นายจำได้มั้ยคำพูดของนายที่บอกกับฉัน ว่าอย่าคาดหวังอะไรในตัวนายเลย นายไม่ได้ดีเลิศ ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย หรืออาจจะไม่ใช่พี่ชายที่ดี
ซึ่งบทเรียนครั้งนั้นฉันก็ได้รู้แล้วว่า เราทุกคนล้วนต่างก็เป็นตัวของตัวเอง ฉันยอมรับความจริงข้อนี้ และเข้าใจว่าที่เขาทำแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนแบบนั้น ทำไมฉันจะต้องน้อยใจหรือเสียใจด้วยเล่า ถ้าทำอย่างนั้นฉันเองสิที่ผิด
ชุนสบตากับชิน
ขอให้นายเชื่อเถอะชิน ว่าฉันจะยืนได้โดยไม่ล้มแน่นอน ไม่ว่าภาพที่ฉันได้เจอพ่อมันจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม
ชินมองดูรอยยิ้มที่เข้มแข็งนั้น ประกอบกับคำยืนยันของชุน เขาก็มั่นใจว่าชุนควรจะได้พบกับพ่อ
อาทิตย์หน้านายฉันจะนัดนายอีกทีละกัน ชินบอก
จากคุณ :
seem
- [
31 พ.ค. 49 19:22:31
]