ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับ   เปิดกระทู้  “พระเจ้าแผ่นดิน”  เพื่อให้พวกเราได้ร่วมกันถวายพระพรชัยมงคล ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี   ตามที่เคยเขียนกันมาคือไม่จำกัดประเภทบทร้อยกรอง  กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ท่านที่เขียนโคลงดีอยู่แล้วถ้าว่างก็โปรดแวะเวียนมาเยี่ยมด้วยการฝากอักษรกลอนโคลง ไว้ด้วยจักขอบคุณมาก   ผมเองระยะนี้ก็ได้แต่โผล่มาอ่านผ่าน ๆ แล้วก็ไป  เพราะงาน ท่วมหัวต้องคอยเอาตัวรอดไปวัน ๆ   ปล่อยให้ชาวโคลงรุ่นใหม่ เช่นคุณจันทร์แห้ง คุณ(ท่าน)เซ่อร์   เจียวต้าย  จำปูน  โกฏิดารา   ณ  มิตร  ฯลฯ  เฝ้าอาศรมไปพลาง ๆ ทำไปทำมาท่านเหล่านี้เขียนโคลงดีกว่าผมเยอะ   และก็ดีกว่าใคร ๆ ที่ไม่ยอมเขียน ท่านที่บังเอิญผ่านมาและอยากฝึกเขียนโคลงสี่สุภาพบ้าง  อาศรมชาวโคลงยินดีต้อนรับ เสมอ  เขียนโ คลงกลอนมาลงได้เลย  ถ้าอยากให้แนะนำพื้นฐานฉันทลักษณ์เบื้องต้น ก็บอกมาเลย  มีพ่อเฒ่าแม่เฒ่าชาวโคลงคอยอ่านและแนะแนวได้บ้าง อีกเรื่องที่เกรงใจมาก  แต่ก็จะต้องบอกกล่าวกันไว้  คือช่วยกันเขียนภาษาสะกดคำให้ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทโคลงกลอน    เวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกันจะใช้ภาษาพูด เพื่อความสนุกและเป็นกันเองก็ดีอยู่แล้ว    เขียนผิดไม่เป็นไรครับ  ขอให้ย้อนกลับมาแก้ไข ให้ถูกก็แล้วกัน   จะเป็นชาวโคลงก็ต้องใช้ภาษาให้เป็นตัวอย่างแก่เด็ก ๆ ด้วย  พจนานุกรม นี่มีไว้ข้างตัวทั้งที่บ้านและที่ทำงานดีที่สุด  เพราะผมเองก็ผิดพลาดบ่อยมากเหมือนกัน คุยกันแค่นี้ก่อนครับ  นาน  ๆ  เปิดกระทู้สักครั้ง  ออกจะงงนึกอะไรไม่ออก LINK  อาศรมชาวโคลง ๑๖๖  ลิลิตลออรอรัก   http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4368531/W4368531.html จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 8 มิ.ย. 49 17:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : ปฤษณะ - [ 8 มิ.ย. 49 18:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๏ สุข ใดเทียบเท่าไซร้          ไป่มี สุข จากพระภูมี                   ท่านให้ สุข ยิ่งเพิ่มพูนทวี                 ทุกเมื่อ สุข เมื่อเฝ้าอยู่ใกล้               ชิดฟ้าฝ่าละออง  ๚ ๏ บูรพกษัตริยเจ้า                 อัญเชิญ ปกปักไท้จำเริญ                   จรัสฟ้า เสวยสุขทุกวันเทอญ              เจริญสิริ- สวัสดิ์แฮ ข้าพระบาทราษฎร์ทั่วหล้า       เทิดไท้ถวายพระพร ๚ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 49 00:46:51 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 9 มิ.ย. 49 00:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ๏ ดินพร้อมจะหอมกรุ่น เพราะพิรุณจะโปรยปราย ฝนหลวงจะร่วงราย ธ ผดุง ณ ทุ่งทอง ๏ ด้วยน้ำพระทัยท่าน มุทำงานมิเมินมอง ช่วยชาวประชาผอง ก็เพราะห่วง ณ ปวงชน ๏ ภาคไหนประสบทุกข์ ธ ขจัดและสู้ทน กรำแดดและหยาดฝน สละกายมิหน่ายท้อ ๏ ทั้งทรงพระดำรัส วิเคราะห์ตรัสคำ“เพียงพอ” ปรัชญาวิเศษหนอ ดุจะล้ำพระธรรมา ๏ ข้าฯขอประณตน้อม ศิระค้อมพระบาทา กราบยังพระราชา ธ เกษมนิรันดร์เทอญ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : แม่จิตร - [ 9 มิ.ย. 49 00:12:19 A:192.168.201.247 X:192.168.201.247, 61.90.165.52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กราบพระบาทในหลวงของปวงชน พระคุณล้นเหนือเกล้า ฯ สุดกล่าวไหว ขอพระองค์ทรงพระเจริญเนิ่นนานไป เหนือกษัตริย์พระองค์ใดในโลกเอย. ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ฯ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 9 มิ.ย. 49 20:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มหามิ่ง มงคลวาร กาลสมัย พระครองไทย ครองภพ บรรจบศรี ธ สถิตย์ เป็นมิ่งขวัญ ประชาชี หกสิบปี ร่มโพธิ์ทอง ของปวงชน ร่วมตั้งจิต อธิษฐาน เพื่อผ่านฟ้า ร่วมเป็นข้า ที่จงรัก ภักดีผล ร่วมตั้งใจ ทำความดี ทั่วทุกคน น้อมกมล ถวายพระองค์ ทรงพระเจริญ ๚ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 9 มิ.ย. 49 21:46:32 A:61.19.65.218 X: TicketID:011762 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอถวายพระพร กษัตริยาธิราชแห่งชาติศยาม จงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน. พระพุทธเจ้าข้า ขอรับ. แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 49 16:17:59 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 9 มิ.ย. 49 23:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 .                                        สวัสดีครับทุกท่าน -- ทรงพระเจริญ -- ๏ หยดใสใหลหยาดปลื้ม         ปรีดา โถมถั่งประดังมา                   จากบึ้ง เพียงดำรัสพจนา                   พระองค์เอ่ย สดับรสพจนซึ้ง                     สู่ห้วงดวงใจ ๚ ๏ ยามพระองค์ทรงยิ้มอย่าง      สุขสันต์ ราวโลกทั้งโลกพลัน                หมดเศร้า ราวแดนที่เสด็จบรร-                เทาทุกข์ ชาวประชายิ้มเคล้า                  สุขสันต์ ๚ ๏ ขอถวายรักพร้อม               สมัครสมาน หมายมัดรัดประสาน                แน่นแฟ้น ในปีครบรอบการ                    ครองราชย์ หกสิบปีสืบแคว้น                    แห่งนี้แดนสยาม ๚ ดีครับ พี่(ครู)คัมภีร์ฯ ไม่ต้องเรียกผมว่าท่าน ก็ได้ครับ เป็น เซ่อ เซอร์ เซ่อร์ เฉยๆก็พอครับ หลายวันที่ผ่านมาได้อ่านทั้งบทความ บทกวี หรือได้ไปเที่ยวงาน ที่เกี่ยวกับในหลวง ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ที่น่าปลาบปลื้ม ได้อ่าน ได้ฟัง ได้ดู แล้วน้ำตาพาลจะใหล ยิ่งเห็นในทีวี แค่รถพระที่นั่งแล่นผ่าน ฝูงชน มีหลายคนร้องให้ น่าตื้นตันยิ่งครับ เซ่อ... น้อมบันทึก -------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 49 02:00:39 จากคุณ : xers - [ 10 มิ.ย. 49 01:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : สัมผัสรักในใจเรา - [ 10 มิ.ย. 49 13:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีขอรับทั่นพี่คัมภีร์โบราญและมิตรชาวอาศรมทุกท่าน เชิญชวนชาวเรามาเขียนร้อยกรองฝากไว้ให้เป็นที่ร่มใจ ของชาวไทย ในวโรกาศครบ60ปีมหาราชอันเป็นดวงใจของชาวไทยและชาวเทศ เถิดครับ รวบรวมมาไว้จากกระทู้ของพี่จำปูนครับ       ๏น้อมเกศราบกราบไท้       เทิดทูน องค์เอกมหาราชจำรูญ            จำรัสหล้า รัชกาลที่เก้ากูล                     เกื้อราษฎร์  รักษ์เฮย พระเกียรติเฟื่องฟุ้งฟ้า             ฟ่องหาว๚ ร่ายสุภาพ ประพันธ์ประพจน์แพร้ว   เพริศพริ้งแก้วกู่ขาน  ขนานครบหกสิบปี   ศรีมหาราชราชัน   อนันต์รักษ์ราษฎรดล  ภูมิพลอดุลยเดช   กรานเกศราบกราบไท้   สยามยศเรื้องเรืองไซร้   สวัสดิ์สร้องสรรค์เสริญ ธ.เฮยฯ โคลงสอง ย้อยยศมิหมดแล้ว      คุณพระมหิสารแพร้ว สรรพสิ้นกาลนาน     เนิ่นเฮยฯ รักชาติศาสตร์กษัตริย์เพี้ยง           อาจชีพพลีถวายเธี้ยร ธ.ไท้มหาราช     สยามเฮยฯ รักไหนให้อุ่นเอื้อ                       สุดเอ่ยคุณพ่ออะเคื้อ อะคร้าวขจรด้าว     ดินเฮยฯ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 49 20:57:19 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 49 07:10:55 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 มิ.ย. 49 06:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในวาระอันเป็นมิ่งมงคล ครบรอบ ๖๐ ปี การครองสิริราชสมบัติ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ผมมีความปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้น แต่ก็เขียนบทร้อยกรองออกมาได้ เพียงแค่ความเห็นที่ ๕ เท่านั้น อยากให้เพื่อนได้รู้สึกปิติยินดีเช่นเดียวกัน จึงขอเชิญไปที่ กระทู้นอกเรื่อง ครับ. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4443433/W4443433.html จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 มิ.ย. 49 11:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ๏ นารายณ์จำหลักล้ำ..........เลออง- อาจเฮย ครุฑยุดนาคทรวดทรง.........สง่าแท้ ลายทองล่องชาดผจง.........กระจกแต่ง ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้................เลิศริ้วปลิวงาม ๚   ๏ นารายณ์หมายเทียบไท้-...สยามินทร์ ทรงครุฑดุจเสด็จดิน-..........ถิ่นแคว้น พระเกียรติแห่งพระจักริน.....ขจัดทุกข์- เข็ญนา ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น....เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚   ๏ บารมี ธ เลิศหล้า.............เลอสรวง ทศพิธราชธรรมปวง............เปี่ยมล้น ทรงวิวรรธน์ประดุจดวง........ดาวฤกษ์ พระอัจฉริยภาพพ้น............พรั่งพร้อมบุญญา ๚   ๏ ทรงเสด็จครองราชย์ด้วย..ราชธรรม์ พระราชกรณียกิจอัน...........สฤษฏ์แล้ บังเกิดซึ่งคุณมหันต์............แก่ราษฎร์ ดับทุกข์สร้างสุขแท้............ทั่วหล้าสุขสราญ ๚ะ๛ จากคุณ : จังงัง - [ 11 มิ.ย. 49 22:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ เปิดกระทู้แล้วปล่อยไว้ให้ท่านร่วมกระทู้กันตามแต่ที่จะมีโอกาสแวะเวียนเข้ามา เพราะเป็นช่วงระยะเวลาที่พวกเราทุกคนตั้งใจจะถวายพระพรชัยมงคลแด่ในหลวง ขอบคุณ เจียวต้าย (11) ที่มาแจ้งถึงกระทู้แห่งความปีติอันท่วมท้นของเรา ผมได้โทร.ไปคุยกับเพื่อน ๆ หลายคนที่ดูการถ่ายทอดจากโทรทัศน์ แล้วก็ออกจะ ตื้นตันใจในการถ่ายทอดความรู้สึกแก่กันและกัน  น้ำตาแห่งความสุขความปลื้มปีติ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันทุกคน   อยู่ในกรุงเทพฯ มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลองงานครองราชย์ ๖๐ ปี ได้มากมายหลายงาน ที่ผมได้โอกาสได้ใช้กล้องถ่ายรูปงานหนื่งคือการจดพลุและชมการฝึกซ้อมขบวนเรือ พระราชพิธี  ยังไม่มีเวลาไปหากาพย์เห่เรือฉบับสมบูรณ์ที่จะใช้เห่เรือในงานคราวนี้ มาลงให้อ่าน  ถ้าใครมีกรุณาเอามาลงด้วยครับ วันนี้คงไม่ไปไหน  จะรอดูการถ่ายทอดสดพระราชพิธีต่าง ๆ  น่าจะเข้ามาเปิดห้องรับ แขกต้อนรับเพื่อน ๆ ชาวโคลงกลอนได้บ้าง ภาพพลุที่สวนเบญจกิตติ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 07:48:53 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 12 มิ.ย. 49 07:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นอกจากโคลงถวายพระพรแล้ว บทโคลงอื่น ๆ ก็ส่งมาลงได้เช่นกัน ใครมีภาพ ที่เกี่ยวเนื่องในงานครองสิริราชสมบัติ ๖๐ ปี       ก็เชิญส่งมาลงแบ่งกันชมครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องสวยไม่สวย  ขอให้เป็นภาพที่เราถ่ายเอง หรือภาพที่ไม่ละเมิด ลิขสิทธิ์ก็แล้วกัน โคลงถวายพระพรนั้นมีผู้เขียนกันมากมาย  แม้แต่ในถนนนักเขียนกลุ่มบทกวีก็ มีหลายกระทู้ คงจะแวะเข้าไปเยี่ยมอ่านในโอกาสต่อไป  ถ้าลองมองภาพกว้าง ก็จะเห็นว่าการเขียนโคลงถวายพระพรมีสองแบบใหญ่ ๆ   แบบแรกการเขียนค่อนข้างจะเป็นทางการ  การเดินเรื่อง  การใช้ศัพท์   การนำไป ใช้ในหนังสือหรือในเวบฯ ต่าง ๆ เช่นเวบไซต์พันทิพซึ่งเขียนโดยคุณศาลาไทย   ก็จะมีลักษณะที่เป็นโคลงศักดิ์สิทธิ์  อ่านแล้วให้ความรู้สึกสูงส่ง  มีความขลัง ซึ่งการใช้ภาษาก็จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย อีกแบบเป็นการเขียนโดยการถ่ายทอดความรู้สึก เช่นโคลงเปิดกระทู้ครั้งนี้เขียน โดยอาศัยที่ได้ฟังความรู้สึกของราษฎรทีมีต่อในหลวงจากทางโทรทัศน์ และความ รู้สึกของตัวเองในฐานะไพร่ฟ้าประชาชนคนหนึ่งที่มีความรักต่อพระเจ้าแผ่นดิน ทีนี้ลองกลับไปย้อนอ่านบทร้อยกรองต่าง ๆ ในกระทู้นี้แต่ต้นแล้วลองพิจารณาดู ว่าบทไหนเขียนในแบบโคลงกวีราชสำนัก   บทไหนเขียนแบบโคลงกวีชาวบ้าน ภาพพลุที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 08:25:46 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 12 มิ.ย. 49 08:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๏ สุดดินทั่วถิ่นแคว้น            แดนไทย ออกตกเหนือใต้ไกล            สุดหล้า ราบลุ่มละหานไพร               เขาโขด มิเหนื่อยมิเมื่อยล้า               เสด็จด้วยหทัยหมาย ๚ ๏ หมายใจไทยอยู่ด้วย          โดยตน เศรษฐกิจพอเพียงผล            เกิดได้ ความลำบากยากจน              อุปสรรค จักพ่ายแพ้แน่ไซร้                หมั่นย้ำทำกิน  ๚ะ๛     แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 08:32:36 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 12 มิ.ย. 49 08:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แวะมาทักทายอาศรมชาวโคลงในวันวุ่น ๆ อีกวัน  ชอบชื่ออาศรมฯ คราวนี้  เข้าใจง่ายดี  "พระเจ้าแผ่นดิน" จำได้ว่าสมัยเด็ก  เรียนวิชาภาษาไทยครูให้แปลคำศัพท์ที่มาจากบาลีสันสกฤตให้เข้าใจได้โดยง่าย ศาลาไทยแปลว่าคำ  บดินทร์  ว่า  พระราชา  ครูบอกว่า พระราชาก็ยังต้องแปลอีก ให้แปลว่า พระเจ้าแผ่นดิน ทักทาย  เฮียคัมฯ คนตั้งกระทู้ที่แอบหนีเที่ยวไปด้วย  แต่ก็ยังใจดีถ่ายรูปพลุสวย ๆ มาฝากกัน พักนี้ศาลาไทยวิ่งวุ่นไปกลับโชคชัยสี่-พุทธมณฑลสายสอง  เล่นเอาเหนื่อยน่าดูชม  แต่ก็สนุกดีค่ะ สวัสดีท่านอื่น ๆ ด้วย ทั้ง คุณปฤษณะ  คุณจำปูน (อ่างหยก)  คุณแม่จิตร  ป๋าเจียวต้าย  พี่หญิง-ซอมพอแดง คุณพจนารถ๓๒๒  พี่ xers  คุณสัมผัสรักในใจเรา  คุณอาจันทร์แห้ง หวานใจจังงัง ชอบงานที่เขียนคราวนี้ทุกชิ้น  เพราะงานที่เขียนจากใจทุกชิ้น  คนอ่านจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดนั้น ไม่ว่างานชิ้นนั้นจะดีหรือด้อยในแง่ฉันทลักษณ์ก็ตาม  อย่างน้อยก็มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับคนเขียนที่ได้ถ่ายทอดออกมา ศาลาไทยเขียนบทอาเศียรวาททุกปี  จนโดนพี่หมอโมโนแซวมาหลายที  ว่าจะทำเป็นแคตตาล็อกไว้ให้เลือกได้ ๏ สองพระหัตถ์ ธ ช่วยช้อน        ชูไทย สองพระบาทยาตรเยือนใน         ถิ่นหล้า สองพระเนตรทอดยาวไกล         สุขทุกข์  ประชาเฮย นวมราชร่มฉัตรฟ้า                      ปกคุ้มไผทสยาม ๚ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                      . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 มิ.ย. 49 11:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้ใครไปดูเรือพระราชพิธี  อย่าลืมถ่ายรูปมาฝากกันนะคะ อ่านที่เฮียคัมฯ เขียนถึง  "กวีราชสำนัก"  และ  "กวีชาวบ้าน" แล้ว เลยถือโอกาสส่งข่าว  "งานบุญ"  อีกงาน  เป็นกิจกรรมของโครงการสถาบันสุวรรณภูมิ กระทู้ที่หน้าห้องสมุด http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4446338/K4446338.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -         แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 08:13:45 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 11:10:28 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 มิ.ย. 49 11:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สุนทรภู่ท่านเป็น "มหากวี" ที่ใกล้ชิดราชสำนักถึงสี่แผ่นดิน ใครเคยไปวัดเทพธิดาราม  แล้วแวะชมกุฏิสุนทรภู่บ้าง ? - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -         แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 08:14:04 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 มิ.ย. 49 11:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าภาพผ้าป่าวรรณคดีคราวนี้  ก็มีรายนามอย่างที่เห็น แวะมาชักชวนเพื่อน ๆ อาศรมชาวโคลงไปร่วมกิจกรรมกันค่ะ แว่ว ๆ ว่า  จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับสุนทรภู่  อย่างต่อเนื่องที่วัดเทพธิดารามด้วยค่ะ ป.ล.  กระทู้พระเจ้าแผ่นดิน  แวะส่งข่าวเรื่อง  สุนทรภู่  กวีที่รับใช้พระเจ้าแผ่นดิน  คงไม่ว่ากัน - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -         จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 มิ.ย. 49 11:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   ๏  ธ จุติจากฟ้า ..................ดุสิต เปรียบประดุจอมฤต .........เลิศล้น อุบัติพรั่งทาบสถิต .............ปฐพี...สยามเฮย เย็นเยือกอุระพ้น............. พร่างแพร้วโพธิฉาย ๚ะ๛ ๏ ลุหกสิบวษา ณ ครานี้ เย็นยะเยือกปฐพีมิรู้หาย สะพรั่งพร้อมบารมีโพธิ์ประกาย พระเมตตากรุ่นกำจายฉาบโลกา ๚ ๏ ซึ้งนักซึ้งในฤทัยพสก ยากจะยกองค์ใดในโลกหล้า ขึ้นเทียบเทียมพระมิ่งภพภูมิพลา พสกนิกรพร้อมหน้า..ถวายพระพร  ๚ะ๛ ๏ เนื่องในอภิลักขิตสมัย ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลมหาราชทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัย ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน๚ะ๛ ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ประพันธ์ ในนาม ทิกิ_tiki จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 มิ.ย. 49 19:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ๏ ราชอาคันตุกะพร้อม          เฝ้าแหน ยุโรปเอเชียแดน                  สุดโพ้น แอฟริกาแพน                      แปซิฟิก ไกลห่างถึงฟากโน้น              ร่วมน้ำพระทัยถึง ๚ ๏ ทุกพระองค์ซาบซึ้ง            พระหฤทัย ยอพระเกียรติภูวไนย             ที่เก้า พระราชกิจเกริกไกร              โลกเทิด ทูนแฮ ถวายพระพรล้นเกล้า             รุ่งเรื้องนิรันดร์สมัย ๚ะ๛ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 12 มิ.ย. 49 21:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พระ คุณ ธ มากพ้น                                                   พรรณนา เจ้า ปกครองทุกสา-                                                  รทิศพร้อม แผ่น ดินหลากทวีปมา                                               ถวายพระ- พรเฮย ดิน ทุกก้อนสยามค้อม                                               เทิดไท้ทรงพระเจริญ ฯ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า พิราบเงิน จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 มิ.ย. 49 23:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับ พี่คัมภีร์ฯ และมิตรสหายทุกท่าน ในวาระสำคัญนี้ พ้ม ก็ตระเวณเก็บภาพต่าง ๆ ไว้ในใจ ดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นพระองค์ท่าน สุขใจเสมอที่เกิดอยู่ใต้ฟ้าแผ่นดินไทย เรา ในหลวง จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 มิ.ย. 49 23:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คคห12.  ทั่นพี่จังงัง เขียนโคลงเห่เรือ...ลีลางามเยี่ยงโคลงวรรณคดีเลยครับชื่นชมพี่เธอมากครับ ทำให้เกิดความใคร่ค้นหาของเก่ามาศึกษา กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ เห่ชมเรือ กระบวน     ๏ปางเสด็จประเวศด้าว                  ชลาไลย ทรงรัตนพิมานไชย                     กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร                แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพร้ว                 เพลิศพริ้งพายทอง ฯ ช้าลวะเห่       พระเสด็จโดยแดนชล   ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย        พายอ่อนหยับจับงามงอน ค นาวาแน่นเป็นขนัด           ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือลิ่วปลิวธงสลอน             สาครสั่นครั้นครื้นฟอง เรือครุฑยุดนาคหิ้ว              ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง          ร้องโห่เห่โอ้เห่มา สรมุขมุขสี่ด้าน                   เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา             หลังคาแดงแย่งมังกร สมรรถไชยไกรกาบแก้ว    แสงแวววับจับสาคร   เรียบเรียงเคียงคู่จร              ดังร่อนฟ้ามาแดนดิน สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย          งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์   เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์       ลินลาศเลือนเตือนตาชม เรือไชยไวว่องวิ่ง                รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม                ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ฯ มูละเห่ คชสีทีผาดเผ่น               ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ทียืนยัน              คั่นสองคู่ดูยิ่งยง เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ             แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง   เพียงม้าอาชาทรง           องค์พระพายผายผันผยอง เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน          โจนตามคลื่นฝืนฝาฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง             เป็นแถวท่องล่องตามกัน นาคาหน้าดังเป็น             ดูขะเม่นเห็นขบขัน มังกรถอนพายพัน           ทันแข่งหน้าวาสุกรี   เลียงผาง่าเท้าโผน          เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรีย์            ที่ปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม ดนตรีมี่อึงอล                 ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกครึกครื้นโครม         โสมนัสชื่นรื่นเริงพล กรีฑาหมู่นาเวศ              จากนคเรศโดยสาชล   เหิมหื่นชื่นกระมล            ยลมัจฉาสารพันมี ฯ   ค้นจากลิ้งค์ http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/nation/boatsong/btsong10.htm แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 13:05:54 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 13:01:49 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 12:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๏ ปวงข้าฯประณตน้อม       บังคม เบื้องบาทองค์บรม            จักรเจ้า ครบหกสิบฉนำสม            เฉลิมฉัตร พระเมตตาปกเกล้า           ปกแคว้นแดนสยาม ๚ ๏ ขอบูรพกษัตริย์คุ้ม         ครององค์ เกษมสำราญดำรง            สุขพร้อม สฤษดิ์ใดดั่งประสงค์         ทุกเมื่อ ถวายรักภักดีน้อม             ทั่วฟ้ามหาศาล  ๚ะ๛ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 13 มิ.ย. 49 13:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 .                                                สวัสดีครับทุกท่าน -- ทรงพระเจริญ ๒ -- ๏ แสงพราวราวเกล็ดแก้ว             มณีสวรรค์ สวยละลานณ.ลานอัน                 พุน้ำ ณ.เมืองทองฉลองวัน                  เสวยราชย์ งามดั่งพระเกียรติ์ล้ำ                   กษัตริย์ผู้ทรงธรรม ๚ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ xers... น้อมถวายพระพร ---------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 13 มิ.ย. 49 20:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีครับ พี่คัมภีร์โบราณ คุณปฤษณะ พี่จำปูน คุณแม่จิตร ปู่เจียวต้าย พี่หญิงซอมฯ คุณพจนารถ๓๒๒ คุณสัมผัสรักในใจเรา น้าจันทร์แห้ง คุณจังงัง หนู ศ. คุณtiki_ทิกิ พี่พิราบเงิน ภาพน้ำพุข้างบน ถ่ายไว้ตั้งแต่งานฉลองครองสิริราชสมบัติ ที่เมืองทอง แต่พึ่งมีโอกาสเอามาแปะให้ชมครับ กว่าจะได้ภาพนี้ นั่งนับเวลาอยู่นาน ให้น้ำพุพุ่งเต็มสามชั้น เพราะแต่ละชั้นพุ่งขึ้นมาไม่พร้อมกัน และถ่ายเสียไป 4-5 ภาพเลยครับ อันนี้ไม่ใช่ภาพน้ำตกที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ภาพสมบูรณ์กว่านี้มีคนบังข้างล่างครับ เห็นพูดถึงบทโคลงเกี่ยวกับราชสำนัก กับ โคลงชาวบ้าน ผมคงเขียนส่งแบบฉบับชาวบ้านก่อนครับ เนื่องจาก แหะๆ ไม่ค่อยถนัดภาษาบาลีสันสกฤต กะคำราชาศัพท์ เคยเรียนแต่คืนคุณครูไปหมดแล้ว สงสัยต้องมาเรียนใหม่ ว่าจะลงโคลงให้ พี่ครูคัมภีร์ฯ ช่วยชี้แนะ เพราะอยากอ่าน บทวิจารณ์ดีดีๆ นานแล้วครับ แรกเข้าอาศรมก็ได้ ท่านนี่ แหละคอยชี้แนะและวิจารณ์ครับ แล้วจะนำมาแปะให้ ชำแหละนะครับ เซ่อ... น้อมบันทึก ----------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 13 มิ.ย. 49 20:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดียามค่ำครับ..... มีเวลาเล็กน้อย เขียนได้1บทขอส่งก่อนครับคืนนี้คงจะมีเวลามากกว่านี้ขอรับ ชลาไลยไคลเคลื่อนข้น      ระลอกชล พยุหทัพไท้แสนพล           เห่ร้อง นาวาวาทชเลงกล               กาพย์กล่อม กึกเฮย ยลน่าตื่นเห็นต้อง               ประทับไว้ในขวัญ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 20:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ก่อนกลับบ้านส่งอีกบทขอรับ หกสิบปีที่เปลื้อง           ทุกข์ประชา พสกรำลึกพระเมตตา     ยิ่งแล้ว ครองผืนแผ่นดินมา        ผาสุข ทั่วเฮย ขอพระสุขเพริศแพร้ว    มิ่งแก้วขวัญไทย แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 06:37:41 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 20:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ดีใจมากขอรับที่ทั่นพี่คัมภีร์โบราญมาเริ่มกระทู้นี้ จากคคห13... "ยังไม่มีเวลาไปหากาพย์เห่เรือฉบับสมบูรณ์ที่จะใช้เห่เรือในงานคราวนี้ มาลงให้อ่าน  ถ้าใครมีกรุณาเอามาลงด้วยครับ" จันทร์แห้งขอเวลาขุดค้นสักน้อยขอรับ คคห14 "ทีนี้ลองกลับไปย้อนอ่านบทร้อยกรองต่าง ๆ ในกระทู้นี้แต่ต้นแล้วลองพิจารณาดู ว่าบทไหนเขียนในแบบโคลง กวีราชสำนัก   บทไหนเขียนแบบโคลง กวีชาวบ้าน" สังเกตุว่าจุดน่าสนใจแง่มุมในบทกวีมีมากหลายน่าติดตามจริงๆขอรับ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 22:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บังเอิญค้นได้มาแล้วขอรับ...เชิญรับชมก่อนครับ และจะค้นต่อ... ไม่ทราบว่าจะหาเสียงเห่เรือมาได้หรือไม่ครับ "กาพย์เห่เรือฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี" ท่วงทำนองความงดงามแห่งภาษาไทย http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9490000068310              บทที่ 1       สรรเสริญพระบารมี                     ยอกรเหนือเกศก้ม           กราบยุคล       แทบบาทองค์ภูมิพล                ผ่านฟ้า       หกสิบวัสสานุสนธิ์                   เสวยราชย์       เชิญเทพอวยชเยศหล้า             โลกพร้องพรถวาย                     ยอกรขึ้นเหนือเกศ           กราบบทเรศองค์ภูมิพล       หกสิบวัสสาดล                       เป็นมงคลครองแผ่นดิน               เดชะพระบารมี               จำเจริญศรีจำเริญสิน       เย็นจิตอยู่อาจิณ                     ทุกธานินทร์เทิดพระนาม               คือแสงทิพย์ที่ส่องไทย     คือสายใยแห่งทวยสยาม       ยิ่งยาววันยิ่งแวววาม                 ยิ่งยาวยามยิ่งร่มเย็น               หัตถ์ทิพย์แห่งท่านไท้       กำจัดไข้กำจัดเข็ญ       ถอนทุกข์ขุกลำเค็ญ                 เย็นทั่วหน้ามาทุกฉนำ               แผ่นดินที่ทรงครอง         แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม       คราวเข็ญเข้าครอบงำ              ทรงดับเข็ญทุกคราวครัน               เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก    ทรงงานหนักอเนกอนันต์       วักพักเพียงสักวัน                    ก็แสนน้อยดูนานเกิน               วังทิพย์คือท้องทุ่ง          ม่านงานรุ้งคือเขาเขิน       ร้อนหนาวในราวเนิน                มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์                ย่างพระบาทที่ยาตรา      ยาวรอบหล้าฟ้าสากล       พระเสโทที่ถั่งท้น                    ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย               ทรงธรรมโดย“ทรงทำ”    พระทรงนำอเนกนัย       ยึดรอยยุคลไคล                     ย่อมคว้าชัยให้โลกชม                ยามภัยพิบัติเบียน          จำจนเจียนจวนจ่อมจม       ทรงเสกชีวิตตรม                    ให้กลับฟื้นขึ้นยืนตน                ถิ่นโหยระหายหิว           ที่เหือดแห้งทุกแห่งหน       ย่อมชื้นด้วยหยาดชล              ที่ทรงชุบให้ฉ่ำทรวง                คือธารเมตตาธรรม        อันลึกล้ำทะเลหลวง       เอิบอาบกำซาบปวง                ทุกลมปราณด้วยปรานี                แผ่ผายข่ายการุณย์        เบิกบัวบุญพระบารมี       คุ้มครองป้องธาตรี                  ให้บานชื่นรื่นเริงชนม์                ทศธรรมล้ำสถิต            ทศทิศไร้ทุกข์ทน       พระเดชอดุลย์ดล                    ทั้งสากลจึงเกริกไกร                ข้าเจ้าเหล่านาวิน           ข้าแผ่นดินสำนึกใน       น้อมธรรมที่นำไทย                  ถวายชัยธิราชา                 ศีลสัตย์คือสายสร้อย     บรรจงร้อยแทนมาลา       บุญผองบำเพ็ญมา                  น้อมบูชาเป็นราชพลี                 เดชะพระไตรรัตน์         พระปรมัตถบารมี       เทวาทุกราศี                          อัญเชิญช่วยอวยชัยถวาย                 ขอจงทรงพระเจริญ       พระชนม์เกินร้อยปีปลาย       อาพาธพินาศหาย                   ภัยพาลพ่ายพระภูมิพล                 จงพระเสวยสวัสดิ์         พูนพิพัฒน์ผองศุภผล       พระหฤทัยไกลกังวล                ทุกทิพาราตรีกาล                 พระประสงค์ทุกสิ่งเสร็จ   แม้สรรเพชญพระโพธิญาณ       ดำรงรัชย์ชัชวาล                     ดั่งเวียงสวรรค์นิรันดร์เทอญ             บทที่ 2       ชมเรือกระบวน                       ลอยลำงามสง่าแม้น       มณีสวรรค์       หยาดโพยมเพียงหยัน                ยั่วฟ้า       สายชลชุ่มฉ่ำฉัน                      เฉกทิพย์ธารฤๅ       ไหลหลั่งโลมแหล่งหล้า             หล่อเลี้ยงแรงเกษม                       เรือเอยเรือพระที่นั่ง         พิศสะพรั่งกลางสายชล       ลอบลำงามสง่ายล                   หยาดจากฟ้ามาโลมดิน                 สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย    งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์       นารายณ์ทรงสุบรรณบิน             ลินลาศฟ้าอ่าอวดองค์                 อนันตนาคราช               งามผุดผาดวาดแวววง       อเนกชาติภุชงค์                       ลงเล่นน้ำงามเลิศลอย                 กระบี่ศรีสง่า                  งามท่วงท่าไม่ท้อถอย       เรือครุฑไม่หยุดคอย                 ยุดนาคคล้อยลอยเมฆินทร์                 อสุรวายุภักษ์                ศักดิ์ศรีคู่อสุรปักษิน       พายยกเพียงนกบิน                   ผินสู่ฟ้าร่าเริงบน                 เรือแซงแข่งเรือดั้ง         พร้อมสะพรั่งกลางสาบชล       เรือชัยไฉไลล้น                       ยลเรือกิ่งพริ้งเพราตา                 ยักษ์ลิงกลิ้งกลอกกาย     แลลวดลายล้วนเลขา       รูปสัตว์หยัดกายา                     พาโผนเผ่นเป็นทิวแถว                 เรือน้อยลอยน้ำไหล        ล้อมเรือใหญ่ไหววับแวว       พร่างพราวราวเพชรแพรว           พายพลิ้วกวักพรักพร้อมพาย                 งามริ้วทิวทางแถว          ธงเพริศแพร้วแผ่วปลิวปลาย       งามเรือเหลือลวดลาย               คล้ายเทพทิพย์หยิบลายผจง                 อาภรณ์ผ้าแพรพรรณ      สวยสีสรรสวมทรวดทรง       พลพายพายเรือลง                   ทิวธงถ้วนล้วนเฉิดฉัน                 เสนาะศัพท์ขับเพลงเห่     เสียงเสน่ห์น้ำสนั่น       เพลงทิพย์ไป่เทียมทัน               กลั่นจากทรวงปวงนาวี                 ศิลปกรรมล้ำเลิศเหลือ     ลวดลายเรือล้วนโสภี       ท่อนไม้ไร้ชีวี                          มีชีวิตคิดเหมือนเป็น                 นาวาสถาปัตย์               ช่างเชี่ยวชัดชาญเชิงเช่น       ยิ่งยลยิ่งเยือกเย็น                     เห็นสายศิลป์วิญญาณไทย                 สมบูรณ์สมบัติชาติ         ควรประกาศเกียรติเกริกไกร       ฝีมือลือเลิศใคร                       ไม่เทียบเทียมเยี่ยมนิยม                 ควรสืบควรรักษา            ควรคู่ค่าควรเมืองสม       ควรเชิดควรชื่นชม                    ควรภูมิใจไทยทั้งมวล                  แม้นสิ้นจากถิ่นไทย        ห่อนเห็นใครมาคู่ควร       แบบบทหมดกระบวน                 ล้วนเลิศแล้วแพรวพริ้งพราย                 ขวัญเอยเป็นขวัญเนตร    ศิลป์พิเศษยังสืบสาย       ลูกหลานวานอย่าวาย                อย่าดูดายศรีแผ่นดิน                  ฝากโลกให้รู้จัก             ฝากศรีศักดิ์วิญญาณศิลป์       ฝากชื่อลือธรณินทร์                  ฝากศิลป์ซับไว้กับทรวง                  เห่เอยเห่เรือสวรรค์         เพลงคนธรรพ์ลั่นลือสรวง       ฝากหาวเดือนดาวดวง                อย่าลับล่วงอยู่นิรันดร์เทอญ             บทที่ 3       ชมเมือง                        สยามเอยอุโฆษครื้น     คุณขจร       สุขสถิตสถาพร                       ผ่านฟ้า       ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน                 อวดโลก       ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า                 เมื่อโน้นนิรันดร์เกษม                        สยามเอย สยามรัฐ       งามร่มฉัตรทัดเทียมโพยม       กิตติศัพท์ขับประโคม               โครมครืนครั่งลั่นหล้าคง                  สุโขทัยไกลสุด           ถึงอยุธยายง       ธนบุรีลอยฟ้าลง                    ทรงศักดิ์ฟื้นคืนคุณขจร                  รัตนโกสินทร์ศิลป์       สืบระบืออันบวร       แม่นแม้นแดนอมร                  ถอนจากฟ้ามาเมืองดิน                  เจ้าเอย เจ้าพระยา       ถั่งธารามาเรื่อยริน       ทวยไทยได้อาบกิน                 ลินลาศลุ่มขุมกำลัง                  งามเอย งามระยับ       แวววาววับวัดเวียงวัง       ย่ำค่ำย่ำระฆัง                        วังเวงหวานซ่านซึ้งเสียง                  เจดีย์ศรีสูงเหยียด        เสียดยอดท้าฟ้ารายเรียง       ปรางค์ยอดทอดเงาเคียง          เลี้ยงตาเมืองเรื้องเรืองรมย์                  พืชพันธุ์ธัญญาผล       เลี้ยงชีพชนดลอุดม       นาสวนชวนชื่นชม                  ร่มรื่นรมย์ร่มพฤษ์ไพร                  เจ้าเอย เจ้าพระยา       ถั่งธารามานานไกล       เอิบอาบกำซาบใจ                  หล่อเลี้ยงไทยแผ่นดินทอง                 รวงทองเหลืองท้องทุ่ง  แดดทอรุ้งเหนือเขื่อนคลอง       ข้าวปลามาเนืองนอง               เรือขึ้นล่องล้วนเริงแรง                 วัดวาทุกอาวาส            พุทธศาสน์ธรรมทอแสง       น้ำใจจึงไหลแรง                     ไม่เคยแล้งจากใจไทย                  พิสุทธิ์พุทธศาสน์         ธรรมประกาศมานานไกล       ถึงถิ่นแผ่นดินไทย                   ประจักษ์ใจว่าสัจจริง                  ทรงภพอุปถัมภก         ทรงยอยกเป็นยอดยิ่ง       เผ่าไทยได้พักพิง                    จึงผุดผ่องผองภัยพาล                  ร่มผ้ากาสาวพัสตร์        เฉกร่มฉัตรรุ่งเรืองฉาน       เป็นถิ่นแห่งศีลทาน                 ทุกหย่อมย่านจึงร่มเย็น                  ดินแดนแห่งกาสาว์      คือสมญาโลกย่อมเห็น       ศีลธรรมที่บำเพ็ญ                   ช่วยดับเข็ญทุกคราวครัน                  บัวบุญจึงเบ่งบาน         อยู่กลางธารหทัยธรรม์       รอยยิ้มย่อมยืนยัน                   ถึงน้ำใจและไมตรี                   นบไหว้พระไตรรัตน์     บำรุงศาสน์บำรุงศรี       วิหารลานเจดีย์                       ล้วนรุ่งโรจน์โบสถ์ศาลา                   พระแก้วอยู่เหนือเกล้า  ทุกค่ำเช้าเฝ้าบูชา       ศีลทานสารศรัทธา                  เปรมปรีดาด้วยความดี                   ราชันขวัญสยาม         ปิ่นเพชรงามปักธานี       ร่มพระบารมี                          ศรีไผทฉัตรชัยชน                   ไตรรงค์ธงชัยโชค       ลอยอวดโลกโบกลมบน       ขวัญฟ้าขวัญตายล                  ล้นเลิศหลักศักดิ์ศรีสยาม                  เมื่อนี้ตราบเมื่อหน้า      คงคู่หล้ากล้าเกียรติงาม       ใครบุกรุกเขตคาม                   ตามหาญหักรักษ์แผ่นดิน                  ฟ้าเอย ฟ้าสยาม          งามกว่าฟ้าทุกธานินทร์       เพลงสยามทุกยามยิน               วิญญาณปลื้มดื่มด่ำใจ                  ห้ารอบเสวยราชย์        ประชาชาติถวายชัย       ร้อยรักภักดีไท้                       เทิดทูนไว้จักรีวงศ์                  เทพไทถวายทิพย์        พระเลิศลิบลุประสงค์       เกษมสุขทุกพระองค์               ขอจงทรงพระเจริญเทอญ             นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย : ผู้ประพันธ์ ปล.ค้นได้กาพย์เห่เรือ กองทัพเรือจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในโอกาสประชุมเอเปคในประเทศไทยพุทธศักราช ๒๕๔๖ http://www.yupparaj.ac.th/thaitip/apec.htm ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย ผู้เห่ พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 22:33:32 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 22:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ค้นไปค้นมาพบหม้อแกงทั่นพี่จังงังขอรับ เชิญรับชมความงามขอรับ http://bloggang.com/viewblog.php?id=thewanderingmonkey&date=08-06-2006&group=3&blog=1 ๏ กาพย์เห่เรือ “กระบวนพยุหยาตราชลมารค ” พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ..๏ กาพย์เห่เรือ “กระบวนพยุหยาตราชลมารค ” ๏ นารายณ์จำหลักล้ำ...........เลออง- อาจเฮย ครุฑยุดนาคทรวดทรง.........สง่าแท้ ลายทองล่องชาดผจง..........กระจกแต่ง ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้.................เลิศริ้วปลิวงาม ๚ ๏ เรือเอยเรืองยิ่งแท้ ................ ล้วนเลื่อมแล้หลากสรรพนาม ลอยเด่นกลางชลตาม ................รูปลักษณ์ล้ำงามใกล้ไกล ๏ เรียงรายเลื่อมพรายพร้อม .....เพ็ชรพลอยล้อมเหลืองอุไร ปิดทองผ่องอำไพ .................... แลทางใดล้วนงามสม ๏ พู่ย้อยห้อยระย้า ................... ลวดลายผ้าน่าชื่นชม ธงฉัตรพัดตามลม ................... เลื่อมวิจิตรโศภิษฐ์แพรว ๏ “เรือทองขวานฟ้า”คล้อย .... บรรเจิดลอยนำหน้าแนว “เรือทองบ้าบิ่น” แน่ว ........... .แสนปราดเปรียวสุดโสภี ๏ “เรือเสือทะยานชล” ......... “เสือคำรนสินธุ์”นาวี เคียงข้างดั่งเสนี ...................... “เรือดั้ง”ปรี่มีสองลำ ๏ ตรงกลาง“เรืออีเหลือง” ....... ดูปราดเปรื่องสมน้ำคำ ฝีพายชายกำยำ ........... .......... ยกพายจ้วงท่วงช่ำชอง ๏ “เรือดั้งสามและสี่” ............ แล่นเร็วรี่มีครรลอง พร้อมเพรียงไปทั้งผอง ............. .ฝีพายคล่องเกริกไกรเกิน ๏ “เรือดั้งห้าและหก” ........... .ให้สาธกล้ำจำเริญ เรียงรายได้ยลเพลิน ..................ด้วยดำเนินอย่างยรรยง ๏ “เรือตำรวจนอก”ลิ่ว ............ หลากแพรพลิ้วทั้งทิวธง “เรือดั้งเจ็ด,แปด”คง .............. ลอยเลียบคู่อยู่ครบครัน ๏ “เรือดั้งเก้า”อยู่ซ้าย ............ ซึ่งเลื่อมลายวิไลวรรณ “เรืออสุรปักษี”สัณ- ................ ฐานเฉิดฉันนั้นตรึงตา ๏ “เรือตำรวจใน”เคียง .......... .คงลำเลียงมวลเสนา อีกลำงามโสภา ........................ เกียรติก้องหล้ามาเนิ่นนาน ๏ “อสุรวายุภักษ์” ................... นามประจักษ์เลื่องชลยาน “เรือดั้งสิบ”แหวกธาร ............. แสนวิกรานต์ห้าวหาญนัก ๏ “เรือดั้งสิบเอ็ด”ตาม ........... .ยังคงความเก่งกาจประจักษ์ “เรือดั้งสิบสอง”พรัก- ............. พร้อมเพรียงจักด้วยว่องไว ๏ “กระบี่ราญรอนราพณ์” ........ “กระบี่ปราบเมืองมาร”ใด คำชมสมพิสมัย ........................ คำใดเปรียบเทียบเรืองาม ๏ เรื่อยเรื่อยมาเลียบเคียง..........อย่างพร้อมเพรียงมาติดตาม คือ “ เรือดั้งสิบสาม” "...............น่าครั่นคร้ามทั้งยำเกรง ๏ “ เรือดั้งสิบสี่” นั้น..................ขุนพลนั้นช่างกล้าเก่ง จ้วงพายอย่างครัดเคร่ง................ทั้งครื้นเครงทั้งเร่งมือ ๏ “เรือดั้งสิบห้า”ล่อง .............. ความแคล่วคล่องต้องเชื่อถือ “สุครีพครองเมือง”คือ .......... นามระบือชื่อมงคล ๏ “พาลีรั้งทวีป” ..................... ดั่งคืนชีพผลาญมารผจญ โดดเด่นเห็นงามล้น ................ อุกฤษฎ์จนดั่งเวชยันต์ ๏ เรือหนึ่งซึ่งงามนัก ................ ดั่งรูปลักษณ์เทพรังสรรค์ เรือพระที่นั่งอัน ........................ แสนวิจิตรตระการตา ๏ “อนันตนาคราช” ................ ล้ำพิลาศทัศน์ลักขณา ลือเลื่องเฟื่องโลกา ................... สุดโสภาคราชื่นชม ๏ “เรือดั้งสิบหก”คล้อย ........... พลเรือคอยจ้วงพายจม งัดน้ำยามต้องลม ..................... เป็นฟองแตกแปลกตาไป ๏ เห็น“เรือดั้งสิบเจ็ด” ............ “เรือครุฑเตร็ดไตรจักร”ไกร เกริกกล้าเรืองวิไล .................... ลอยลำใกล้“เรือแตงโม” ๏ “เรือครุฑเหิรเห็จ”ห้าว ....... “เรือดั้งกร้าวสิบแปด”โบ- ราณท่านใช้ฝ่าโต้ .................... ทัพข้าศึกทั้งฝึกปรือ ๏ “เรือดั้งสิบเก้า”นั้น .............. แสนสำคัญนามเลื่องลือ องอาจเก่งฉกาจคือ .................. คงเกียรติกล้าเหล่าวีรชน ๏ “เรือดั้งยี่สิบ” แสน- ..............ยานุภาพแม้นมากเหลือล้น สำเนียงเสียงขุนพล .................. พร้อมเพรียงจนมากเรี่ยวแรง ๏ “เรือดั้งยี่สิบเอ็ด” ............... .เรือลอยระเห็จดั่งสำแดง ชายชาญหาญกร้าวแกร่ง ........... จ้วงน้ำใสพรายกระเซ็น ๏ “เรือดั้งยี่สิบสอง” ................ แหวกธารท่องล่องลอยเห็น พลหมู่เสนาเป็น ........................ เช่นมุ่งหน้าผลาญไพรี ๏ เรือหนึ่งซึ่งเกินคำ .................. ร้อยวรรณกรรมบรรยายมี ด้วยรูปทรงโศภี ........................ ลวดลายสีผ้าแพรพรรณ ๏ รูปลักษณ์ล้วนวิไล .................. “เรือเอกชัยหลาวทอง”อัน พิลาสเป็นอัศจรรย์ ..................... ดั่งมุ่งมั่นผลาญศัตรู ๏ อีกหนึ่งซึ่งคงเกียรติ์ ............... ดั่งคำเธียรบรมครู บรรเจิดให้เชิดชู ....................... คู่บารมีพระจักรินทร์ ๏ “เอกชัยเหิรหาว”ห้าว ........... ผุดผ่องพราวสุดโศภิน ลายทองพ้องศาสตร์ศิลป์ . ............แสนพิพิธจิตรการตา ๏ โอ้เรือพระที่นั่ง ..................... ทองสุกปลั่งดั่งจันทรา สมเกียรติ์แห่งราชา .................. ธ ผ่านฟ้ามไหศวรรย์ ๏ พระผู้ทรงผ่านฟ้า ...................ทรงบุญญาจอมราชัน ทศพิธราชธรรมมั่น ................... มากเมตตาเปี่ยมปรานี ๏ “นารายณ์ทรงสุบรรณ” ........ เกินเสกสรรด้วยวาที ร้อยรจน์เบื้องบทกวี . ............... เกินจดจารด้านงามล้ำ ๏ นารายณ์สี่กรนั้น .................... เปรียบ ธ มั่นคงคุณธรรม เมตตาปรานีนำ ...................... ต่อไพร่ฟ้าประชากร ๏ ศึกใหญ่คือภัยแล้ง ................ น้ำเหือดแห้งแหล่งดินดอน ธ โปรดอำนวยพร ..................... เปลี่ยนทุกข์ร้อนเป็นร่มเย็น ๏ เสกฝนแลเสกน้ำ .................. ต่างชุ่มฉ่ำไร้ลำเค็ญ ชี้ทางห่างทุกข์เข็ญ .................. เช่นคงชีพอย่างพอเพียง ๏ “นารายณ์ทรงสุบรรณ” ........ ดั่ง ธ นั้นเฝ้ามองเมียง เสด็จไปทั่วไทยเพี้ยง- ............... องค์นารายณ์ไล่อาธรรม์ ๏ ยอดเขาสุดเขตแดน .............. ถิ่นยากแค้นแดนใดกัน ทรงย่างพระบาทพลัน ............... หมายเปลื้องทุกข์มอบสุขใจ ๏ ทวยราษฎร์ต่างแซ่ซ้อง ........... ดังกึกก้องทั้งแดนไตร ขอองค์พ่อหลวงไทย ................ ทรงสำราญนิรันดร ๏ เรือพระที่นั่งทรง .................. .ประหนึ่งองค์ธราธร เสกสร้างสถาพร ....................... เสกประสิทธิ์ในโลกา ๏ เนรมิตวิจิตรนัก .................... แจ้งประจักษ์รูปลักขณา รื่นรมย์สมอุรา ......................... ดุจหงส์ฟ้าสิวาลัย ๏ คือ “เรือสุพรรณหงส์” ......... อันสูงส่งคงคู่ไทย ล้ำหล้าเกริกเกรียงไกร ............. รอยจำหลักพิไลงาม ๏ หงส์ทองล่องสายชล .............. น้ำใสจนเห็นแวววาม ต้องแสงสำแดงภาม ................. ชดช้อยตามคำกล่าวชม ๏ ฉัตรพู่ลู่ลมระย้า .....................ธงโสภาคราสวยสม เพริศพลิ้วทิวเทพพนม .............. แสนรื่นรมย์ยามชมพลัน ๏ เหล่าหมู่ฝีพายมาก ................ แต่งกายหลากมากแพรอัน ดิ้นเงินเดินทองนั้น ................... ช่างผ่องพรรณอันงามแล ๏ โสตสดับกาพย์ทำนอง ..............ดังกึกก้องพ้องจริงแท้ เปรียบเปรยนำเผยแพร่ ................สิ่งล้ำค่าในวารี ๏ เอื้อนอ้างดั่งเวทมนต์ ............. ศักดิ์สิทธิ์ดลในบทกวี บ่งความงามประเพณี ............... ร่ายวาทีกาพย์คำโคลง ๏ ลอยเด่นเห็นงามสง่า ............. ทองเลื่อมตาผ้าแพรโพลง จำหลักลวดลายโยง - ................. คล้ายคงชีพรีบเริงชล ๏ คือเรือพระที่นั่ง ..................... สุดสะพรั่งนภมณฑล “เอนกชาติภุชงค์” ดล ............ งดงามล้นพ้นพรรณนา ๏ ฉัตรตั้งตระหง่านงาม ............ ทองเหลืองอร่ามงามภูษา แต่งจนวิจิตรา .......................... พลเสนาพายพร้อมเพรียง ๏ สวมหมวกกลีบจำปา ............. ช่างแปลกตาคราระเรียง จ้วงพายคล้ายสำเนียง ............... ร่ายคำเจรียงเยี่ยงบรรยาย ๏ “เรือแซง” เจ็ดลำล่อง .......... แสนแคล่วคล่องมวลฝีพาย เสนีย์มีนายท้าย ........................ นุ่งผ้าสีสอดไหมงาม ๏ แต่งกายลวดลายหลาก .......... พลหมู่มากหากมองตาม เลื่องลือระบือนาม .................... พรักพร้อมตามท่วงทำนอง ๏ บรรพชนคนกร้าวแกร่ง .......... มุ่งสำแดงเกียรติทั้งผอง รุกไล่ไพรีต้อง ...................... .....พ่ายทัพไทยในบัดดล ๏ “เรือตำรวจกรมวัง” ............ คุมแนวหลังดังขุนพล ตรวจตรามาแต่ต้น .............. ......เช่นวีรชนอันเกรียงไกร ๏ นับได้ห้าสิบสอง ..................... เรือลอยล่องชลาลัย โอ้แสนอวดศักดิ์ไทย ................. อันยิ่งใหญ่ในคงคา ๏ เลิศศิลป์ล้ำศาสตร์สร้าง .......... เด่นสล้างอวดศักดา ยังสุขทุกครั้งครา ...................... ตรึงตราภาพมิลืมเลือน ๏ บุญแท้เกิดเป็นไทย ............... แสนสุขใจหาใดเหมือน มากสุขทุกครัวเรือน ................. ใต้ร่มหล้าพระบารมี ๏ ขอเทิดทูนบูชา- .................... พ่อหลวงฟ้าจอมจักรี จงรักและภักดี ......................... ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม ๖๐ ปีทรงครองราชย์ เหล่าทวยราษฏร์ถวายพระพร ๏ นารายณ์หมายเทียบไท้-......สยามินทร์ ทรงครุฑดุจเสด็จดิน-...........ถิ่นแคว้น พระเกียรติแห่งพระจักริน.......ขจัดทุกข์- เข็ญนา ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น........เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚ ๏ หกสิบแห่งกาลฝน ....................พระบารมีพ้นชนชื่นชม เป็นยิ่งนโรดม ............................ในไตรโลกแต่ปางบรรพ์ ๏ พระบาททรงก้าวย่าง ................ทุกเส้นทางอย่างมุ่งมั่น เปลื้องทุกข์ทวยราษฎร์อัน- ...........ผู้ยากจนพ้นลำเค็ญ ๏ ทรงสอนให้พึ่งตน .....................เพื่อสยามชนได้อยู่เย็น - เป็นสุขไร้ทุกข์เข็ญ ......................ดำรงชีพอย่างพอเพียง ๏ หากผองพื้นปฐพี ......................แทนพื้นที่ให้ร้อยเรียง รจนาวรรณกรรมเพี้ยง .................จารึกซึ่งพระบุญญา ๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ....................ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา เขียนพื้นแผ่นพสุธา .....................ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล ๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ....................ล้ำวาทีทั้งจดจาร บรรยายซึ่งอุปการ ......................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม ๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ..........................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ ................มิอาจจดบทอ้างคุณ ๏ ทวยราษฎร์น้อมภักดี ................จอมจักรีผู้เปี่ยมบุญ ผู้ทรงพระการุณ ..........................ให้ทรงเกษมทั้งเปรมปรีดิ์ ๏ ด้วยคุณพระไตรรัตน์ .................ความพิพัฒน์บังเกิดมี คุณเทพเรืองฤทธี ........................ทั้งจักรวาลอันศักดา ๏ คุณงามความศักดิสิทธิ์ .............เสถียรสถิตไตรโลกา ปกปักแลรักษา ............................ซึ่งองค์พระสยามินทร์ ๏ ให้ทรงพระเจริญยิ่ง ...................อยู่เป็นมิ่งขวัญชีวิน ทวยราษฎร์ข้าแผ่นดิน ..................ตราบร้อยพันวสันต์กาล ๏ ธ ประสงค์พุทธางกูร .................จงสมบูรณ์ด้วยนฤพาน สรรเพชญพระโพธิญาณ ...............ยิ่งไพศาลในบัดดล ๏ ศรีสวัสดิ์นิรันดร ........................จตุรพรสัมฤทธิผล เทิดไท้พระภูมิพล .......................ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ๚ะ๛ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 23:21:09 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 มิ.ย. 49 23:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนอรุณสวัสดิ์ขอรับ ค้นมาเชิญชวนอ่านขอรับ รายชื่อเรือและรูปกระบวน http://www.anantapayta.com/ ประวัติเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ http://www.navy86.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=60019&Ntype=1 ประวัติเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ ๙ http://www.navy86.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=60023&Ntype=1 ประวัติ น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย ผู้ประพันธ์กาพเห่เรือ http://www.navy86.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=60030&Ntype=1 ประวัติ พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง ผู้เห่เรือ http://www.navy86.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=60031&Ntype=1 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 14 มิ.ย. 49 05:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อรุณสวัสดิ์ทุกท่านด้วยบทโคลงขอรับ        ๏พลพยุหชลมารคเยื้อง          ยาตรา ริ้วแล่นกระบวนนาวา                  ฟ่องน้ำ สายชลเชี่ยวผ่านพา                    ชนชื่น ชมเฮย เถกิงพระเกียรติเลิศล้ำ             โลกล้วนถวายกรฯ เรียนทั่นพี่คัมภีร์โบราญ(ไม่แผลงเป็นคัมภีร์อัลกุรอ่าน) สังเกตุว่าหากเขียนโคลงแบบราชาศัพท์ นอกจากค้นคว้าหาเรื่องราวรสความแล้ว จำต้องรวบรวมคำศัพท์...มาเพิ่มเติมและ ขาดเสียมิได้คือโคลงแบบ... ของครูกวีโบราญ.........ขอรับ ปล.อิ๊บรูปมาจากลิ้งค์นาวีขอรับเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ปล.2ลิ้งค์ราชาศัพท์เผื่อทั่นที่สนใจขอรับ http://theyoung.net/language_thai/diction/diction_1.htm แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 21:30:43 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 06:34:28 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 06:32:09 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 06:31:36 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 14 มิ.ย. 49 06:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏ กาพย์เห่เรือเอี่ยมโอ้           คำประพันธ์ จากบล็อกจังงังสรร               เสกไว้ จันทร์แห้งพากเพียรปัน          มาแปะ ต้องนะจังงังให้                    ชื่นล้ำงามกวี ๚ะ๛ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 14 มิ.ย. 49 09:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขออภัยทุกท่านครับ เจ็บไข้ได้ป่วยกระทันหัน  เมื่อวันที่ 12 ออกถ่ายภาพ โดนแดดและฝน  ร่างกายไปไม่รอด  วันนี้จึงลางานอีก วันเพื่อพักผ่อนร่างกายนิดหน่อย ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลโลกนะครับ  เพราะไม่ได้ดูดึก ขอบคุณ คุณจันทร์แห้งมาก  คุณเซอร์  จำปูน ฯลฯ ว่ากันไปพลาง ๆ ก่อน  ครับ  พอโงหัวได้ดีกว่านี้จะเข้า มาคุยกันใหม่ ภาพพลุที่สนามม้านางเลิ้ง  ถ่ายตรงที่จอดรถ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 14 มิ.ย. 49 10:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ๏ ยายยกธงโบกพลิ้ว           สะบัดไหว ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร          อยากรู้ ยายมาแต่เช้าไย                 ยืนหยัด ยายตอบเพราะใจสู้              อยากใกล้ในหลวง  ๚ ๏ ยายมารอแต่เช้า             ยังไหว อยากอยู่แถวหน้าใจ           อยากเฝ้า เห็นแล้วไม่ว่าใคร               อิ่มเอิบ ถวายพระพรพ่อเจ้า             อยู่ยั้งยืนนาน  ๚ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 14 มิ.ย. 49 13:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แหม ไม่ได้เข้ามาซะนาน อีกแล้ว สวัสดีทุกท่าน ทั้งพี่ศาลาไทย พี่จำปูน คุณคัมภีร์ฯ คุณจันทร์แห้ง คุณพจนารถ๓๓๒ แม่จิตร คุณปฤษณะ ครับ ปลาบปลื้มปิติยินดียิ่งครับ สำหรับงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองครองราชย์ ๖๐ ปี ลบล้างเรื่องร้ายๆในบ้านเมืองได้ชั่วระยะหนึ่ง ร่มใดร่มเท่าร่มพระบารมีแท้ฯ พูดถึงกลอนถวายพระพร อันไหนก็ไม่จับใจผมเท่าของมติชนครับ "กราบบาทพระทูนกระหม่อมแก้ว ไทยมาไกลแล้วไม่ไปไหน พระบาทยังระคายเคืองทุกเรื่องไป คุณภาพข้าไทยได้แค่นี้ พระเดินดงกันดารมานานช้า รอยพระบาทยาตราทุกถิ่นที่ เหนือใต้ออกตกหกสิบปี ไม่สิ้นละอองธุลีที่ดำเนิน" ตรงที่ขีดเส้นใต้ เหลือใจ แทงใจดำเอาเสียจริงๆ ขอเขียนกลอนเทิดพระเกียรติที่ได้แรงบันดาลใจจากกลอนข้างต้นของมติชน ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้ ณ ที่นี้ครับ ๏ กราบพระบาทพระทูลกระหม่อมแก้ว แสนยินดียิ่งแล้วพระเจ้าข้า หกสิบปีที่พระองค์ทรงเมตตา ชุบชีวาประชาไทยให้ร่มเย็น ดงดอยห้วยหุบเขาเนาเสด็จ พระชนม์เจ็ดสิบปลายยังได้เห็น พระราชดำรัสชี้ทางสร่างลำเค็ญ หาใดเช่นองค์ภูมิพลบนโลกนี้ ศิลปะดนตรีกีฬาเลิศ พระอัจฉริยภาพประเสริฐสมบูรณ์ศรี วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่ออยู่ดีกินดีไม่มีจน ดินที่แห้งแล้งผากตากแดดร้อน ฝนหลวงผ่อนแล้งหายให้พืชผล หนึ่งในโลกหนึ่งนี้ที่ได้ยล เป็นบุญชนยิ่งแล้วพระแก้วไทย ๏ กราบพระบาทพระทูลกระหม่อมแก้ว เหนื่อยใจหนักนักแล้วจะหาไหน หกสิบปีที่พระองค์ทรงฉัตรชัย ลำบากดั้นด้นไปในทุกทาง ยังมีคนโฉดเขลาเอาแต่ได้ เห็นประโยชน์ตนใหญ่ไปทุกอย่าง ปากพูดพร่ำคำถวายไม่ละวาง กลับอำพรางเล่ห์กลปนแปลกร้าย เทิดทูนศรัทธาแต่หน้าเข้า บังอาจเอาศรัทธามาค้าขาย อ้างพอเพียงเลี้ยงตัวชั่วชีพวาย เกี่ยงอบายฟุ้งเฟ้อเห่อชักชวน พระราชดำรัสชี้ทางสว่างไข ฝูง[^_^]ไร้สำนึกมันคึกด่วน ตีความเอียงข้างอย่างเรรวน อีกโต้สวนป่วนเมืองเคืองบาทมูล ๏ กราบพระบาทพระทูลกระหม่อมแก้ว หกสิบปีแล้วเหมือนสาบสูญ พระกรุณาก่อเกื้ออนุกูล มารอสูรขี้ฉ้อไม่พอเพียง ขุนทหารชิงชัยเป็นใหญ่ยุค นายทุนรุกบุกรื้อฤๅหลีกเลี่ยง สื่อมวลชนวิชาการคานเอนเอียง โลกไม่เที่ยงข้าไทได้แค่นี้? จอมกษัตริย์รัฐสยามนามสง่า ทั้งโลกาล้วนตระหนักเป็นศักดิ์ศรี คุณภาพไพร่ฟ้าคงไม่ดี สุดเหลือที่บ่นโทษจะโกรธใคร หกสิบปีที่พระองค์ดำรงศักดิ์ หาเพลาพักพระกรณียกิจไม่ จะหาคนตามรอยพระบาทไป จะมีไหมจากหกสิบล้านคน ๏ กราบพระบาทพระทูลกระหม่อมแก้ว มิอาจกล่าวพรแพร้วพิลาสผล มิอ้างขอเทพใดให้บันดล จักทำตนตามพระองค์คงพอเพียง๚ ๙ มิถุนายนที่ผ่านมา ปลื้มปิติยิ่งนัก เพียงพระหัตถ์โบก ประชาไทยก็ร่มเย็นยิ่งเกล้า หกสิบปีที่ผ่านมา ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม แท้แล้ว พระพุทธเจ้าข้า จากคุณ : โกฏิดารา - [ 14 มิ.ย. 49 14:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คคห37.พี่จำปูนอารมย์โคลงไหลลื่น สำแดงว่ากินได้นอนหลับกรนฝันดีอีกด้วยขอรับ ผมชอบโคลงนี้มากครับ...ได้อารมย์ดีแท้ครับ ๏ ยายยกธงโบกพลิ้ว           สะบัดไหว ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร          อยากรู้ ยายมาแต่เช้าไย                 ยืนหยัด ยายตอบเพราะใจสู้              อยากใกล้ในหลวง  ๚ ๏ ยายมารอแต่เช้า             ยังไหว อยากอยู่แถวหน้าใจ           อยากเฝ้า เห็นแล้วไม่ว่าใคร               อิ่มเอิบ ถวายพระพรพ่อเจ้า             อยู่ยั้งยืนนาน  ๚ ขอแจมต่อด้วยสักน้อยครับ คุณยายหาพ่ายแพ้         สังขาร เพราะรักเพราะอาจหาญ     ใฝ่เฝ้า ทนกรำแดดร้อนราน          ใจจด จ่อนา ขอพ่ออยู่หัวเจ้า                อยู่ยั้งร้อยปี กำลังไม่รู้หมด                จากใจ หวังเทิดทูนเกียรติไกล      กึกก้อง ลูกอุ่มอกพาไป               กราบบาท พระนา สมจิตตั้งตาจ้อง               จดไว้กาลนาน เขียนด้วยความชื่นชมคุณยายท่านมากมายขอรับ ปล.เห็นฝีไม้ลายลักษณ์รูปถ่ายทั่นพี่คัมภีร์โบราญและ ภาพของน้องเซ่อแล้วอดอิจฉาฝีมือเธอทั้งสองไม่ได้จริงๆขอรับ ได้แต่เอารูปจากลิ้งค์มาฝากเชิญชมได้ครับ ภาพกระบวนเรือพยุหชลมารคขอรับ http://www.taklong.com/pictpost/s-pi.php?No=79017 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 49 05:37:56 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 49 05:01:15 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 49 05:01:15 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 22:09:08 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 14 มิ.ย. 49 22:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คคห38.ทั่นน้องโกฏิดารา ดีใจที่ได้เห็นฝีมือกลอนเปนชุดเลยนะครับ...และ วรรคทองนี้โดนกันโดยทั่วหน้า....หน้าแตกเลยนะครับ "พระบาทยังระคายเคืองทุกเรื่องไป คุณภาพข้าไทยได้แค่นี้" สังเกตุว่าเมื่อตาต้องกับบทกวีที่บาดใจ....... คืออ่านแล้วโดนใจ..... มือไม้ก็จะเขียนกาพย์กลอนได้โดยมิยากเยนเท่าไรนัก คล้ายอาศัยเชื้อหวัดเพื่อเปนโรคหวัด.......ฮา เอ.....เกี่ยวกันไหมขอรับ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 14 มิ.ย. 49 22:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขออนุญาตนะครับ จากคุณ : สุปศกาล - [ 14 มิ.ย. 49 22:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ทุกข์เทวษสายเนตรน้ำ      หทัยไหล  ยินระงำระงมไหว                   แผ่นดินดิ้น  ธุลีพระบาทครรไล                 รอยสู่  ร้อยระริกหล้าสิ้น                   ดับแล้วทุกข์ไหน        รอยสายพระเนตรร้อย      มวลธรรม  มาศเฮย  ทศมาลย์มิ่งเมืองนำ               เลื่อมหล้า  หทัยโพธิสัตว์บำ                   เพ็ญพ่อ  เลอโลกย์  ธ สถิตยสยามจ้า                  กระจ่างแจ้งแสงสูรย์        รอยสุรียยาตรไว้            กลางวัน  ทราทร่างพระจันทร์พลัน        แจ่มฟ้า  ภูมิยาตรพลอนันต์                เลื่อนโลก  สว่างกลางเกล้าหล้า              ข้าฯ ราษฎรพระองค์        สายลมผ่านพระหัตถ์ห้อม   หทัยไทย  ลิบแล  โบกรับราษฎรดวงใจ               ทั่วฟ้า  น้ำตาหลั่งไหลไหล                 รินสู่  บาทบรมโพธิ์หน้า                   เหล่าน้อมถนอมถวาย         "ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" . จากคุณ : สุปศกาล - [ 14 มิ.ย. 49 23:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อรุณสวัสดิ์ขอรับทั่นพี่ทั่นน้องทุกทั่น คงด้วยความคุ้นที่ชอบขุดคุ้ย กระผมสังเกตุว่าจุดอ่อนของกระผมเกิดเล็กน้อย (หมายถึงรู้น้อยขอรับแต่อายไม่กล้ารับ) เมื่อต้องใช้คำราชาศัพท์ ครั้นจะเขียนร้อยกรองต่างๆเกี่ยวกับในหลวงของเรา เป็นมีอัน..เอ่อออ มีอัน...อัดอั่น..อุดอู่..อึดอัด......ยิ้ม(แบบพี่พิราบเงินครับ) ทีแรกผมคิดว่าเพราะโรค"กระเพาะอาหาร" แต่คิดดูต่อไปกลับเป็นโรคเก่าแก่ที่กระผมเป็นอยู่คือ เรียนรู้ราชาศัพท์น้อย (จริงแล้วไม่เคยเรียนรู้ราชาศัพท์) และบังเอิญค้นอ่านคำกล่าวของ พณ.ท่าน หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์ของวงการภาษาไทยท่านหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้ว่า “... ความจริงราชาศัพท์ เป็นของจำเป็น เป็นหน้าที่ของผู้จงรักภักดีทุกคน จะต้องพูดให้ได้ เพราะเหตุว่าทุกวันนี้เป็นสมัยที่ประชาชนและ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใกล้ชิดกันได้ที่สุด ตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมาไม่เคยปรากฏ ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่จะกราบบังคมทูลให้เข้าถึงได้แล้วก็หมดความหมาย ทรงพระราชอุตสาหะเท่าไรก็เปล่าประโยชน์ เป็นหน้าที่ของราษฎรไทยที่จงรักภักดีทุกคน ถ้าไม่ทราบก็จะต้องเริ่มเรียนราชาศัพท์กันโดยด่วน ปล่อยละเลยไว้ไม่ได้อีกต่อไป แล้ว ไม่มีเหตุใดๆ เลยที่จะหลีกเลี่ยงไม่ใช้ราชาศัพท์...” กล่าวในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย พ.ศ.๒๕๐๕ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://www.navy.mi.th/navadmin/saranaru3.htm จึงค้นต่อไปอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับการใช้ราชาศัพท์ขอรับว่า ฐานันดรของผู้ฟัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , สมเด็จพระบรมราชินีนาถ คำขึ้นต้นควรใช้ว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม" คำลงท้าย   "ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ" จากลิ้งค์http://www.nfe.go.th/90/LIBRARY/Learn/learn5.html จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 15 มิ.ย. 49 06:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ก่อนจะไปเฮดงานขอรับขอแปะโคลงสักนิดครับ          ๏พยุหชลมารคเยื้อง          ยาตรา ริ้วแล่นลำนาวา                  ฟ่องน้ำ สยามสุขทุกประชา                    ชนชื่น ชมเฮย เถกิงพระเกียรติเลิศล้ำ             โลกล้วนถวายกรฯ          ๏ชลาไลยไคลเคลื่อนข้น          คลื่นชล กองทัพไท้แสนพล                     เห่ร้อง นาวาวาทชเลงกล                      กาพย์กล่อม กึกเฮย ยลตื่นตาจดจ้อง                        เจิดแจ้งประจักษ์ขวัญฯ           ๏ครืนครั่นคละคลื่นเคล้า           ฝนคะนอง เรืองฤทธิ์ระยิบทอง                    ระยับแก้ว เห่เรือกล่อมกลอนกรอง            ก้องกึก ลอยล่องเรือผ่องแผ้ว       เพริศพริ้งเสียงเพลงฯ            ๏พรายพรายพร่างพร่างพื้น          ผิวชล มูลเห่กองเรือยล                         หยาดเยิ้ม หยุดย้ำจ่ำช้าหน                      โหนจังหวะ กาพย์แล ช้าลวะเห่ฟังเคลิ้ม                    คำคลุ้งโคลงหวนฯ ปล.กระผมเอาบทก่อน2บทมาตบแต่งเพิ่มเข้าอีก2บทขอรับ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 49 22:11:20 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 49 05:32:24 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 15 มิ.ย. 49 06:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับ คุณพี่คัมภีร์โบราณ และสหายทุกๆท่านครับ มัวแต่ปลาบปลื้มในพระราชพิธี เห็นภาพประทับใจ ก็เลยแต่งออกมาด้วยความปิติเป็นที่ล้นที่พ้น พึ่งจะมาทักทายกันนี่เอง แรกๆกะว่าจะแต่งต่อจาก กระทู้ผมเองคือ ๏ เกิดมาในชาตินี้....มีบุญ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4434704/W4434704.html แต่พออาศรมนี้เปิดก็เลยมาร่วมกับทุกๆท่าน ถวายพระพร ด้วยความ อบอุ่นและอิ่มเอมใจเป็นที่สุด คุณจันทร์แห้งยังคงประทับใจกับกระบวนเรือพยุหยาตรา ผมก็เช่นกัน ขอมาแปะไว้ด้วยคนครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 15 มิ.ย. 49 13:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ๏ อนันตนาคราชล้ำ                 เจ็ดเศียร ชะลอจากบัลลังก์เธียร              วิษณุไท้ เหนือเจ้าพระยาเสมียน              มหาสมุทร               ลิ่วละล่องมองชิดใกล้               พิลาสล้ำจำรูญ  ๚ ๏ สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย           งดงาม ทองล่องชาดประจำยาม            ประดับไว้ แสงส่องประกายวาม                วับเลื่อม   ลายแฮ บินลาดเลื่อนลงให้                   จากฟ้ามาชม  ๚ ๏ เอนกชาติภุชงค์เชิดชั้น         เชิงศิลป์ นาค ขนด ลด เลี้ยวผิน             แผ่ซ้อน พระที่นั่งรองระบิล                  ลือเลื่อง งามดุจดังทองก้อน                 แกะไว้ได้งาม ๚ ๏ นารายณ์ประทับเบื้อง           ทรงสุบรรณ ตรีจักรสังข์คทาวรรณ              วิจิตรแท้   อวตารเพื่อประชาสัน -             ติสุขทั่ว    เสมอนา สมพระเกียรติกษัตริย์แล้          สง่าแคว้นแดนสยาม ๚ะ๛ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 15 มิ.ย. 49 13:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อรุณสวัสดิ์ทุกทั่นขอรับ คคห46พี่จำปูน..เห็นภาพพี่เธอมีสุขมากมายจริงๆนะครับ โคลงไหลหลั่งทั่งทบ เทือนท่าสาครเคลื่อน เลื่อนลั่นครั่นครื้นครืน  ชื่นใจเหลือประมาณ.....ขอรับ ดีใจที่เห็นอารมย์เขียนเช่นนี้ครับ ความสุขเล็กน้อยของชาวเรา...มีได้..มีง่าย..ถ่ายเท.. สู่มิตร...สู่พี่น้อง...เช่นนี้นี่เองกระมัง.... ความลำบากในการดำรงค์ชีพ....เป็นเรื่องเล็กจิ๊ดเลยนะครับ....เพราะความสุขจากการได้มาร่วมเขียนอ่าน... ว่าจะร่วมเรียงร้อยชมเรือคงจะเป็นช่วงต่อไปวันนี้ฟ้าแจ้งแล้ว ไก่แก้วเรียกบอกให้ไปเริ่มงานก่อนขอรับ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 16 มิ.ย. 49 05:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 กาพย์เห่ พระทรงธรรมปกประชา ประถมบท ทรงธรรม ๐ เรืองเรืองพิลาสล้ำ......................เมืองดิน เพี้ยงเทพลงหล่อริน.......................เสกปั้น หอมกลิ่นกรุ่นจับจินต์...................ธรรมวิเศษ วิเทศเทิดเทียบชั้น..........................เฉกห้อง ทิพย์อมร ฯ ๐ เรืองเรืองพิลาสล้ำ......................งามเกินพร่ำพรรณนา เพริศพิศเพี้ยงเทวา.........................ลงหล่อแล้วล้วนเลิศลาย หอมกลิ่นรสธรรมกรุ่น..................จับจิตครุ่นคะนึงฉงาย แดนธรรมทำทุกข์คลาย.................เพราะทรงธรรมนำประชา วิเทศล้วนเล่าลือ.............................ทรงธรรมคือพระเกื้อหล้า สยามรัฐพัฒนา..............................ดุจเมืองฟ้าทิพย์อมร สายน้ำหล่อแผ่นดิน.......................สายจากจินต์หล่อนาคร สายธรรมทรงธรรมสอน..............ให้รู้จักแต่เพียงพอ สายธารเปี่ยมปัญญา......................วิเศษวิชาล้วนเกิดก่อ สายเผดียงดับทุกข์ท้อ....................เป็นน้ำหล่อเลี้ยงปวงชน สายน้ำเสโทหยาด..........................เพื่อปวงราษฎร์ทุกแห่งหน สายพระเนตรส่องดำบล.................ส่องดับร้อนเหล่าประชา ปวงธุลีเบื้องพระบาท.....................ก้มอภิวาททศนขา เย็นทั่วมหิตลา................................เพราะกำลังแห่งแผ่นดิน ขอทรงทีฆายุ.................................โรคะวปุมลายสิ้น สรรพเทพจ่งมาริน.........................น้ำอมฤตอำนวยพร เดชะพระไตรรัตน์.........................สวัสดิวัตน์สถาวร เพียงเนาวิมานธร...........................ทุกทิวาสราญเอย ฯ ทุติยบท ภัทรเภตรา ๐ เรืองเรืองสุริยไล้.........................เจ้าพระยา ระยับวาบวับวามตา.......................ตื่นเต้น รองรองส่องสุวรรณา....................ลอยเลื่อน ปวงราษฎร์บ่หว่างเว้น...................สักห้วง ฝั่งชล ฯ ๐ เรืองเรืองสุริยไล้.........................สายน้ำใหญ่เจ้าพระยา ระยับวาบวามวับตา.......................ดุจเกล็ดทองล่องระบาย รองรองส่องสุวรรณ......................ลอยเลื่อนลั่นมาเป็นสาย ปวงราษฎร์บ่เว้นวาย......................ชมขนัดแน่นฝั่งชล เด็กแก่แม่พ่อยิ้ม.............................สุขล้นปริ่มทุกห้องหน ต่างรีบมารอยล..............................เภตราล่องวิจิตรพราว สุวรรณหงส์ชะลอเลื่อน.................ดุจดวงเดือนเด่นหนหาว ห้อมล้อมด้วยดวงดาว....................ดุจหล่นฟ้ามาลงธาร นารายณ์ทรงสุบรรณ.....................เลิศเฉิดฉันผยองหาญ ทั่วทุกข์ล้วนราบราญ.....................ด้วยเดชะพระบารมี นั่นอนันตนาคราช.........................จรัสวิลาสรัศมี วรรษวัสส์ฉ่ำธรณี..........................ด้วยวิชชาปัญญาผล เหล่าสัตว์แสนยากร.......................จรัลจรมาตามชล เสียงขับก้องหาวหน......................ดุจเทพฟ้ามาอวยชัย เภตราล้วนลายสรรค์.....................วิเลปน์สุวรรณตรูตราใน ฝีมือคือช่างไทย.............................ประกาศก้องเกริกโลกา สุขใดใครจะเท่า.............................ชาวไทยเราบ่กังขา ฉลองราชย์ปกประชา....................ชโยสยามนามก้องเอย ฯ ตติยบท คันธนคร ๐ เรืองเรืองวิโรจน์ล้วน.................หลากสวรรค์ วิเศษวิศิษฏ์แต่เพรงบรรพ์..............สืบสร้าง พิภพพิพัฒน์พิโดรคันธ์..................คามเขต ประเทศทั่วลือเล่าอ้าง....................สุขล้น เมืองสยาม ฯ ๐เรืองเรืองวิโรจน์ล้วน..................ลออมวลสวรรค์สฤษฏิ์ บูรพ์บรรพ์วิเศษวิศิษฏ์...................สร้างสืบเมืองเฟื่องฟูงาม พิภพพิพัฒน์ฟุ้ง..............................คันธจรุงเมืองสยาม พิเทศทั่วลือนาม.............................คือเมืองทองของปวงชน เจดีย์ปราสาทสร้อย........................งามชดช้อยล้วนอำพน ทองทาบพื้นแผ่นบน......................มลังเมลืองเรื้องรางชาง เวียงวังประดับแก้ว........................รามลูบแล้วชาดรักหาง ทองสลับกระจกบาง......................ลายสะท้อนชวนยวนยล แคว้นเกษตรคือสุวรรณ.................โปรยหว่านธัญญ์อุดมผล เลี้ยงท้องทุกผองชน.......................สืบเลี้ยงไทยด้าวแผ่นดิน เชิงช่างอำรุงเมือง...........................งามลือเลื่องวิจิตรศิลป์ สิบหมู่คู่ธรณิน...............................สืบสานต่อฝีมือไทย แสงธรรมส่องนำหล้า....................เย็นศิราย้อมศีลใส สว่างสงบศานติใน........................ทุกข์ดับได้ด้วยปัญญา นพพระไตรรัตน์สาม....................ขอสยามพ้นภยา ร้อนไหนจุ่งคลายรา......................เลิกร้างขัดคิดฆ่าฟัน เรืองเรืองพิภพเย็น.........................ดับทุกข์เข็ญมารักกัน ไตรรงค์จะงามครัน.......................หากรู้รักสามัคคีเอย ฯ ....................................... ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญ ....................................... กาพย์เห่นี้ผมทดลองแต่ง ด้วยแรงบันดาลจากภายใน พลาดพลั้งผิดประการใด ขอรับคำติชม ไว้ปรับปรุงต่อไปครับ ....................................... ฝีมือยังด้อย อ่อนซ้อม ขาดการฝึกฝน อ่านไปสะดุดตรงไหนไม่ว่ากันนะ ........................................ ผมเข้าอ่านห้องนี้หลายทีแล้วครับ เลยขอฝากคำเอาไว้ ผิดประการใด ชี้แนะด้วย จากคุณ : buaravong - [ 16 มิ.ย. 49 12:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีครับทุกท่าน.                                   สวัสดีครับทุกท่าน -- พระภูมิพล -- ๏ พระ องค์จุติเพื่อสร้าง       แดนสยาม เจ้า แห่งเหนือหัวนาม           ธ ผ่องแผ้ว แผ่น ขวานชื่นคืนงาม           อร่ามเกียรติ์ ดิน ถิ่นทองก่องแก้ว            แว่วก้องกระจายไกล ๚ K416064901:00 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ฯ ------------------------------------------------------------------------ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : xers - [ 16 มิ.ย. 49 12:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 .                                                  สวัสดีครับทุกท่าน สวัสดีท่านพี่ครูคัมฯ แต่งโคลงกระทู้ข้างบนเข้ามาขอคำแนะนำขอรับ เดี๋ยวมีมาอีกครับ เห็นบทกวีของแต่ละท่านบรรจงแต่งมารู้สึกทึ่งครับ เลยอยากแต่งให้ได้บ้าง กำลังหาอ่านพวกคำราชาศัพท์ และบาลีสันสกฤต กะว่าเอาพอรู้เรื่องทีละนิด อ่านมากแล้วมึนครับ เป็นผลของการไม่ตั้งใจเรียนตอนเด็ก แหะๆ สารภาพ ขอบคุณลิ้งค์ เห่เรือของน้าจันทร์แห้ง และ คุณจังงัง ช่วงนี้เลยไปค้นอ่าน เห่ต่างๆ ไปเจอพระนิพนธ์ ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ในบทเห่ชมนก อ่านแล้วคุ้นๆว่า เคยฟังเพลงตอนเด็กๆ มีวงดนตรีนำมาร้องเป็นเพลงครับ เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง      นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่            เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย "พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์" บทเห่ชมนก สังเกตุท่านทรงโปรดสัมผัสสระ และคำซ้ำอ่านแล้วให้ รู้สึกหวานดีครับ และดูเข้ากับยุคสมัยนี้ที่นิยมคำซ้ำ แถมโคลงขึ้นต้น เห่ชมนก ให้หนึ่งบทครับ ๏ รอนรอนสุริยโอ้                 อัษฎงค์ เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง            ค่ำแล้ว รอนรอนจิตต์จำนง              นุชพี่ เพียงแม เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว      คลับคล้ายเรียมเหลียว ๚ น่าเสียดายช่วงนี้ไม่ได้เรียนเขียนโคลงอย่างจริงจัง เหมือนช่วงแรกๆ เพราะมัวแต่วุ่นวายกับทางโลก แต่ก็พยายามอ่านและก็แต่ง กลัวลืมครับ ข้างบนภาพเล็กเอามาแปะใหม่ครับ ถ่ายที่เมืองทองธานีครับ ------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : xers - [ 16 มิ.ย. 49 12:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ๏ สองสี่แปดเก้าครั้ง         ก่อนกาล พระอนุชาธิราชหาญ         รับไว้ ปกครองประเทศงาน        หนักหน่วง จวบบัดนี้จึ่งได้                ประจักษ์แล้วเป็นจริง ๚ ๏ บารมีพระมากพ้น         พรรณนา พระเมตตาดุจมหา           สมุทรกว้าง เป็นธรรมิกราชา              ร่มฉัตร ภูมิพลผู้สร้าง                 เพื่อให้ไทยเกษม ๚ ถ่ายรูปจากงานที่เมืองทองมาเหมือนกัน ฝีมือยังไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็อยากให้ได้ชมกันครับ แม้นว่าจะไม่สวยเท่าที่ควร อิจฉาคนถ่ายรูปเก่งๆจังเลย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 16 มิ.ย. 49 13:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีคุณbuaravong ครับ ที่กล่าวไว้ว่า ฝีมือยังด้อย อ่อนซ้อม ขาดการฝึกฝน อ่านไปสะดุดตรงไหนไม่ว่ากันนะ ........................................ ผมเข้าอ่านห้องนี้หลายทีแล้วครับ เลยขอฝากคำเอาไว้ ผิดประการใด ชี้แนะด้วย --------------------------------------------------------      ดีใจที่มีผู้สนใจการเขียนอ่านร้อยกรองขอรับ.... ใคร่เชิญชวนมาเขียนบ่อยๆเลยครับ.... การชี้แนะและแก้ไขเมื่อทั่นพี่ๆผู้ชำนาญทั่นใดพอมีเวลาก็จะมาชำแหละ......สนทนากันฉันมิตรขอรับ ดีใจที่มีผู้สนใจร้อยกรองขอรับ ----------------------------------------------              สวัสดีทั่นน้องเซ่อคนดี....เธออยู่ในดวงใจผมเลยครับ มาแบบเย็นชื่นใจทุกครั้งเลยพร้อมภาพและ สาระสนทนาให้ข้อความคิดหลากล้นดีครับ โคลงเธอบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเท่าแต่ลงแปะมา คคห8-3บท คคห26-27-1บท คคห49-สนทนา คคห50-สนทนา ผมชอบลีลาที่เย็นๆมากๆเลยครับ ลงท้ายว่า...เซ่อน้อมบรรทึก สกด..ใจสงบ...เลยครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 49 20:59:20 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 16 มิ.ย. 49 20:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ  xers (50)  เรียกผมว่าทั่นพี่ครูคัมฯ  ฮิฮิ อ่านแล้วอยากจะไม่สบายต่อไปอีกสักอาทิตย์   เฉพาะในอาศรมนี้คำว่าครู เราจะเรียกครูหนอนสุรา   กับครูเล็ก อิศรา    ส่วนท่านอื่น ๆ แม้จะเป็นแบบอย่างได้เข้าขั้นชั้นครู เช่น คุณหมีเซอะ  ฯลฯ ก็มักจะอึกอัดขัดข้องใจถ้าโดน เรียกว่าครู  เอาเป็นว่าคล้าย ๆ ผู้ช่วยครูอย่างที่ครูหนอนเคยเรียกแต่เราเรียกกันแบบพี่น้อง มิตรสหายก็แล้วกันครับ -- พระภูมิพล -- ๏ พระ องค์จุติเพื่อสร้าง         แดนสยาม เจ้า แห่งเหนือหัวนาม           ธ ผ่องแผ้ว แผ่น ขวานชื่นคืนงาม           อร่ามเกียรติ์ ดิน ถิ่นทองก่องแก้ว            แว่วก้องกระจายไกล ๚ K416064901:00 โคลงเฉลิมพระเกียรติเปิดกระทู้  “พระ  เจ้า  แผ่น  ดิน” มีผู้เขียนกันสองท่านคือคุณ XERS ที่ขอคำแนะนำมา  กับคุณพิราบเงิน   เอาเป็นว่าคุยกันเบา ๆ  ด้วยมุมมอง ตื้น ๆ ของผมเอง ตรงไหนที่ปล่อยไก่ออกไปก็ถือว่าคุยกันสนุก ๆ (1) บาทแรก       พระ องค์จุติเพื่อสร้าง         แดนสยาม คุณ เซอร์เขียนโคลงมามาก เรื่องฉันทลักษณ์นั้นไม่ต้องห่วงอีกแล้ว ยกเว้นจะเผลอหรือรีบแต่ง การเชื่อมคำหน้าบาท  “พระ”  กับคำขยายอีกสี่คำในวรรคหน้า  “- องค์จุติเพื่อสร้าง”  นั้นร้อย เรียงกันได้ใจความดี  แม้คำจะไม่เกินเมือมองด้วยตา  แต่ถ้าใช้หูมองด้วย เสียงนั้นออกจะเยิ่นไป นิดทั้ง ๆ ที่แบ่งคำได้ 5 คำ เป็น  พระ /องค์ /จุติ /เพื่อ /สร้าง  เวลาอ่านเสียงจะฟังออกเป็น 6 คำ   พระ /องค์ /จุ /ติ /เพื่อ /สร้าง   จะยืนยันใช้แบบเดิมก็ได้  แต่ถ้าจะเลี่ยงก็น่าจะตัดคำที่ไม่จำเป็นออก เช่น  “พระ  จุติเพื่อสร้าง”   แยก  “จุติ”  ออกเป็นสองคำ   อีกคำคือคำโท  “สร้าง”   แม้จะถูกต้องแต่ดูให้ลึกลงไปอีกหน่อย ก็น่าจะหาคำที่ตรงความหมาย กับพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า  “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม”  หรือการครองราชย์ วรรคหลังสองคำ  “แดนสยาม”   เสียงเพราะดีแล้ว  และได้รับสัมผัสคำกับวรรคหน้าอีกครึ่งคำ คือ  “สร้าง”  กับ  “สยาม”    คำว่า  “แดนสยาม”  เอามาใช้กันเยอะมากจน  “ช้ำ”  ไปแล้ว ในโคลงหนึ่งบทลองหาคำที่โดนใจมาก ๆ มาใช้  จะน่าอ่านมากขึ้น (2) บาทที่สอง “เจ้า แห่งเหนือหัวนาม           ธ ผ่องแผ้ว” การเชื่อมเนื้อความระหว่างวรรคหน้ากับวรรคหลังกระโดดไปหน่อย  น่าจะมีเหตุมาจาก คำว่า  “นาม”  ที่เอามารับสัมผัสกับคำว่า  “สยาม”    ข้อควรระวังคือจะใช้คำใดให้ได้ ความหมายที่สอดรับกับคำว่า  “นาม”  และได้เอกโททั้งสองคำ  ในที่นี้คำว่า “ผ่องแผ้ว” เป็นคำ 2 คำที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเติมอะไรเข้าไปอีกจะกลายเป็น 3 คำ  ในที่นี้ คำว่า  “ธ”  แม้จะทำให้เสียงมีลูกเก็บ  ฟังแล้วถูกใจวัยรุ่น  แต่ออกจะเป็น “ลูกโกง” ซึ่ง น่าจะเลี่ยงการใช้แบบนี้ในบทโคลงศักดิ์สิทธิ์และเป็นทางการ การเชื่อมคำหน้าบาท  “เจ้า”  กับอีก 3 คำ  “แห่งเหนือหัว”   ทำให้ความไม่เดินครับ คงเป็น เพราะเติมคำ “แห่ง” เข้ามาเพื่อได้คำที่มีรูปเอก  โคลง 1 บท มี 30 คำอย่าใช้เปลืองครับ ลองพยายามให้แต่ละคำมีความหมายให้มากที่สุด (3) บาทที่สาม แผ่น ขวานชื่นคืนงาม           อร่ามเกียรติ์ การเชื่อมคำหน้าบาท  “แผ่น”  กับ  “ขวาน”  ยังไม่สนิท  แม้จะพอทราบว่าต้องการสื่อถึงอะไร แต่อ่านแล้วสะดุด  น่าจะเป็น  แผ่นฟ้า  แผ่นน้ำ ฯลฯ  มากกว่า  แผ่นขวาน   คำว่า ขวานทอง ลอง หาตำแหน่งวางให้เหมาะก็จะขลังดี (4)      บาทที่สี่ ดิน ถิ่นทองก่องแก้ว            แว่วก้องกระจายไกล ๚ บาทนี้เสียงเพราะใช้สัมผัสในมากคล้ายกับโคลงนิราศสุพรรณ  แต่ให้ระวังคำที่มีความหมายซ้ำกัน เช่น  “ดิน”  “ถิ่น”   “แคว้น”   สรุปว่าเขียนได้ดีแล้ว  ดีจริง ๆ ครับ ไม่ได้แกล้งชม  แต่ถ้าฝึกให้มากขึ้น เพิ่มความละเอียดให้มากขึ้น ครูหนอนสุราชี้แนะไว้ว่า ฝีมือจะรุหน้าไปอีกสามขั้นใหญ่ ๆ เลยนะท่าน โคลงกระทู้ที่เขียนได้ดีของอีกท่านหนึ่งคือ พิราบเงิน คนนี้เขียนมานาน และขยัน  ฝีมีรุดหน้า   กระบวนท่าลึกล้ำ  ลองอ่านแล้วจับผิดดูครับ พระ คุณ ธ มากพ้น                       พรรณนา เจ้า ปกครองทุกสา-                      รทิศพร้อม แผ่น ดินหลากทวีปมา                    ถวายพระ- พรเฮย ดิน ทุกก้อนสยามค้อม                    เทิดไท้ทรงพระเจริญ ฯ ตัวอย่างบทโคลงที่เร้าใจ  สด  เนื้อโคลงแน่น  เฉียบคม   ก็คุณหมีเซอะ  ทิวา บทโคลงที่อลังการ ประณีตทุกตัวอักษร   ก็ คุณหมอวฤก  ศาลา ท่านอื่น ๆ   ยังมีอีกมาก  แต่หายไปเลี้ยงลูกเลี้ยงตัวกันหมดแล้ว  ก็มีจุดเด่นต่างกันไป บ่ายนี้มีประชุม  รีบแวะเข้ามาก่อน  วันอาทิตย์ยังไม่แน่ สวัสดีครับ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 49 08:54:44 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 17 มิ.ย. 49 08:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับดีใจมากครับที่หาเวลามาสอนให้ครับ และติชม เห็นบอกว่าเขินครับที่เรียกครู จริงๆแล้วนับถือตามนั้นจริงๆ และยังมีอีกหลายท่านที่เคยให้คำแนะนำมา อย่างพี่พิราบฯ พี่ทิวา นี่สังเกตุช่วงก่อนถ้าผมลงโคลงหรือบทสนทนาไปไม่นาน ถ้ามีจุดพร่อง ท่านก็จะมาลงต่อท้ายแฝงคำแนะนำในโคลง แบบไม่ออก และก็อีกหลายท่านเช่นพี่หมี ลุงวฤก ก็ได้แนะนำช่วงแรกๆ เพียงแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็น หรือจะปล่อยให้เป็น หน้าที่ของรุ่นใหม่ ขอรับ งั้นคงต้องเรียกตามเดิมแต่ ขอยกทุกท่านไว้เป็นครูครับ ยอมรับว่าแต่งโคลงกระทู้นี้ได้ยากจริงๆ และไม่ละเอียดพอ คงมีความรู้ด้านภาษาน้อยไปหาคำลงยากครับ และไหวพริบ น้อยไป พอได้อ่านวิจารณ์แล้วให้ได้รู้จุดบกพร่องตัวเองดีขึ้น ในหลายอย่าง 1 พระ องค์จุติเพื่อสร้าง         แดนสยาม เรื่องลูกเก็บนี่ก็พึ่งหัดครับ พอเจอวิจาณ์ กลับไปอ่าน แล้วเป็นก้อนแข็งๆ เลยครับ ช่วงนี้จะบ้าลูกเก็บมากไปหน่อย เผลอคิดไปแนวเพลง R&B แหะ แต่ทำได้ไม่ดี 2 เจ้า แห่งเหนือหัวนาม           ธ ผ่องแผ้ว บาทนี้ยากครับยอมรับตาม วิจารณ์เลยครับ เพราะคำนาม เชื่อม ผ่องแผ้วดีแล้ว แต่คิดไปว่า ผ่องแผ้วก็เป็นคำที่คนใช้เยอะ เหมือน คำสยาม เลยแอบเติม ธ เข้าไป เพื่อย้ำคำเจ้าครับ พอเห็นคำวิจารณ์ว่าความศักสิทธิ์ ก็นึกไปได้ว่า จำเป็นยิ่งที่จะต้องเลี่ยง เพราะไปอ่าน บทเห่ ลิลิต นิราศ ต่างๆ ถ้าคิดจะแต่ง ต้องทำครับ เพราะชาวไทยถือการไหว้ครู และสิ่งศักสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ    คำต่อของคำว่า เจ้า นี่อีกหวังแต่จะใส่รูปเอกไม่ได้คิดละเอียด ทั้งที่ ใช้ เจ้าอยู่หัว ก็ได้ คราวหน้าต้องระวังไม่ให้เปลืองครับ 3 แผ่น ขวานชื่นคืนงาม           อร่ามเกียรติ์ นี่ก็เป็นอีกบาทที่ไม่ละเอียดพอ คิดแต่จะเลี่ยงใช่ คำเอกโทให้น้อยลง เป็นบาทที่ผมพยายามไม่ใส่ เอก โท ให้รก คงเพราะรู้ภาษาน้อยเลยหา คำลงยาก น้ำ กับฟ้าก็เคยคิด แต่ไม่ใส่ครับ อย่างที่พี่บอก ขวาน ถ้าใช้ให้ถูกที่จะขลัง ถ้านำมาไไว้หน้างาม จะงามกว่าตรงที่เดิมนะผมว่า 4 ดิน ถิ่นทองก่องแก้ว            แว่วก้องกระจายไกล ๚ บาทนี้แต่งเสร็จพร้อมบาทแรกครับ หรืออาจเสร็จก่อน เลยมีเวลาเยอะ และช่วงนี้ก็อ่านเรื่องสัมผัส และได้อ่านนิราศสุพรรณ ด้วยเลยตรงครับ คำวิจารณ์เหมือนนั่งแต่งด้วยกันเลยครับ อาจจะเป็นบาทที่ดีที่สุดในบท แต่ก็ยังอยากได้ เสียงส่งเป็นจัตวา แต่หาคำจัตวาที่เก็บความหมายไม่ได้ครับ ส่วนเรื่องโคลงของพี่ๆ เห็นตามพี่ว่า ของพี่หมี กับ พี่ทิวา นี่ อ่านแล้วต้องอ่านซ้ำครับ แสดงถึงไหวพริบเอามากๆ เลย ใช้ภาษา แปลกเหนือความคาดหมาย และของ ลุงวฤก กะ หนู ศ. นี่มีความรู้เรื่องภาษามากๆ เลย สวย อลังการ ยากนะ ส่วนผมยังขาดลีลาของตัวเอง หาไม่เจอสักทีน้อ แอบชมครับ ไม่ค่อยได้ชมใคร หาโอกาสชมยาก และไม่ยังไม่เก่งลึกซึ้ง ว่าชมควรตรงไหนครับ อีกหน่อยคงได้วิจารณ์ มีข้อแม้ว่าถ้าเก่ง หรืออาจไม่เก่งเลยครับ แหะๆ ขอบคุณครับสำหรับบทชำแหละ อ่านสนุกดีครับ คิดว่าท่านที่ได้อ่าน ก็คิดเช่นเดียวกัน ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นการดีว่าเรากำลังอยู่จุดไหน จะได้ไม่หลงคิดว่าตัวเองแต่งดีแล้ว แล้วไม่พยายามต่อล่ะครับ ไม่ขอแก้โคลงนะครับ เพราะส่วนมากผมจะไม่แก้ไว้มาย้อนดูความผิด ของตัวเอง แต่จะพยายามในบทต่อไป ส่วนใหญ่จะแก้คำผิดมากกว่า อ่านแล้วบ่กล้าลงบทต่อไปเลย ทั้งที่แต่งเสร็จแล้ว แหะ ขอไปแก้ก่อน ปล. ถึงน้าจันทร์ฯ ขอบคุณที่ชมครับ ช่วงนี้เป็นเดือนมงคลเลยพยาม แต่งแบบสบายๆ ไม่หนักครับ และที่บอกไม่ตั้งใจนี่หมายถึงเรื่อง ช่วงนี้ไม่ได้เรียนโคลงจริงจังครับ ถ้าแต่งนี้จะตั้งใจ ขอรับ และเซ่อน้อมบันทึกนี่ มีอยู่ช่วงหนึ่งเผลอไม่ใส่แล้ว มีพี่ท่านหนึ่งทักว่า ขาดเอกลักษณ์บุรุษไปขอรับ เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------------------------------        . จากคุณ : xers - [ 17 มิ.ย. 49 16:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อรุณสวัสดิ์ทุกทั่นขอรับ กระทู้ดำเนินมาเกินครึ่งร้อยแล้วขอรับผมขอย้อนทักทายทุกทั่นและถือโอกาศสรุปย่อไว้..... คคห...ผู้มาอวยพร 2-น้องปฤษณะ 4-แม่จิตร 5-ทั่นพี่เจียวต้าย 6-ทั่นน้องซอมพอแดง (ซ่อมพอได้) 12-พี่จังงัง 16-19-น้องหนูศาลาไทย 7-ทั่นสหายพจนารถ๓๒๒ 9- สัมผัสรักในใจเรา 20-พี่ทิกิ 22-23ทั่นพี่พิราบเงิน 38-โกฏิดารา 42-สุปศกาล 10-28-29-34-39-43-44-47-จันทร์แห้ง 48-buaravong 8-26-49-50-น้องเซ่อ 3-21-25-35-37-46-51-พี่จำปูน -----------------------------------------------------         ร่วมส่งโคลงกระทู้หนึ่งบทขอรับ        ๏พระ  บาทสมเด็จเจ้า         อยู่หัว เจ้า  สืบจักรกรีวงศ์           เทพไท้ แผ่น  ฟ้ากึกก้องรัว          ลือเรื่อง ธ.เฮย ดิน  กระเดื่องด้าวไซร้      เทิดเกียรติเทิดทูนฯ          กระผมว่าจะค้นกาพย์เห่เรือต่อก็เกรงจะทำให้ทุกทั่นเบื่อหน่ายหรือเปล่าหนอ...           และฟากฝังใจไว้เช่นเดียวกับน้องเซ่อคนดีด้วยเช่นกันขอรับเพราะกระผมก็หลงเป็นแฟนคลับทั่นพี่คัมภีร์โบราญมาตั้งแต่แรกอ่านกระทู้อาศรมชาวโคลงแล้วครับ....... และเป็นห่วงสุขภาพทั่นพี่คัมภีร์ฯและมิตรรักทุกทั่นเลยขอแต่งโคลงปรุงยาห้าเกสรใฝ่ฝากเป็นยาชูกำลังให้ขอรับ        ๏มะลิบานผลิเช้า                ชุ่มหอม กำเก็บรวบรวมออม                อบน้ำ บัวหลวงและดอกพยอม          น้อมจิตร เจิดแล ชูชื่นใจฉ่ำย้ำ                 อยู่เย้าสุขสบาย        ๏ลำดวนลำเจียกเจ้า            สรรค์มา ปรุงแต่งตำรับยา                        หยูกย้อม บุหงากลิ่นกรุ่นนา               สิกอยู่  เสมอแล หอมหอบมอบรุมล้อม             รุ่มไล้ชูขวัญ ปล.เอ...กระผมจะชวนออกนอกเรื่องไหมนะ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 11:18:49 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 11:10:31 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 06:53:09 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 06:45:55 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 06:42:23 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 18 มิ.ย. 49 06:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีวันอาทิตย์ ได้หลับตอนหัวค่ำพักใหญ่แล้วตื่นมาดูฟุตบอลโลกเมื่อคืน        กว่าจะนอนจริงก็ย่างเข้าตีสี่ เข้ามาทำหน้าที่ผู้เฝ้าอาศรมแบบผสมความง่วงนิดหน่อย ก่อนจะโดนใบแดงเพราะเอาเปรียบ หลายท่านที่ขยันกว่าผมหลายเท่า  ขอเปิดห้องรับแขกอย่างเป็นทางการเลยนะครับ ผู้เข้าร่วมกระทู้ท่านแรก  คุณปฤษณะ (2)  ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเขียนนิยาย เรื่องสั้น และร้อยกรอง เสียดายที่ไม่ได้วางโคลงกลอนไว้ด้วย เพื่ออ่านทำความรู้จักกันให้มากขึ้น คุณจำปูน(อ่างหยก) (3, 15, 21, 25, 35, 37, 45, 46, 51) โคลงบทที่ผมชอบคือบทในชุดที่ 35 เขียนได้เป็นธรรมชาติ ลำดับความดี  สื่อความได้สมบูรณ์ ๏ กาพย์เห่เรือเอี่ยมโอ้             คำประพันธ์ จากบล็อกจังงังสรร               เสกไว้ จันทร์แห้งพากเพียรปัน          มาแปะ ต้องนะจังงังให้                    ชื่นล้ำงามกวี ๚ะ๛   โคลงในชุดที่ 46 คุณจำปูน(อ่างหยก) ได้แสดงฝีมือแบบเนื้อ ๆ ไว้ 4 บท ชมเรือพระราชพิธีไว้อย่าง ที่ใคร ๆ ก็ควรอ่านเพื่อทำความรู้จักฝีมือคุณจำปูนได้ในโคลงชุดนี้  แต่ผมยังไม่มีเวลาจะไปเยี่ยมอ่าน เพิ่มเติมตามที่เปิดกระทู้ไว้   ขอผลัดไว้ก่อนครับ  แหะแหะ อีกบทที่ผมชอบมาก คือโคลงบรรยายภาพในชุดที่ 37 ใช้เป็นโคลงตัวอย่างได้เลย ๏ ยายยกธงโบกพลิ้ว           สะบัดไหว ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร         อยากรู้ ยายมาแต่เช้าไย                 ยืนหยัด ยายตอบเพราะใจสู้             อยากใกล้ในหลวง  ๚ ................................................................................................................................ คุณ  แม่จิตร (4) เขียนอินทรวิเชียรฉันท์  ซึ่งดูเหมือนจะเป็นท่านเดียวที่เขียนฉันท์ในกระทู้นี้  ผู้ที่เขียนฉันท์ได้ ในขณะนี้เรียกได้ว่าน้อยแล้ว  เชิญคุณแม่จิตรแวะมาร่วมกระทู้กันบ่อย ๆ  เพื่อจะมีชาวโคลง บางท่านที่ไฟมอดไปแล้ว กลับมาเขียนฉันท์ได้อีก ................................................................................................................................ คุณเจียวต้าย (5, 11,) ขยันเขียนโคลง ขยันเปิดกระทู้มาก  ยิ่งเขียนกลอนยิ่งดี   เพราะมีแนวทางเฉพาะตัวอย่างที่เรียกว่า มีเอกลักษณ์   อ่านแต่กลอนไม่ต้องบอกชื่อก็รู้ว่าใครเขียนแนวนี้   ผมได้อ่านกลอนที่คุณเจียวต้าย เขียนเสมอ  เพราะเชื่อว่าทุกครั้งที่อ่านจะได้ประโยชน์และแง่มุมความคิดที่ลึก ๆ เป็นประจำ ................................................................................................................................ ซอมพอแดง (6) เขียนกลอน 2 บท เป็นหญิงเขียนอะไร ๆ ได้เก่งมาก หลากหลาย  น่าอ่าน  อารมณ์ดี  คิดถึงเจ้าตัวน้อย ตอนนี้เริ่มซนแล้วหรือยังครับ  ผมไม่ค่อยได้เข้ากระทู้อื่น ๆ ของซอมพอฯ  อยากเห็นรูปหลาน.. ................................................................................................................................ คุณพจนารถ ๓๒๒ (7) เท่าที่เคยได้อ่านบทกลอนที่เปิดไว้ในกระทู้อื่น  ท่านผู้นี้เขียนบทกลอนได้ชำนาญมาก  เป็นธรรมชาติ เขียนได้อย่างใจคิด  ขยันเปิดกระทู้อีกท่านหนึ่งเหมือนกัน  เสียดายที่ผมงานมากในระยะหลัง จะได้ ร่วมกระทู้กลอนกับเพื่อนฝูงก็หาเวลายาก ................................................................................................................................ คุณ  XERS   ท่านนี้ได้เสวนากันเป็นพิเศษอยู่แล้วในกระทู้นี้  ถือว่าเป็นชาวอาศรมที่เอางานเอาการมากที่สุด คนหนึ่ง  ว่าง ๆ ก็ลองเปิดกระทู้นอกอาศรมดูบ้างก็ดีครับ  อย่างคุณเจียวต้าย  จันทร์แห้ง ................................................................................................................................ คุณ สัมผัสรักในใจเรา (9) สวัสดีครับ อาศรมชาวโคลงยินดีต้อนรับเสมอ  ถ้าได้เขียนอะไรเก็บไว้ ก็เอามาแบ่งปันกันอ่านได้ เป็นบทร้อยกรองเรียบง่ายแต่ถ่ายทอดความรู้สึก หรือ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโคลงกลอนก็ได้ ................................................................................................................................ มีนัดวันอาทิตย์ครับ  ต้องไปก่อน  เชิญเขียนโคลงกระทู้กันเยอะ ๆ ครับ  ใครเขียนได้ถูกใจ เชิญไปรับ รางวัลได้ที่คุณศาลาไทย   ถ้าเธอนัดเลี้ยงฉลองงานใหม่   ส่วนผมจะเก็บตังค์ไว้ผ่อนกล้องตัวใหม่ กับ แอบไปเที่ยวต่างจังหวัด จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 18 มิ.ย. 49 09:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 57 วันอาทิตย์ได้พักผ่อนกันทั่วหน้านะขอรับ ฝนพรำพรำ ร่ำเรียก คนเคยพบ คล้ายวันคบ เคยคุ้น แต่หนไหน ฝนโปรยปราย ดังหมาย ร้องหาใคร คล้ายหาใจ จากเธอ เพ้อเฝ้ารอ สวัสดีด้วยกลอนฝนขอรับ สำหรับวันอาทิตย์ที่มีฝนเย็นๆมาโปรยๆ รักฉันไหม รักฉันไหม ใบไม้เขียว ไม่ซีดเซียว ฉ่ำทรวง ไม่ร้องขอ ต้องสายฝน ใจฝัน เริ่มแตกกอ เริงดอกล้อ รวงลออ ให้รื่นรมย์ ขอรับทั่นพี่ทั่นน้องทุกทั่น ขอผมสลับกลอนกล่อมใจสักน้อยนะครับ หลากสีสัน ดอกชบา บานสดใส คล้ายรอยยิ้ม จากใคร ให้ลืมขม พู่เรือหงส์ ตรงรั้ว แดงเชิญชม สิ้นระบม ทมทุกข์ สุขทรงทรวง มีความสุขกับวันอาทิตย์ตามความชอบนะขอรับ ขวัญเอยชื่น ชวนชม หวิวกลมกิ่ง ไกวดอกอิง งามพริ้ง หยาดจากสรวง รักกุหลาบ หนามคม อย่ามาลวง มาถามทวง รักฝน ฝังใจเอย ปล.ไม่ลืมธรรมเนียมวางโคลงกระทู้.....ขอรับ        ๏พระ  ราชดำริสร้าง        สรรค์ไทย เจ้า กษัตริย์คุณเกริกไกล        แซ่ซร้อง แผ่น ฟ้าชื่นอำไพ                ราษฎ์สุข  เกษมเฮย ดิน   ชุ่มฉ่ำ ธ.ป้อง              ปกไว้โดยปรี เปิดดิกราชาศัพท์หาคำอยู่นานโขเลยครับ หวังรางวัลใครหนอ......ขอรับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 20:35:25 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 20:20:30 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 18:29:21 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 18 มิ.ย. 49 18:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 http://www.navy.mi.th/navadmin/saranaru3.htm และมาชวนอ่านการใช้ราชาศัพท์ต่อสักนิดขอรับ             ข้อ ๓ การใช้คำว่า "ทรง" “ทรง” ใช้ผิดโดยนำหน้าคำกริยาที่เป็นราชาศัพท์ อยู่แล้ว เช่น ผิด-ทรงเสด็จ ทรงตรัส ทรงพระราชทาน ซึ่งถือว่าผิดหลักการใช้คำกริยาราชาศัพท์ เพราะคำว่า ถูก-เสด็จ ตรัส พระราชทาน เหล่านี้เป็นคำราชาศัพท์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีคำว่า “ทรง” นำหน้า ประสูติ = เกิด                  ทอดพระเนตร = ดู บรรทม = นอน                          เสด็จ = ไป เสวย = กิน                                สรง = อาบน้ำ ประทับ = นั่ง อยู่                      ประชวร = ป่วย ผนวช = บวช                          พระราชทาน = ให้ ตรัส = พูด                              ประทาน = ให้ กริ้ว = โกรธ                          โปรด = รักชอบ นอกจากคำกริยาราชาศัพท์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเป็นคำกริยาราชาศัพท์ ที่เกิดจากการสร้างคำโดยวิธี ใช้คำว่า “ทรง” 1.นำหน้าคำกริยา หรือคำนามธรรมดา 2.กับคำนามราชาศัพท์ (มีคำ “พระ” นำหน้า) ทั้งสิ้น เช่น ทรงวิ่ง ทรงยินดี ทรงสั่งสอน ทรงม้า ทรงเรือใบ ทรงศีล ทรง พระปรีชา ทรงพระสุบิน และทรงพระราชสมภพ เป็นต้น                 ข้อ ๖ รับสั่ง ตรัส ดำรัส พระราชดำรัส พระราชกระแส ราชาศัพท์ทั้ง ๕ คำนี้ แปลว่า คำพูด หรือ พูด แต่     “พระราชดำรัส พระราชกระแส” ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ ในหนังสือเก่าหลายๆ ฉบับ มีคำว่า รับสั่ง ตรัส ดำรัส ใช้กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เหมือนกัน ถ้า เป็นเรื่องธรรมดาสามัญไม่ใช่ราชการ ท่านใช้ “รับสั่ง” หรือ “ตรัส” ถ้าเป็นราชการเรื่องสำคัญก็ใช้เป็นทางราชการว่า “พระราชดำรัส พระราชกระแส” ถ้าเป็นคำสั่งซึ่งตราเป็นตัวบทกฎหมายก็ใช้ว่า “พระบรมราชโองการ”                                  ข้อ ๗   ทรงพระผนวช คำว่า ผนวช เป็นกริยาราชาศัพท์อยู่แล้ว ตามหลักไม่ต้องใช้คำว่า “ทรง” นำหน้า แต่สำหรับพระมหากษัตริย์ใช้ว่า “ทรงพระผนวช”                                   ข้อ ๘    เสด็จพระราชดำเนิน ...เสด็จ คำว่า “เสด็จ” นั้น กริยาแท้อยู่ที่คำที่ตามหลังมา เช่น เสด็จขึ้น เสด็จลง เสด็จเข้า เสด็จออก เสด็จประพาส เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เสด็จสวรรคต เป็นต้น รับเสด็จ ส่งเสด็จ จะเห็นได้ว่า กริยาหลักที่เป็นเนื้อความอยู่ที่ คำหลังทั้งสิ้น เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนรถพระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราช- วัง เสด็จพระราชดำเนินกลับ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ วังไกลกังวล เสด็จพระราชดำเนิน สามารถใช้คำย่อว่า เสด็จฯ ก็ได้ สำหรับเจ้านายชั้นรองลงมาใช้ว่า เสด็จ อนึ่ง คำว่า เสด็จพระดำเนิน ไม่มีใช้ในราชาศัพท์ มีแต่ ทรงพระดำเนิน แปลว่า เดิน จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 18 มิ.ย. 49 21:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีขอรับ...ทุกทั่น        ๏พระ ทรงหวงห่วงถ้วน           ทุกข์สุข เจ้า เกื่อราษฏ์ปลอบปลุก        ซิ่นเศร้า แผ่น ฟ้าร่มเย็นยุค                    สมัยสืบ ดิน แผ่พร่างฝันเร้า                 เทิดเกล้าขวัญไทยฯ และค้นได้บทความอันซาบซึ้งจึงใคร่นำมาฝากให้อ่านกันขอรับ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นตอนหนึ่งในสี่สิบเรื่องของหนังสือ"ที่สุดของหัวใจ" ที่เป็นความผูกพันของคนไทยกับในหลวงซึ่งประทับอยู่ในหัวใจของผู้ที่ได้มีโอกาศ สัมผัสใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท อ่านแล้วไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดคนไทยถึงรักในหลวงได้มากมายถึงเพียงนี้ด้วยรู้แล้วว่า ในหลวงพระองค์นี้ทรงรักประชาชนยิ่งกว่าพระองค์เอง รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนาราคา199บาท น้ำลดหรือยัง โดย ถาวร ชนะภัย หลายปีมาแล้วเมื่อครั้งน้ำท่วมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เป็นช่วงเวลาที่การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องโทรพิมพ์มาติดตั้งที่ห้องทรงงานใหม่ๆ ข้าราชสำนักท่านหนึ่งกรุณาเล่าให้ฟังว่าแม้ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยังไม่เสด็จขึ้นห้องพระบรรทมแต่ทรงคอยติดตามข่าวเรื่องอุทกภัยที่หาดใหญ่อยู่อย่างใกล้ชิด ด้วยทรงห่วยใยราษฏรจึงทรงส่งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ด้วยพระองค์เองถามไปทางหาดใหญ่ว่า "น้ำลดแล้วหรือยัง" โดยที่ไม่ทราบว่าผู้ส่งคำถามมานั้นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำตอบที่มีผ่านมาทางเครื่องโทรพิมพ์เมื่อเวลาตีสองตีสามมีข้อความที่ตอบด้วยความไม่พอใจว่า "ถามอะไรอยู่ได้ดึกดื่นป่านนี้แล้วคนเขาจะหลับจะนอน" แต่ตอนท้ายของคำตอบก็ไม่ลืมที่จะบอกด้วยว่า "น้ำลดแล้ว" ไม่ต้องกั้น โดยดร.สุเมธ ตันติเวชกุล มีอยู่ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปที่เซ็นทรัลวันที่มีประชุมรัฐสภาโลก วันนั้นผมจำได้ผมติดอยู่บนท้องถนนฝนตกผมก็มีวิทยุเลยได้ยินรับสั่งมากับตำรวจมาเลย "วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ" ทรงเข้าใจความทุกข์ของราษฏรอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันฝนตกรถติดกันอย่างมหาศาลถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีกสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน ทรงวิทยุบอกตำรวจว่า "ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชนไม่ต้องกั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกัน" ลุงวาเด็ง โดย มนูญ มุกข์ประดิษฐ์ วันนี้ลุงวาเด็งพาแววตาที่เป็นประกายมาเฝ้าฟระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยชุดเต็มยศครึ่งท่อน คือสวมกางเกงตัวเดียวไม่สวมเสื้อ ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้วที่สามัญชนคนธรรมดาไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะเข้าใกล้ชิดพระองค์ บอกเล่าความทุกข์สุขกับพระเจ้าแผ่นดินของเขาได้อย่างเสมอภาคกันถ้วนหน้าเช่นนี้....... ลุงวาเด็งดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาถึงหน้าบ้าน จึงเหลียวซ้ายแลขวาหลายครั้งผิดปกติในที่สุดก็ได้กราบบังคมทูลอย่างฉะฉานว่า "พระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทั้งทีไม่มีอะไรจะถวาย ผลไม้ในสวนเพิ่งเก็บขายไปได้เงินมาสองหมื่นบาท ก็นำเงินไปซื้อเครื่องปั๊มน้ำมาได้ 1 เครื่อง ถอดเอาขึ้นรถและขนไปเลยขอถวายพระเจ้าอยู่หัว" ข้าวผัดไข่ดาว โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล วันหนึ่งเสด็จฯ เขาค้อเปิดอนุสาวรีย์ พอเปิดอนุสาวรีย์เสร็จพระองค์ท่านก็ขอกลับไปที่พระตำหนักเฟื่อจะทรงเปลี่ยนฉลองพระบาทเ พราะเดี๋ยวจะไปดูงานในป่าในดง.........เราก็ไม่ได้ทานข้าวไม่มีใครทานข้าวตอนนั้นบ่ายสองโมงแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนฉลองพระบาทสักยี่สิบนาทีน่าจะพุ้ยข้าวทันก็รีบวิ่งไปห้องอาหารที่เตรียมไว้ ปรากฏว่าพวกที่ไม่ได้ตามเสด็จเขาทานกันหมดแล้วในนั้นจึงเหลือข้าวผัดติดก้นกระบะกับมีไข่ดาวทิ้งแห้งไว้ 3-4 ใบ เราก็ตักเห็นมีข้าวอยู่จานหนึ่งวางไว้มีข้าวผัดเหมือนอย่างเราไข่ดาวโปะใบหน ซึ่งมีน้ำปลาถ้วยหนึ่งวางอยู่เพื่อนผมก็จะไปหยิบมามหาดเล็กบอกว่า "ไม่ได้ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก" ดูสิครับตักมาจากก้นกระบะเลยผมนี่น้ำตาแทบไหลเลยท่านเสวยเหมือนๆ กันกับเรา...... ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ จากลิ้งค์นี้ขอรับ http://www.saranair.com/article.php?sid=3476 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 49 22:32:46 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 19 มิ.ย. 49 22:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับ   แค่ดูฟุตบอลสองคู่ยังง่วง ๆ  ช่วงนี้ปล่อยกระทู้ให้คืบคลานไปช้า ๆ ไม่ต้องรีบ  ขอดูฟุตบอลก่อนครับ แหะแหะ  ...ใครไม่ชอบดูฟุตบอลและว่างอยู่ก็เชิญแวะเข้ามาทักทายกันบ้าง คุณจันทร์แห้ง ผู้เฝ้ากระทู้ตัวจริงที่ผมขอขอบคุณมากและขออาศัยไหว้วานต่อไปจนกว่าจะจบกระทู้   ที่ถูกใจก็คือ ได้ช่วยค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายจากเวบฯ ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์มาแบ่งกันอ่าน   ช่วยเดิน กระทู้ให้เกินสิบกระทู้ขึ้นไป  บทโคลงที่ผมชอบคือโคลงปรุงยาห้าเกสร     ๏มะลิบานผลิเช้า             ชุ่มหอม กำเก็บรวบรวมออม             อบน้ำ บัวหลวงและดอกพยอม        น้อมจิตร เจิดแล ชูชื่นใจฉ่ำย้ำ                        อยู่เย้าสุขสบาย       ๏ลำดวนลำเจียกเจ้า      สรรค์มา ปรุงแต่งตำรับยา                 หยูกย้อม บุหงากลิ่นกรุ่นนา               สิกอยู่  เสมอแล หอมหอบมอบรุมล้อม          รุ่มไล้ชูขวัญ .......................................................................................... จังงัง  (12) เขียนโคลงเก่งมาก เก่งมานาน เขียนได้หลายแบบ  ระยะหลังเข้าอาศรมน้อยไปนิด สงสัย มัวสร้าง blog  หรืองานยุ่ง  เขียนโคลงขลัง ๆ ได้ดี อ่านแล้วทำให้จังงัง  บทที่โดนใจ เพราะชอบทั้งรสคำและรสความ ๏ นารายณ์หมายเทียบไท้-  ...สยามินทร์ ทรงครุฑดุจเสด็จดิน- ..........ถิ่นแคว้น พระเกียรติแห่งพระจักริน.....ขจัดทุกข์- เข็ญนา ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น  ....เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚ .............................................................................................. ศาลาไทย  (16 – 19) ศาลาไทยวางโคลงน้อยลงกว่าปกติ  เพราะข่าวว่าเธอมีงานเพิ่มขึ้น คงอยู่ในระยะปรับตัว กับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ  แต่งานที่ชอบแม้จะหนักหนาสาหัสก็สุขใจนะ ข้อความต่อไปนี้อ่านแล้วกระตุกความรู้สึกผมแบบต้องอึ้งไปชั่วขณะ..... ........สุนทรภู่ท่านเป็น "มหากวี" ที่ใกล้ชิดราชสำนักถึงสี่แผ่นดิน ใครเคยไปวัดเทพธิดาราม  แล้วแวะชมกุฏิสุนทรภู่บ้าง ? ........ อยากไปชมไปถ่ายรูปมาลงอาศรมแล้วเปิดกระทู้กลอนแนวท่านสุนทรภู่   ขอฝากเพื่อน ๆ พิจารณาดูครับ .......................................................................................... คุณ ทิกิ_tiki  (20) เคยเห็นชื่อนี้คุ้นตามานาน วางกระทู้ติดกับอาศรมชาวโคลงนี่เอง  แวะเข้าไปอ่านแล้ว มีเรื่อง ดี ๆ ควรอ่านมากมาย  อ่านโคลงกลอนของทิกิคราวนี้แล้วประทับใจเหลือเกิน  บทที่จับใจผม และจะทำให้เข้าไปอ่านโคลงกลอนของทิกิได้ทุกครั้งที่เห็น   คือ ๏ ลุหกสิบวษา ณ ครานี้ เย็นยะเยือกปฐพีมิรู้หาย สะพรั่งพร้อมบารมีโพธิ์ประกาย พระเมตตากรุ่นกำจายฉาบโลกา ๚ (ป.ล.   วษา – วรรษา ?   “วษา”  น่าจะเป็นภาษาพูด  หรือผมจำผิดก็ขอโทษด้วย) ........................................................................................... คุณโกฏิดารา (38) ออกจะคิดถึงกันอยู่เพราะห่าง ๆ ไป  ไม่ค่อยได้อ่านโคลงกลอนเฉียบ ๆ ของโกฏิดาราในระยะหลัง แถมยกบทประทับใจจากมติชนมาให้อ่าน พระบาทยังระคายเคืองทุกเรื่องไป คุณภาพข้าไทยได้แค่นี้ ประทับใจเช่นกัน  อยากให้หมีเซอะมาอ่าน  เพราะรู้ว่าชอบแนวนี้แน่ ๆ ขอยกบทประทับใจที่คุณโกฏิดาราเขียน  ซื่งงผมว่าน่าจะเอาไปลงมติชนบ้างเหมือนกัน ๏ กราบพระบาทพระทูลกระหม่อมแก้ว มิอาจกล่าวพรแพร้วพิลาสผล มิอ้างขอเทพใดให้บันดล จักทำตนตามพระองค์คงพอเพียง๚ .............................................................................. ศุปสกาล (42) ชื่อนี้ผมไม่คุ้นต้องขออภัยจริง ๆ   แนวการเขียนโคลงน่าสนใจมาก  ดูออกแนวเน้นเอาความ เด่นกว่าฉันทลักษณ์   แต่การใช้คำ การเดินเรื่องมีพลังมาก สายลมผ่านพระหัตถ์ห้อม         หทัยไทย  ลิบแล โบกรับราษฎรดวงใจ             ทั่วฟ้า น้ำตาหลั่งไหลไหล               รินสู่ บาทบรมโพธิ์หน้า                 เหล่าน้อมถนอมถวาย ความจริงอ่านแล้วชอบทุกบท  ขอเชิญวางโคลงในอาศรมบ่อย ๆ ครับ   ................................................................................... อย่ามัวดูฟุตบอลมากจนไม่ได้เขียนโคลงกลอนนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 07:37:44 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 20 มิ.ย. 49 06:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อรุณสวัสดิ์อาศรมชาวโคลงค่ะ  ศาลาไทยยังแวะมาอ่านในอาศรมฯ สม่ำเสมอ แต่เขียนโคลงน้อยลงอย่างที่เฮียคัมฯ ว่านั่นแหละ  ช่วงนี้ก็วุ่นวายกับงานบุญวรรณคดี แวะเอาปกหนังสือที่ร่วมสมทบทุน "ผ้าป่าวรรณคดี" แต่ง "บ้านมหากวี" มาฝากอีกคราวค่ะ อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว ถึงลับตัวก็แต่ชื่อเขาลือฉาว เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร   เชิญร่วมงาน พระอภัยมณี วรรณคดีการเมือง แปลง "สนามรบ" เป็น "สนามรัก" ต้านฝรั่งล่าเมืองขึ้น ย่านสุวรรณภูมิ ฉลองผ้าป่าวรรณคดี สมทบทุนแต่ง "บ้านมหากวี" กระฎุมพี "สุนทรภู่" วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2549 นี้ ตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดเทพธิดาราม (สร้างสมัยรัชกาลที่ 3) ถนนมหาไชย เขตสำราญราษฎร์ (ประตูผี) กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดย สถาบันวิจัยและพัฒนา และ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ร่วมฉลองผ้าป่าวรรณคดี จัดสร้าง E-Library ณ บ้านมหากวี กุฎิสุนทรภู่ เพื่อเผยแพร่แบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่สาธารณะ เชิญร่วมกิจกรรมภายในงาน และฟังเสวนาจากนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และพบกับ รำพันพิลาป เพลงยาวนิราศรักของมหากวีสุนทรภู่ ฉบับอธิบายพร้อมภาพประกอบ พิมพ์จำหน่ายสมทบทุนแต่ง “บ้านมหากวี” สุจิตต์ วงษ์เทศ : บรรณาธิการ ร่วมทำบุญ ผ้าป่าวรรณคดี เข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานผ่านฟ้า ชื่อบัญชี พระราชวรเมธี (วัดเทพธิดาราม กองทุนสุนทรภู่) หมายเลข 169 074 3750 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 1430 6730 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.svbhumi.com ศาลาไทยตั้งกระทู้ไว้ที่โต๊ะข่าวประชาสัมพันธ์  ฝากเพื่อน ๆ ช่วยกันเผยแพร่ด้วยนะคะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4469184/K4469184.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 20 มิ.ย. 49 07:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 62 บางเรื่องที่น่าประทับใจเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมเพิ่งมาทราบเอาตอนโตแล้ว บางเรื่องผมเพิ่งจะทราบจากสื่อที่นำมาเผยแพร่ ช่วงงานฉลอง ๖๐ ปีครองราชย์ของพระองค์ท่าน เช่น เรื่องที่รับสั่งให้หัวหน้าชาวเขาร่วมโต๊ะเสวย เรื่องรองเท้า   เรื่องยาสีฟัน   เรื่องอาหารที่ทรงเสวย ฯลฯ หรือเรื่องความประหยัดในแบบต่างๆ ที่พระองค์ท่านปฏิบัติพระองค์จน เป็นปกติ แต่เราไม่เคยทราบมาก่อนเลย ในยุคที่คนไทยคลุ้มคลั่งอยู่กับการแข่งกันบริโภค อย่างเอาเป็นเอาตาย ควรที่ทางการ หรือรัฐบาล ยิ่งสมควรต้องเผยแพร่เรื่องประทับใจเหล่านี้ของพระองค์ท่าน ให้แพร่หลายในวงกว้าง โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน เพราะนี่คือ "แรงบันดาลใจ" อย่างดีเยี่ยม นี่คือแบบอย่างการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ. แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 17:21:55 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 17:20:01 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 49 17:18:55 จากคุณ : . (Ar@p) - [ 20 มิ.ย. 49 17:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อรุณสวัสดิ์อาศรมชาวโคลงค่ะ  ยังเขียนโคลงไม่ออกอย่างเคย มีบทความใหม่กับข้อมูลจากสถาบันสุวรรณภูมิมาฝากแทนล่ะกันนะ หัวข้อตามนี้  แต่ตามไปอ่านเองที่ http://www.svbhumi.com - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - พระอภัยมณี วรรณคดีการเมือง คัดจาก คอลัมน์สยามประเทศไทย ใครตรวจแก้ นิราศสุพรรณ ของ สุนทรภู่ โดย ล้อม เพ็งแก้ว สุนทรภู่ มหากวีกระฎุมพี คัดจาก คอลัมน์ภูมิสังคมวัฒนธรรม “เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร” ความสัมพันธ์วรรณกรรมสุนทรภู่ กับวรรณกรรมเขมร โดยศานติ ภักดีคำ ข่าวประชาสัมพันธ์ : “ อาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี ๒๕๔๙ ”               . รำพันพิลาปของสุนทรภู่กลอนเพลงยาวนิราศรัก "กระฎุมพี" จากบทความวิชาการของ ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ สุนทรภู่ มหากวี "กระฎุมพี" ประวัติพระสุนทรโวหาร(ภู่) ของพระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 21 มิ.ย. 49 07:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เคยคุยกับเพื่อนถึงภาพพจน์ของสุนทรภู่ว่า ทำไม ถึงออกมาแบบ "ขี้เมา" ซะมากกว่าจะเป็นอะไรที่ ยิ่งใหญ่ เพื่อนแย้งแบบมีอารมณ์ว่า ขี้เมาบ้าอะไร สร้างงานได้ขนาดนั้น ยังไม่ได้ไปร่วมวงกับศาลาไทยสักครั้งเลย ข่าวคราวประชาสัมพันธ์ "สุวรรณภูมิ" เต้มแฟ้มแล้ว อิๆ "ฉันไม่ได้นัดเธอ เธอก็ไม่ได้นัดฉัน แต่ทุกวันจันทร์ เราก็ใส่สีเหลือง" จากคุณ : .0 (Ar@p) - [ 21 มิ.ย. 49 10:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ๏ พระ มิใช่เทพไท้              จากวิมาน เจ้า ห่วงใยเจือจาน              ราษฎร์ล้วน แผ่น  ผืนทุกข์สาธารณ์         สร่างโศก ดิน ที่แล้งกลับถ้วน              พลิกฟื้นคืนงาม  ๚ ๏ พระ ก่อพระกอบเกื้อ          ทุกสถาน เจ้า ดำริโครงการ                 เกิดล้น แผ่น ดินไทยสุขสราญ           ทั่วถิ่น ดิน เพาะปลูกมากพ้น            ไม่ท้อพอเพียง ๚ สวัสดีครับทุกท่าน ยังไม่ได้นำหัวข้อกระทู้มาแต่งเลย มีเวลาก็เลยเขียนส่งมาให้ครับ นำวรรคทองที่เราท่านเคยได้ยินมาดัดแปลงเล็กน้อยครับ ขอบคุณพี่คัมภีร์ฯสำหรับความคิดเห็นทั้งหมดครับ มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องไป เชิญแนะนำด้วยเพราะคงมีช่องโหว่อยู่มาก ความละเอียดประณีตยังคงไม่มากพอ โดยเฉพาะ "ลูกเก็บ ลูกโกง" เป็นคำที่ผมชอบมาก จะได้ระมัดระวัง เพราะไม่อยากเป็นคนโกง ๑ บท ๓๐ คำอย่าใช้ให้เปลือง คงจะต้องยึดหลัก ความพอเพียง มาใช้ในงานโคลงด้วย กาพย์เห่เรือ ที่ผ่านมามีหลายบท เจ้าฟ้ากุ้งก็ชมแล้ว งานคราวนี้ คราวเอเปค ก็ได้อ่านอยู๋ แต่คราวงาน กาญจนาภิเษก หาไม่เจอ ฝากคุณจันทร์รบกวนหามาให้หน่อยได้มั้ยครับ ช่วงนี้มีเรื่องปวดขมองเยอะ บั่นทอนเวลา และอารมณ์มากเลย เห็นตำรับยาห้าเกสร แล้วไม่ทราบคุณจันทร์แห้งมีตำรับอื่นอีกมั้ยครับ ที่บำรุงหัวใจ หัวขมอง ให้มันทำงานได้ตามปกติ แต่จำพวกช้างกระทืบโลง ล้มไม่รู้ตื่น ฟื้นไม่รู้ตาย นายด่าทั้งวัน เนี่ยไม่ขอรับนะครับท่าน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 21 มิ.ย. 49 14:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แอบ       ดูแอบซ่อนเร้น          พรางตน มา         ซุ่มมาวกวน              อ่านถ้อย อ่าน       ตามอ่านค่าคน          ความคิด โคลง     ลิขิตโคลงความน้อย   แต่ซึ้ง กินใจ หุหุหุ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : buaravong - [ 21 มิ.ย. 49 15:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีครับ ช่วงเริ่มต้นฟุตบอลโลกสำหรับผม   คนบ้าฟุตบอลในปีนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากงานครองราชย์ ๖๐  ปี  ทำให้ผมมีความสุขใจมากมายอยู่แล้ว  เวลามีการถ่ายทอด งาน ๖๐ ปีครองราชย์เวลาตรงกับแข่งบอลโลก  เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกตกอันดับไป  ขอดู งานในหลวงของเราก่อน กระทู้ “พระ เจ้า แผ่น ดิน”  นี้ปล่อยให้ขับเคลื่อนตัวเองไปตามสบาย กะให้กลมกลืนไปกับกระแส บอลโลกก็จริง   แต่สิ่งที่น่ายินดีก็คือการเขียนบทร้อยกรองเฉลิมพระเกียรติของเพื่อน ๆ หลายบท ได้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นโคลงกลอนได้อย่างประทับใจในความพยายาม ลองย้อนกลับไปอ่านกาพย์เห่เรือ โดย จังงัง (๓๒)  อลังการมาก ต้องขอบคุณคุณจันทร์แห้ง ที่ช่วย แนะนำเพิ่มเติม  ลองอ่านท่อนนี้ครับ ๏ “เรือดั้งสิบหก”คล้อย ........... พลเรือคอยจ้วงพายจม งัดน้ำยามต้องลม ..................... เป็นฟองแตกแปลกตาไป ฝีมือระดับเหนือชั้นจึงจะเขียนถ่ายทอดให้เห็นภาพชัดเจนได้อย่างนี้ ขอคารวะทั่นจังงังมา  ณ  โอกาสนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีบทกลอนของคุณโกฏิดารา (๓๘) ที่ผมได้ปรารภไว้แล้วคราวก่อน และบทโคลงโดยคุณจันทร์แห้ง (๔๔)  บทนี้   ๏ครืนครั่นคละคลื่นเคล้า     ฝนคะนอง เรืองฤทธิ์ระยิบทอง               ระยับแก้ว เห่เรือกล่อมกลอนกรอง         ก้องกึก ลอยล่องเรือผ่องแผ้ว             เพริศพริ้งเสียงเพลง  ฯ ลองอ่านอย่างตั้งใจซ้ำไปซ้ำมาก็จะเจาะลึกถึงความรู้สึกของผู้เขียน และนับถือในความ ตั้งใจจริงที่จะเขียนถวาย  เขียนได้ดีทุกบทแหละครับ  แต่ผมชอบบทนี้เพราะเห็นภาพ จากการถ่ายทอดแล้วมาอ่านโคลงชุดก็ลงตัวพอดี คุณ buaravong  (๔๘) ผมรอจนได้อ่านจบและสังเกตเห็นความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษา  ทั้งที่ผู้เขียนบอกว่าหัด เขียนลองแต่งด้วยความบันดาลใจ   เข้าใจว่าน่าจะชำนาญหรือมีประสบการณ์ในด้านใด ด้านหนึ่งมาเป็นอย่างดีจึงเขียนได้ดีถึงขนาด   คุณ buaravong  ขอคำชี้แนะมาด้วย   แต่ผมขอให้เขียนโคลง กลอน กาพย์  มาวางอีก เพราะตั้งใจไว้ว่าจะไม่ไปยุ่งกับบทร้อยกรองเฉลิมพระเกียรติของทุกท่าน  มากนัก อยากให้เป็นกระทู้ที่หนักไปทางร้อยกรองถวายมากกว่า   ได้อ่านครบตั้งแต่ปฐมบท ถึงตติยบทแล้ว  ขอชื่นชมด้วยใจจริง   และกระทู้นี้ (๖๖) โคลงหน้าบาท  “แอบ มา อ่าน โคลง”  โดยคุณ buaravong แอบ ดูแอบซ่อนเร้น                พรางตน มา ซุ่มมาวกวน                     อ่านถ้อย อ่าน ตามอ่านค่าคน              ความคิด โคลง ลิขิตโคลงความน้อย      แต่ซึ้ง กินใจ อ่านดูแล้วก้มีแต่จะชื่นชมและยินดีที่มีคนเก่งเข้ามาเยี่ยมอาศรมอีกท่านหนึ่ง  ยินดีต้อนรับ และเชิญแวะเวียนเข้ามาบ่อย ๆ ครับ ขอบคุณศาลาไทย ที่แจ้งข่าวที่น่าสนใจ และควรรู้  ผมคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ท่องเวบไปไหน นอกจากเข้าอาศรมเล้ว ก็มีเวบ กล้องและการถ่ายภาพอีกสองสามที่ เห็นอาพีมาแบบซึม ๆ ก็แปลกใจ  สงสัยจะมาช่วยปั่นกระทู้เป็นแน่  เก็บ DVD ของ จอห์น เลนนอน ไว้ให้แต่ไม่รู้ที่จะส่งไป  สงสัยต้องฝากกันอีกแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 49 17:22:15 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 มิ.ย. 49 17:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อรุณสวัสดิ์อาศรมชาวโคลงอีกคราว  พักนี้ห่างเขียนโคลง  แต่เสร็จงานวันสุนทรภู่แล้วคงมีเวลาขึ้น เป็นอย่างเฮียว่า  เหนื่อยแต่ก็มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่  และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ ใครว่างก็แวะไปอ่าน  http://www.svbhumi.com/images/img_first/RamphanPR.pdf เรียกว่าเป็นบทคัดย่อของรำพันพิลาป  เล่มที่พิมพ์จำหน่ายสมทบทุนสร้างบ้านมหากวี ใครไม่เคยอ่านรำพันพิลาป  อ่านแล้วเข้าใจขึ้นอีกโข เลยค่ะ  รวมถึงศาลาไทยด้วยนั่นแล  เอิ้ก ๆ                   . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 มิ.ย. 49 08:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 69 แวะมาอีกรอบตอนเที่ยง ๆ แปลงไฟล์ด้านบนที่เป็น pdf เผื่อมิตรสหายท่านใดไม่สะดวกในการเปิดไฟล์ค่ะ         . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 มิ.ย. 49 14:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จากคุณ : salathai - [ 22 มิ.ย. 49 14:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 71 . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 มิ.ย. 49 14:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 72 .. จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 มิ.ย. 49 14:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 73 พระ โพธิสัตว์ด้าว                        แดนไทย เจ้า อยู่เหนือหัวใจ                       พสกแท้ แผ่น ทองทั่วหล้าไข                    พระคุณ ธ หมดฤๅ ดิน จรดจักรวาลแล้                     แค่เสี้ยวผิซ้องเสนอ ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 22 มิ.ย. 49 19:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีครับ ท่านคัมภีร์ฯ และมิตรสหายทุกท่าน กาพ้ม ได้แต่แว้บมาอ่านแล้วก็แว้บไป ( ยิ้ม ) วันนี้ นำมาวางอีกบท "สรรเสริญพ่อหลวง" ขอรับ -------------------- พูดถึง "รำพันพิลาป" พิราบเคยอ่าน นานแล้ว จับใจความบ่ได้ เพราะอ่านแบบเอาจบ ไม่เอาความเท่าไร คราวนี้คงต้องตามติด "ท่านน้องฯ" ไปพลาง ๆ ก่อน แล้วค่อยหาอ่านอีกที ขอรับ มีความสุขกับปัจจุบันทุกท่านครับ ปล. พ้มเชียร์อาเจนติน่า ลุ้น ๆ อยู่ว่า จะได้แช้มป์อะเปล่า แฮ่ ๆ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 22 มิ.ย. 49 20:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีทุกทั่นขอรับ เนื่องจากฝนตกแล้วอากาศเปลี่ยนก็ขอให้มิตรรักกระผมทุกทั่นระวังสุขภาพขอรับ ผมเขียนโคลงกระทู้ตั้งแต่เมื่อวานเพิ่งมาจบลงได้วันนี้ครับ คคห65..สวัสดีครับทั่นพี่จำปูน เห็นใจขอรับหากอยู่ช่วงงานล้น.... ก็ขอเป็นกำลังใจให้สำเร็จการงานตามประสงค์ขอรับ... ส่วนยาบำรุงผมสังเกตุทั่นพี่จำปูนเขียนโคลงได้ไหลลื่นงามมากขอรับ... เห็นทีว่าสมาธิและกำลังมีสูงทีเดียว ก็ขอทำนายว่างานที่ทำจะสำเร็จอย่างแน่นอนครับ และยาบำรุงก็คงเป็นสุนทรียภาพจากการเขียนร้อยกรองขอรับ.... คคห66..ขอบคุณคำชมขอรับ  ทั่นพี่คัมภีร์โบราญ ได้เป็นกำลังใจให้กระผมอย่างมากที่จะพยายามเขียน ต่อไป... และเพราะเนื่องจากมาได้รับความรู้จะห้องชาวอาศรมนี้แท้ๆขอรับ จึงเกิดทราบซึ้งตามที่เคยได้เรียนให้ทราบแต่ต้นขอรับ ทำให้เกิดความใคร่  ในลีลาร้อยรสบทกลอนและ พยายามหัดเขียนครับ พระ พุทธคุณปกป้อง       ในหลวง พระ เลิศธรรมทั้งปวง       รักษ์ไท้ พระ สงฆ์กุศลสรวง         สวรรค์ทราบ ซึ้งแล พระ อยู่ยืนไทยให้             สวัสดิ์แล้กาลนาน เจ้า เสด็จโดยทั่วแคว้น        แผ่นดิน เจ้า รักราษฎรลิน                  จิตน้อม เจ้า สูงห่วงชีวิน                    ทุกชีวิต ไทยเฮย เจ้า เถิกงเกียรติอะเคื้อ         อะคร้าวโลกา แผ่น ไตรรัตนแก้ว              สิริศรี แผ่น เพชรสามัคคี               ทุกผู้ แผ่น หล้าสุดท้ายมี              ร่วมปก ป้องอา แผ่น จิตใจนี้รักรู้                 เลิศแล้ราชัน ดิน ไทยใครก็รู้                      เลิศดิน ดิน สุดแหลมทองสิน           ทรัพย์ท้น ดิน แดนแผ่ธรรมลิน             รักสงบ ดิน แห่งยิ้มสยามล้น            โลกล้วนตรึงใจ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 49 11:32:52 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 22 มิ.ย. 49 22:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดีขอรับทุกทั่น ค้นอ่านได้โคลงทั่นพี่ผมจากลิ้งค์ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem90441.html# กราบเบื้องบาทองค์ราชัน............ ***กฤษณะ*** * กราบแทบเบื้องบาทท้าว    จอมสยาม ไกรเกริกเกียรติพระนาม       เทิดไว้ ทวยราษฏร์ทั่วเขตคาม         นบยิ่ง บิดรเฮย เราจึ่งควรถวายไท้               ก่อเกื้อความดี ฯ        *กราบแทบ เบื้องบาทท้าว       กษัตริย์เจ้า จอมสยาม ภูมิพล มงคลพระนาม               พระผู้เป็น พลังแผ่นดิน     ทรงอัจ-ฉริยภาพ                   พสกทราบ ทั้งธานินทร์ น้ำพระทัย ดุจวารินทร์               โชลมหลั่ง ในใจชน     ทรงเป็น พระมิ่งขวัญ             ประทับมั่น กลางกมล ข้าฯ น้อม พระภูวดล                 ขอจงทรง พระเจริญ ฯ                  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ                              ข้าพระพุทธเจ้า จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 23 มิ.ย. 49 11:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีพี่ๆทุกคนอีกครั้งครับ ช่วงนี้งานท่วมหัว ฮ่าๆ กลับหอนอนสลบ ไม่ค่อยได้เข้าเน็ตเลย ก็หายๆไปบ้าง ขอบคุณคุณคัมภีร์ฯที่ชมกลอนครับ และก็ชื่นชมคำโคลงของทุกๆท่านที่มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียว ถวายพระพรแด่พระผู้เป็นมิ่งขวัญของชาวไทย ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เขียนโคลงเลย พับผ่าเถอะ เขียนไม่ค่อยออกครับ เป็นตันๆ แวะเวียนมาดูเรื่อยๆครับ! แปะโคลงสี่ไว้ซักบท ๏ พระ คือพระมิ่งแก้ว      มิ่งขวัญ เจ้า     ยศยิ่งไอศวรรย์    ยิ่งแท้ แผ่น   ดินแผ่นใดทัน      ใดเทียบ ดิน     ถิ่นไทยสถิตแล้    พระเจ้าแผ่นดิน จากคุณ : โกฏิดารา - [ 24 มิ.ย. 49 14:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 78 พระ เป็นเหมือนหมู่พฤกษ์        ในพนา เจ้า พวกนกนานา                   พึ่งไท้ แผ่น ผืนแห่งสยามา                ดูเด่น ดิน แตกกลับรวมได้                โลกรู้แลตลึง จากคุณ : เจียวต้าย - [ 24 มิ.ย. 49 18:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สวัสดีครับ ทุกท่าน ตั้งแต่เข้าอาศรมมาครั้งแรก จนถึงช่วงที่ผ่านมานี้ ได้รับทั้งความรู้ และความอิ่มอกอิ่มใจจากมวลมิตร พี่น้องเสมอมา และก็จริงดั่งคุณจันทร์แห้งได้ว่าไว้เลยครับ คือ "ยาบำรุงก็คงเป็นสุนทรียภาพจากการเขียนร้อยกรองขอรับ...." ก็เลยมีความสุขใจมากขึ้น มีเวลาเลยส่งมาร่วมเฉลิมฉลองอีกครั้งครับ อยากจะแต่งบทชมกระบวนเรือให้ครบทั้งขบวน แต่คงกระทำไม่สำเร็จ ก็คงเพิ่มเติมได้เพียงเท่านี้ครับ ขอบพระคุณรูปจาก กระทู้นี้ครับhttp://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M4461329/M4461329.html ********************************* ๏ อสุรวายุภักษ์พร้อม          ปักษี หน้ายักษ์แต่กายมี              ปีกป้อง ร่วมรั้งรักษ์ธานี                  กล้าแกร่ง อริราชมิอาจจ้อง                ล่วงล้ำก้ำเกิน ๚ ๏ กระบี่ราญรอนราพณ์เสี้ยน          ศัตรู อีกปราบเมืองมารชู                     เฉียบล้ำ วานรทุกเหล่ากรู                         กรำศึก เชิงยุทธสุดเยี่ยมย้ำ                     ชาติเชื้อชาญสมร ๚ ๏ เรือพาลีรั้งทวีป                   ลอยเรียง สุครีพครองเมืองเคียง             ขนาบกั้น พี่น้องรักษาเวียง                   วังเอก งามสง่าน่าเชิดชั้น                  เก่งกล้าราวี  ๚ ๏ เรือครุฑเหินเห็จด้น              ดั้นนภา ครุฑเตร็จไตรจักรถลา             ลดเลี้ยว บินสู่พสุธา                            สะเทือนทั่ว ไล่ฉุดขับขบเขี้ยว                   นาคสะดุ้งสะบัดหนี ๚ ๏ เรือเอกชัยต่อสร้อย             เหินหาว เคียงลำหลาวทองราว              ระยิบฟ้า เรือคู่ชักแพรวพราว                 ผุดผาด แล่นล่องท่องทั่วหล้า               เหล่าล้วนกระบวนเรือ ๚ ๏ กาพย์เห่เรือขับร้อง              กล่อมชล ชมกระบวนเรือพหล                ครั่นครื้น โห่ฮึกคึกอึงอล                       ทิพย์โสต สมบัติชาติจักฟื้น                    สืบสร้างศักดิ์ศรี  ๚ะ๛ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 25 มิ.ย. 49 00:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 -- คีตราชันย์ -- ๏ เพลินเพลงดุริยะพริ้ง           ทรงประพันธ์ ผจงแต่งทำนองอัน                วิจิตรไว้ สดับดังสวรรค์สรรค์               เสียงเสนาะ ราวเสกรุจิเรขไล้                   รสิกค้อมราชศิลป์ K416064901:00 วิจิตร: งามหยดย้อย รุจิเรข: ลวดลายอันงดงาม, การประพันธ์ รสิก: ผู้รู้รสทางด้านกวี และศิลปะต่างๆ บทเพลงพระราชนิพนธ์ http://kanchanapisek.or.th/royal-music/index.th.html ---------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 25 มิ.ย. 49 12:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สวัสดีครับทุกท่าน โคลง -- คีตราชันย์ -- แต่งไว้ตอนได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์ และช่วงนี้ได้ฟังเกี่ยวกับ การประพันธ์เพลงของพระองค์ ที่ได้รับการยกย่องไปทั่ว ว่าเป็น อัครศิลปิน ของโลกท่านหนึ่ง เลยรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับ ดนตรีของพระองค์มาให้ครับ วันที่ 4 ตุลาคม 2507 ทางรัฐบาลออสเตรีย ได้ถวายสมาชิกภาพ กิตติมศักดิ์ลำดับที่  23 แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สถาบันการดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา ที่มีชื่อว่า THE INSITUTE OF MUSIC AND ART OF CHY OF VIENNA ซึ่งพระนามพระองค์อยู่บนแผ่นหินสลักของสถาบัน และ เป็นชาวเอเชียเพียง พระองค์เดียวที่ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ ให้ทรงเป็นสมาชิกภาพกิตติมศักดิ์ พระองค์ได้ทรงดนตรีร่วมกับนักดนตรีระดับโลก หลายท่าน หลุยส์ อาร์ม สตรอง, เบนนี่ กู๊ดแมน, แจ็คที การ์เด้น ซึ่งก็ได้รับการชื่นชมจากท่านเหล่านั้น ว่าเป็นนักดนตรีที่มี พระอัจฉริยะภาพสูงส่ง โดยพระองค์ทรงโปรด ดนตรีแนวแจ๊ช -- พระราชดำรัส -- "ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็นแจ๊ส หรือ ไม่ใช่แจ๊ส ก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวคนทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้า ดนตรี คือสิ่งประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยม ในคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภท ต่างก็มีความเหมาะสมตามแต่โอกาส และ อารมณ์ที่ต่างๆ กันไป" บทเพลงหนึ่งที่อยู่ในใจชนไทยคือ พรปีใหม่ ซึ่งรับสั่งให้ คนใกล้ชิด ร่วมกันแต่ง ทำนอง กับพระองค์ เล่นสลับกัน คนละท่อนกับพระองค์ และแต่งเนื้อคำอวยพรเสร็จภายในครึ่งชั่วโมงนั้นเลย และยังทรงประพันธ์ บทเพลงอันไพเราะ ไว้กว่า 40 เพลง พระองค์ทรงโปรดเครื่องเป่าแทบทุกชนิด ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น คลาริเน็ต, แซกโซโฟน, เปียโน, กีตาร์ โดยพระองค์ทรงโปรด คือ คลาริเน็ต, แซกโซโฟน และทรงเล่นได้อย่างดีเยี่ยม .... เข้ามาขอคำแนะนำ ครับ ท่านพี่คัมภีร์ เสร็จไปหลายวันก่อน แต่นำไปแก้ก่อนนำมาวาง รู้สึกงานแก้จะยากกว่าเขียนใหม่นะครับ และแวะมาอ่าน บทกวี ของทุกท่าน และตามอ่านลิ้งค์ที่ฝากไว้กัน ครับ ไม่ได้มาหลายวัน ทำเอาตามอ่านจน ตาลายครับ ชอบของปู่เจียวต้ายครับดูธรรมดาแต่ งามยิ่ง ของคุณโกฏิดารา นี่โดนใจครับ กำลังหัด เรื่องสัมผัสอยู่พอดีครับ เห็นพี่จำปูน ชอบโคลงปรุงยาห้าเกสร กำลังคิดว่า แปลกดีครับ ชอบครับ ช่วงนี้โหมดูบอล นอนดึก และจ็อบนิดหน่อย น้ำหนักลดเลย น่อ ครับ แหะๆ ข้อมูล มาจาก ข้อมูลส่วนตัว และ ลิ้งค์นี้ผสมกันไปครับ http://kanchanapisek.or.th/royal-music/index.th.html xers... น้อมบันทึก ---------------------------------------------------------------------------       . จากคุณ : xers - [ 25 มิ.ย. 49 12:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ทดลองแต่งแบบ อะไรดี... นึกไม่ออก ได้ออกมาแบบนี้ครับ... ภูมิ ใจเกิดอยู่ใต้ พระบารมี พล ราษฎร์สดุดีเกียรติ เทิดไท้ มหา ชนสุขเปรมปรีดิ์ เย็นร่ม ราช เขตทั้งเหนือใต้ ศิรน้อม วันทา แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 09:27:40 จากคุณ : buaravong - [ 25 มิ.ย. 49 20:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตื่นเช้ามาวันนี้ เห็นสีทอง แผ่จ้าเรืองรองเริ่มเรื่องเล่า แสงอ่อนพรรณนามาบางเบา บางพลังในเราก็เริ่มริน รินสู่ห้วงดวงใจให้เธอฉัน ดิ่งลึกสัมพันธ์ไม่รู้สิ้น กับบางสิ่งในใจไม่คุ้นชิน แต่รู้ว่า เราถลิลมาแสนนาน. *สวัสดีมิตรอาศรมฯ ทุกท่านครับ โดยเฉพาะป๋า ขอบคุณมากสำหรับดีวีดีของท่านจอห์น เมื่อสามปีที่แล้ว  ผมนั่งคิดว่าจะทำ imagine ให้เป็นคำไทย ที่สวยๆ ได้อย่างไร ทดลองหลายวิธี ในที่สุดก็...หยุดนิ่ง.    อิๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิด และคิดอยู่...แต่ยังไม่ลงไม้ลงมือให้เสร็จสักที. จากคุณ : Ar@p - [ 27 มิ.ย. 49 08:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 84 #83 ตื่นมาดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้หรือครับ คุณอาร์พีศรีอาศรม(ฮิๆ) รออ่านงานงามๆคุณอาร์พีเสมอนะครับ เมื่อวานวันสุนทรภู่ครับ ขอวางกลอนคารวะครูกลอน มหากวีแห่งสยาม ๏ ภุมรินทร์ถิ่นไทยได้ประกาศ ทั้งโลกธาตุจักจารตำนานศิลป์ คำสุนทรกลอนครูท่านภู่จินต์ ทิพยรสหยดรินไม่สิ้นธาร นิราศร่ำสำแดงแห่งอดีต บทสังคีตเห่กล่อมน้อมสุขศานต์ หลอมทั้งโลกผนึกตรงลงนิทาน จินตนาการท่านสร้างกว้างความคิด มรดกตกบนสกลสยาม กระเดื่องนามสุนทรอักษรสิทธิ์ ทุกบทคำธรรมแสดงแฝงนัยคิด รังสฤษดิ์โลกาภาษาไทย จะกี่ร้อยเดือนปีที่เปลี่ยนผ่าน กลอนครูอยู่ยืนนานชั่วกาลสมัย ค่อยขีดเส้นลายสือเป็นสื่อใจ ประณตไหว้ครูกลอนด้วยกลอนครู๚ จากคุณ : โกฏิดารา (โกฏิดารา) - [ 27 มิ.ย. 49 13:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สวัสดีครับ เข้าอินเตอร์เนทไม่ได้  ทำให้พลาดวันสุนทรภู่ไปเลยเมื่อวาน แต่ก็หยิบหนังสือ ชีวิตและผลงานของท่านมาอ่านตรงส่วนที่เป็นนิราศสุพรรณ เพื่อระลึกถึงท่าน ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ ดูเหมือนครูหนอนครูเล็กจะเคยเอาแนวโคลงนิราศสุพรรณ มาฝึกเขียนกัน  แต่ยังไม่มีเวลาไปค้น  ขอเข้ากระทู้นี้ก่อนครับ พิราบเงิน (๗๓) วางโคลงกระทู้ครั้งที่สอง  ขอเอามาอ่านทบทวนพร้อมกับภาพ ประกอบที่ถ่ายจากถนนราชดำเนินเมื่อค่ำวันอาทิตย์ พระ โพธิสัตว์ด้าว              แดนไทย เจ้า อยู่เหนือหัวใจ             พสกแท้ แผ่น ทองทั่วหล้าไข            พระคุณ ธ หมดฤๅ ดิน จรดจักรวาลแล้            แค่เสี้ยวผิซ้องเสนอ  ฯ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 13:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณจันทร์แห้ง (๗๔)  มาเป็นชุดใหญ่  เขียนด้วยความรักในหลวง  ไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอชื่นชมอย่างยิ่งครับ พระ พุทธคุณปกป้อง       ในหลวง พระ เลิศธรรมทั้งปวง       รักษ์ไท้ พระ สงฆ์กุศลสรวง         สวรรค์ทราบ ซึ้งแล พระ อยู่ยืนไทยให้          สวัสดิ์แล้กาลนาน เจ้า เสด็จโดยทั่วแคว้น      แผ่นดิน เจ้า รักราษฎรลิน             จิตน้อม เจ้า สูงห่วงชีวิน                ทุกชีวิต ไทยเฮย เจ้า เถิกงเกียรติอะเคื้อ      อะคร้าวโลกา แผ่น ไตรรัตนแก้ว           สิริศรี แผ่น เพชรสามัคคี           ทุกผู้ แผ่น หล้าสุดท้ายมี          ร่วมปก ป้องอา แผ่น จิตใจนี้รักรู้             เลิศแล้ราชัน ดิน ไทยใครก็รู้              เลิศดิน ดิน สุดแหลมทองสิน       ทรัพย์ท้น ดิน แดนแผ่ธรรมลิน        รักสงบ ดิน แห่งยิ้มสยามล้น       โลกล้วนตรึงใจ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 14:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณโกฏดารา (๗๖)   ๏ พระ คือพระมิ่งแก้ว        มิ่งขวัญ เจ้า ยศยิ่งไอศวรรย์          ยิ่งแท้ แผ่น ดินแผ่นใดทัน           ใดเทียบ ดิน ถิ่นไทยสถิตแล้            พระเจ้าแผ่นดิน คุณเจียวต้าย (๗๘)   พระ เป็นเหมือนหมู่ไม้          ในพนา เจ้า พวกนกนานา                พึ่งไท้ แผ่น ผืนแห่งสยามา             ดูเด่น ดิน แตกกลับรวมได้             โลกรู้แลตลึง (ขออนุญาตใส่คำโทให้หนึ่งคำ  พฤกษ์  เป็น  ไม้) จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 14:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คุณจำปูน (๗๙) ชมกระบวนเรือพระที่นั่ง  อลังการมาก  คิดว่าถ้ามีเวลาเขียน มาก ๆ เขียนแบบทุ่มเทเหมือนกวีในยุคโบราณ  ลองเขียนชมซุ้มต่าง ๆ บนถนน ราชดำเนิน เหมือนชมกระบวนเรือก็น่าสนใจ คุณเซอร์  (๘๐, ๘๑)  “คีตราชันย์”  เสียงโคลงเนียนดีมาก   ขอบคุณที่ให้คำอธิบาย ศัพท์มาด้วย   เช่น  “รสิก”  ผมต้องเปิดพจนานุกรมแน่ คุณ buravong (๘๒) เขียนเป็นกระทู้  “ภูมิ  พล  มหา  ราช”   ขอสำเนามาตามต้นฉบับ ภูมิ ใจเกิดอยู่ใต้ พระบารมี พล ราษฎร์สดุดีเกียรติ เทิดไท้ มหา ชนสุขเปรมปรีดิ์ เย็นร่ม ราช เขตทั้งเหนือใต้ ศิรน้อม วันทา จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 14:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 89 แอบแว้บงานเข้ามาตอนบ่าย ๆ มัวแต่วุ่นวายโน่นนี่จนเกือบจะลืมไปว่า ยังไม่ได้วางโคลงกระทู้ตามชื่ออาศรมฯ (ตามธรรมเนียมศาลาไทย) ๏ พระเสด็จเยือนทั่วด้าว       แดนไทย เจ้าอยู่หัวจอมใจ                      พสกน้อม แผ่นน้ำแผ่นฟ้าใด                   ฤๅเทียบ  หทัยพ่อ ดินกว่ากว้างสุขล้อม              ร่มด้วยพระบารมี ๚ กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับ "บ้านกวี" ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องที่กุฏิสุนทรภู่ มิตรสหายท่านใดว่าง ๆ ก็แวะไปเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนกันนะคะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                                                  . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 14:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อาพี  (๘๓) ตื่นเช้ามาวันนี้ เห็นสีทอง แผ่จ้าเรืองรองเริ่มเรื่องเล่า แสงอ่อนพรรณนามาบางเบา บางพลังในเราก็เริ่มริน รินสู่ห้วงดวงใจให้เธอฉัน ดิ่งลึกสัมพันธ์ไม่รู้สิ้น กับบางสิ่งในใจไม่คุ้นชิน แต่รู้ว่า เราถวิลมาแสนนาน. กลอนที่อาพีเขียนยุคปัจจุบันลดความซ่อนลึกลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับยุคสองสามปีก่อน ทั้งโคลงและกลอน  แต่เท่าที่เขียนแค่สองบทนี่ถ้าลองอ่านแบบขุดค้นความคิดของผู้เขียน จะเห็นว่าเขียนแบบมีนัยทั้งลึกและกว้าง  พร้อมทั้งมีแรงขับเคลื่อนน้อย ๆ  เหมือน ระลอกคลื่นวงเล็กที่จะเริ่มแผ่กว้างออกไปอย่างกว้างขวาง ลองทำใจว่าง ๆ แบบไม่เคร่งเครียด อ่านกลอน อ่านความคิดผู้เขียนดู  กลอนบทไหน ก็ได้  อ่านแล้วมีความสุขเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 49 15:17:00 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 14:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 91 คุณโกฏิดารา  (๘๔) .. จะกี่ร้อยเดือนปีที่เปลี่ยนผ่าน กลอนครูอยู่ยืนนานชั่วกาลสมัย ค่อยขีดเส้นลายสือเป็นสื่อใจ ประณตไหว้ครูกลอนด้วยกลอนครู ๚ ได้อ่านฝีมือกลอนที่ผ่าน “คุณพระประชัน”  ในรายการ “คุณพระช่วย”  มาแล้วก็ชอบใจที่ คุณโกฏิดารายังไม่ทิ้งอาศรมไปเลย  เข้าใจว่าเรียนหนัก คนที่เขียนกลอนแบบสั่งได้ว่าจะให้เป็นแนวของกวีโบราณท่านใดไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะ โดยทั่วไปขอให้เขียนได้จบบทโดยไม่ผิดฉันทลักษณ์ก็พอใจมากแล้ว   ฝีมือแบบนี้อย่างที่สำนวนกำลังภายในว่า  “หยิบกิ่งไม้เป็นกระบี่”  ใช่หรือไม่  ? จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 14:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ศาลาไทย (๘๙) ๏ พระเสด็จเยือนทั่วด้าว       แดนไทย เจ้าอยู่หัวจอมใจ                   พสกน้อม แผ่นน้ำแผ่นฟ้าใด                 ฤๅเทียบ หทัยพ่อ ดินกว่ากว้างสุขล้อม             ร่มด้วยพระบารมี ๚ กำลังแอบใช้เครื่องจากที่ทำงานคนอื่นปั่นกระทู้อยู่เพลิน ก็สะดุ้งสามครั้งซ้อน ๆ  ที่เห็น ศาลาไทยเจียดเวลามาวางโคลงกระทู้ด้วย โคลงบทนี้คิดว่าคงใช้เวลาเขียนไม่เกินสามนาที (มากไปไหม ?) คำนวนตามฝีมือผู้เขียน โคลงกระทู้แบบนี้ ..ยกให้ศาลาไทยเขาไปเหอะ    ท่านทั้งหลาย (วันนี้ขอปั่นกระทู้หน่อยครับ   มัวดูฟุตบอล  ง่วง) จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 มิ.ย. 49 15:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ๏ งามคำงามภาพพร้อม      งามมิตร ค่อยอ่านค่อยเพ่งพิศ         ค่อยซึ้ง ดื่มคำดื่มน้ำจิต                 ดื่มด่ำ วันผ่านวันกล่อมบึ้ง            แอบอึ้งวันหวาน ๚ สวัสดีครับทุกท่าน แว้บเข้ามาเห็น พี่คัมภีร์ปั่นกระทู้ หวั่นว่า ตัวเอง จะได้รับไม้ต่อเร็วขึ้น น่อ อิอิ เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------ จากคุณ : xers - [ 27 มิ.ย. 49 19:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มาช่วยปั่นกระทู้  กับอยากให้กระทู้ถัดไปคุยกันเรื่อง "สุนทรภู่"   จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 95 . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 96 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 97 . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 98 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 99 . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 100 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ต้นฉบับบทความเป็น pdf ไฟล์  ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.svbhumi.com/doc/092.pdf จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 มิ.ย. 49 19:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 102 aarrkk... almost 100th comment laew... H-Kamphira's KlongSi and Pix are great as always na krab... Couldn't type Thai.. So couldn't post KlongSi today.. (Very good excuse of mine.. hihi...) But really impress KarpHaeRuer from P-ChanHaeng's post mak mak krab..... คือแสงทิพย์ที่ส่องไทย     คือสายใยแห่งทวยสยาม ยิ่งยาววันยิ่งแวววาม         ยิ่งยาวยามยิ่งร่มเย็น Good day to everybody krab.. จากคุณ : namit - [ 27 มิ.ย. 49 20:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ๏ เหวอเหวอทำอย่างเนี้ยะ    เร็วหลาย หาเรื่องขายไม่ทัน               แอบอึ้ง เคยคิดเรื่องบรรยาย            ก่อนจบ ทำอย่างนี้ทำถึ้ง                  จะตั้งกระทู้ไง  ละหนอ ๚ โอย... หนู ศ. มาชิงบอกกระทู้หน้าเป็นของท่านสุนทรภู่ บรมครูเอก ทำเอาตั้งตัว บ่ ทัน หาข้อมูลบ่ได้ อิอิ เอาไง น้อ --------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 27 มิ.ย. 49 21:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ลิ้งค์ใหม่ครับ  อาศรมชาวโคลง ๑๖๘    ๏ สุนทรภู่ครูกวี ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4489895/W4489895.html จากคุณ : xers - [ 28 มิ.ย. 49 03:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ซึ้ง...ตรึงใจ จริงๆ จากคุณ : จันทร์เพ็ญ (Pen Writer) - [ 30 มิ.ย. 49 17:14:18 ]