CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    * * * * * "ของขวัญจากฟากฟ้า" (เรื่องสั้นนานทีปีหน + แก้เซ็งในวันฝนกระหน่ำ) * * * * *

    ตุบ!

    เสียงวัตถุที่ตกกระทบพื้นผิวโลกนั้นอาจจะไม่ใช่เสียงที่ดังมากนักแต่ก็นับว่าเป็นเสียงที่แปลกหูของคนในละแวกนั้นเป็นอย่างยิ่ง  อย่าว่าแต่จะมีอะไรตกลงมาจากฟ้าเลย  แค่ฝนสักเม็ดก็ไม่เคยหยดลงมาสัมผัสพื้นดินแห้งผากของหมู่บ้านชนเผ่าพื้นเมืองไตไตในแอฟริกากลางนี้มานานมากแล้ว

    เด็กๆผิวดำเมี่ยมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ไม่ห่างออกไปนักเป็นกลุ่มแรกที่วิ่งเข้าไปดูวัตถุประหลาดที่ตกอยู่บนผิวดินแตกระแหงนอกหมู่บ้าน  เสียงเอะอะโหวกเหวกของเด็กๆช่วยเรียกผู้ใหญ่ทั้งเผ่าเข้ามายืนล้อมดูวัตถุประหลาดกันเต็มไปหมด  ท่ามกลางไอแดดร้อนแรงและหมู่ต้นไม้ที่ยืนแห้งตายห่างๆกันบนที่ราบแล้งร้างสุดลูกหูลูกตาแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอื่นอีกนอกจากคนในเผ่าไม่กี่สิบคนกับกระท่อมดินเหนียวเท่านั้น

    แล้วเจ้าวัตถุประหลาดนี่มาจากไหนกัน.....?


    ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินฝ่าวงล้อมเข้ามายืนจังก้าตรงกลาง  ลักษณะท่าทางที่บึกบึนและเครื่องแต่งกายจากขนสัตว์ที่ดูดีที่สุดในจำนวนคนทั้งหมดบ่งบอกได้ว่าเขาคนนี้เป็นหัวหน้าเผ่าไตไตแน่นอน  ชายหัวหน้าเผ่ายืนมองวัตถุประหลาดบนพื้นอย่างสงสัยครู่หนึ่งจากนั้นจึงค่อยๆก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาดู  แต่แรกที่มือของเขารู้สึกว่ากำลังสัมผัสอยู่กับสิ่งที่แปลกประหลาดไม่คุ้นเคยอยู่นั้นสัญชาตญาณก็ทำให้มือของเขากระตุกหนีจนวัตถุนั้นตกลงกับพื้น  จากนั้นเมื่อรวบรวมความกล้าได้อีกครั้งหัวหน้าเผ่าจึงค่อยๆหยิบมันขึ้นมาดูห่างๆอีกทีหนึ่ง

    มันเป็นวัตถุสีขาวปนแดงขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น  รูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมปลายโค้งมนและเรียบเหมือนกับก้อนหินแบนๆสักก้อน  เมื่อลองจับดูก็ปรากฏว่ามันนิ่มจนสามารถพับได้  พื้นผิวด้านหนึ่งเหนียวติดมือส่วนอีกด้านหนึ่งชื้นนุ่มเป็นที่น่าแปลกใจมาก  ไม่เคยมีใครในเผ่ารู้เลยว่ามันคือตัวอะไร

    “สัตว์ตัวใดหรือไม่”  เตาตุน ลูกเผ่าคนหนึ่งชะเง้อหน้าเข้ามาดู  ทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆแล้วถอยออกไป

    “เป็นไปได้  สีแดงที่ทาเอาไว้ก็ดูเหมือนเลือดอยู่”

    “ถ้าเป็นสัตว์ทำไมมันถึงตกลงมาจากฟ้า  จะเป็นนกก็ไม่มีปีก”

    “ตัวเล็กแต่แบนยาวเช่นนี้หนอนประหลาดเสียละกระมัง”

    “เห็นจะไม่ใช่สัตว์”  โงมางัย  ลูกเผ่าสูงอายุแย้ง “เผ่าของเราอยู่อาศัยที่นี่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว  ไม่เคยปรากฏว่าจะมีสัตว์หน้าตาแบบนี้ให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

    “ถ้างั้นสิ่งนี้คืออะไรกัน  ข้ากำลังเงยหน้ามองท้องฟ้าพอดีในเวลานั้นบังเอิญได้เห็นมันตกมาจากเมฆก้อนนั้น”  รายปานยาชี้ให้เพื่อนร่วมเผ่ามองกลุ่มเมฆหนาที่กำลังเคลื่อนผ่านเหนือหมู่บ้านไปช้าๆ  “ข้าได้ยินเสียงดังจากบนฟ้าจึงเงยหน้าขึ้นไปดูก็เห็นแต่หมู่เมฆเป็นทาง  หลังจากนั้นก็มีสิ่งนี้ตกลงมาจากก้อนเมฆ  ข้าจึงวิ่งตามกลุ่มเด็กๆออกมาดู”

    พูดถึงตรงนี้กลุ่มชาวบ้านก็ส่งเสียงวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ  แต่มักจะไม่พ้นการคาดเดาว่าต้องเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน

    “หรือจะเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่จุติลงมา?”

    “ไม่  ข้าว่าน่าจะเป็นปิศาจมากกว่า  เห็นไหมว่ามันกินเลือด  เทพเจ้าไม่กินเลือด”

    “หรือจะเป็นอาวุธของเทพเจ้าที่ใช้ปราบพวกปิศาจ  ตกลงจากท้องฟ้าแบบนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเทพเจ้ากำลังต่อสู้กับปิศาจอยู่แล้วอาวุธเกิดหลุดหล่นลงมา  ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเทพเจ้าต้องลงมาเยือนหมู่บ้านเราแน่ๆเพื่อเอาอาวุธคืน”

    “ไม่ๆๆ  ข้าว่ามันน่าจะเป็นอาวุธของปิศาจมากกว่า  เอ....แต่รูปร่างแบนๆแบบนี้หรือว่าจะเป็นยานพาหนะของพวกเทพนะ”

    “ทุกคนพอได้แล้ว  เลิกเถียงกันเสียที”  อาวิชาผู้เป็นหัวหน้าเผ่าร้องบอกทุกคนให้เงียบเสียง  “ข้าว่ามันคือของขวัญที่เทพเจ้าประทานให้กับชนเผ่าของเรา  ด้วยรูปร่างที่งดงามและนุ่มนวลเช่นนี้  ทั้งสีของมันก็ยังขาวสะอาดราวกับปุยเมฆเบื้องบน  และยังมีเลือดบวงสรวงมาด้วยแบบนี้  นี่เราจะไม่จัดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทวยเทพอีกหรือ  จำตำนานประจำเผ่าของพวกเราได้หรือไม่  บรรพบุรุษชาวไตไตเคยทำนายไว้ว่าในอนาคตจะมีเทพเจ้าองค์หนึ่งประทานของขวัญที่ชื่อว่าโคเทสลงมาให้แก่เผ่าไตไตของเรา  ข้าเชื่อว่าสิ่งที่อยู่ในมือข้านี่แหละคือโคเทส  มีใครจะแย้งอะไรไหม”  

    เมื่อเห็นว่าเป็นประกาศิตของหัวหน้าเผ่าบรรดาลูกบ้านก็ไม่ปริปากพูดอะไรอีก  ได้แต่พากันคุกเข่าก้มหัวตามอาวิชาซึ่งกำลังใช้มือทั้งสองประคองสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบแบนสีขาวนั้นชูขึ้นฟ้าและกล่าวของคุณเทพยดาทั้งหลายที่ส่งสิ่งนี้ลงมาให้กับพวกเขา  ต่อจากนั้นชาวเผ่าช่วยกันจัดเตรียมพิธีเฉลิมฉลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์สีขาวนี้ตามมีตามเกิด  แม้จะยากแค้นแสนลำเค็ญแค่ไหนแต่เกือบทุกคนในเผ่าต่างก็ตื่นเต้นกับการปรากฏตัวจากฟากฟ้าของวัตถุสีขาวนี้เป็นอย่างมาก  เว้นเสียแต่ชายหุ่นเตี้ยล่ำและตาบอดคนหนึ่งที่ชื่อนิเชาที่ดูไม่ยินดียินร้ายกับข่าวใหญ่ที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย

    “สูไม่ตื่นเต้นเลยหรือ  นี่เทพเจ้าประทานมาให้เผ่าเราเชียวนะ”  เตาตุนขมวดคิ้วเมื่อเล่าเรื่องวัตถุประหลาดสีขาวให้เพื่อนฟังแล้วไม่เห็นว่านิเชาจะสนใจแต่อย่างใด

    “ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย  ของที่พวกสูเจ้าแห่แหนเชิดชูกันอยู่นั่นไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์อะไรที่ไหนเลย  ข้าว่ามันคือขยะด้วยซ้ำไป”

    “ขยะ?  สูพูดอะไรกัน  มันหล่นมาจากฟ้านะ  สูไม่มีตามองเห็นจะมาบอกได้อย่างไรว่าเป็นขยะ”

    “เอาเถอะ  ข้าไม่ได้ขอให้สูเชื่อ  ข้าอาจจะใช้ตามองอย่างสูเจ้าไม่ได้  แต่ข้ามองด้วยใจ  ไปที่ลานกองไฟหมู่บ้านตามความตั้งใจเดิมของสูเสียเถิด  ข้าขอนอนเล่นสบายๆตรงนี้ดีกว่า”

    ว่าแล้วนิเชาก็เอนตัวลงนอนเล่นบนลานดินโดยมีผืนฟ้าและดาวดารดาษแห่งซีกโลกแอฟริกาเป็นเพื่อนนอน  ไม่สนใจเสียงอึกทึกและการร่ายรำเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ของหมู่บ้านที่ดังอยู่ไม่ไกลอีกเลย

    (มีต่อนะ)

    จากคุณ : ธามาดา - [ 31 พ.ค. 49 21:02:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป