ตุบ!
เสียงวัตถุที่ตกกระทบพื้นผิวโลกนั้นอาจจะไม่ใช่เสียงที่ดังมากนักแต่ก็นับว่าเป็นเสียงที่แปลกหูของคนในละแวกนั้นเป็นอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่จะมีอะไรตกลงมาจากฟ้าเลย แค่ฝนสักเม็ดก็ไม่เคยหยดลงมาสัมผัสพื้นดินแห้งผากของหมู่บ้านชนเผ่าพื้นเมืองไตไตในแอฟริกากลางนี้มานานมากแล้ว
เด็กๆผิวดำเมี่ยมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ไม่ห่างออกไปนักเป็นกลุ่มแรกที่วิ่งเข้าไปดูวัตถุประหลาดที่ตกอยู่บนผิวดินแตกระแหงนอกหมู่บ้าน เสียงเอะอะโหวกเหวกของเด็กๆช่วยเรียกผู้ใหญ่ทั้งเผ่าเข้ามายืนล้อมดูวัตถุประหลาดกันเต็มไปหมด ท่ามกลางไอแดดร้อนแรงและหมู่ต้นไม้ที่ยืนแห้งตายห่างๆกันบนที่ราบแล้งร้างสุดลูกหูลูกตาแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอื่นอีกนอกจากคนในเผ่าไม่กี่สิบคนกับกระท่อมดินเหนียวเท่านั้น
แล้วเจ้าวัตถุประหลาดนี่มาจากไหนกัน.....?
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินฝ่าวงล้อมเข้ามายืนจังก้าตรงกลาง ลักษณะท่าทางที่บึกบึนและเครื่องแต่งกายจากขนสัตว์ที่ดูดีที่สุดในจำนวนคนทั้งหมดบ่งบอกได้ว่าเขาคนนี้เป็นหัวหน้าเผ่าไตไตแน่นอน ชายหัวหน้าเผ่ายืนมองวัตถุประหลาดบนพื้นอย่างสงสัยครู่หนึ่งจากนั้นจึงค่อยๆก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาดู แต่แรกที่มือของเขารู้สึกว่ากำลังสัมผัสอยู่กับสิ่งที่แปลกประหลาดไม่คุ้นเคยอยู่นั้นสัญชาตญาณก็ทำให้มือของเขากระตุกหนีจนวัตถุนั้นตกลงกับพื้น จากนั้นเมื่อรวบรวมความกล้าได้อีกครั้งหัวหน้าเผ่าจึงค่อยๆหยิบมันขึ้นมาดูห่างๆอีกทีหนึ่ง
มันเป็นวัตถุสีขาวปนแดงขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น รูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมปลายโค้งมนและเรียบเหมือนกับก้อนหินแบนๆสักก้อน เมื่อลองจับดูก็ปรากฏว่ามันนิ่มจนสามารถพับได้ พื้นผิวด้านหนึ่งเหนียวติดมือส่วนอีกด้านหนึ่งชื้นนุ่มเป็นที่น่าแปลกใจมาก ไม่เคยมีใครในเผ่ารู้เลยว่ามันคือตัวอะไร
สัตว์ตัวใดหรือไม่ เตาตุน ลูกเผ่าคนหนึ่งชะเง้อหน้าเข้ามาดู ทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆแล้วถอยออกไป
เป็นไปได้ สีแดงที่ทาเอาไว้ก็ดูเหมือนเลือดอยู่
ถ้าเป็นสัตว์ทำไมมันถึงตกลงมาจากฟ้า จะเป็นนกก็ไม่มีปีก
ตัวเล็กแต่แบนยาวเช่นนี้หนอนประหลาดเสียละกระมัง
เห็นจะไม่ใช่สัตว์ โงมางัย ลูกเผ่าสูงอายุแย้ง เผ่าของเราอยู่อาศัยที่นี่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว ไม่เคยปรากฏว่าจะมีสัตว์หน้าตาแบบนี้ให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถ้างั้นสิ่งนี้คืออะไรกัน ข้ากำลังเงยหน้ามองท้องฟ้าพอดีในเวลานั้นบังเอิญได้เห็นมันตกมาจากเมฆก้อนนั้น รายปานยาชี้ให้เพื่อนร่วมเผ่ามองกลุ่มเมฆหนาที่กำลังเคลื่อนผ่านเหนือหมู่บ้านไปช้าๆ ข้าได้ยินเสียงดังจากบนฟ้าจึงเงยหน้าขึ้นไปดูก็เห็นแต่หมู่เมฆเป็นทาง หลังจากนั้นก็มีสิ่งนี้ตกลงมาจากก้อนเมฆ ข้าจึงวิ่งตามกลุ่มเด็กๆออกมาดู
พูดถึงตรงนี้กลุ่มชาวบ้านก็ส่งเสียงวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ แต่มักจะไม่พ้นการคาดเดาว่าต้องเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน
หรือจะเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่จุติลงมา?
ไม่ ข้าว่าน่าจะเป็นปิศาจมากกว่า เห็นไหมว่ามันกินเลือด เทพเจ้าไม่กินเลือด
หรือจะเป็นอาวุธของเทพเจ้าที่ใช้ปราบพวกปิศาจ ตกลงจากท้องฟ้าแบบนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเทพเจ้ากำลังต่อสู้กับปิศาจอยู่แล้วอาวุธเกิดหลุดหล่นลงมา ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเทพเจ้าต้องลงมาเยือนหมู่บ้านเราแน่ๆเพื่อเอาอาวุธคืน
ไม่ๆๆ ข้าว่ามันน่าจะเป็นอาวุธของปิศาจมากกว่า เอ....แต่รูปร่างแบนๆแบบนี้หรือว่าจะเป็นยานพาหนะของพวกเทพนะ
ทุกคนพอได้แล้ว เลิกเถียงกันเสียที อาวิชาผู้เป็นหัวหน้าเผ่าร้องบอกทุกคนให้เงียบเสียง ข้าว่ามันคือของขวัญที่เทพเจ้าประทานให้กับชนเผ่าของเรา ด้วยรูปร่างที่งดงามและนุ่มนวลเช่นนี้ ทั้งสีของมันก็ยังขาวสะอาดราวกับปุยเมฆเบื้องบน และยังมีเลือดบวงสรวงมาด้วยแบบนี้ นี่เราจะไม่จัดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทวยเทพอีกหรือ จำตำนานประจำเผ่าของพวกเราได้หรือไม่ บรรพบุรุษชาวไตไตเคยทำนายไว้ว่าในอนาคตจะมีเทพเจ้าองค์หนึ่งประทานของขวัญที่ชื่อว่าโคเทสลงมาให้แก่เผ่าไตไตของเรา ข้าเชื่อว่าสิ่งที่อยู่ในมือข้านี่แหละคือโคเทส มีใครจะแย้งอะไรไหม
เมื่อเห็นว่าเป็นประกาศิตของหัวหน้าเผ่าบรรดาลูกบ้านก็ไม่ปริปากพูดอะไรอีก ได้แต่พากันคุกเข่าก้มหัวตามอาวิชาซึ่งกำลังใช้มือทั้งสองประคองสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบแบนสีขาวนั้นชูขึ้นฟ้าและกล่าวของคุณเทพยดาทั้งหลายที่ส่งสิ่งนี้ลงมาให้กับพวกเขา ต่อจากนั้นชาวเผ่าช่วยกันจัดเตรียมพิธีเฉลิมฉลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์สีขาวนี้ตามมีตามเกิด แม้จะยากแค้นแสนลำเค็ญแค่ไหนแต่เกือบทุกคนในเผ่าต่างก็ตื่นเต้นกับการปรากฏตัวจากฟากฟ้าของวัตถุสีขาวนี้เป็นอย่างมาก เว้นเสียแต่ชายหุ่นเตี้ยล่ำและตาบอดคนหนึ่งที่ชื่อนิเชาที่ดูไม่ยินดียินร้ายกับข่าวใหญ่ที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
สูไม่ตื่นเต้นเลยหรือ นี่เทพเจ้าประทานมาให้เผ่าเราเชียวนะ เตาตุนขมวดคิ้วเมื่อเล่าเรื่องวัตถุประหลาดสีขาวให้เพื่อนฟังแล้วไม่เห็นว่านิเชาจะสนใจแต่อย่างใด
ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย ของที่พวกสูเจ้าแห่แหนเชิดชูกันอยู่นั่นไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์อะไรที่ไหนเลย ข้าว่ามันคือขยะด้วยซ้ำไป
ขยะ? สูพูดอะไรกัน มันหล่นมาจากฟ้านะ สูไม่มีตามองเห็นจะมาบอกได้อย่างไรว่าเป็นขยะ
เอาเถอะ ข้าไม่ได้ขอให้สูเชื่อ ข้าอาจจะใช้ตามองอย่างสูเจ้าไม่ได้ แต่ข้ามองด้วยใจ ไปที่ลานกองไฟหมู่บ้านตามความตั้งใจเดิมของสูเสียเถิด ข้าขอนอนเล่นสบายๆตรงนี้ดีกว่า
ว่าแล้วนิเชาก็เอนตัวลงนอนเล่นบนลานดินโดยมีผืนฟ้าและดาวดารดาษแห่งซีกโลกแอฟริกาเป็นเพื่อนนอน ไม่สนใจเสียงอึกทึกและการร่ายรำเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ของหมู่บ้านที่ดังอยู่ไม่ไกลอีกเลย
(มีต่อนะ)
จากคุณ :
ธามาดา
- [
31 พ.ค. 49 21:02:11
]