CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    โลกลอย

    1

    คุณจะรู้สึกอย่างไรหากต้องดื่มอยู่คนเดียวในผับแห่งหนึ่งโดยมีคู่รักหวานเยิ้มอีกคู่นั่งเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ
             ห้าทุ่มกว่าๆ ผู้คนแน่นขนัด วงดนตรีเขย่าเพลงร็อคสนั่นโสต ดิฉันพยายามทำตัวเพลิดเพลินกับบรรยากาศและเสียงอึกทึกซึ่งตามปกติคงจะทำได้ไม่ยากเย็นอะไร แต่หากคุณต้องหันไปทางซ้ายทีขวาทีโดยที่ไม่เห็นคนรู้จักเลยแม้แต่คนเดียวยกเว้นเพื่อนสาวที่กำลังนั่งทำหน้าเมาซบไหล่แฟนหนุ่มที่คอยพะเน้าพะนอหล่อนอยู่เงียบๆ เสียงดนตรีอาจจะช่วยเขย่าให้อารมณ์ของคุณหงุดหงิดแทนที่จะช่วยให้ลืมทุกข์ก็เป็นได้
             ดิฉันหยิบแก้วเหล้ากระดกลงคออีกอึกใหญ่ แรกๆเพื่อนหญิงของดิฉันก็คุยจ้อดีอยู่หรอก แฟนหนุ่มของหล่อนก็ไม่ได้ดูอึดอัดอะไรยามที่แฟนสาวปล่อยให้นั่งนิ่งๆแล้วหันมาพูดอย่างน้ำไหลไฟดับอยู่กับดิฉัน ดิฉันคิดว่าผู้ชายที่ปล่อยให้แฟนสาวอ้าปากคุยพะงาบๆในขณะที่ตัวเองนั่งเงียบไม่หือไม่อือเช่นนั้นดูน่ารักเป็นบ้า เวลาผู้ชายอยู่เงียบๆแล้วปล่อยให้แฟนนั่งซบนอนซบก็ดูน่ารักใช่เล่น แต่ถ้าดื่มกันไปดื่มกันมาแล้วหลบไปหวานกันอยู่สองคนโดยมีดิฉันนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงนั้นด้วยอีกคนหนึ่ง ดิฉันคิดว่าเขาควรปล่อยให้เธอนั่งเมาเงียบๆแล้วหันมาอ้าปากพูดคุยกลบเซ็งบ้างก็ไม่น่าจะทำให้น่ารักน้อยลงไปตรงไหน
             ดิฉันควักบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าถือหนึ่งมวนแล้วแกล้งขอไฟจากแฟนเพื่อนโดยหวังจะเรียกร้องความสนใจจากเขาบ้าง เขาบิดตัวควักไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มน้อยๆตอนที่ยื่นมันให้กับดิฉันก่อนจะเอนตัวกลับไปนั่งเป็นเบาะรองซบต่อไป ป่วยการ ดิฉันจุดปลายบุหรี่ที่คาบไว้ในปากก่อนจะวางไฟแช็กลงบนโต๊ะแล้วคิดจะเป่าควันใส่หน้าสองคนนั่นแต่ก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง สายตาของดิฉันเริ่มกวาดไปรอบๆ พวกข้างหลังจะเต้นกันให้พื้นถลอกกันไปข้างหนึ่งเลยหรืออย่างไร หันมาชนแก้วแล้วชวนดิฉันเต้นบ้างก็ไม่ว่าอะไรนะคะ โต๊ะข้างๆสงสัยไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปี เอาแต่แหกปากแย่งกันคุยหนวกหูชะมัด อะไรๆก็ดูจะขวางหูขวางตาดิฉันไปหมดในเวลาเช่นนี้
             ขณะที่กำลังกวาดมองไปรอบๆอย่างหงุดหงิด สายตาอันเฉียบคมของดิฉันก็ไปปะเข้ากับหนุ่มน้อยน่ารักคนหนึ่ง หนุ่มน้อยตัวขาวๆนั่งโก้งโค้งอยู่ที่บาร์เหล้ากับเพื่อนชายอีกคน ดิฉันเห็นเขาหันไปพูดกับเพื่อนอยู่ไม่กี่ครั้ง เห็นส่วนใหญ่จะนั่งเงียบๆ ต่างคนต่างซดเบียร์และกวาดตามองไปทางโน้นทางนี้บ้าง ดิฉันพยายามเหลือบมองหนุ่มน้อยผู้นั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆจนเขาคงรู้ตัวบ้างแล้วว่ากำลังถูกลอบมองแต่ก็คงจะแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ คงจะขี้อายสินะ จะว่าอะไรไหมคะถ้าจะเข้าไปคุยด้วย หนุ่มขี้อายนั่งดื่มเบียร์อารมณ์เรื่อยเปื่อย ถ้าเข้าไปทักสักหน่อยจะตอบรับไมตรีจากเราไหมหนอ
             ดิฉันนั่งคิดอยู่นาน ตาก็เหลือบมองหนุ่มน้อยคนนั้นอยู่เป็นระยะ ยิ่งเวลาเขาหันมาดิฉันก็จะยิ่งส่งสายตายิงสัญญาณชัดเจนยิ่งขึ้น ดิฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือ ห้าทุ่มครึ่งกว่าๆเข้าไปแล้ว เพื่อนรักของดิฉันเริ่มพยายามหาเรื่องขึ้นมาพูดบ้างประปรายเพราะคงจะเริ่มรู้สึกว่าความหวานของหล่อนทำบรรยากาศจืดไปแล้วขนาดไหน กระนั้นหนุ่มหล่อหน้าใสก็ยังน่าสนใจกว่าเพื่อนเก่าเพื่อนแก่และชายที่มีเจ้าของแล้ว ดิฉันไม่อยากเสียเวลาอีกเพราะหากผับปิดก็จะพลาดไมตรีจากหนุ่มแปลกหน้าเสียเปล่าๆ ดิฉันหันไปกล่าวขอตัวสั้นๆกับเพื่อนหญิงก่อนจะหยิบแก้วเหล้าแล้วลุกขึ้นเดินเบียดผู้คนไปหาชายหนุ่มที่บาร์
             “มากันสองคนหรือคะ” ดิฉันเบียดผู้คนตามขอบบาร์จนสามารถเข้าไปยืนประชิดสีข้างหนุ่มน้อยน่าหยิกผู้นั้นและเริ่มเปิดการเจรจา
             เขาหันมายิ้มสนองไมตรีก่อนจะตอบว่า “ครับ”
             ดิฉันแนะนำตัวและถามชื่อเอาจากเขาบ้างโดยแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินครั้งหนึ่งเพื่อจะได้เอียงหูเข้าไปใกล้ๆ “ชื่อแดงครับ คนนี้เพื่อนผม ชื่อ...”
             ดิฉันไม่ได้ใส่ใจฟังชื่อของผู้ชายคนนั้นเพราะมัวสนใจซักไซ้เรื่องอื่นๆ แต่เขาก็หันมาผงกศีรษะทักทายดิฉันอย่างเสียไม่ได้
             “เบื่อจังค่ะ มากับเพื่อนกับแฟนเพื่อน ไม่อยากรบกวนเลยออกมาหาเพื่อนคุย” ดิฉันกล่าวต่อ
             “แล้วไม่พาแฟนพี่มาด้วยล่ะครับ” แดงอายุน้อยกว่าดิฉันสามสี่ปีได้
             “ไม่มีหรอกค่ะ ยังอิสระอยู่” ดิฉันสังเกตเห็นเพื่อนของแดงเริ่มมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ “แดงล่ะคะ มีแฟนรึยัง”
             “พี่ เขาถามถึงแฟนผม จะให้ผมว่าไงดี” เขาหันไปพูดกับเพื่อนชายข้างๆที่ดูจะยิ่งอารมณ์เสียกับดิฉันมากขึ้นไปอีก คิดเอาในแง่ดีก็แล้วกันว่าคงอยากให้ดิฉันสนใจเขาอีกคน “พี่เขาไม่ว่ายังไงสักที ผมก็รอๆเขาอยู่ล่ะครับ”
             “อ้าว เป็นแฟนกันเหรอคะ แล้วเมื่อครู่ยังบอกว่าเป็นเพื่อนอยู่เลย”
             “ก็ไม่เชิงครับ ไม่เห็นเขาจะว่ายังไงกับผมเลย ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไง…”
             “ถ้าอย่างนั้นก็ขอน้องแดงไว้เป็นเพื่อนคุยสักคืนนะคะพี่” ดิฉันหันไปพูดกับเพื่อนชายของแดง ดูเขาจะไม่ตลกกับดิฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
             ดิฉันดึงที่นั่งเข้ามาก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งอยู่ข้างๆหนุ่มน้อย แดงเป็นผู้ชายที่คุยสนุกมาก เราพูดกันเรื่องร้านโปรดที่มักจะไปนั่งในคืนวันหยุด เรื่องภาพยนตร์ที่เพิ่งเข้าฉายและที่เพิ่งออกโรงไป เรื่องพรรคการเมืองที่เราทั้งคู่ต่างก็ไม่ชอบ จนดิฉันเห็นเวลานานพอสมควรแล้วจึงค่อยบอกลา
             “พี่ต้องกลับโต๊ะแล้วล่ะค่ะ ทิ้งให้เพื่อนอยู่กันสองคนมานานแล้ว พี่ขอเบอร์โทรศัพท์ของแดงได้ไหมคะ เผื่อวันหลังจะได้นัดกันไปเที่ยว”
             “ครับ” หนุ่มน้อยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะบอกหมายเลขให้ดิฉันกดใส่โทรศัพท์ของตัวเอง “ยิงมาเลยครับ” หมายเลขของดิฉันปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาแล้ว
             “พี่ไปก่อนนะคะ” ดิฉันกล่าวก่อนจะลุกขึ้นสะกิดหลังเพื่อนชายของแดง “ไปก่อนนะคะพี่ วันนี้ขอยืมแฟนพี่มาแก้เหงานานแล้ว อย่าคิดมากนะคะ” ดิฉันยกมือไหว้พี่เขาก่อนจะกวักนิ้วลาหนุ่มน้อยและเดินเบียดผู้คนกลับไปที่โต๊ะ
             เพื่อนสาวยื่นหน้ามาถามไถ่ดิฉันอย่างสนอกสนใจเมื่อดิฉันหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ ดิฉันก็เล่าให้เธอฟังว่าแดงน่ารักขนาดไหน แต่เสียดายที่มากับแฟน ซ้ำร้ายยังไปทำให้แฟนเขาไม่สบอารมณ์อีก บางครั้งการทิ้งใครไปสักระยะก็อาจทำให้เขาเห็นคุณค่าของเราขึ้นมาได้เหมือนกัน

    จากคุณ : บึ๋ย - [ วันสุนทรภู่ 08:33:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com