ต้นไม้ของแผ่นดิน
อันโตนิโอ
สองทุ่มห้าสิบนาที ต้นลงรถเมล์ปากซอยแล้ววิ่งฝ่าฝนกลับบ้าน กระโจนขึ้นบันไดสามขั้นมายืนบนชานหน้าประตู เนื้อตัวเปียกโชกไปหมด มือหนึ่งหิ้วตะกร้าพลาสติกเปล่า ส่วนอีกมือกำปากถุงก๊อบแก๊บที่มีเครื่องหมายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแน่น เสียงฝนกระหน่ำใส่หลังคาสังกะสีดังกราวจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่น ประตูบ้านเปิดค้างเอาไว้สร้างความประหลาดใจให้เด็กชาย ในบ้านนั้นมืด ทว่าพอจะมองเห็นราง ๆ ด้วยไอแสงสว่างจากไฟฟ้าข้างถนนซึมเข้ามาทางหน้าต่าง ร่างของยายนอนนิ่งบนฟูกเก่า ๆ ใบหน้าถูกซ่อนอยู่ใต้เงาดำทะมึน ต้นร้องเรียกยาย ใจสั่น รู้สึกไม่ค่อยดี
สองทุ่มตรง คนในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นต่างหยุดจับจ่ายซื้อหาสินค้าชั่วคราวเมื่อเด็กชายตัวผอมเกร็งผิวคล้ำผลักประตูวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเร่งร้อน เขาดูต่างจากลูกค้าในร้าน เสื้อยืดสีเหลืองหม่นเก่าขาดเป็นรูพรุน กางเกงขาสั้นที่ครั้งหนึ่งเดาได้ว่าน่าจะเคยเป็นกางเกงนักเรียนก็กระด่างกระดำ ตรงชายขารุ่ยเห็นเส้นด้ายเป็นขุย รองเท้าแตะแบบคีบรองรับน้ำหนักจนส้นแบนเป็นแผ่นแทบจะละลายหายไปกับพื้นอยู่แล้ว เนื้อตัวของเด็กชายเปียกม่อลอกม่อแลกด้วยน้ำฝน ในมือมีธนบัตรสีแดงกำจนยับ พุ่งไปยังเคาน์เตอร์ไม่สนว่าตัวเองกำลังแทรกคิวลูกค้าอื่นอย่างน่าเกลียด ชายหนุ่มคนที่ถูกแซงคิวขมวดคิ้วหงุดหงิด ใช้สายตาฟ้องพนักงานขายทำนองว่าอย่างนี้ไม่ถูกต้องแน่ ๆ หญิงสาวในชุดเครื่องแบบร้านทำหน้าไม่พอใจเด็กชาย เขาไม่เพียงพาเอาความไร้มารยาทเข้ามาในนี้ แต่ยังพกเอากลิ่นเหงื่อและเสื้อผ้าเปียกปอนเหม็นคลุ้งจนหลายคนเบือนหน้าหนี นี่! ต่อคิวสิ พนักงานสาวดุต้นเบา ๆ แต่เด็กชายกลับไม่สนใจ ขอซื้อของบางอย่างด้วยน้ำเสียงเร่งร้อนเป็นกังวล เมื่อได้แล้วก็วิ่งออกไปเหมือนลมพายุ พนักงานร้านส่ายหน้าแล้วรีบคิดเงินลูกค้ารายอื่นต่อ แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นตำรวจเดินเข้ามาชะโงกมองซ้ายขวาเหมือนหาใครบางคน ไม่นานก็กลับออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ทุ่มสี่สิบนาที เด็กชายยืนก้มหน้าทำตัวไม่ถูก จะพูดอะไรก็พูดไม่ออก คนที่อยู่หลังประตูรั้วอัลลอยด์รับกระเป๋าหนังสีน้ำตาลไปจากมือสาวใช้ สีหน้าของเธอดูโล่งใจ รอยยิ้มผลิบานเหมือนดอกกุหลาบคลี่กลีบ ต้นแอบเหลือบตามอง หัวใจสั่นระทึก ยิ่งตอนที่เธอหันมาแล้วรู้ว่าใครเป็นคนนำของสำคัญกลับมาคืนให้ เอ๊ะ! ไอ้เด็กเร่ขายขนมนี่นา แกเจอกระเป๋าชั้นได้ยังไง? ไปเอามาจากไหน? เธอถามพลางเปิดกระเป๋าตรวจสอบของมีค่าด้านใน ยิ้มเมื่อแรกเห็นหุบหายไปแล้วเหลือแต่เพียงความกระด้างเย็นชา เด็กชายอึกอัก ตอบว่าเขาเห็นมันตรงป้ายรถเมล์ คิดว่าคงมีคนทำตกเอาไว้ กำลังจะเล่าเหตุการณ์ แต่เสียงมอเตอร์ไซค์ครางกระหึ่มใกล้เข้ามาพร้อมกับร่างของตำรวจสองนาย ต้นจำได้และใจหายวาบ ผละวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเจ้าของกระเป๋าสตางค์กับสาวใช้มองตามอย่างงุนงงระคนตกใจ ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกของสายตรวจ เฮ้ยนั่นไง! ไอ้เด็กขี้โขมย ตามไปเร็ว!
ทุ่มครึ่ง ต้นยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ท่าทางของเขามีพิรุธ หมาในบ้านเห่ากันขรมแต่วิ่งออกมาไม่ได้เพราะอยู่ในกรง ลมกรรโชกยอดไม้ในบ้านลู่เป็นทางเดียว ต้นหยีตาเอามือกันฝุ่น มืออีกข้างกุมกระเป๋ากางเกงแน่น ในนั้นคงมีอะไรบางอย่าง ต้นได้ยินเสียงคนเดินลากรองเท้ามาจนถึงประตู หน้าเขรอะสิวของสาวใช้โผล่มาเกือบชิดซี่ลูกกรง มีธุระอะไร เธอถาม ต้นเกลียดเสียงกระด้างนี้เป็นที่สุด เขาถามหาชื่อคน ๆ หนึ่ง เด็กสาวลูกอีสานทำหน้าระแวงขึ้นมาทันที รู้จักชื่อคุณแกได้ยังไง นี่! มีธุระอะไรก็บอกมาเร็ว ๆ บ้านนี้มีตำรวจมาตรวจตู้แดงทุกคืนนะจะบอกให้ ต้นไม่รู้ว่าตู้แดงคืออะไร แล้วยังไม่เข้าใจว่าสาวใช้คนนี้จะทำท่ารังเกียจเขาไปถึงไหน เด็กชายล้วงมือหยิบของในกระเป๋ากางเกงยื่นเข้าไปข้างในประตูรั้ว เก็บได้ เห็นมีชื่อที่อยู่ในบัตร เลยเอามาคืน เขาพูดห้วนไม่แพ้กัน นึกน้อยใจว่าอุตส่าห์เดินหาบ้านหลังนี้มาตั้งเป็นชั่วโมง เขาหมุนตัวเหมือนจะเดินจากไป แต่ก็มีเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นมาจากหลังประตูรั้วซึ่งไม่ใช่เสียงของสาวใช้แน่นอน เดี๋ยว นั่นมันกระเป๋าสตางค์ของฉันนี่!
แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 07:54:21
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
11 มิ.ย. 49 22:01:13
]