3
ราวสี่โมงเย็น ครอบครัวของรัฐก็พากันมาที่บ้าน ครอบครัวของว่าที่น้องเขยของฉันมีด้วยกันห้าชีวิต พ่อที่เป็นผู้พิพากษา ดูท่าทางใจดี ตัวอ้วน ๆ ผมบาง ๆ แต่ตางี้คมกริ๊บ แม่เป็นแม่บ้าน ตัวเล็ก ๆ บาง ๆ พูดเสียงเบา ๆ แบบนี้คงถูกแม่ลูกสะใภ้ข่มตายแหง ๆ พี่สาวนายรัฐ เป็นสาวใหญ่ โสด หน้าดุ และทำงานเป็นพยาบาล พี่ชายนายรัฐ (คนนี้สิน่าสนใจ) เป็นตำรวจอยู่ต่างจังหวัด หน้างี้หล่อเชียว คมเข้มแบบหนุ่มไทยแท้ ๆ แหมได้ใจฉันไปเต็ม ๆ เลยล่ะ
งานเริ่มสนุก เมื่อพ่อกับแม่เริ่มลำเลียงอาหารออกมาจากห้องครัว เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (แม่น้องสาวของฉันกระแดะเรียกว่าพั้นช์) รสดีมาก แต่ฤทธิ์ก็แรงมากเช่นกัน พ่อกับผู้พิพากษาดื่มกันอึก ๆ ไม่นานก็ส่อเค้าว่างานนี้มีหวังเมากันเละ
แต่ก็ช่างเหอะ ให้ปล่อยแก่กันสักวันก็แล้วกัน
ฉันไปนั่งปักหลักอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนสีเจ็บหลังบ้าน และไม่นานเหยื่อ...เอ๊ย ! คุณตำรวจรูปงามนามรามก็เดินยิ้มเข้ามาหาฉันพร้อมพั้นช์สีชมพูสองแก้วในมือ
คุยไปคุยมา แหม้...มันถูกคอพิลึก คุณรามเป็นตำรวจที่มีอารมณ์ขันเกินคาด เขาเล่าเรื่องขำ ๆ เปิ่น ๆ ในการตามจับผู้ร้ายให้ฉันฟังจนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง
แหม...กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม แม่ก็เข้ามาสะกิดฉัน
"มีเพื่อนมาหาวาดแน่ะ"
ฉันอารมณ์เสียเล็กน้อยเมื่อถูกขัดจังหวะ แต่...ก็อยากรู้นิด ๆ เหมือนกันว่าใครกันน้าที่มาหาฉัน
คุณดำยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าบ้าน พร้อมเค้กสีชมพูรูปสตอเบอร์รี่ที่ไม่รู้ว่าเขากล้าถืออยู่ได้ยังไง มันไม่ได้เข้ากับใบหน้าเล้ย
ดูท่าทางเจ้าตัวจะรู้ตัวเหมือนกัน เพราะคุณดำยิ้มแบบเขินสุด ๆ เมื่อยื่นเค้กก้อนใหญ่ให้ฉัน
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ"
ฉันรับเค้กก้อนใหญ่มาส่งต่อให้แม่ที่เดินตามมาดูเพื่อนหน้าแปลกของฉัน
"สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่วาด"
น้ำผึ้งกับเปรี้ยวสองสาวเพื่อนซี้ที่เคยไปเที่ยวด้วยกันตอนสงกรานต์ อวยพรให้ฉัน พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่นักให้
จากนั้นฉันก็ต้องเชื้อเชิญเขาและแม่สองสาวดาวเต้นเข้าไปในบ้าน เอาเหอะ...ไหน ๆ ก็อุตส่าห์เอาของขวัญมาให้ทั้งที ก็เลี้ยง ๆ มันสักหน่อย แล้วค่อยไล่กลับก็แล้วกัน
แต่แล้วแม่สองสาวจอมจุ้นก็ทำเอาความรื่นเริงของฉันหายวับไปกับสายลม เมื่อนังชะนีทั้งสองพากันเกาะคุณรามของฉันแจ
ฮึ ! คนงามอย่างฉันล่ะเกลียดนักกับการที่ต้องไปแข่งชิงดีชิงเด่นแย่งผู้ชายกับใคร ดังนั้น ฉันจึงตั้งใจแยกตัวออกมาจากงานเลี้ยง มายืนพิงเสา มองสองชะนีแย่งกันดึงคุณรามไปทางโน้นทีทางนี้ที
แย่ที่สุดที่คุณรามก็ดูคล้ายจะพออกพอใจกับการมีสาว ๆ ที่ไม่สวยนักประกบซ้าย ประกบขวา เขาจึงไม่ตามมาอี๋อ๋อฉันอย่างที่ฉันคาดเอาไว้
คนอะไรวะ เห็นปริมาณ สำคัญกว่าคุณภาพ เซ็งเลย !
"นี่พี่วาด คุณดำน่ะ...แฟนพี่เหรอ"
คำถามเบา ๆ ของแม่ปิ่นปักทำเอาฉันถึงกับสำลักพั้นช์
"จะบ้าเรอะ ดำ...ขนาดนั้น"
คำปฏิเสธของฉันก็ทำให้น้องสาวถอนหายใจอย่างแรง
"ดำดีสีไม่ตกไงพี่วาด ปิ่นดูเค้าก็ดีนะ สุภาพเรียบร้อย แถมยังเข้ากับพ่อแม่ได้ดีอีก แหม...นึกว่าพี่วาดพาแฟนมาฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อแม่เสียอีก"
ฉันสะบัดหน้าไปมองคนตัวโตยังกะตึก นั่งบีบเนื้อบีบตัว คุยกับพ่อและแม่อย่างขวาง ๆ
คนบ้า ! เพราะดันมาวันรวมญาติ ก็เลยถูกเข้าใจผิดเลย อี๋...ถึงฉันจะยอมรับว่าคุณดำนิสัยดีก็จริง แต่...ถึงยังไง ๆ หน้าตาก็ไม่ผ่านนะยะ
ความเซ็งจากคุณรามบวกคุณดำ ทำให้ฉันแทบจะเกาะขอบอ่างพั้นช์ที่ยิ่งกินก็ยิ่งหอม หวาน อร่อย กว่าจะรู้ฤทธิ์ของมัน ก็ปาเข้าไปตอนเช้าของอีกวัน เมื่อฉันตื่นขึ้นมาโดยยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม หน้าตาไม่ได้ล้าง (กรี๊ด ๆ ลืมได้ไง ดีนะที่สิวไม่ขึ้น) แถมยังนอนกอดตุ๊กตาน่าเกลี๊ยดน่าเกลียด ที่หลังจากถีบมันลงไปนอนเอ้งแม๊งข้างล่างเตียงแล้ว ถึงได้รู้ว่ามันคือตุ๊กตารูปมด...มดดำ
โอ๋ย...ขนแขนนี่สแตนอัพเลย ก็ความฝันเรื่องมดดำมันรุมกัดยังฝังอยู่ในหัวเลยนี่นา
ความทรงจำที่มึนงง และสับสน ถูกแม่น้องสาวที่เมื่อคืนมานอนค้างกับฉันเรียบเรียงให้ฟัง...ดังนี้
หลังจากที่ฉันดื่มไอ้พั้นช์สีสวยเข้าไปเสียครึ่งอ่าง ก็เริ่มเซแซ่ด ๆ เข้าไปจิกคุณรามที่ถูกสองสาวผลัดกันป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่ไปร้องคาราโอเกะ
ฉันร้องผิดก็หันไปอาละวาดใส่คุณราม จนคุณดำต้องเข้ามาช่วยกันคุณรามออกไปจากการถูกฉันซ้อม !
จากนั้นฉันก็เลยจิกคุณดำไปแด๊นส์แบบนอนสต๊อปที่ฟลอร์ แต่แด๊นส์อีท่าไหนก็ไม่รู้ จู่ ๆ ฉันก็หลับไปทั้งอย่างนั้น
"โอ้ย ! หลับคาไหล่คุณดำเลยล่ะ น้ำลายงี้ยืดเปียกไหล่คุณดำ จนทุกคนหัวเราะขำกันใหญ่เลย"
ไม่จริ๊ง ! เป็นไปไม่ได้ คนสวยอย่างฉันไม่มีวันนอนหลับน้ำลายยืดเด็ดขาด ยายปิ่นมันคงแอบอำฉันเล่นแน่ ๆ เชียว ร้ายนะยะ นังน้องเวลลลลล
จากนั้นคุณดำกับปิ่นก็ช่วยกันพยุงร่างงาม ๆ ของฉันมานอนที่ห้อง
คุณดำไปเอาตุ๊กตามดดำมาให้ฉัน และฝากกล่องของขวัญกล่องน้อย ๆ ที่มีการ์ดสีนวล เขียนด้วยลายมือของคุณพีเอาไว้ว่า
'สำหรับคุณวาดครับ'
ฉันไม่รอรี รีบแกะกล่องของขวัญออก แล้วก็แทบจะร้องกรี๊ด เมื่อสิ่งที่อยู่ในกล่องเป็นสร้อยทองพร้อมจี้กลม ๆ ฝังเพชรที่ดูยังไง ๆ ก็ไม่ใช่ของเก๊
ต๊าย...ให้ของแพงขนาดนี้ อ่อยเหยื่อล่อปลาน้อยอย่างฉันล่ะสิ
"โห...นี่ต้องของขวัญจากแฟนพี่วาดแน่ ๆ เชียว ถึงได้ยิ้มแก้มแทบปริขนาดนี้"
ไม่บอก...เรื่องแบบนี้ มันบอกกันโต้ง ๆ ไม่ได้หรอก เราเป็นสาวไทยต้องมีความเอียงอายอยู่ในสันดาน
รออีกสักนิดเถอะ แม่จะประกาศแต่งงานกับคุณพีกลางงานแต่งของยายปิ่นให้ดู๊
- - - - - - - - - -
ก.ย. 46
เบื่อ ! เบื่อเหลือเกิน เบื่อกับไอ้อาการท่ามากของคุณพีเสียเหลือเกิน
ไอ้สร้อยกับจี้แสนสวยนั่นไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณพีก้าวหน้าขึ้นเลย
ที่จริง...มันถอยหลังเข้าคลองเสียด้วยซ้ำ
จากที่เคยดี๊ด๊า เกี่ยวก้อยไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน บัดนี้กลับมียายดิวคอยมาฉกคุณพีไปทานข้าวก่อนหน้าฉันทุกที
ปากของฉันคันคะเยอ อยากจะบอกคุณพีเสียเหลือเกิน ว่าคุณพีน่ะดีเกินกว่าแม่เพื่อนสะโพกใบไม้ไหวของฉัน
"อย่าห่วงเลยครับ คุณพีไม่ใช่คนโง่ เค้าดูคนออก"
คุณดำว่างั้น ตอนที่ฉันปรึกษาเรื่องนี้กับเขาในร้านอาหารร้านประจำของพวกเรา
"แต่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ แบบนี้...รักแท้น่ะแพ้ใกล้ชิดนะคะ อีกอย่าง...ดิวก็ไม่ใช่คนขี้เหร่ บ้านรึก็รวย ถ้ามองจากภายนอกล่ะก็เหมาะกับคุณพีทุกอย่างเลย"
คุณดำมองหน้าฉันแปลก ๆ ก่อนจะพูดคำคมออกมายืดยาว
"เวลาเราจะรักใครสักคน เราไม่ดูหน้าตาหรือว่าสมบัติที่ติดตัวมากับคนที่เรารักหรอกครับ ถ้าคิดสะระตะถี่ถ้วนแบบนั้น มันเรียกว่ารักไม่ได้หรอกครับ น่าจะเรียกว่าเหมาะสมกันมากกว่า คนเรา...น่าจะรักกันเพราะรักนะครับ"
"คุณก็พูดง่ายนะ คุณลืมไปรึเปล่าว่าเรายังอยู่ในสังคม คุณกล้าควงคนหน้าผีไปไหนต่อไหน กล้าประกาศว่าผู้หญิงตัวเหม็น ฟันหรอ หัวเถิกว่าเป็นแฟนคุณเหรอ"
"ถ้าผมรัก...ผมก็กล้า"
"ขี้โม้"
"ถ้าผมรักผู้หญิงขี้ริ้วขี้เหร่คนหนึ่ง ก็แน่ใจได้เลย ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมีจิตใจที่ดีงาม เพียบพร้อม ทดแทนหน้าตาที่...อาจจะไม่ดีพอได้"
คนมันคนละความคิดกันน่ะนะ สำหรับคนอย่างฉันที่เป็นมิสเพอร์เฟ็คท์มาตลอดชีวิต คนที่จะมายืนเคียงข้างฉันจากนี้ไปจนแก่เฒ่า ต้องดีพร้อม และเท่าเทียมกันสิถึงจะคู่ควร
แต่สำหรับคนอย่างเขา...ไม่หล่ออยู่แล้วนี่ จะหยิบ ๆ ฉก ๆ ใครมาควงก็ไม่ทำให้เขามีสง่าราศีขึ้นมาได้ร๊อก
เมื่อต่างคนต่างความคิดแบบนี้ ก็เลยหมดเรื่องคุยกันแค่นั้น
- - - - - - - - - -
ต.ค. 46
จะบ้าตาย ! จะบ้าต๊ายยยยย
เดือนหน้าฉันจะต้องไปงานแต่งแม่น้องสาวจอมแสบอยู่แล้วเชียว แต่แล้วฉันกลับต้องมาตรวจงานที่คอนโดใหม่กับคุณพี
รู้แบบนี้นั่งทำงานบัญชีอยู่ที่ฝ่ายบัญชีแบบเดิมน่าจะดีกว่า ย้ายมาเป็นเลขาคุณพี ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด (นอกจากได้เงินเดือนขึ้นน่ะนะ)
เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างเลขากับเจ้านายน่ะ ลืมได้เลย ! คุณพีถูกยายดิวสอยไปเชยชมเรียบร้อยแล้ว
ให้ดิ้นตายสิเอ้า นี่ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเลขาคุณพีแล้วต้องถูกลากมาตรวจงานนอกสถานที่ด้วยแบบนี้ ต่อให้จ้างแพงกว่านี้ให้ก็ไม่เอา !
ฮือ...ฮือ...แง...แง ผิวขาว ๆ ของฉัน ต้องมาถูกแดดเลียเสียจนดำเป็นเหนียง ไอ้หมวกเซฟตี้ (ก็แค่หมวกกันน็อกธรรมดา ๆ นี่แหละ สะเออะเรียกซะเก๋เชียว) บ้านี่ก็เม๊นเหม็น เหงื่อบ้าก็ไม่รู้มาจากไหนนักหนา ไหลเปียกลงไปจนถึงกางเกงลิงเลยล่ะ
โอ๊ย !...ยิ่งร้อนก็ยิ่งอารมณ์เสีย
"ผมว่าคุณวาดไปนั่งพักที่สำนักงานขายจะดีกว่ามั้ยครับ"
คุณดำอาจจะพูดด้วยความหวังดี แต่สำหรับฉัน มันดูถูกกันสุด ๆ เลย
แม้จะไม่เต็มใจ และไม่ชอบใจ (อย่างยิ่ง) ที่ต้องมาตากแดดเป็นเนื้อแดดเดียวแบบนี้ แต่ฉันก็มีสปิริตของเลขาที่ดีเต็มเปี่ยม ยังไง ๆ ก็ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างดีที่สุดย่ะ
ฉะนั้นฉันจึงปฏิเสธที่จะไปนั่งสบาย ๆ ตากแอร์ในสำนักงาน แต่มายืนตากแดดตัวแดง ตามคุณพีและคุณดำต้อย ๆ
นี่ถ้ารู้ว่าดื้อแล้วจะเกิดเรื่องนะ จะไม่ดื้อเล้ย
เพราะความร้อน เสียเหงื่อไปเยอะ บวกกับการขึ้นไปอยู่บนชั้นสิบห้าที่มีเพียงเสาโด่เด่ ไม่มีผนังหรือระเบียงเลยสักนิด แถมลมก็พัดแรงเสียจนตัวฉันแทบปลิว มันทำให้ใจฉันหวิว ๆ อยู่สักพัก ก่อนจะวูบไปเลย
มารู้ตัวอีกที ก็นอนอยู่บนเตียงในห้องตัวอย่างของคอนโดนี้เสียแล้ว
เตียงนิ่ม ๆ แอร์เย็น ๆ ทำให้ฉันนอนหลับตานิ่ง แม้จะตื่นเต็มที่แล้ว
"บอกแล้วว่าไม่ควรให้คุณวาดมา ทำไมคุณพีถึงไม่ยอมเชื่อพี่"
"ก็ผมอยากเปิดโอกาสให้พี่ดำบ้างไง ชอบเค้าไม่ใช่เหรอ"
กรี๊ด...กรี๊ด...กรี๊ด นี่คุณพีกับคุณดำกำลังพูดเรื่องของฉันแน่ ๆ ฉันเงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์
"ชอบแล้วยังไง คุณวาดเค้าชอบคุณพี เค้าไม่เคยแลพี่เลยสักนิด"
อ้าว...นี่คุณดำรู้ด้วยเหรอว่าฉันแอบปิ๊งคุณพี ...ก็ดี รู้ก็ดีจะได้ไม่ฝันเฟื่อง
"ใจเย็น ๆ เถอะพี่ดำ คุณวาดเธอไม่ใช่คนโง่ สักวัน..."
"วันนั้นคงไม่มีทางมาถึง"
ใจฉันวิบ ๆ ไหว ๆ ชอบกล เมื่อได้ยินเสียงระทดระท้อของคุณดำ
แหม...หมายปองของสูงก็แบบนี้แหละ เวลาเจ็บก็ต้องเจ็บหนักเป็นธรรมดา
"คุณวาด...เค้า...มีคนรักแล้ว..."
หา...ฉันไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ !
"แฟนเค้าเป็นนายตำรวจ รูปหล่อ มีอนาคตไกล บ้านนั้น...เค้าคงหวังจะให้ดองกันสองชั้นล่ะมั้ง"
อ๋อ...เค้าคงหมายถึงคุณรามล่ะมั้ง บ้าจริง ! มันใช่ที่ไหนกันล่ะ ถึงฉันกับคุณรามจะปิ๊งปั๊งกันพอสมควร แต่...ระยะทางที่ห่างไกล ก็ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ในความสัมพันธ์ของเราย่ะ !
- - - - - - - - - -
จากคุณ :
(liz)
- [
6 มิ.ย. 49 23:10:19
]