CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แล้วเราก็รักกัน

    “อัลโหล.....อาศิรัตที่รักทำอะไรอยู่ค่ะ คิดถึงจังเลย”เสียงใสๆๆๆๆที่แสนที่จะคุ้นเคยดังมาตามสายทำให้    คนปลายสาย รู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาหา ถ้าไม่ใช่ยัยหลานสาวตัวแสบของเขานั้นเอง
     “ว่าไง...ยัยตัวแสบโทรมาหาอามีเรื่องอะไรจะให้ช่วยอีกล่ะ โทรมาทีไหร่มีเรื่องมาให้ปวดหัวทุกทีสิเอ่อ” ผู้เป็นอาถามกลับอย่างรู้ทัน ความคิดของ หลานสาวตัวแสบดี ว่าถ้าเกิดว่ายัยตัวแสบโทรมาเขาเมื่อไรเมื่อนั้นก็จะต้องมีเรื่องมาให้เขาปวดหัวแถบจะทุกทีไป
    “คือ........ต้นน้ำอยากให้อามารับต้นน้ำที่สนามบินหน่อยค่ะ”
    “ห่า....ว่าไงน่ะยัยต้น” ผู้เป็นอาตกใจจนโทรศัพท์ที่ถืออยู่เกือบจะหลุดตกจากมือ
    “อา...เป็นอะไรไปน่ะ ทำไมต้องตกใจถึงขนาดนั้นด้วย”หญิงสาวถามผู้เป็นอากลับด้วยน้ำเสียงที่ใสซื่อ เหมือนเรื่องที่ตนเองทำอยู่ในขณะนี้เป็นเรื่องปกติ
    “แล้ว...เราละนึกยังไงถึงคิดจะมาเมืองไทยน่ะปุบปั๊บ แบบนี้ล่ะ เห็นเมื่อก่อนอาชวนมาอยู่กับอาเราบอกว่าไม่อยากมา แถมบอกว่าไม่ชอบเมืองไทยอากาศร้อนจะตาย” เมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้แล้วผู้เป็นก็ถามถึงสาเหตุของการมาเมืองไทยครั้งนี้ของหลานสาวทันที “แล้วพ่อของ เราเขารู้หรือป่าวว่าเรามาเมืองไทยน่ะ “
    “รู้ค่ะ” หญิงสาวรีบตอบผู้เป็นอา “แล้วพ่อของเราเค้านึกอย่างไงของเค้าถึงยอมปล่อยให้เรามาเมืองไทยคนเดียวแบบนี้” สิรัตไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างพี่ชายของเค้าที่รักลูกสาวเสียขนาดนั้นทำไมถึงยอมปล่อยให้ลูกสาวบินมาเมืองไทยคนเดียวแบบนี้ อย่างน้อยถ้าไม่ว่างจริงก็น่าจะให้ใครบินมาเป็นเพื่อนสักคน
    “ก็ต้นโตแล้วนี้ค่ะ เรียนก็จบแล้ว ก่ะอีแค่มาเมืองไยแค่นี้ทำไมจะมาคนเดียวไม่ได้”หญิงสาวยกข้ออ้างที่เธอมักจะใช้อ้างกับผู้เป็นพ่อบ่อยๆๆ
    “แต่อาว่า อาจะโทรไปคุยกับพ่อเราสักหน่อย อายังสงสัยอยู่เลย” สิรัตไม่ยอมเชื่ออย่างที่ยัยหลานสาวของเขาเล่า หลานสาวของคนนี้เชื่อได้สักที่ไหนล่ะตั้งแต่เล็กจนโตมานี้ก็ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าอยู่เรื่อยแหล่ะ
    “ไม่ต้องโทรไปหรอกค่ะ อาตอนนี้พ่อไม่ค่อยจะว่างสักเท่าไรหรอก ขืนโทรไปหาอาก็ไม่ได้คุยกับพ่ออยู่ดีนั้นแหล่ะ ไม่รู้ตอนนี้พ่อไปประชุมอยู่ที่ประเทศไหนแล้วมั่ง อาไม่ต้องโทรไปให้เสียเวลาหรอกค่ะ”หญิงสาวรีบโกหกผู้เป็นหาขืนให้อาโทรไปหาพ่อของเธอตอนนี้อากับพ่อก็ต้องรู้เรื่องแน่เลยว่าเธอแอบหนีมาเมืองไทยน่ะซิ แล้วพ่อของเธอก็ต้องส่งคนมาเอาตัวเธอกลับไปแน่ๆๆๆๆๆๆเลย
    “อืม ไม่โทรก็ไม่โทร ว่าแต่เราเถอะแน่ใจหรือที่จะมาเมืองไทยน่ะ”ผู้เป็นอาถาม หลานสาวซ้ำอีกครั้ง
    “ ค่ะ แน่ใจร้อนเปอร์เซ็นค่ะก็ ต้นอยากมาอยู่กับอาสักพักหนึ่งนะอยู่ที่โน้นเบื่อจะตายไม่รู้จะทำอะไรมาอยู่กับอาสักพักดีกว่า หรืออาไม่อยากให้ต้นมาอยู่ด้วยแล้วล่ะ”
    “หืม.......ก็ดีเหมือนกันอาต้องการคนมาช่วยงานพอดีเลย แล้วเราจะมาถึงเมื่อไรล่ะเดียวอาจะไปรับ” “ถึงแล้ว”
    “ห่า”ชายหนุ่มตกใจเป็นครั้งที่สองของวันนี้แล้ว
    “แล้วทำไมเราถึงไม่โทรมาบอกอาก่อนล่ะ แล้วนี้เครื่องลงนานหรือยัง”  
    “นานแล้ว อารีบๆๆๆๆๆมารับต้นหน่อยนะ ตอนนี้ทั้งหิวทั้งเหนื่อยจะตายแล้วเนี้ย”หญิงสาวอ้อนป่นบ่นกับผู้เป็นอา
    “แต่ตอนนี้อาไม่ว่างน่ะสิ อาต้องเข้าประชุมเดี่ยวนี้แล้ว ไม่เข้าก็ไม่ได้ด้วยสิ เรารออาสัก 3-4 ชั่วโมงได้มั้ยเดี่ยวอาประชุมเสร็จอาจะรีบไปรับนะหลานรัก”สิรัตรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมากที่ต้องปล่อยให้หลายสาวรอตัวเองนานถึงขนาดนั้นแต่จะทำอย่างไงได้ล่ะ การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมากต่อเขาและบริษัท
    “โธ่....อาตั้ง 3-4 ชั่วโมงใครจะไปรอได้ละ เหนื่อย ก็เหนื่อย หิวก็หิว”ต้นน้ำว่าเสียงอ่อยเมื่อผู้เป็นอาว่าให้รออีกทั้ง สามสี่ ชั่วโมง
    “น่า หลานรักรออาหน่อยน่า แค่สามสี่ ชั่วโมงไม่นานหรอกนะ”
    “ค่ะ แต่อาให้ใครมารับต้นแทนอาไม่ได้เหรอ”หญิงสาวต่อรองกับผู้เป็นอา
    “แล้วจะให้ใครไปรับล่ะ”
    “ให้ผม ไปรับหลานสาวของพี่แทนก็ได้ พอดีวันนี้ผมไม่ต้องเข้าประชุมด้วยครับ พี่ชลิตเข้าประชุมแทน”ชาย หนุ่มคนอีกคนที่ดูเหมือนจะมีอายุอ่อนกว่าสิรัต 2-3 ปี เอ่ยรับอาสาที่จะไปรับแทนให้ เพราะว่าชายหนุ่มได้ยินการสนทนาของคนทั้งคู่มาโดยตลอด
    “จะดีเหรอภูมิ  พี่แกล้งใจน่ะ”
    “ไม่ต้องไปแกล้งใจมันหรอกสิรัต มันอุตสาห์รับอาสาเองก็ให้มันไปเถอะ”ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนกับสิรัตและมี ศักดิ์เป็นลูกพี่ของภูมิ (หรือภูมิพัฒน์ ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทเครือฟ้า บริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์อิ เล็กทอนิกส์ทุกชนิดจัดจำหน่ายทั้งในและนอกประเทศ) เอ่ยขัดขึ้น พร้อมกับยักคิ้วให้กับผู้เป็นน้องชาย
    “อย่างนั้นก็ได้ เดี่ยวพี่บอกยัยต้นมันก่อนน่ะ ว่าจะให้ภูมิเป็นคนไปรับแทนพี่”
    “ครับ”
    “ยัยต้นยังถือสายอยู่หรือป่าว อาหาคนที่จะไปรับเราได้แล้วนะ เดี่ยวเขาจะไปรับเรานะ”
    “ค่ะ จริงๆๆๆๆหรือค่ะ อาบอกให้เขามารับต้นเร็วหน่อยน่ะ”ต้นน้ำแสดงอาการตื่นเต้นดีใจ จนผู้เป็นอาที่ ฟังอยู่อดยิ้มไม่ได้กับไอ้นิสัยไม่รู้จักโตของหลานสาว ถึงจะดีใจขนาดไหนแต่ก็ไม่วายกำชับให้ผู้เป็นอาบอกคนที่อาสามารับเธอให้รีบๆๆมา
    “อืม  เดี่ยวอาบอกให้ แต่ตอนนี้อาต้องเขาประชุมแล้วล่ะ”สิรัตยกข้อมือดูหน้านาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าประชุมแล้วจึงรีบวางสายจากหลานสาว
    “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
    เมื่อวางสายจากหลานสาวแล้วสิรัตก็หันไปบอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลานสาวให้ภูมิพัฒน์ น้องชายของเพื่อนฟัง
    “หลานของพี่ชื่อต้นน้ำ เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ อายุก็ประมาณ.............”  
    “ท่านค่ะต้องเข้าประชุมแล้วค่ะตอนนี้เลยเวลาประชุมมา มากแล้วน่ะค่ะ พวกกรรมการบ่นกันใหญ่แล้วค่ะ”ยังไม่ทันที่สิรัตจะบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ภูมิพัฒน์ฟังจนหมด เลขาสาวคนสวยก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เพราะตอนนี้ในห้องประชุมกำลังเกิดเรื่อง เขาเลยต้องรีบเดินตามเลขาสาวของเขาไป โดยลืมไปว่ายังบอกรายละเอียดให้ภูมิพัฒน์ฟังยังไม่หมด
    “อ้าวไง  พี่สิรัตถึงเดินไปเฉยอย่างนั้นได้ล่ะครับ พี่ชลิตผมยังทราบรายละเอียดยังไม่หมดเลย แล้วผมจะไปหา หลานสาวของพี่แกเจอได้ไงเนี้ย”ชายหนุ่มหัน มาพูดกับพี่ชายตนเอง
    “ฉันก็ไม่รู้สิ มันคงจะรีบวะ”
    “แล้วผมจะทำอย่างไงล่ะทีนี้”
    “ฉันจะไปรู้แกเหรอ”บอกเสร็จก็หันหลังเดินตามหลังผู้เป็นเพื่อนเข้าห้องประชุมไปปล่อยให้ผู้เป็นน้องชายยืน หน้ามุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
    “ไม่น่าไปหาเหาใส่หัวเลยเรา แล้วนี้จะไปหายัยเด็กนั้นเจอได้ไงว่ะ หน้าตาเป็น อย่างไรก็ไม่รู้เลย”ภูมิพัฒน์บ่นขณะขับรถไปที่สนามบิน
    “โอ๊ย....ทำไมถึงช้าขนาดนี้วะนี้ หิวจะตายแล้ว เดี่ยวมาถึงนะแม่จะสวดเสียให้เข็ดเลยค่อยดู”ต้นน้ำบ่นกับตัวเองพร้อมกับเดินวนไปเวียนมาโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนเดินตรงเข้าทางเธอผลก็เดินทำให้ทั้งสองคนเดินชนกันเข้าอย่างจัง
    “โอ๊ย....เดินประสาอะไรของคุณเนี้ย ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนยืนอยู่นะ หรือว่าตาบอดง่ะ ”ด้วยความที่ทั้ง หิว และเหนื่อยบวกกับกับเกิดเหตุที่ไม่สบอารมณ์อย่างจังขึ้นทำให้ความอดทนของต้นน้ำที่มีอยู่ไม่ค่อยจะมากอยู่แล้วหมดลงทำให้ชายหนุ่มผู้โชดร้ายต้องรับเคราะห์ไป
    “เอ่อ....ขอโทษครับพอดีผมรีบน่ะครับ คุณเป็นอะไรหรือป่าวครับ”ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษพร้อมกับสำรวจ ตามร่างกายของหญิงสาวว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
    “ไม่ถึงกับตายหรอก” หญิงสาวตอบเสียงสะบัด แถมมีประชดนิดๆๆ
    “ครับ ผมรู้ว่าไม่ถึงกับตายหรอก ถ้าเกิดว่าคุณตายขึ้นมาจริงๆๆๆๆตอนนี้คุณคงจะไม่มายืนคุยผม ฉอดๆๆๆๆๆอย่างนี้ล่ะครับ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับนึกขำกับอาการประชดประชันของหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาว ตรงหน้าของเขาเป็นสาวลูกครึ่งที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มหน้ารักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปากนิดจมูกหน่อยของเธอนั้นแหละ  ที่ทำให้เขาอดที่จะมองหน้าขาวใสนวลนั้นซ้ำอีกไม่ได้  
    “นี้นาย ย้อนฉันเหรอ”
    “เปล่านี้ครับ  ผมพูดตามที่ผมเห็น” ชายหนุ่มโปกไม้โปกมือปฏิเสธ อย่างยียวน
    “เหรอ”หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่ม เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเถียงชนะชายหนุ่มตรงหน้าได้  ผู้ชายบ้าอะไรว่ะกวนประสาทเป็นบ้าเลย หญิงสาวได้แต่คิดในใจ  
    “คุณไม่เป็นอะไร ก็ดีแล้ว ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ ผมต้องรีบไปหาน้องสาวของผมอีก ไม่รู้ตอนนี้หายไป ไหนแล้วเนี้ย”ชายหนุ่มที่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองรับหน้าที่อะไรมา กับการที่ต้องมาที่นี้ขึ้นได้ จึงหันไปบอกกับหญิง สาวตรงหน้าแล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวได้ที่อ้าปากค้างกับอาการลุกลี้ลุกล้นของชายหนุ่มคนเมื่อตะกี้
    “คนบ้าอะไร นึกจะไปก็ไป”
    ฝ่ายชายหนุ่มก็มองหาหลานสาวของเพื่อนพี่ชายอยู่เป็นหลายชั่วโมงก็ยังหาไม่เจอสักที จนไม่รู้จะทำ อย่างไรดีแล้วจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนเพื่อขอคำปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ที่จะหาหลานสาวของเพื่อนพี่ชายได้เจอ
    “อัลโหล เคน เหรอ แกอยู่ไหนวะตอนนี้”
    “ข้าอยู่ บนรถ ว่าแต่แกโทรมาฉันมาเรื่องอะไรเหรอป่าววะ”  
    “มี สิคือข้าอยากถามว่าจะมีวิธีไหนบ้างวะที่จะหาเด็กในสนามบินได้เจอวะ”
    “หาเด็ก หาทำไมวะ”
    “พี่สิรัต เพื่อนพี่ชายข้าน่ะสิวานให้มารับหลานสาวแกแทน แต่ข้าไม่มีรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับ หลานสาวพี่แกเลย ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเนี้ยงงไปหมดแล้ว”
    “ใจเย็น ๆๆๆๆก่อนเพื่อน เดี่ยวข้าไปช่วยหา ว่าแต่เด็กคนนั้นอายุประมาณสักเท่าไรได้วะ”

    จากคุณ : ดอกหญ้าจัง - [ 13 มิ.ย. 49 15:34:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com