CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กาลครึ้งหนึ่งที่เรา(เคย)รักกัน ตอนที่ 4 มาแล้วค่ะ

    ตอนที่ 4


    ‘สว่างแล้วจ้า ตื่นได้แล้ว สว่างแล้วจ้า ตื่นได้แล้ว สว่างแล้วจ้า ตื่น...ตุ่บ’ มือเล็กที่คว้าเปะปะกดลงตรงปุ่มกลางตัวนาฬิกาปลุกจนได้ หลังจากปล่อยให้มันแผดเสียงทักทายยามเช้าอยู่นาน วันนี้อันฌิสามีเรียนภาคปฏิบัติตอนบ่าย หญิงสาวไม่รีบร้อนนักที่จะลุกจากเตียงนอนแสนนุ่ม ก็เวลาที่เธอตั้งไว้มันเพิ่งจะผ่านแปดนาฬิกาไปหยกๆ คิดแล้วก็พาร่างในชุดนอนลงบันไดตรงไปยังห้องเสบียงหลักของบ้าน

    “หม่าม้าขา วันนี้มีอะไรให้อิ้งกินบ้าง ท้องร้องจ้อกๆแล้วเนี่ย” หน้าเรียวซุกนิ่งเกยไหล่ผู้เป็นมารดาอย่างประจบ บิดาของอันฌิสาทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับบ้านและคอนโด สัปดาห์หนึ่งจะกลับบ้านสักครั้งสองครั้ง ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงมีเธออยู่กับมารดาเพียงสองคน จะมีก็แค่แม่บ้านมาทำความสะอาดแบบเช้าไปเย็นกลับ

    “วันนี้มีโจ๊กหมูลูก ถ้าจะกินก็ไปเอาชามมาตักไป วันนี้เรียนกี่โมงล่ะเราน่ะ” คุณเนตรนภัสโยกศีรษะบุตรสาวอย่างเอ็นดู

    “ตั้งบ่ายแน่ะหม่าม้า ทันได้กินข้าวกลางวันฝีมือหม่าม้าหรอกน่า” ผู้เป็นลูกตักโจ๊กร้อนๆใส่ชามก่อนจะหันมาตอบเสียงหวาน

    “ไม่ต้องมาทำเอาใจหม่าม้าเลยนะเราน่ะ ม้าไม่เหงาหรอกนะลูก ไปมหา’ลัยเลยก็ได้ จะได้ไปอยู่กับเพื่อนๆบ้าง”

    “หูย ก็อิ้งอยากกินข้าวฝีมือหม่าม้านี่นา รสชาดแบบนี้ยิ่งหากินยากๆอยู่” อันฌิสาฉีกยิ้มกว้างให้มารดาก่อนจะยกชามโจ๊กไปนั่งจัดการหน้าบ้าน

    มารดาของอันฌิสาเป็นลูกเชื้อสายชาวจีน ต่างกับบิดาของหญิงสาวลิบลับที่ดูคมเข้มเหมือนชายไทยแท้ๆ ทั้งสองแต่งงานและอยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปี มีบุตรสาวเพียงคนเดียวก็คือหล่อน ทั้งๆที่มีมารดาเชื้อสายจีน แต่หน้าตาของหญิงสาวกลับถอดแบบมาจากบิดา โครงหน้าเรียวสวยกับจมูกโด่งรั้นรวมไปถึงตากลมโต จะมีก็แต่เพียงสีผิวที่ขาวเนียนบ่งบอกเชื้อสายเท่านั้นที่รับมรดกมาจากมารดา จนโดนเพื่อนสนิทสมัยมัธยมของเธอล้ออยู่เสมอว่าช่างเลือก ( ก็เธอเล่นเลือกเอาแต่ส่วนดีๆของทั้งพ่อและแม่มารวมกันได้อย่างเหมาะเจาะ)

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “เป็นอะไรไปฟ้า ดูทำหน้าเข้าดิ ปวดท้องเหรอไงจ๊า” อันฌิสาเอ่ยทักเพื่อนสาวที่เดินทำหน้าบอกบุญไม่รับให้เห็นมาแต่ไกล

    “เซ็งคนอ่ะดิอิ้ง ดูเอาเหอะนะ นี่มันจะครบเดือนอยู่รอมร่อแล้ว นางสาวปลายฟ้ายังไม่มีบุญได้เห็นหน้าพี่เทคกะเค้าเล้ยยย” ปลายฟ้าเร่มบ่นออกมายาวเหยียด

    “อ้าว ก็เห็นคราวนั้นบอกจะไปกินเลี้ยงรับสายไง ไม่ได้ไปหรอกเหรอ”

    “รับสายมันต้องรอพร้อมพี่รหัสด้วยไง เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด” คนตอบทำท่าหมดอาลัยตายอยากจนเพื่อนสาวอดขำไม่ได้

    “โธ่ น่าสงสารจัง ไอ้เราก็นึกว่าได้เจอหน้าพี่แทนเค้าแล้วซะอีก”

    “จงเจอที่ไหนล่ะ วันก่อนเจอพวกพี่ปีสองเลยถามหาพี่แทน เค้าบอกว่าตั้งแต่เปิดเทอมพี่แกยังไม่มาเรียนเลย” ปลายฟ้ายิ่งทำหน้าเซ็งเข้าไปอีกเมื่อพูดถึงตอนนี้

    “อือใช่ๆ จำได้ว่าพี่เค้กเคยบอกว่าพี่แทนไม่ค่อยมาเรียนหรอก จะมาก็แต่วันที่มีปฏิบัติ คงเป็นพวกหัวไบท์มั้ง แบบว่าอ่านอยู่ที่บ้านก็ได้ประมาณนี้อ่ะ”

    “ไบท์ไม่ไบท์น่ะช่างพี่แกเหอะ ก็แค่อยากได้หนังสือเรียน หน้าเน้ออะไรยิ่งไม่พิศวาสอยากเห็นเข้าไปใหญ่ พี่เทคประสาอะไรไม่ดูแลน้องในปกครองเลย”

    “ใจเย็นยัยฟ้า ไปหาอะไรกินแก้เซ็งกันดีกว่า คิดมากแก่เร็วไม่รู้น้า” อันฌิสาฉุดแขนเพื่อนสาว หากแต่ก็ต้องปล่อยเมื่อเพื่อนร้องสุดเสียง

    “ตายแล้ว ตายๆๆ ตายแน่ยัยฟ้าเอ้ย อิ้งฉันลืมไปเลยนะเนี่ย พี่โมฝากมาบอกว่าจะเรียกประชุมปีหนึ่งเรื่องงานวันไหว้ครู โอ้ย เย็นนี้แล้วด้วย ฉันยังไม่ได้บอกใครเลย” ปลายฟ้าคว้าโทรศัพท์กดลิสต์หาเบอร์โทรเพื่อนให้วุ่น

    “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ยัยคนนี้ ลืมแล้วหรอไงว่าวันนี้เรามีแลบอ่ะ ยังไงก็เจอเพื่อนทุกคนครบอยู่แล้ว” หญิงสาวส่ายหัวมองเพื่อนสาวอย่างขำๆ ก่อนจะลากคนขี้วิตกไปหาของใส่ท้องแก้อาการเบลอ


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “วันไหว้ครูปีนี้ภาคเราจะมีตัวแทนชั้นละสองคนนะ ชายหนึ่งหญิงหนึ่งสำหรับถือพาน ส่วนพานน้องก็ทำกันเอง จะดีไซน์ยังไงก็เต็มที่ ไปเบิกพานได้ที่ห้องภาค เงินก็ใช้เงินของภาคที่เราเก็บกันไว้นั่นแหละ ทีนี้มาเรื่องตัวแทน จะให้พี่จับฉลาก หรือเลือกกันเองดีคะ” พี่โมซึ่งรับหน้าที่มาชี้แจงกับพวกรุ่นน้องกล่าว ซึ่งก็มีเสียงตอบรับว่าจะเลือกกันเองเกือบยกห้อง

    “งั้นตกลงว่าเลือกกันเอง ฝ่ายชายเสนอชื่อใครดีคะ”

    “ดนัยณัฐค่ะ” แพรวา หญิงสาวรูปร่างนางแบบเสนอด้วยเสียงดังตามแบบฉบับสาวมั่น คนอื่นๆจึงพลอยพยักหน้าเห็นตามด้วย

    “แล้วฝ่ายหญิงล่ะ” พี่โมถามหลังจากจดชื่อตัวแทนฝ่ายชายลงในรายชื่อแล้วเรียบร้อย

    “แพรวาค่ะพี่โม” เพื่อนในกลุ่มของแพรวาเสนอ ซึ่งคนถูกเสนอชื่อก็ทำท่าเขินซะจนดูโอเวอร์

    “อันฌิสาค่ะ” ปลายฟ้ายกมือขึ้นพร้อมกับพูดชื่อเพื่อนเสียงดังจนกลุ่มของแพรวาเงียบสนิท

    “เฮ้ยฟ้า ไมทำงี้อ่ะ ฉันไม่ได้อยากถือพานนะ” อันฌิสาที่ออกอาการเหวอหันไปตีแขนเพื่อนโทษฐานทำอะไรไม่ปรึกษา

    “งี้แหละดีแล้วอิ้ง ทำตัวเป็นไม้กันหมาหน่อย ดูพวกยัยแพรดิ อยากจะงาบดิวจนตัวสั่นแล้ว แบบนี้ต้องแกล้งซะหน่อย สนุกดีออก” ปลายฟ้ากระซิบบอกเพื่อน เมื่อหันไปเห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจของกลุ่มแพรวา

    “โอเคค่ะ ตอนนี้ผู้ชายก็คงเป็นดิวแหละเนอะ แต่ฝ่ายหญิงมีสองคนเราโหวตเอาแล้วกัน หรือไงดี”

    “ผมว่าให้อันฌิสาถือดีกว่า แพรวาน่ะตัวสูงเกินไป เวลาถือพานจะดูเก้งก้างคงไม่เหมาะหรอกครับ” ดนัยณัฐที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉย ส่งผลให้คนถูกกล่าวหาว่า’เก้งก้าง’หน้าแดงด้วยทั้งโกรธทั้งอาย

    “เอางั้นหรอ น้องคนอื่นๆว่าไงคะเห็นด้วยหรือเปล่า” พี่โม(ที่รับรู้ถึงสถานการณ์ตึงเครียด) เอ่ยถามความเห็นจากทุกคนอีกครั้ง

    “เห็นด้วยค่ะ/ครับ” ทุกเสียงในห้อง(ยกเว้นกลุ่มแพรวา) ตอบรับอย่างพร้อมเพรียงราวกับย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอนุบาลอีกครั้ง

    “โอเค ครบเรียบร้อย พรุ่งนี้ก็เบิกของ ซื้อดอกไม้ทำพานกันได้เลยนะ วันนี้ก็แค่นี้แหละ เลิกประชุมจ๊ะ”



    “ดิวพูดแบบนั้นไม่กลัวแพรเค้าโกรธหรอไง” อันฌิสาเปิดฉากต่อว่าคนต้นคิดทันทีที่ออกจากห้องประชุม

    “ก็แล้วทำไมดิวต้องกลัวล่ะ ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย” คนก่อเรื่องยังคงลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่สนใจข้อกล่าวหา

    “ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ยังไงก็ไม่น่าไปว่าเค้าแบบนั้น”

    “ดิวไม่ได้ว่าเค้านะอิ้ง ก็แค่พูดไปตามความรู้สึกแบบที่ตาเห็น แล้วอีกอย่างดิวก็อยากถือพานคู่กับอิ้งมากกว่าแพรนะ”

    “เอาน่าๆ อย่าทะเลาะกันคร้าบเพื่อนๆ แหมยังไม่ทันไรเลยจะตีกันเองแล้ว” เมธัศน์ทำหน้าที่กรรมการห้ามมวย (ที่ตอนนี้เริ่มออกแนวหวานปะแล่มๆ)

    “ไม่มีอะไรหรอกไม้ งั้นเรากับฟ้ากลับก่อนนะ” อันฌิสาบอกเมธัศน์แล้วจูงมือปลายฟ้าเดินออกมาทันที

    “โอ้ย อิ้ง แกจะเดินเร็วไปไหนเนี่ย งอนดิวแล้วอย่ามาลงกับเพื่อนสุดที่รักสิ” ปลายฟ้าที่พยายามก้าวขาตามเพื่อนให้ทัน ร้องโอดโอยยกใหญ่

    “นี่ พูดดีๆนะ ใครว่าฉันงอน ไม่ได้งอน ทำไมต้องงอน”

    “จ้าๆ ไม่งอนก็ไม่งอน แล้วนี่เดี๋ยวกลับบ้านเลยหรอ ไปนั่งหอฉันก่อนมั้ย”

    “ไม่ล่ะ กลับเลยดีกว่าเดี๋ยวฝนตก ไปนะฟ้าพรุ่งนี้เจอกัน” อันฌิสาที่เงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะตัดสินใจว่าตรงดิ่งกลับบ้านเลยดีกว่าเถลไถล

    “อืม กลับดีๆล่ะ ระวังตัวด้วยนะอิ้ง แกน่ะอย่าไปฉุดคนข้างทางเข้าล่ะ” ปลายฟ้าป้องปากตะโกนบอกเพื่อนที่เดินข้ามถนนไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับแววตาแค้นเคืองส่งมาให้เป็นรางวัล


    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : Snow_PuFF - [ 9 มิ.ย. 49 00:50:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com