กานนท์โยนกระเป๋าลงพื้นโครมใหญ่อย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อพบว่า บ้านพักที่เขาติดต่อขอเช่าและดั้นด้นมาพักเพื่อใช้เป็นที่สร้างอารมณ์ศิลปินของเขา
ตรงกันข้ามกับที่เขาแจ้งความประสงค์อย่างสิ้นเชิง เริ่มจากตัวบ้านซึ่งไม่ใช่เรือนไม้แบบโบราณอย่างที่เขาเจาะจง ไฟฟ้าและเครื่องอำนวยความสะดวกแทบจะไม่ต่างจากห้องพักสุดหรูในกรุงเทพของเขาสักเท่าไหร่ก็เป็นตัวฉุดให้เขาหงุดหงิดทบทวี
ไหนคุณบอกผมว่าเป็นกระท่อมเล็ก ๆ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ธรรมชาติล้วน ๆ แถมอยู่ติดแม่น้ำชี
แล้วไหนล่ะ? ชานหนุ่มตะโกนก้องบ้าน ไม่สนใจสักนิดว่าเวลานี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว พันทิศ ผู้จัดการโครงการ ลำชีรีสอร์ท เปิดยิ้มกว้างออกรับอย่างไม่สะทกสะท้าน
ใจเย็น ๆ สิครับคุณกล้า
คุณมาถึงยังไม่ทันได้นั่งก็โวยวายเหมารวมความคิดของตัวเองซะอย่างนั้น
ฟังผมก่อนสิครับ
ไอ้คุณเพื่อน ท้ายประโยคชายหนุ่มเดินเข้าไปตบไหล่คนเจ้าอารมณ์แรง ๆ
ก็ว่ามาสิ! กานนท์ยังคงฉุนเฉียวพลางกระแทกตัวลงนั่งที่เก้าอี้รับแขก
ที่นี่เป็นเรือนรับรองครับคุณเพื่อน รีสอร์ทที่คุณเพื่อนต้องการ
กระผมเห็นว่าวันนี้คุณเพื่อนเหนื่อยกับการเดินทาง แล้วมันก็ดึกมากแล้ว กระผมเลยจะให้คุณพักที่ฝั่งนี้ก่อน
เอาไว้พรุ่งนี้เช้าถึงจะพาข้ามฟากไปหาของจริงแต่เช้าเลย พันทิศอธิบาย กานนท์พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ ก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นถือ
ไม่ต้องถึงพรุ่งนี้หรอกไอ้พัน
ข้าใจร้อน
ไปเดี๋ยวนี้แหละ
ได้มั้ย? ปากกานนท์ถาม
แต่สายตาที่มองไปยังชายหนุ่มอีกคนบ่งบอกว่า ต้องได้
เฮ้อ
ไอ้กล้า
แกก็ยังใจร้อนวู่วามเหมือนเดิม
เออ ๆ ก็ได้ ๆ พันทิศบอกอย่างระอาพลางส่ายหน้าน้อย ๆ ประกอบ งั้นแกรอเดี๋ยว
ฉันไปหาเรือก่อน
แต่ขอบอก มีแต่เรือแจวธรรมดานะโว๊ย
ไม่มีเรือหรูหราต้อนรับหรอกนะ เขาบอก
นั่นแหละ
เจ๋งสุด ๆ เลยเพื่อน กานนท์บอกพร้อมดีดนิ้วเปาะ มองเพื่อนที่เดินส่ายศีรษะพลางบ่นพึมพำไปทำตามประสงค์เขาอย่างขำ ๆ
ขณะที่รอให้พันทิศ เพื่อนสนิทสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่พอจบก็เบนเข็มมาปลุกปั้นโครงการรีสอร์ทริมแม่น้ำชีบ้านเกิด ตามที่ใฝ่ฝันจนสำเร็จเป็นรูปร่างและเชิญเขามาพักเพื่อเป็นเกียรติ ไปหาพาหนะพาเขาข้ามฝั่ง ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจบ้านอันทันสมัยต่อจากที่เห็นเมื่อตอนแรก ก่อนจะมาสะดุดที่รูปถ่ายหมู่ของเจ้าของบ้าน
หน้าคุ้นตาของพันทิศซึ่งอยู่ในกรอบรูปหมู่ทำให้กานนท์เดาได้ไม่ยากว่า นี่คือภาพครอบครัวของเพื่อน
แต่
คนในกรอบที่สะดุดตาเขาคือ สาวน้อยผมบ๊อบตากลมแป๋วที่นั่งยิ้มอยู่แทบเท้าของผู้เป็นพ่อแม่และพี่ชาย รอยยิ้มกว้างขวางที่ส่งให้กล้อง ชวนให้คนมองยิ้มตามเป็นอย่างยิ่งเพราะ
ฟันหน้าหลอเกือบทั้งแถบ ..สีที่ค่อนข้างซีดของภาพ ทำให้ชายหนุ่มทายว่า
ป่านนี้เด็กหญิงในรูปคงเป็นสาวแล้ว
เขาชักสงสัยตงิด ๆ ว่า ทำไมพันทิศถึงไม่เคยพูดถึงน้องสาวเลยสักครั้ง
หรือกลัวเขาจีบ? ชายหนุ่มคิดครึ้ม
ก่อนจะพยักหน้าสนับสนุนความคิดของตัวเอง
มันก็น่าจะเป็นไปได้
ในเมื่อเขาขึ้นชื่อหนักหนาเรื่องความเจ้าชู้
กานนท์คิดพลางหัวเราะน้อย ๆ ชายหนุ่มมองภาพสาวน้อยฟันหลออีกครั้ง เห็นที
เขาต้องหาวิธีรู้ให้ได้เกี่ยวกับสาวน้อยผมบ๊อบคนนี้ซะแล้ว
กานนท์เหลือบมองไปยังรูปอื่น ๆ ภายในห้องนั้น ก่อนมาสะดุดอีกครั้งที่รูปในกรอบเล็ก ๆ บนหลังตู้โชว์ เขาอมยิ้มเมื่อหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู ชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ยืนแอคท่าที่คิดว่าเท่ เบียดแน่นอยู่เต็มกรอบ พลางส่งรอยยิ้มมาให้คนดู กานนท์เผลอยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบา ๆ เมื่อเห็นว่า ตัวเขาตอนถ่ายรูปช่างแตกต่างกับปัจจุบันราวฟ้ากับเหว
ในตอนนั้นใบหน้าเขาเต็มไปด้วยหนวดเครารกเรื้อ ผมเผ้ายาวเฟื้อย ตรงกันข้ามกับตอนนี้ที่หน้าของเขามีเพียงไรหนวดเขียวครึ้มกับผมรองทรงสะอาดตา
แต่
ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน เขาก็เป็น เสือ ได้เสมอ กานนท์หัวเราะเบา ๆ กับความคิดย้อนอดีตของตัวเอง
ชายหนุ่มคิดถึงเพื่อนหลายคนในรูปที่พอเรียนจบต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน บางคนก็ได้งานตามที่ได้ร่ำเรียนมา บางคนก็ไปทำธุรกิจส่วนตัวอย่างเช่นพันทิศเจ้าของ ลำชีรีสอร์ท แห่งนี้ หรือบางคนก็ไปทำงานที่ตัวเองชอบอย่างเขา ที่ชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจโดยเฉพาะภาพธรรมชาติที่เขาถนัดที่สุด และเพราะรูปธรรมชาติทำให้เขาได้รับเกียรติจากทะนนเพื่อนช่างภาพอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสารปลุกใจเสือป่ายอดนิยม เอเดน ให้เขาเปิดคอลัมน์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้งานของเขาได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นตามลำดับ
ด้วยเนื้องาน ทำให้กานนท์ได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปในสถานที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขาไปมาหมดแทบจะทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่เขายืนอยู่ขณะนี้
มหาสารคาม
เมื่อได้รับการนำเสนอทางโทรศัพท์จากพันทิศ เพื่อนหนุ่มซึ่งผันตัวเองมาทำธุรกิจรีสอร์ทริมแม่น้ำชีเชื้อเชิญให้เขามาเยี่ยมชมก่อนตัดสินใจว่า สมควรจะลงคอลัมน์เขาได้หรือไม่ ความที่เบื่อภูเขาและทะเลเต็มแก่ กานนท์จึงตอบตกลงทันที เขาออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถส่วนตัวในตอนสาย เพื่อจะมาถึงเมืองมหาสารคามในตอนเกือบหกโมงเย็น
กานนท์โชคดีที่มาถึงในช่วงเวลาของงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดประจำปี เขาใช้โอกาสดีที่หนึ่งปีจะมีครั้งเดียวเข้าเที่ยวชมงาน ชายหนุ่มเที่ยวเดินเยี่ยมชมซุ้มต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการในจังหวัด จนได้รู้ว่า
บุญเบิกฟ้า เดิมเรียกว่าบุญเบิกบ้าน ซึ่งเกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่า เมื่อถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุก ๆ ปี ฟ้าจะเริ่มไขประตูฝน โดยจะมีเสียงฟ้าร้องและทิศที่ฟ้าร้องเป็นสัญญาณบ่งบอกตัวกำหนดปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาหล่อเลี้ยงการเกษตรปีนั้น ๆ และช่วงเวลาของบุญเบิกฟ้ามักจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมกราคม ถึง ต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
พิธีกรรมที่ชาวบ้านมักจะทำมีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน คือการจัดพิธีสู่ขวัญข้าว การเอาปุ๋ยคอกใส่ผืนนา การทำบุญบ้าน(มักทำร่วมกับสู่ขวัญข้าว) และการนำข้าวเปลือกเต็มกระบุงไปถวายวัด เชื่อกันว่าในวันดังกล่าวนี้จะมีเหตุมหัศจรรย์เกิดขึ้น นั่นคือ กบจะไม่มีปาก นากจะไม่มีรูทวาร และมะขามป้อมจะมีรสหวาน
เมื่ออ่านจบกานนท์สัญญากับตัวเองในใจว่า คงจะต้องหาทางกลับมาพิสูจน์ซะหน่อย บางทีอาจจะเป็นปีหน้าก็ได้
นอกจากความรู้เรื่องที่มาของประเพณีแล้ว กานนท์ยังถือโอกาสแวะซุ้มที่มีสาวสวยคอยบริการตอบคำถาม เขาทำเป็นถามนู่นถามนี่เพื่อเรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่สาวสวยประจำซุ้ม จนในที่สุดเจ้าหน้าที่สาวจึงได้เปิดปากคุยกับเขาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเขาถามถึงความหมายของคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า
พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักสิลานคร
พุทธมณฑลอีสาน หมายถึง พระธาตุนาดูนค่ะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2522 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นพุทธมณฑลอีสานเมื่อ พ.ศ. 2530 ตั้งอยู่ที่โคกดงเค็ง อำเภอนาดูนค่ะ สนใจจะแวะไปเที่ยวก็ได้นะคะ ส่วนถิ่นฐานอารยธรรม หมายถึง การที่จังหวัดเราเป็นที่ตั้งเมืองโบราณหลายแห่ง ได้แก่เมืองนครจำปาศรี เมืองคันธารวิสัย และเมืองโบราณที่ค้นพบบริเวณบ้านเชียงเหียนและบ้านแกดำ ผ้าไหมล้ำเลอค่า หมายถึง การเป็นเมืองที่ทอผ้าพื้นเมืองทั้งผ้าฝ้าย ฝ้าไหม โดยเรามีลายประจำจังหวัดด้วยนะคะ ชื่อลาย สร้อยดอกหมาก สำหรับความหมายของตักศิลานคร คือ การที่จังหวัดของเราเป็นจังหวัดที่มีสถานศึกษามากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยนะคะ เรามีสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 5 แห่ง อาชีวศึกษา 3 แห่ง และการศึกษาในระบบโรงเรียนอีกกว่า 600 แห่งเชียวล่ะค่ะ
ความเพลิดเพลินในการเข้าชมงานที่นอกจากจะมีนิทรรศการจากส่วนราชการ สถานศึกษาแล้ว ร้านค้าและเครื่องเล่นมากมาย ก็ทำให้กว่าที่เขาจะคลำทางมาถึงบ้านของพันทิศก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง!
จากคุณ :
samita
- [
13 มิ.ย. 49 21:07:19
]