CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ซุปเปอร์สตาร์

    แสงแดดบวกกับเสียงแห่งความวุ่นวายในเมืองกรุง เสียงรถยนต์หลายคันกำลังเผาผลาญเชื้อเพลิงบนถนนที่แออัด เสียงผู้คนมากมายเจื้อยแจ้วทำให้คิดไปว่านี่คือสมรภูมิรบ  มันเริ่มต้นเช่นนี้เหมือนเดิมทุกวัน หลังคาสังกะสีเก่าๆเริ่มสะสมความร้อนและแผ่รังสีออกมา บางจุดมีช่องโหว่ทำให้แสงลอดลงมาเห็นเป็นสาย  ลำแสงแยงตาหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆให้ตื่นจากภวังค์ ประกอบกับกลิ่นน้ำคร่ำจากเบื้องล่างที่โชยผ่านไม้กระดานผุๆ ก็ไม่อาจทนหลับต่อไปได้ สายมากขนาดนี้แล้วหรือนี่ ชายหมุ่มพูดกับตัวเองหลังจากหันไปมองนาฬิกาปลุกเก่าๆเรือนหนึ่งที่เขาบังเอิญเก็บได้ที่ข้างถังขยะ  หลังจากใช้เวลาในห้องน้ำพื้นที่แค่แมวดิ้นตายเรียบร้อย เขาก็พร้อมสำหรับวันใหม่ในชุดเสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ และหมวกไหมพรม  แดดแรงขึ้นเล็กน้อย  เขาทำตาหยีเดินออกจากที่ซุกหัวนอน
                 
    “ เป็นแฟนคนจนต้องทนหน่อยน้อง พี่นี้ไม่มีเงินทอง...” ชายหนุ่มเขย่าลูกคอระหว่างเดินไปทำงาน

    “ พี่ทองก้อน  พี่ทองก้อน  วันนี้จะกินอะไรดีจ้ะ ” เสียงใสกังวานของแม่ค้าข้าวแกงสาวสวยตะโกนเรียก “เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ บัวผัน กินกี่ทีก็อร่อยไม่เปลี่ยนเลยจ้ะ ”
    “พี่ก็ปากหวานไม่เปลี่ยนเหมือนกันนะ”
    ทองก้อนกลืนข้าวแกงที่จืดชืดนั่น พลางยิ้มกลบเกลื่อน เขาแค่พิศวาสแม่ค้าเท่านั้นถึงได้ทนกินทุกวัน
    บัวผันยิ้มหวาน

    “เมื่อไหร่พี่จะเลิกทำงานก่อสร้างซะทีล่ะ แบกปูนซะหุ่นเป็นนักมวยแล้ว” เขารวบช้อน

    “จะให้พี่ไปทำอะไรล่ะ ความรู้ก็แค่หางอึ่ง”

    “มีสิจ้ะพี่  พี่ไม่เห็นประกาศในทีวีหรอ เขารับสมัครนักร้องหน้าใหม่ประดับวงการบันเทิงอยู่น่ะ  พี่ไปสมัครสิ  พี่น่ะเสียงดี รูปร่าง หน้าตา ก็ใช่ย่อย ไม่แน่นะพี่อาจจะดังก็ได้ ”
    เขาคิดตาม อันที่จริงแล้วเขาก็เบื่อกับงานแบกหามเต็มทน

    “เฮ้ย ไอ้ก้อน !! วันนี้เงินออกแล้วอย่าลืมไปเจอกันที่ร้านเดิมนะ ไปร้องคาราโอเกะให้พวกข้าฟังหน่อย ข้าเป็นเจ้ามือเอง ”
    กลุ่มชายหนุ่มในชุดแบบเดียวกับเขาเดินผ่ามมา ตะโกนทัก เขาตอบรับหน้าบาน สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขคือการได้ไปกินเหล้าและร้องเพลงให้เพื่อนๆฟัง ใช่แล้วการร้องเพลงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดี บัวผันพูดถูกเขาควรไปประกวดร้องเพลง  
                          ทองก้อนไม่รอช้าเขาหาโอกาสหยุดงานหนึ่งวันเพื่อไปสมัครประกวดร้องเพลง  เขารวบรวมเงินเท่าที่มีไปซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีมาใส่  ด้วยรูปร่างและหน้าตาเป็นทุนเดิมใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ใช่นายแบบ  ทองก้อนออกเดินทางไปตามฝัน  ณ ตึกสูงระฟ้าของสถานีโทรทัศน์ แหงนมองคอตั้งบ่า ตรงหน้าเขาผู้คนร่วมร้อยเข้าแถวรอสมัครกันยาวเหยียด แถวยาวจนล้นออกมาถึงถนน การจราจรคับคั่ง เขาเห็นดังนั้นก็รู้สึกหวั่นใจ กล้าๆกลัวๆ แต่เขามาถึงที่นี่แล้ว เขาหลับตาเป่าลมยาวสองที เวลาผ่านไปเขาพบว่าอีกแค่สองคนก็ถึงคิวของเขา  เขายื่นใบสมัครและนั่งรอ หลังจากขานชื่อ ทองก้อนก็มายืนอยู่ในห้องต่อหน้ากรรมการหลายคน  เขาร้องเพลง กรรมการคนหนึ่งบอกให้หยุด พร้อมบอกให้มาคัดตัวในรอบต่อไป เขายิ้มและแอบกำมือแน่น วันต่อมาเขาสังเกตว่าผู้เข้าประกวดบางตาลงแต่ก็ยังคงมากอยู่ดี กรรมการน้อยลงแต่หลายคนในจำนวนนั้นยกมือให้เขาผ่านสู่วันต่อไป เพื่อนๆแถวบ้านเริ่มทักว่าเขาหยุดงานหลายวัน แต่ทองก้อนไม่ใส่ใจ  อีกหลายรอบผ่านไปที่ทำได้ดี น้อยครั้งนักที่เขาจะได้ยินคำตำหนิจากกรรมการ  ครั้งต่อมาเขานับจำนวนผู้เข้าประกวดได้สามสิบคน ให้ตายสิ!! ผ่านมาได้ขนาดนี้เชียว และแล้วผู้เข้าประกวดก็เหลือเพียงสิบคนสุดท้าย ดั่งนิยาย ทองก้อนเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อนๆที่ก่อสร้างได้ข่าวต่างก็ยินดี

    “บัวผัน!! อย่าลืมเชียร์พี่นะ พรุ่งนี้จะมีการถ่ายทอดการประกวดออกทีวีแล้ว”

    “แน่นอนพี่  ฉันกับเพื่อนๆจะโหวตให้พี่เยอะๆเลยนะ!!” ผู้คนได้ฟังและได้เห็นเขาทางทีวีไปทั่วประเทศ คะแนนโหวตหลั่งไหลท่วมท้น สาวแก่ แม่หม้าย แม่ยก ชูป้ายเชียร์กันติดขอบเวที
                    เหมือนฟ้าผ่ากลางใจทองก้อน  คะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้าน โหวตให้เขามากที่สุดนั่นหมายความว่าเขาคือผู้ชนะ น้ำตาคลอเบ้า เขาหุบยิ้มไม่ลงด้วยความปิติจนมุมปากกับติ่งหูแทบจรดกัน

    ทันทีที่จบการประกวดเขาได้ออกอัลบัม และฮิตถล่มทลาย มีงานฉลองยอดจำหน่ายครบล้านแผ่น รายการทีวีจองคิวเพื่อสัมภาษณ์ หนังสือ นิตยสารต่างจองตัวกันไปถ่ายปก ข้าวของเครื่องใช้หลายยี่ห้อก็มีเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์  ผู้คนทั่วไปต่างรู้จัก ลูกเด็กเล็กแดงร้องเพลงของเขาเป็นกันทั้งนั้น  ทองก้อนรู้สึกแปลกกับชีวิตรูปแบบใหม่ ทุกๆวันได้แต่ตระเวนไปร้องเพลงตามที่ต่างๆ หรือไม่ก็ไปถ่ายแบบ ถาพของเขาปรากฏไปทุกแห่ง     เขากลับไปรับบัวผันมาอยู่ด้วย เธอไม่ลังเลเลยสักนิด  บัวผันใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ทองหยองเต็มตัว อีกทั้งมีหน้ามีตาที่ได้เป็นแฟนกับนักร้องชื่อดัง ทองก้อนเริ่มทำงานแสดงที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขารับงานมาโดยไม่ได้ถามเขา แต่เขาก็เล่น ด้วยค่าตัวเจ็ดหลักที่ไม่อาจปฎิเสธได้  บัวผันเริ่มเบื่อหน่ายกับการช้อปปิ้ง จริงๆแล้วเธออยากใช้เวลาอยู่กับแฟนเธอแบบส่วนตัวบ้าง แต่ดูเหมือนว่าจะยากเต็มที  ความที่ได้รู้จักคนในวงการผ่านทองก้อนทำให้บัวผันสนิทสนมกับหนุ่มๆมากหน้าหลายตา และทองก้อนเองก็ไม่มีเวลาสังเกตเห็น

    หลังจากกลับจากกองถ่ายเร็วกว่าปกติคืนหนึ่ง นักร้องหนุ่มไขกุญแจอพาร์ทเม้นต์หรูเข้าไปภายใน  เขาเปิดไฟ

    “เฮ้ย!! ไอ้จ้อด เอ็งมาทำอะไรเมียข้า...  บัวผัน!! ทำไมทำแบบนี้” ควันออกหูทองก้อน เขาตรงไปในห้องหยิบปืนพกขึ้นมากำไว้แน่นและกลับมายืนอยู่ข้างเตียง

    “เอ็งทำกับข้าได้นะไอ้จ้อด อย่าอยู่เลย !!!!!”

    กระบอกปืนส่องตรงหน้าไอ้จ้อดห่างไปไม่ถึงสองวา บัวผันผวากายมาขวางทางปืน

    “อย่านะพี่!!ฉันรักจ้อด”

    “นี่เธอรักมันหรอ แล้วพี่ล่ะ!!”

    “ก็ฉันเหงานี่พี่  วันๆพี่ก็ได้แต่ออกไปทำงาน ไม่มีเวลาให้ฉันบ้างเลย”

    “แต่พี่ทำงานหาเงินนะ!!”

    “พอเถอะ แค่นี้ก็ใช้ไม่หมดแล้ว หัดใส่ใจฉันบ้างนะพี่ !!”

    เธอเปล่งเสียงแจ๋น ฉับพลันนั้นเองด้วยความกลัวลูกตะกั่วจะตอกกลางหน้าผาก ไอ้จ้อด วิ่งแก้ผ้าโทงๆหนีออกไปทางประตูชนิดมองไม่ทัน  บัวผันเรียกแต่จ้อดคงไม่หยุดวิ่งแน่ เธอทำคิ้วขมวด แต่งตัว คว้ากระเป๋าใบใหญ่รวบเสื้อผ้ายัดลงไปแบบลวกๆ เดินฉับๆออกไปพลางตะโกนเรียกไอ้จ้อดไล่หลัง ทองก้อนยืนเป็นหินสลักอยู่หลายนาทีแล้วนั่งลงเอามือกุมขมับ
                         
    ข่าวเตียงหักของนักร้องดังเด่นชัดทุกหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ มันช่างน่าอับอาย หลังจากคืนนั้นเขาบอกผู้จัดการส่วนตัวว่าจะหยุดงานสักสองสามวัน เขาเจ็บปวดที่บัวผันมีชายอื่นและชายคนนั้นก็คือแด้นเซอร์ในวงของเขาเอง เขาเจ็บใจที่ไม่สามารถทำให้คนรักมีความสุขได้ เขามัวแต่โกยเงิน ทองก้อนสวมแว่นตาดำขับรถสปอร์ตหรูออกจากที่พักไปตามถนน เพื่อจะหนีความวุ่นวายไปพักร้อนสักพัก  เขาภาวนาไม่ให้รถติดไฟแดงบ่อยนัก โชคไม่เข้าข้างสี่แยกแรกก็แดงสว่างจ้า แม่ค้าข้างทางตะโกนลั่น

    “ทองก้อน!! ทองก้อน!! ตัวเป็นๆเลย!!”
    ผู้คนเริ่มหันมอง  เขารู้สึกชินแต่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะเปิดเผยตัวนัก แยกถัดไปก็เช่นเคยคราวนี้หนักกว่าเก่าเพราะถึงกับมาเคาะกระจกรถเพื่อขอลายเซ็นต์ เขายิ้มจืดๆและเซ็นต์ให้ รถหลังกดแตรไล่ กว่าจะหลุดพ้นถึงชานเมืองเขาต้องนั่งเก้กหล่อมาตลอดทาง ล้วง แคะ แกะ เกา มากไม่ได้เพราะเหล่าปาปาราสซี่นั้นกดชัตเตอร์กันมือไว ข้างทางมีร้านลาบ น้ำตก ผ่านตาไปหลายร้าน อยากจอดรถลงไปจกข้าวเหนียวแต่ทำไม่ได้ ภาพลักษณ์ของเขาเวลานี้ห้ามเอาไว้ เคยให้ลูกน้องไปซื้อมากินบนอพาร์ตเมนต์หรูก็ดูจะไม่ออกรส เพื่อนเก่าๆก็ไม่ค่อยจะอยากติดต่อกับเขาอีกแล้วด้วยความที่ดูสูงกว่าทำให้เพื่อนๆทำตัวไม่ถูกเวลาไปเที่ยวกับเขา ดูเหมือนว่าเงินทองมากมายจะไม่มีประโยชน์กับทองก้อนในเรื่องเหล่านี้  

    “คิดถึงเหลือเกิน” เขาเพ้อถึงอดีต

    ไม่นานเขาก็ถึงที่พักตากอากาศริมทะเล นักร้องดังสวมวิก แว่นตาดำ และหมวก ใส่ชุดว่ายน้ำออกไปเดินเล่นเลียบหาด ทรายขาวสัมผัสนุ่มที่ฝ่าเท้า อากาศสดๆผ่านเข้าไปเต็มอก นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาได้เป็นส่วนตัวและรู้สึกผ่อนคลายนับตั้งแต่วันที่ชนะการประกวด นักร้องดังทิ้งตัวลงบนเตียงผ้าใบตาก็เริ่มจะปิด

    “น้า น้า !! น้าใช่ทองก้อนหรือเปล่าครับ”เสียงเด็กน้อยทักอยู่ตรงหน้า “ท่าทางเหมือนทองก้อนเลยครับ”

    “อะไรกัน ไอ้หนู จำผิดแล้วไปวิ่งเล่นไกลๆไป”

    “อ้ะ!! เสียงก็เหมือน ต้องใช่แน่ๆ” เขาลุกขึ้นจะเดินหนี

    “ใช่จริงๆด้วย ร้องเพลงแล้วก็เต้นให้ผมดูหน่อยสิ ครับ นะๆๆ”

    ไม่ขอเฉยๆเด็กน้อยเกาะขาเขาแน่นสะบัดก็ไม่หลุด แถมตะโกนเรียกพวกให้มาดูดาราทั้งๆที่ยังเกาะขาเขาอยู่ ชายหนุ่มเหงื่อตก เด็กๆวิ่งกรูกันเข้ามาล้อมพลางยิ้มหัวเราะดีใจที่ได้เจอดารา ผู้คนรอบๆเริ่มสังเกต

    “น้าบอกว่าไม่ใช่ ไม่เห็นหรือไง ทองก้อนเขาไม่ได้ผมยาวแบบนี้”

    “ก็เสียงมันใช่นี่นา”

    เด็กทุกคนพูดแทบพร้อมกัน ชายหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งเด็กๆก็ตามมาพันเข้งพันขา สาวน้อยสาวใหญ่รวมถึงแม่ค้าไก่ย่างริมหาดมองตามเริ่มสงสัยว่าใช่ทองก้อนหรือเปล่า เด็กๆตามไม่เลิกนัวเนียจนเขาล้มตึง ทรายกระจายฟุ้งแว่นกันแดดกระเด็น หมวกไปทาง วิกไปทาง เขายันกายขึ้นเต็มส่วนสัด เป่าทรายออกจากปากมือขยี้ตาลืมตาขึ้น ภาพที่ปรากฏแม่ค้าและบรรดาสาวๆริมหาดมากมายมองตาไม่กระพริบมาที่เขา เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะดาราคนโปรดตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

    ฉับพลันทุกคนที่จ้องมองเขาก็วิ่งกรูกันเข้ามา เขาตะลึงอยู่เสี้ยววินาทีหนึ่งจึงกลับหลังหันออกวิ่งสุดฝีเท้า คลื่นสาวซัดกระหน่ำไล่หลังเขาไปติดๆ

    “โอ้ย!! มันเกิดอะไรขึ้น วิ่งกันทำไม!!”

    “ทองก้อนมา ทองก้อนมา แกไม่ตามไปดูหรอนังแป้ด!!”

    แม่ค้าหยุดตะโกนทักพวกเดียวกันระหว่างทางแล้วออกวิ่งต่อ

    “ไอ้หนู!! แม่ฝากย่างไก่แป้ปนะลูก”

    “ไม่เอาๆหนูไปด้วย!!”ฝูงชนวิ่งกรูกันไปเป็นขบวน  

    มินิมาราธอนหยุดลงเมื่อชายหนุ่มสะดุดขาตัวเองหัวปักทรายอีกครั้ง หลายมือคว้าที่ศีรษะ สัมผัสได้ถึงริมฝีปากที่พรมไปทั่วหน้า เส้นผมหลุดไปหลายเส้น แขนขาถูกรั้งไปมาจนแทบหลุด จุกที่ท้องน้อยสับสำเนียงดังกรอกหูฟังไม่ได้ความ มือไม้ปัดป้องสะเปะสะปะ ผู้คนล้อมจนมองไม่เห็นแสงตะวัน เขาตะโกนขึ้นสุดเสียง

    “พอกันที!!”

    ณ ตึกสูงระฟ้าของสถานีโทรทัศน์ แหงนมองคอตั้งบ่า ตรงหน้าเขาผู้คนร่วมร้อยเข้าแถวรอสมัครกันยาวเหยียด แถวยาวจนล้นออกมาถึงถนน การจราจรคับคั่ง เขาเห็นดังนั้นก็รู้สึกหวั่นใจ กล้าๆกลัวๆ แต่เขามาถึงที่นี่แล้ว เขาหลับตาเป่าลมยาวสองทีแล้วเดินแซงคิวขึ้นไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่รับสมัคร

    “ผมคิดละเอียดถี่ถ้วนแล้วว่า ถ้าผมดังแล้วมันจะเป็นยังไง! ผมไม่เอาหรอก ไม่สมัครแล้ว!!”เสียงดังฟังชัดทองก้อนฉีกใบสมัครทำหน้าเหมือนได้ฉีกบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่และผู้สมัครรายอื่นเผยอปากหันมองหน้ากันเองไปมา  ชายหนุ่มเดินร้องเพลงกลับออกไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

    จากคุณ : JADAKISS - [ 1 มิ.ย. 49 11:46:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป