สวัสดีครับ นานมากแล้วที่ห่างหายจากตรงนี้ไป กลับมาอีกครั้ง แหะๆๆ แต่ไม่ใช่นิยายน่ะงับ เป็นเรื่องสั้นอ่า
ช่วงนี้บอลโลก ดูอย่างสร้างสรรค์ตามที่เขารนณรงค์กันนะครับ
ส่วนคนเขียน เล่นทายผลทางพันทิพคับ ลุ้นหัวใจจะวายแทบทุกคืนคับ เมื่อตอนหัวค่ำได้มาเก้าสิบกว่าล้าน
ตอนนี้สะสมได้เกือบสองร้อยล้านแล้วงับ ก็สนุกดีไปอีกแบบ ขนาดเล่นทายผลแบบนี้ ยังใจหายใจคว่ำ แล้วพวกที่มีเดิมพันเป็นเงินจริงๆ ชีวิตเขาตลอดเก้าสิบนาที คงกระวนกระวายน่าดู
อ้าว...นี่ก็มาพล่ามเรื่องบอลซะ อ่านเรื่องสั้นดีกว่างับ ภูมิใจนำเสนอ 'คำสารภาพ' อีกมุมหนึ่งของสังคมครับ
บางคนทำด้วยความตั้งใจ บางคนไม่ตั้งใจ แต่กับบางคนที่ทำลงไปโดยไม่รู้ตัว ผลจะเป็นอย่างไร??
+++++++++++++
เริ่มเรื่อง
เขาค่อยๆ ผงกหัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก หลังจากสลบไปนานหลายชั่วโมงกับครั้งที่จำไม่ได้ในรอบวัน เปลือกตาค่อยปรือขึ้นมาท่ามกลางความมืดในห้องอับชื้นจนเริ่มคุ้นชิน ภายในหัวสมองหนักอึ้งเหมือนมีลูกเหล็กนับสิบมาคล้องคอ รู้สึกปวดจนชาบริเวณข้อแขนทั้งสองข้างจนกายอ่อนล้าแทบจะทรงตัวอยู่ไม่ไหว การนั่งบนเก้าอี้แล้วถูกมัดมือไขว้หลังมาทั้งคืนไม่ใช่เรื่องที่ใครถวิลหา ต่อให้ร่างกายกำยำเก่งกล้าในเชิงรบอย่างบรรพบุรุษของชนชาติก็ยากจะทานทน
แล้วนี่เขา
เป็นเพียงพ่อค้ารถเร่ หาเช้ากินค่ำเท่านั้น
ภาพความทรงจำครั้งสุดท้าย เขาถูกชายหนุ่มผมเกรียนเค้นสอบปากคำอย่างหนัก กับคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้รับสารภาพ หากดูเหมือนกับคำตอบที่ได้ไป จะไม่เป็นที่พอใจ เมื่อเขายังย้ำคำตอบเดิมว่า ผมไม่รู้ ผมโดนหลอก แล้ววัตถุดำมะเมื่อมด้ามเหล็กก็ถูกกระชากออกมาจากซอกเอวอย่างรวดเร็วพร้อมกับอารมณ์เดือดพล่านพร้อมระบาย แล้วตบ โพละ ตรงปลายคาง เสียงดังราวกับมะพร้าวห้าวหล่นจากที่สูง
เหล็กกระทบเนื้อจนเลือดแดงฉานมาทางจมูก ปากแตกจนบวมเจ่อ เขาคิดไล่ฟื้นความทรงจำแล้วให้รู้สึกปวดแปลบไปทั้งใบหน้าขึ้นมาอีกครั้ง มิหนำซ้ำนึกสมเพชและเจ็บใจตัวเองที่คิดอยากจะได้เงินโดยไม่วิเคราะห์ให้ถ้วนถี่
เขาลืมไปแล้วว่าสังคมวัตถุเปลือกนอกยุคนี้ไม่มีของฟรีอันใดได้มาโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่มีงานใดง่ายแล้วได้ค่าตอบแทนสูง บทเรียนอันล้ำค่านี้คงจะจารึกและตอกย้ำให้เขามีสติรอบคอบมากยิ่งขึ้น...หากได้รับอิสระ แต่คนจนอย่างเขาหนทางดูจะมืดมนเหมือนราตรีที่ไร้ซึ่งดาวเดือน
เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของคดีสะเทือนขวัญเพียงชั่วข้ามคืน...ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพราะเขาคนนั้นเป็นคนดังของบ้านเมือง สามวันต่อมาเขาจึงสูญสิ้นซึ่งอิสรภาพหลังหลบหนีจนไม่มีที่จะให้ซุกหัวนอน
ชั่วขณะหนึ่งเขาคิดถึงลูกสาวกับเมียขึ้นมา มองเห็นอนาคตโดยไม่ต้องพึ่งหมอดูเลยว่าขาดเขาสักคน ชีวิตจากที่ลำบากอยู่แล้วคงหนักขึ้นเป็นสองเท่า มองเห็นลูกสาวกลายเป็นคนเงียบขรึม โดนเพื่อนล้อว่ามีพ่อเป็นคนขี้คุก กลายเป็นเด็กมีปัญหา จนขาดความอบอุ่น แล้วเมียรักเล่า จะเป็นเช่นไร!?
คุณพ่อลูกหนึ่งในวัยสามสิบต้นๆ พยายามแหงนหน้ามองฝ้าเพดานเพื่อไล่หยดน้ำใสที่ไหลรื้นออกมา ความพยายามไม่เป็นผลเมื่ออนาคตที่คาดหวังพร้อมครอบครัวดับสลายลงมากับคราบน้ำอุ่น...เขาคิดถึงลูกสาวอีกแล้ว
พ่อ...โตขึ้นหนูจะเป็นนางพยาบาล นางพยาบาลใส่ชุดสีขาว วันนั้นหนูน้อยในวัยหกขวบว่าเสียงใสหลังกลับจากโรงเรียน เขาเดาเอาเองว่าคงเห็นแบบอย่างจากโรงพยาบาลฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
แต่พ่อว่าเป็นตำรวจหญิงดีกว่านะ ได้พกปืนด้วย
เท่ห์ดี เขาล้อในขณะที่เมียทำกับข้าวอยู่ในครัว
ลูกสาวทำคอหด ย่นจมูกเมื่อไล่ภาพคิดตามจิตนาการคำของพ่อแล้วสั่นหัวหนึบหนับ ยี้...น่ากลัว ไม่เอาหรอก หนูจะเป็นนางพยาบาล ว่าแล้วก็วิ่งตึกตักไปบอกผู้เป็นแม่อีกคน
เขาหัวเราะด้วยความชอบใจ ปรึกษากับเมียว่าจะร่วมกันทำความฝันของลูกสาวให้เป็นจริง
นอกเรื่อง
ชีวิตรักของเขาและเมียเริ่มขึ้นเหมือนตอนจบของนิยายทั่วไป ว่าไปแล้วมันเหมือนโชคชะตาชักพาให้เขาและเธอเดินมาชนกันกลางตลาดสด ศรรักปักอกแทบจะทันทีเมื่อเห็นนวลหน้าขาวผ่อง เธอเอ่ยคำขอโทษจนตกใจหน้าตื่น เขารีบเก็บของให้เธอจนลนลานมือไม้สั่นเมื่อกลิ่นกายสาวโชยเข้าจมูกและคิดไปว่าเสียงนั้นหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
จากนั้นไอ้หนุ่มบ้านนาผู้มาเสี่ยงโชคในเมืองหลวงก็เทียวรับเทียวส่งลูกจ้างสาวขายผักทั้งเช้าและเย็น ก่อนจะออกไปทำงานวิ่งรับส่งโดยสารผู้คนในละแวกใกล้เคียง
เมื่อสนิทสนมจนกล้าเอ่ยปากชวนไปไหนมาไหน เขาก็ขยันหาโปรแกรมหนังผีมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอชอบดู เขาชอบฉากระทึกขวัญ เพราะเธอกลัวจนยึดไหล่เขาเป็นที่พึ่งทุกครั้งไป
บางวันแม้แต่ส้มตำกับไก่ย่างในจานจะหมดไปแล้ว แต่หากมีเธอนั่งฝั่งตรงข้ามเขาคิดว่าข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน
ครั้งหนึ่งในคืนท้องฟ้าคำราม หลังจากน้ำมีดีกรีแผ่ซ่านไปตามเส้นเลือด เขาเดินขาขวิดมาส่งเธอที่หอพัก หน้าสองก้าวหลังอีกสามด้วยความครึ้มใจว่า ดีใจที่ได้ร่วมทานอาหารกับเธออีกหนึ่งมื้อ
เขาแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ ถึงกระนั้นก็ยังยิ้มหวานให้คนรัก ปั้นเสียงหล่อด้วยภาษาที่คิดว่าเข้าท่าที่สุดแล้ว เอ่อ...นวลครับ... เขายั้งไว้ รอจนเธอหันหน้ามา แล้วพูดว่า หากไม่รังเกียจ รับพี่คนนี้ไปเดินป้วนเปี้ยนในความฝันของนวลสักคนนะครับ
หญิงสาวเอียงอายทำเสียงดุแก้เก้อ บ้า!.... แล้วเธอก็สวนกลับมาทันควัน พี่รีบกลับบ้านไปเลยนะ ยุงมันชุมจังแถวนี้
เขางงจนตามเธอไม่ทัน อะไรจ๊ะ?
ก็น้ำเน่าไง พูดจบเสียงหัวเราะคิดคักของทั้งสองก็ดังประสานไปกับยอดไม้ที่พลิ้วไหว ค่ำคืนนั้นเบื้องบนไร้แสงดาวเปล่งประกาย สายลมโชยพัดให้เหน็บหนาวเป็นครั้งคราว ทว่าหัวใจสองดวงกลับผูกพันแลดูอบอุ่น เมื่อความเข้าใจนั้นตรงกัน ประดุจดังแสงนำทางแทนประกายหมู่ดาวบนท้องนภา
เขาและเธอยังคงมีเรื่องพูดคุยกันโดยไม่รู้จักเบื่อ อาการอ้อแอ้ลิ้นพันกัน กลายเป็นสำนวนหยิบแกมหยอกสาวคนรัก จนหยาดฝนเทโครมลงมาประหนึ่งเป็นพยานรับรู้
แล้วคืนนั้นอาการเมาดิบก็เป็นชนวนให้เกิดชีวิตน้อยๆ ในเวลาต่อมาตามแผน
เหตุของเรื่อง
เป็นไงพี่ ได้เรื่องไหม?
เมียรักตะโกนถามตั้งแต่เขายังเดินอยู่หน้าห้องพัก เธอคงมานั่งรอเขาด้วยใจกระวนกระวาย เขาเดินซึมเขาไปหา สีหน้าที่ฉายชัดออกมาคงไม่ต้องเอ่ยอะไรกันมากมาย เธอเดินหงอยกลับเข้าไปในบ้านทันที ส่วนเขานั่งกุมขมับซึ่งยังมองไม่เห็นทางออกของปัญหานี้แทน แว่วเสียงของเจ๊เกียวเจ้าแม่เงินกู้ยังไล่หลังมาให้ได้ยิน
โอ้ย...ให้กู้ไม่ได้หรอก นอกจากมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจอยู่พักใหญ่ก็หมดความพยายาม เดินคอตกหัวเราะขื่นกับโชคชะตา จะเอาอะไรที่ไหนมาให้ ในเมื่อบ้านยังเช่าเขาอยู่ รายได้สองคนกับเมียรวมกันยังเดือนชนเดือน รถกระบะก็เช่าเขา เงินเก็บในรูปของสร้อยคอทองคำไปนอนอุ่นในโรงจำนำตั้งแต่วันลูกสาวเปิดเทอม
ยิ่งในช่วงสภาวะน้ำมันแพง รายได้จากการขายผักก็ลดลงจนน่าใจหาย ด้วยเหตุที่ว่าไม่สามารถออกไปเร่ขายของไกลเหมือนแต่ก่อนได้อีก...ขายได้ไม่คุ้มทุน
ตอนนั้นเขามืดแปดด้าน พอตกเย็นก็มารับลูกสาวหน้าโรงเรียนอันเป็นกิจวัตร เห็นแววตากับความหวังของลูกสาวแล้วเขาอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
พ่อ....วันนี้ยัยฟางมาคุยใหญ่เลยว่าที่บ้านซื้อคอมพิวเตอร์ให้แล้ว ของยัยออมเพิ่งซื้อไปเมื่อเดือนที่แล้ว เขาสะดุ้งเล็กน้อย
แล้วหนูว่าไงคะ? กลั้นใจถาม
หนูก็บอกว่า เดี๋ยวพ่อก็ซื้อให้เหมือนกัน ลูกสาวกระตุกแขน ขอคำสัญญาอีกครั้ง ใช่ไหมคะพ่อ?
แน่นอน ว่าเขาต้องรับปาก จะปล่อยให้ว่าที่ นางพยาบาล ในอนาคตไปใช้บริการในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ได้อย่างไร มืดค่ำไม่ปลอดภัย เขาและเมียก็คงไม่มีเวลาไปนั่งเฝ้า หากไม่มีลูกจะกลายเป็นปมด้อย เมื่อก่อนเขาก็ไม่เห็นด้วยที่เด็กชั้นประถมศึกษาจะซื้อคอมพิวเตอร์ แต่หลังจากเห็นข้อดีจากผู้รู้แล้วก็ต้องยอมรับว่ายุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว
รู้น้อยเรียนน้อยอย่างเขาก็ต้องตั้งความหวังไว้กับลูก เพราะฉะนั้นไม่เหลือบ่ากว่าแรงจะต้องหาให้ได้
สองวันต่อมาหลังจากจัดของใส่กระบะเสร็จเตรียมออกรถ แต่แล้วก็เหมือนมีโชคลาภลอยมาตั้งแต่เช้า เมื่อคนรู้จักกันในตลาดสดแห่งนั้นวานให้เขาขับรถไปส่งชายคนหนึ่งแทน เจ้าตัวอ้างว่าติดธุระ เขาอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ ครั้นได้ยินว่าค่าเหนื่อยมันมากพอ คำปฏิเสธก็ถูกกลืนหายเข้าไปโดยไม่ทันยั้งคิด
ยามนั้น เขาคิดถึงลูกสาวขึ้นมาจับใจ เสียงหัวเราะคงดังไปทั้งบ้านเมื่อได้ของที่ต้องการ...ความสุขของเขาและเมียอยู่ตรงนั้น...รออีกหน่อยลูกจ๋า
จบเรื่อง
ประตูห้องถูกเปิดออกมา แสงจ้าภายนอกส่องเป็นลำยาวมาจนเขาต้องหยีตา เขาขมวดหน้ามากไป จนรอยฟกซ้ำบริเวณปากสำแดงฤทธิ์ให้ต้องซี๊ดปาก คนที่ฝากรอยแผลให้เขาเดินเข้ามาอีกแล้ว ในมือถือกล่องข้าวมาด้วย
ชายผมเกรียนโยนโครมลงบนโต๊ะ ออกคำสั่งเหมือนมะนาวหน้าแล้งว่า อ้าว...ยัดเข้าไปซะ ก่อนจะไปนั่งอัดควันฉุยอีกมุมหนึ่ง ไม่แม้แต่จะปล็ดล็อกกุญแจมือให้
ความหิวมีมากกว่าเหนือสิ่งอื่นใด เพราะแม้แต่น้ำสักหยดในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมงยังไม่ได้แตะ เขาก้มหน้าลงไปกินข้าวอย่างกับสัตว์ตัวหนึ่งทั้งที่ยังเจ็บแผลอยู่อย่างนั้น
สารภาพมาได้หรือยังมืง ชายคนนั้นถามขึ้นหลังจากข้าวในกล่องหมดลงภายในเวลาอันรวดเร็ว โทษหนักจะได้เป็นเบา
ผมบอกไปหมดแล้วว่าผมไม่รู้เรื่อง ผมโดนหลอก เขาจ้างให้ผมขับรถให้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไร?.. เป็นอีกครั้งที่เขาสารภาพตามความเป็นจริง ถ้าหากเขารู้ก่อนว่าขับรถพาไปฆ่าคน ใครมันจะทำ และหากมีเวลาคิดสักนิดจะรู้ว่า ทำไมค่าจ้างถึงได้แพงกว่าปกตินัก
พอไปถึงที่หมายมันก็ใช้ให้เขาขับรถเข้าประกบรถอีกคัน จากนั้นภายในเสี้ยววินาทีเสียงกัปนาทจากพญามัจจุราชก็ดังราวกับฟ้าถล่มข้างหูเขา มันรวดเร็วเกินกว่าเขาจะยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงชะตากรรม
เมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก นอกจากตัวใครตัวมัน ก่อนจะแยกย้ายกับหลบหนี เขาทำใจดีสู้เสือว่าไม่มีใครรู้ใครเห็น ถึงกระนั้นภาพคราบเลือดกระฉูดติดกระจกรถของผู้เคราะห์ร้ายยังตามมาหลอกหลอนตลอดช่วงบ่าย ครั้นพอตกเย็นข่าวร้อนประเด็นดังเกือบทุกช่องทางโทรทัศน์บอกให้เขารู้ว่าอยู่บ้านต่อไปไม่ได้แล้ว
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ ชายผมเกรียนคนนั้นก็ถลาเข้ามากระชากคอเสื้อเขา สบถคำหยาบคายด้วยน้ำเสียงดุดัน แม่...ง...เอ้ย มืงอยากเจ็บตัวมากกว่านี้ใช่มั้ย มันผลักเขาจนก้นกระแทกเก้าอี้ดังโครมใหญ่ ก่อนจะชี้หน้า
มืงจำเอาไว้ ว่ามืงต้องสารภาพ มืงเป็นคนยิง
แล้วเสียงบานประตูก็ถูกกระชากปิดดัง โครม ใหญ่ ชายคนนั้นออกไปแล้ว สักพักเขาได้ยินเสียงคนคุยกันคล้ายปรับทุกข์อยู่นอกห้อง ฟังไม่ค่อยชัดนักแต่ก็พอจับใจความได้ว่า
กูรู้เบื้องบนเร่งมา...เอาน่านายเรามีวิธี...พอผ่อนคลายให้เรื่องมันซาลงเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่
เขาหลับตานึกปลงกับชีวิตที่ก้าวย่างเกิดพลาดพลั้งโดยไม่รู้ตัว ถึงชีวิตจะยากจนแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดปล้น หรือฆ่าผู้อื่น อดมื้อกินมื้อกับเมียรัก ก็ยังเดินอย่างไม่อายในสังคมว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง
คำสารภาพของเขาจะมีประโยชน์อะไร หากว่าใครสักคนพยายามให้เขาแปรสภาพจากคนมาเป็นสัตว์สี่ขาที่มีเขา คำพูดจาปากของคนจนหรือจะมีน้ำหนัก
เขาใจหายวาบเมื่อคิดถึงเมียและลูกสาวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่นานเขาก็เผลอหลับไปด้วยความเพลีย จะว่าฝันหรืออุปทานก็ไม่รู้ แต่หญิงสาวสวมชุดสีขาวคนนั้นต้องเป็นลูกสาวเขาแน่ๆ เธอยิ้มและเข้ามาทำบาดแผลให้อย่างเบามือ
เขาไม่เจ็บแผลอีกแล้ว พลางยิ้มด้วยความสุขใจ
ท้ายเรื่อง
หลายวันต่อมา ผู้คนนับพันรายล้อมอยู่บนถนนสายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็น ไทยมุง ที่ดี ท่ามกลางตำรวจนับร้อยทั้งในและนอกเครื่องแบบทำหน้าที่คุ้มกัน เพื่อนำผู้ต้องหาหรือ มือปืน คดีสะเทือนขวัญมาทำแผนประกอบคำสารภาพ แต่ยังต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อหาผู้ลงการอยู่เบื้องหลัง
ข้างๆ กันนั้นสาวน้อยนัยน์ตาสดใสยืนกุมมือผู้เป็นพ่อ มีเจ้าหน้าที่สองนายประกบอยู่ไม่ห่างในฐานะ พยาน
+++++++
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 49 01:09:22
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 49 01:07:16
จากคุณ :
อนงค์นาง
- [
24 มิ.ย. 49 01:03:58
]