CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    *** Allan Quatermain *** จอมพรานสุดขอบฟ้า*** บทที่ ๔ อัลฟองเซ กับ แอนเนต

    แปลจากเรื่อง  Allan Quatermain  ของ SIR  HENRY  RIDER  HAGGARD

    บทที่ ๔

    อัลฟองเซ กับ แอนเนต

    หลังอาหารพวกเราตรวจสอบอาคารหลังนอกทั้งหมดและพื้นที่โดยรอบสถานีอย่างละเอียด        ซึ่งข้าพเจ้าพิจารณาว่าเป็นอาคารที่ประสบผลสำเร็จอย่างที่สุดเช่นเดียวกับสวยงามอย่างที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยพบเห็นในอาฟริกา         เราจึงกลับมาที่เฉลียงซึ่งเราพบว่าอัมสโลโปกาสใช้โอกาสอันดีนี้ทำความสะอาดปืนไรเฟิลทุกกระบอกอย่างละเอียด         เรื่องนี้เป็นงานอย่างเดียวที่เขาเคยทำหรือถูกขอให้ทำเพราะว่าซูลูระดับหัวหน้าจะมีความหยิ่งไม่ยอมทำงานด้วยมือของเขาเอง       และงานนี้เขาทำได้เป็นอย่างดี         เป็นภาพประหลาดที่ได้เห็นนักรบซูลูผู้ยิ่งใหญ่นั่งอยู่ตรงนั้นบนพื้น        ขวานศึกพิงอยู่กับฝาเบื้องหลังเขา        ขณะที่มือมีลักษณะของคนชั้นสูงทำงานง่วนอยู่อย่างละเอียดอ่อนและระมัดระวังอย่างที่สุดทำความสะอาดกลไกของปืนบรรจุกระสุนท้ายลำกล้อง        เขาตั้งชื่อให้กับปืนแต่ละกระบอก       กระบอกหนึ่ง---ปืนลำกล้องแฝดขนาดสี่บอร์ของเซอร์เฮนรี่---ชื่อว่า “ผู้ทำให้ฟ้าร้อง”         อีกกระบอกหนึ่ง 500 เอ็กซ์เพรส ของข้าพเจ้า    ซึ่งตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว  ชื่อว่า  “สาวน้อยผู้ส่งเสียงตวาดได้เหมือนแส้”      ปืนวินเชสเตอร์ รีพีทเตอร์  ชื่อว่า “หญิงที่พูดเร็วจนฟังไม่ทัน”       ปืนไรเฟิลมาตินี่หกกระบอก มีชื่อว่า “คนสามัญ”   และเป็นเช่นนี้กับทุกกระบอก          น่าประหลาดเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินเขาพูดกับปืนแต่ละกระบอกขณะที่ทำความสะอาดให้ราวกับว่าพวกมันมีตัวตนเป็นของตัวเอง+++++++++++++        เขาทำเช่นเดียวกันกับขวานศึกของเขาดูราวกับว่ามันเป็นเพื่อนสนิท           บางครั้งเขาจะพูดกับมันเป็นชั่วโมงถึงเรื่องการผจญภัยแต่ครั้งหลัง---เรื่องหวาดเสียวร้ายกาจที่เคยผ่านมาด้วยกัน         ด้วยอารมณ์ขันอย่างร้ายกาจเขาตั้งชื่อขวานว่า  “อินโกสีกาส”  เป็นภาษาซูลูใช้กับหัวหน้าหญิง          เป็นเวลาช้านานที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาตั้งชื่อให้มันเช่นนั้น       สุดท้ายข้าพเจ้าจึงถามเขา       เขาบอกว่าขวานเป็นผู้หญิง      เพราะว่าเธอมีนิสัยสอดรู้สอดเห็นล้วงลึกเข้าไปในทุกสรรพสิ่งแบบผู้หญิง         และเธอต้องเป็นหญิงสูงศักดิ์เพราะว่าผู้ชายทั้งหลายทิ้งกายลงต่อหน้าเธอ        แน่นิ่งไม่พูดไม่จาภายใต้ความงามและอำนาจของเธอ        และเมื่อยามเข้าตาจนเขาจะขอความเห็นจากเธอ       เมื่อข้าพเจ้าถามว่าทำไมเขาต้องทำเช่นนั้น        เขาตอบว่าเธอต้องรอบรู้เป็นอย่างมากเพราะเข้าไปสำรวจสมองคนมาแล้วอย่างมากมาย

    ข้าพเจ้าหยิบขวานขึ้นมาแล้วพิจารณาอาวุธร้ายกาจนี้อย่างละเอียด       อย่างที่ข้าพเจ้าเคยกล่าวไปแล้วถึงลักษณะของด้ามขวาน        ด้ามของมันทำจากนอแรดขนาดใหญ่ยาวสามฟุตสามนิ้วหนาหนึ่งเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว         ตรงปลายเป็นปุ่มขนาดผลส้มมอลทีสป้องกันไม่ให้มือเลื่อนหลุดออกไป          ด้ามนอแรดนี้แข็งแกร่งดัดให้โค้งงอได้เหมือนไม้หวายไม่แตกหัก       แต่เพื่อให้มั่นใจเป็นสองเท่ามีลวดทองแดงพันอยู่เป็นระยะตลอดส่วนที่ใช้มือจับ          ด้านบนตรงส่วนที่ด้ามสวมเข้าไปในหัวขวานมีรอยขีดเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง        แต่ละรอยเป็นตัวแทนคนที่ถูกสังหารในการต่อสู้ด้วยขวานเล่มนี้          ตัวขวานทำมาจากเหล็กกล้างดงามอย่างที่สุดเห็นได้ว่าเป็นงานฝีมือของชาวยุโรป       ซึ่งอัมสโลโปกาสไม่รู้ว่ามันถูกสร้างมาจากที่ไหน        เขาได้มันมาจากมือของหัวหน้าชนเผ่าขวานที่เขาสังหารในการต่อสู้เมื่อหลายปีมาแล้ว          ตัวขวานไม่หนักมากนักข้าพเจ้าประมาณว่าหนักสองปอนด์ครึ่ง         ทางด้านคมโค้งเข้าเล็กน้อย---ไม่โค้งออกเหมือนขวานศึกโดยทั่วไป---คมกริบเหมือนใบมีดโกน        ความกว้างวัดได้ห้าเศษสามส่วนสี่นิ้ว        ทางด้านหลังของใบขวานเป็นเดือยแข็งแรงยื่นออกมายาวสี่นิ้ว         สองนิ้วสุดท้ายเป็นรูกลวงรูปร่างคล้ายที่เจาะแผ่นหนัง      ซึ่งมันสามารถทะลวงทุกสิ่งให้เป็นรูด้วยการเฉาะด้านนี้ลงไป        ที่จริงแล้วมันคล้ายกับขวานของคนฆ่าสัตว์         และทางด้านนี้ของตัวขวานเรารู้ในภายหลังว่าอัมสโลโปกาสใช้เฉาะลงไปเวลาต่อสู้ทำให้เกิดรูสวยงามบนกะโหลกของศัตรู        ใช้ด้านคมเฉพาะเวลาฟันเป็นวงกลมหรือเวลาตะลุมบอนกัน       ข้าพเจ้าคิดว่าเขาคงพิจารณาว่าการเฉาะลงไปนั้นเหมาะเจาะกว่าและดูสนุกกว่า       และจากนิสัยที่ชอบใช้จะงอยขวานเฉาะลงไปที่ศัตรูเขาจึงได้ชื่อว่า “นกหัวขวาน”         เมื่ออยู่ในมือของเขามันเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมาก

    ด้วยเหตุนั้น อินโกสีกาส ขวานศึกของอัมสโลโปกาส จึงเป็นอาวุธที่มีอันตรายร้ายกาจอย่างที่สุดในการต่อสู้แบบประชิดตัวเท่าที่ข้าพเจ้าเคยพบเห็นมา       เป็นสิ่งเดียวที่เขารักยิ่งชีวิต       มันแทบจะไม่คลาดไปจากมือของเขาเลยนอกจากเวลากินอาหาร        ซึ่งเขาจะนั่งลงวางมันไว้ใต้ขา

    จากคุณ : Sv - [ 31 พ.ค. 49 21:41:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป