ตอนที่ 2
เสียงอื้ออึงดังมาจากทุกทิศทุกทางของหอประชุมเก่าแก่ซึ่งมีลักษณะเป็นแถวโค้งคล้ายในโรงภาพยนตร์ ต่างกันก็ตรงที่ในหอประชุมนี่มีช่องทางเดินตรงกลางและเป็นเก้าอี้ไม้แข็งๆชวนให้เมื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้นั่ง ที่ในวันนี้แออัดไปด้วยนิสิตใหม่ที่มาพร้อมหน้ากันในวันปฐมนิเทศรวมของมหาวิทยาลัย หลังจากที่ค่อยๆเดินชักแถวกันเข้ามาในนี้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ จูน และเพื่อนใหม่ร่วมคณะที่รู้จักกันแล้วตั้งแต่ตอนรับน้อง ต่างก็จับจองที่นั่งบริเวณหัวแถวจากตรงกลางของแถวที่สาม (เอ่อ...งง) หญิงสาวหยุดยืนอยู่ตรงหน้าที่นั่งริมสุด เหลียวมองไปรอบๆตัว นึกถูกใจกับความคลาสสิคของที่นี่ขึ้นมา ขณะที่หมุนตัวกลับมาเตรียมจะนั่ง พลันสายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง แต่ออกจะผอมไปนิด กำลังยืนอยู่หน้าที่นั่งแถวถัดไปของอีกฝั่ง ความสูงจนโดดเด่น บวกกับสีผิวที่ดูขาวเนียนชนิดที่ผู้หญิงโดยเฉพาะเธอยังอายนั้นทำเอาลมหายใจสะดุด
'ก็แค่โรคแพ้คนหล่อกำเริบล่ะน่า...' เธอแอบยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะนั่งลง
พิธีปฐมนิเทศเริ่มต้นและดำเนินต่อไปอย่างน่าเบื่อตามที่เจนคิดไว้ไม่มีผิด เริ่มด้วยท่านอธิการบดีคนปัจจุบันขึ้นมากล่าวต้อนรับและให้โอวาทอะไรต่อมิอะไรที่ล้วนแต่เป็นทางการ ตามมาด้วยรองอธิการบดีฝ่ายต่างๆที่ยังคงไว้ซึ่งพิธีการไม่แพ้กัน ทำเอาเธอและเพื่อนๆ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นนิสิตในนั้นแทบทุกคนนั่นแหละ แทบจะคอหักตายไปตามๆกันเพราะมัวแต่นั่งสัปหงก จนกระทั่งมาถึงรายการสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย รุ่นพี่จากคณะศิลปกรรมศาสตร์เจ็ดแปดคนที่หน้าดีเอามากๆ ต่างทยอยกันขึ้นมาสร้างความบันเทิงให้กับน้องๆด้วยการเปิดมินิคอนเสิร์ต ทำให้น้องใหม่ทุกคนที่แอบหลับกันอยู่เมื่อครู่พากันสดชื่นแจ่มใสหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ทุกคนต่างก็สนุกสนานกันเต็มที่ เสียแต่ก็ตรงที่คณะที่มาปฐมนิเทศในวันนี้นั้นล้วนแต่เป็นคณะสายวิทย์ทั้งสิ้น ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าส่วนใหญ่มักจะประกอบไปด้วยเด็กๆที่ตกมีนด้านการทำกิจกรรมเข้าจังหวะประเภทที่ต้องแสดงออกต่อหน้าประชาชีแทบทั้งนั้น จึงทำได้แค่เพียงช่วยปรบมือเข้าจังหวะ (ที่สำหรับบางคนแล้วทำแค่นี้ก็ยังยาก) และร้องคลอตามนักร้องไปเพียงเบาๆ เลยดูเหมือนทำปากพะงาบๆอยู่กับที่เท่านั้น จนทำให้ใครบางคนทนดูเฉยๆไม่ได้...ก็เขานั่นยังไง ที่พร้อมใจกันกับเพื่อนๆรอบตัวค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งของตัวเอง ก่อนจะกระจายกันไปตามแถวต่างๆเพื่อชักชวนนิสิตคนอื่นให้ลุกขึ้นผ่อนคลายอิริยาบถไปตามเสียงเพลง ทำให้ทุกคนจับได้ว่า จริงๆแล้วเขาและเพื่อนๆเป็นน้องใหม่จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่กลายเป็นคณะสายศิลป์เพียงคณะเดียวในวันนั้นไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับบนเวที ที่ถูกพี่ๆขอร้องมาให้เป็นตัวเอ็นเตอร์เทนคนดูในวันนั้น แต่ขณะที่เพื่อนๆของเขาพากันกระจายไปตามแถวทางด้านข้างหรือไม่ก็ด้านหลัง แต่กลับมีแค่เขาคนเดียวที่เล่นง่าย เดินตรงมา...ตรงมายังเธอที่อยู่ใกล้ที่สุด
ลุกขึ้นมาเต้นกันหน่อยนะครับ คำพูดในนาทีนั้นคงจะประมาณนี้กระมัง เพราะทันทีที่เขาโน้มตัวลงมาใกล้จนทำให้เธอเห็นใบหน้านั้นชัดแจ๋ว...ใบหน้าที่โค้งมนได้รูป แต่ก็แอบมีเหลี่ยมมุมนิดๆ ให้พอกิ๊บเก๋ ไหนจะคิ้วเข้มๆกับตาโตๆนั่นอีก แต่ที่สำคัญที่สุดนะ ก็ริมฝีปากสีชมพูจัดหยักได้รูปนั่นไง...น่า..จูบ...ชะมัด (คิดอะไรติดเรทนะผู้หญิงคนนี้) เธอก็ได้แต่ตะลึงจนตาค้าง พูดอะไรไม่ออกไปเท่านั้นเอง
จูนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอตอบเขาไปว่ายังไง แต่สุดท้ายก็เป็นเธอนั่นเองที่มัวแต่เขินจนไม่กล้าลูกไปตามคำเชิญ ส่วนเขาน่ะเหรอ...จะมาสนใจอะไรกับคนประหลาดอย่างเธอ พอเห็นว่าชวนแล้วไม่ลุกก็เลยออกไปเต้นเย้วๆแต่ก็น่ารัก อยู่กับเพื่อนๆที่หน้าเวทีซะเอง
'จะเรียกว่ารักแรกพบได้มั้ยนะ...'
หลังจากนั้นไม่นาน อยู่ดีๆเธอก็ได้รับตำแหน่งพี่เลี้ยงนักมวย...เอ้ย! พี่เลี้ยงผู้เข้าประกวดเฟรชชี่มหาวิทยาลัยจำเป็นเพราะไม่มีใครยอมทำ ทำให้เธอต้องเข้านอกออกในกองประกวดบ่อยๆจนทุกคนชิน (ว่าเป็นพี่เลี้ยงนะ ไม่ใช่เป็นผู้เข้าประกวด)
เอ...ยีนส์อยู่ไหนหว่า จูนเขย่งเท้าชะเง้อหาเพื่อนคนสวยผู้เข้าประกวดประจำคณะพยาบาลศาสตร์ ที่ถูกเรียกมาเก็บตัวเฉพาะกิจที่นี่...ตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่ที่มีแต่มนุษย์รูปงามเป็นชนกลุ่มใหญ่
"แหม...ถ้าไม่ติดว่านัดกะยีนส์เอาไว้นะ แม่จะนั่งมองหนุ่มหล่อให้ชื่นใจตายไปตรงนี้เลยคอยดู"
หาใครหรือครับ? เสียงนุ่มๆฟังดูคุ้นๆดังมาจากใกล้ๆตัวทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง ค่อยๆหันไปมองต้นเสียงอย่างหวาดๆ แต่แล้วก็ต้องช็อค! เขานั่นเอง ที่มาพร้อมใบหน้าที่ทำให้ลมหายใจสะดุดอีกแล้ว ก็ได้ยินแว่วๆมาจากยีนส์อยู่เหมือนกันว่าเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าประกวดในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน แถมเป็นตัวเต็งฝ่ายชายอีกต่างหาก หลังจากที่ยืนแน่นิ่งอยู่ซักพัก เธอก็คิดได้ว่าควรจะตอบอะไรไปสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะงง แล้วเดินจากไปเป็นแน่
อะ...เอ่อ มะ...มาหา...ยีนส์น่ะค่ะ กว่าจะหลุดคำพูดออกไปได้ก็แทบจะฟังไม่รู้เรื่องซะแล้วไอ้เจน เค้าต้องว่าแกเพี้ยนแน่เลย
อ๋อ...มาหายีนส์น่ะเอง รอเดี๋ยวนะครับ เดี๋ยวตามให้ นอกจากจะไม่ว่าเธอบ้าแล้ว เขายังมีน้ำใจที่จะตามให้อีก ซึ่งในสายตาเธอในตอนนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรดีไปหมด
ชายหนุ่มหมุนตัวกลับหลังหัน ก่อนที่จะตะโกนเรียกให้แบบไม่ต้องเสียเวลามองหาทันที
ยีนนนส์!...เพื่อนมาหา!!
จากวันนั้น พอรู้สึกตัวอีกที สายตาและความคิดรวมทั้งร่างกาย ก็คอยติดตามเขาไปทุกฝีก้าวเสียแล้ว ทำให้ได้รู้มาคร่าวๆ อีกว่านอกจากชื่อที่แสนจะแสนจะเก๋ไก๋แล้ว เพชร เป็นเป็นลูกชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องทั้งหมดสองคน มีน้องสาวชื่อว่าน้องพลอย คุณพ่อ,คุณแม่ของเขาเป็นครูและเป็นเจ้าของโรงเรียนที่ต่างจังหวัดปัจจุบันอยู่หอพักแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัย (ชั้น 4 ห้อง 424) รักการเล่นดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ...เฮ้อ...ไหนว่ารู้คร่าวๆไง
จากคุณ :
มธุธารา
- [
17 มิ.ย. 49 10:19:44
]