ไม่ว่าจะต้องรอคอยนานแสนนานเพียงใด
แต่หัวใจของฉันยังคงมีเพียงเธอผู้เดียวเสมอ
กระเป๋าเดินทางใบย่อมถูกลากลงมาจากหลังตู้เพื่อทำความสะอาดหลังจากที่เจ้าของไม่ได้นำออกมาใช้งานนานนับปีแล้ว จากนั้นพรพิรุณก็นำเสื้อผ้าที่พับเรียบร้อยแล้วใส่ลงในกระเป๋าใบนั้นอย่างเป็นระเบียบ ตรวจดูให้แน่ใจว่าตนไม่ได้หลงลืมสิ่งของจำเป็นใดๆ แล้วจึงรูดซิปปิดสนิท ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว บอกกับตัวเองว่าพรุ่งนี้แล้วซินะที่เธอจะได้ออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีกครั้งหลังจากที่ห่างเหินมานาน และมันยังเป็นการเดินทางที่เกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่แสนจะแปลกประหลาดมากที่สุดครั้งหนึ่งอีกด้วย
อุดรธานี เจิดจรัสเพื่อนของเธอโพล่งขึ้นด้วยความประหลาดใจหลังจากได้ยินว่าเธอจะชวนเธอไปไหน ถามจริงๆ เถอะฝน เมื่อตะกี้เจ็ตไม่ได้หูฝาดไปเองใช่ไหมที่ได้ยินฝนบอกว่าจะชวนไปเที่ยวอุดรธานีกันนะ
นั่นดิ บอกตรงๆ เลยนะว่ามิ่งเองก็สงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้นหือถึงทำให้คนที่ชอบบ่นว่าไม่ชอบเดินทางไปไหนไกลๆ อย่างฝนจะมาชวนพวกเราไปเที่ยวไกลถึงอุดรฯ ถามจริงๆ ฝนนึกยังไงถึงอยากจะไปเที่ยวอุดรฯ กับเขา ไม่รู้หรือไงว่าอุดรฯ ไม่ใช่ใกล้ๆ นะ นั่งรถตั้งเกือบสิบชั่วโมงแน่ะกว่าจะถึง
มิ่งโมฬีกล่าวสนับสนุนเพื่อน
พรพิรุณยิ้มอ่อนๆ ด้วยยอมรับว่าที่เพื่อนพูดมาเกี่ยวกับตัวเธอมันก็จริงอยู่ แต่ที่เธอเกิดความสนใจอยากจะไปอุดรธานีถึงขนาดต้องลงทุนมาชวนเพื่อนๆ ในครั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลบางประการที่เธอเองไม่กล้าบอกแม้กระทั่งเพื่อนที่สนิทกันมากๆ อย่างมิ่งโมฬีกับเจิดจรัสรู้ด้วยซ้ำ ด้วยเกรงว่าถึงบอกไปเพื่อนก็คงไม่เชื่อ หรือเผลอๆ อาจจะเหมาว่าเธอบ้าหรือว่าคิดมากไปเองก็เป็นได้
มันเริ่มต้นจากอีเมล์ฉบับหนึ่งที่มาจากผู้ที่ระบุแอดเดรสเพียงว่า Banchiang@hotmail.com ซึ่งเท่าที่ไล่เลียงดูก็นึกไม่ออกเลยว่ามีใครที่เธอรู้จักที่ใช้ชื่อแอดเดรสแบบนี้บ้างจนเธอเกือบจะลบมันทิ้งเสียแล้วด้วยเกรงว่ามันอาจจะเป็นเมล์ไวรัส แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาดลใจให้เธอต้องลองเปิดอ่านดู แล้วเธอก็ต้องพิศวงงงงวยสุดๆ กับข้อความในอีเมล์ลึกลับฉบับนี้ที่มีเพียงสั้นๆ ว่า
เจ้าจงเดินทางไปที่บ้านเชียง แล้วจะได้พบกับใครบางคนที่กำลังรอคอยเจ้าอยู่ มานานนับพันปี
เมล์บ้าบออะไรกันเนี่ยะ เธอบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหัวเสียพลางคิดว่าตนเสียท่าให้กับเมล์ประหลาดที่คงจะมีไวรัสแนบมาด้วยเสียแล้ว แต่หลังจากที่เธอลบเมล์นั้นทิ้งและไปตามเพื่อนมาช่วยดูให้อย่างละเอียดก็ไม่พบว่าจะมีไวรัสเล่นงานเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนแต่อย่างใด หญิงสาวจึงเบาใจลงและคิดไปว่าคงเป็นเรื่องของพวกที่มีเวลาว่างมากก็เลยหาเรื่องไร้สาระเล่นสนุกไปวันๆ เท่านั้นเองจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้อีก
แต่ทว่าในวันรุ่งขึ้นและต่อมาๆ เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าอีเมล์ลึกลับฉบับนั้นยังคงถูกส่งมาถึงเธอต่อเนื่องทุกๆ วันจากชื่อแอดเดรสเดิมและเป็นอีเมล์ที่ตั้งใจจะส่งถึงเธอโดยตรง มิได้เป็นอีเมล์ที่ฟอร์เวิร์ดต่อๆ กันมาแบบอีเมล์ขยะ แถมทุกฉบับนั้นยังถูกส่งมาถึงเธอในเวลาเดียวกัน คือ 20.15 น. ซึ่งทำให้เรื่องดูลึกลับน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น
นี่มันอะไรกัน ทำไมคนๆ นั้นถึงได้มีความพยายามที่จะส่งข้อความประหลาดๆ นี้กับให้เธอเหลือเกิน
และเมื่อเธอจึงตัดสินใจลองส่งอีเมล์กลับไปยังผู้ส่งตามแอดเดรสที่ระบุไว้เพื่อสอบถามเหตุผลที่ต้องส่งอีเมล์ลึกลับดังกล่าวมาถึงตนอย่างต่อเนื่อง เธอก็ต้องงงหนักยิ่งขึ้นเมื่อพบว่าไม่สามารถติดต่อกับผู้ส่งได้ อีเมล์ทั้งหมดถูกตีกลับด้วยเหตุผลว่า แอดเดรสดังกล่าวไม่ถูกต้อง!
ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายส่งข้อความมาถึงตนได้อย่างไร?
เมื่อไม่มีหนทางจะสืบสาวราวเรื่องที่เกิดขึ้นจากอีเมล์ที่ได้รับได้อีก พรพิรุณจึงคิดว่าเธอน่าจะลองไปที่บ้านเชียงอย่างที่อีเมล์เหล่านั้นบอกดูสักที เผื่อว่าอะไรๆ มันจะคลี่คลายลงได้เสียที นี่เองจึงกลายเป็นที่มาที่ไปในการมาชักชวนเพื่อนๆ ให้ออกเดินทางไปด้วยกันในครั้งนี้
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เจ็ต ฝนก็แค่เบื่อๆ กรุงเทพ เลยอยากจะไปเปิดหูเปิดตาหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ในชีวิตกับเขาบ้าง ฝนเลยไปลองเปิดอินเตอร์เน็ตดูว่ามีที่เที่ยวที่ไหนน่าสนใจบ้างก็ไปเจอที่บ้านเชียงเข้า ฝนอ่านดูแล้วเห็นว่าน่าสนใจดีเลยอยากจะไปเที่ยวที่นี่ซักครั้ง ก็แค่นั้นเอง
แค่นั้นเอง? เจิดจรัสทำเสียงเหมือนกับไม่เชื่อคำพูดของเธอเอาเสียเลย
ก็แค่นั้นนะซิ พรพิรุณย้ำก่อนจะหัวเราะเบาๆ ย้อนถามกลับไปบ้าง นี่ เจ็ต ถามจริงๆ เถอะ ที่ฝนเกิดนึกเบื่อๆ อยากไปเที่ยวขึ้นมาเฉยๆ มันเป็นเรื่องผิดประหลาดตรงไหนหรือไงไม่ทราบ หรือว่าเจ็ตมีปัญหาอะไร...
โห ฝนอย่าเพิ่งน้อยใจดิ เจ็ตก็แค่สงสัยเท่านั้นเอง เจิดจรัสพูดเสียงอ่อยๆ ด้วยกลัวว่าเพื่อนจะไม่พอใจตน ถ้าเป็นคนอื่นชวนเจ็ตจะไม่แปลกใจหรอก แต่นี่เป็นฝน เจ็ตก็เลยงงๆ ไม่อยากเชื่อเท่าไหร่นะดิว่ามันจะไม่มีเบื้องหลังอะไรเป็นพิเศษ
เอาเถอะๆ เจ็ต ในเมื่อฝนเขาไม่อยากบอกก็อย่าไปเซ้าซี้ถามให้มากเลย มิ่งโมฬีพูดตัดบทอย่างคนที่รู้จักนิสัยกันดีว่าหากเพื่อนสาวคนนี้ตั้งใจว่าจะไม่พูดละก็ ต่อให้พวกเธอคาดคั้นอย่างไรก็ไม่มีทางง้างปากอีกฝ่ายได้อย่างเด็ดขาด ซักไปก็มีแต่จะสร้างความอึดอัดใจเสียเปล่าๆ จึงกล่าวแต่เพียงว่า งั้นฝนบอกมาแล้วกันว่าฝนจะไปเมื่อไหร่ มิ่งจะได้ดูว่าว่างไปกับฝนได้หรือเปล่า...
ก็ว่าจะไปสุดสัปดาห์หน้านี้แหละ พรพิรุณตอบสั้นๆ
ความจริงแล้วการที่เธอจะต้องรีบเดินทางขนาดนี้ไม่ใช่ว่าเพราะร้อนใจอยากจะรู้คำตอบเร็วๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พอดีว่าสุดสัปดาห์หน้านั้นเป็นวันหยุดสามวันติดต่อกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีและหาไม่ได้บ่อยนักสำหรับอาชีพแม่พิมพ์ของชาติที่มีตารางสอนคอยควบคุมวิถีชีวิต และหน้าที่รับผิดชอบต่อการเรียนการสอน ทำให้พรพิรุณแทบไม่อาจลางานไปไหนได้ตามใจชอบในระหว่างช่วงเปิดภาคเรียนหากไม่ได้มีเหตุจำเป็นจริงๆ
สัปดาห์หน้า เจิดจรัสทวนคำตอบเพื่อนด้วยความตกใจ โห ทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วยล่ะ ฝน
โธ่ เจ๊ตก็น่าจะรู้เหตุผลของเราดีอยู่ว่าทำไม เธอพูดเสียงอ่อนๆ เป็นเชิงขอความเห็นใจจากเพื่อน เจ็ตก็รู้ว่าช่วงนี้เราลาหยุดงานได้ที่ไหนกัน ต้องหาโอกาสที่มีวันหยุดสามวันติดกันแบบนี้แหละถึงจะไปเที่ยวกับเขาได้ ถ้าไม่นั้นฝนก็ต้องรอจนปิดเทอมนะแหละถึงจะว่างอีกครั้ง
สองสาวมองหน้ากันแล้วก็พยักหน้างึกๆ ด้วยความเข้าใจในความจำเป็นของเพื่อนสาว
เอาเถอะ สัปดาห์หน้าก็ได้ มิ่งเองก็ไม่ได้ไปไหนจะไปเป็นเพื่อนฝนเอง มิ่งโมฬีตอบรับคำชวนอย่างไม่ลังเลก่อนจะหันมาเพื่อนอีกคน แล้วเจ็ตละ
เจ็ตก็ว่าง เจิดจรัสตกลงไปด้วยเช่นกันพร้อมกับหารือกับเพื่อนด้วยว่า ว่าแต่เจ็ตว่าเราน่าจะไปชวนยายปีบไปด้วยอีกคนก็ดีนะ หรือฝนว่าไง
เจิดจรัสเอ่ยถึงปีบ หรือปีรยา คนที่ได้ชื่อว่าเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆ ในยามที่มีโปรแกรมท่องเที่ยวเสมอ ความคล่องแคล่วในเรื่องการเดินทางที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากหน้าที่การงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กินที่เที่ยวหรือแหล่งของฝาก จนเพื่อนๆ ต่างยกนิ้วให้และแอบเรียกลับหลังว่าเป็นเจ้าของ ดอกปีบทัวร์ ที่ทุกคนจะไม่ผิดหวังหากมาปรึกษาข้อมูลการจัดเตรียมทริปเดินทางไม่ว่าจะเป็นที่ใดในประเทศไทยก็ตาม
จากคุณ :
samita
- [
21 มิ.ย. 49 11:10:35
]