CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    อยากมีรถกันใช่ไหม ง่ายนิดเดียว

    …ฝันของคนอยากมีรถ.แสนง่ายดาย…ไม่ไกลเกินเอื้อม
    ถ้าถามกันเล่นๆ ในหมู่แวดวงคนทำงาน  ว่าอยากได้อะไร… คำตอบที่พบ  ก็ไม่พ้น  รถยนต์  บ้าน   สังคมชีวิตคนทำงานในปัจจุบัน  สิ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จอันหนึ่ง (ย้ำ เพียงอันเดียวในบรรดาอีกหลายๆอัน)  ก็คือ รถยนต์  ถ้าในอุดมคติแล้วส่วนใหญ่จะต้องหาที่อยู่อาศัยก่อน คือคิดจะผ่อนบ้านก่อนแล้วค่อยผ่อนรถ  แต่ในความเป็นจริง  ชีวิตคนทำงานวิถีชีวิตที่รีบเร่ง  ปากกัดตีนถีบหาเช้ากินเช้าหาบ่ายกินค่ำตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาเงินกัน  จะให้คิดเรื่องบ้านก่อนคงยาก  ยิ่งคนที่ยังไม่มีครอบครัว  ยังตัวคนเดียว  ได้แต่ใช้ชีวิตเฉี่ยวๆไปวันๆ  ที่อยู่อาศัยก็เช่าเอาก่อน  แฟลต คอนโด  ห้องแถว  อะไรก็เอากันก่อน  ขอหรูนอกบ้านก่อนเถอะ  กลับมาแล้วจะซ่อมซ่อยังไงก็ไม่มีใครตามมาคุ้ยเขี่ยดู  บ้านจึงเหมือนเป็นที่พักอาศัยที่ยังเกินกำลังอยู่
    ถ้าได้เบิกตามองสังคมชีวิตประจำวันเรา  วิถีชีวิตคนกลุ่มหนึ่งรถยนต์เป็นเรื่องจำเป็น  ลองคนมีรถแล้วรถเสียสักวันสิ  ดูชีวิตคุณกระวนกระวายติดขัดแค่ไหน  คนในครอบครัวไม่สบายจะพาไปหาหมอถ้าไม่มีรถเป็นต้องหอบต้องโกยกันอย่างทุลักทุเล  จะไปไหนมาไหนที่ต้องหอบสัมภาระมากมายก่ายกอง   วันฝนตกได้แต่หอบห่อแฟ้มเอกสารหลบฝนตามซอกตึก ป้ายรถเมล์ อย่างทุลักทุเล   ไปไหนมาไหนอย่างกระหืดกระหอบเพราะชีวิตได้แขวนไว้กับรถไฟฟ้า  รถเมล์ และสองขาเดินฟุตบาท ได้แต่แหงนหน้ามองฟ้า   ภาวนากับดิน  ขอโชคชะตาประทานรถรามาให้ที
    รถยนต์จึงเป็นสิ่งจำเป็น  ในการให้สะดวกกับชีวิต  ไปไหนมาไหนก็แสนคล่องตัว จะขนสัมภารกทั้งหลายโยนใส่หลังรถก็ยังสะดวกกว่า กระเตงถุงหอบแฟ้มพะรุงพะรังเป็นบ้าหอบฟางเป็นแน่  ฝนตกก็ไม่ต้องยืนเปียกหลบฝนที่ไหน  แดดร้อนก็ไม่ต้องยืนเหงื่อซกรอรถ  พ่อแม่อยากไปไหนพาไปได้อย่างสะดวก  เพื่อนฝูงเครือญาติจะใช้ไหว้วานก็สะดวกแก่การเอื้อเฟื้อเป็นที่พึ่งพาเขาได้  พ่อค้าผักแผงลอยก็อยากได้รถกระบะไว้ขนส่งผักค้าขาย  ชาวไร่ชาวสวนก็อยากมีรถไว้บรรทุกผลผลิต  อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ  คุณพ่อบ้านก็อยากได้รถไว้พาครอบครัวไปไหนมาไหนได้สะดวก พาตัวเองไปทำงาน ส่งเมียไปธุระ ส่งลูกไปโรงเรียน   สาวทำงานก็อยากมีไว้อำนวยความสะดวกกับชีวิต ทำงาน เที่ยว  ทั้งรถยนต์ยังใช้เป็นเครื่องแสดงความสำเร็จในการทำงาน  เป็นสิ่งชูหน้าชูตาเจ้าของ  ไม่ใช่เรื่องน่าหมั่นไส้  ถ้าใครต่อใครอยากได้รถกัน
    แต่อย่างไรก็ตาม ของมันไม่ได้มีราคาหลักพัน หลักหมื่น  นี่ว่ากันเป็นหลักแสน  หลายแสนซะด้วย ออกจะค่อนล้านด้วยซ้ำ  ทำเอาคนมีฝันเกิดท้อแท้  ไม่มีแรงหวังที่จะมุ่งมั่นเป็นเจ้าของกัน  ลำพังทำงานแต่ละเดือนก็เดือนชนเดือน  ที่แถบจะไม่ถึงด้วยซ้ำ  แถมยังติดลบอีกต่างหาก  แล้วจะเอาที่ไหนมาเสริมเติมต่อฝันล่ะ   การที่จะได้รถยนต์มาเป็นเจ้าครองครอบครองสักคัน  ก็ต้องทำงานเก็บเงินไว้ซื้อ  ช่างเป็นความคิดที่ไกลเกินเอื้อม  กี่ปีกี่ชาติล่ะที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆจะทำสำเร็จ  การเก็บเงินไว้ซื้อรถน่ะ  มันเลือนลางและห่างไกลเกินไป  
    ลองมาดูวิธีใกล้ตัวเราดีกว่า  แล้วจะพบว่าคนเบี้ยหอยหอยน้อย  มนุษย์เงินเดือนแค่เรือนพันเรือนหมื่นอย่างเรา  ที่ตอนนี้แทบไม่มีเงินเก็บเลย  ก็มีปัญญาหารถยนต์กับเขาได้เหมือนกัน
    1. สำหรับคนอยากได้รถใหม่ป้ายแดง  หาวิธีมีเงินดาวน์มาให้ได้ก่อน 25 % ของราคารถ  อาจขอยืมจากคนในครอบครัว  ญาติ  (ถ้ามากกว่านี้ ก็เสี่ยงต่อการแห้ว)การยืมเงินมาเป็นเงินดาวน์นี้ต้องเป็นเงินที่ปลอดดอกเบี้ย  ที่เหลือผ่อนชำระกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เลือกระยะเวลาที่นานที่สุดพวก 72 -84 เดือน  ทำให้คุณสามารถผ่อนจ่ายได้ต่ำต่อเดือน ไม่รบกวนรายจ่ายประจำของคุณจนเกินไป
    2.พนักงานของหน่วยงานของรัฐ มักจะมีสวัสดิการเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ  ผ่อนกัน
    10 – 30 ปี  ถ้าคุณใจกล้าพอ ก็กู้มาซื้อเงินสดเลย  แล้วผ่อนน้อยๆกับหน่วยงานของคุณเอง  เอาเงินอนาคตกันมาใช้นี่แหละ  
    3. ไม่มีเงินเลยสักบาทแต่อยากได้รถมาทำมาหากิน  ก็กู้เงินสำหรับดาวน์  แล้วใช้รถยนต์มาหารายได้เพิ่ม  เพื่อเป็นเงินในการผ่อนชำระ  เช่นเปิดท้ายขายของ  รับส่งของ  อันนี้ต้องแน่ใจและตั้งใจว่า  เพื่อการสร้างอาชีพของคุณเอง  
    4. ไม่มีสักบาทอีกเช่นกัน  ก็ให้กู้เงินดาวน์  แล้วคุณหารายได้พิเศษเพิ่มสำหรับเป็นค่างวดการผ่อนชำระ  เพราะค่าผ่อนรถเป็นไฟล์บังคับให้คุณต้องขยันเพิ่มขึ้น  ควรเลือกระยะเวลาสั้น 48-60 เดือน  
    5.ต้องหาหุ้นส่วน  ซื้อคนเดียวแบกไม่ไว้  ลองชวนข้างตัวที่มีแนวโน้มจะร่วมหัวจมท้ายใช้ชีวิตคู่ด้วยกันดู  สองแรงแข็งขัน  เจ้ารถยนต์นี่แหละจะเป็นตัวพันธะไม่ให้แยกจากกันไป  เพราะต่างฝ่ายต่างเสียดายเงินที่ลงขันไป  ดีเลวอย่างไรก็ทู่ซี้กันไปล่ะ
    6.พี่น้องในครอบครัว  ที่ยังโสดและมีรายได้  มาหุ้นกันซื้อ หุ้นกันผ่อนก่อน  ไว้ในอนาคตคุณมีเงินจำนวนหนึ่งที่มากพอ ก็ใช้คืนส่วนที่พี่น้องคุณช่วยมาซะ
    7. ลดความทะเยอทะยาน  มาเป็นรถยนต์มือสอง  ยี่ห้อกลางๆ   ที่สภาพเยี่ยม  ก็ไม่เลว  เพราะราคาจะถูกลงมามากมาย
    8.คำนึงถึงลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของคุณให้ดี  ว่ารถอะไรที่เหมาะกับคุณ  จะใช้สำหรับไปกลับที่ทำงาน  ใช้ออกต่างจังหวัด  ใช้บรรทุกสิ่งของ  ใช้เป็นที่อยู่อาศัย(คนไม่ชอบนอนบ้าน)  ใช้ขนคนบ่อยๆ  จะทำให้คุณตัดสินใจในการเลือกซื้อได้ไม่นานนัก
    9. บางบริษัท เขามีให้ชำระแบบรายปี  แบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ประกอบกิจการ  ที่ไม่ได้รับเงินเป็นเดือนๆ  ประมาณว่าได้ทีละก้อนตู้มๆ  เหมาะกับวิธีนี้  ทำให้ทั้งปีคุณมีเวลา มีโอกาส จังหวะในการปั๊มเงิน
    10.  หน่วยงานต่างๆ  มักจะนำรถยนต์สำนักงานมาประมูล  ในราคาถูก  อันนี้ต้องคลุกวงในกันให้ดี  หมายถึงคอยตามข่าว สอบถามคนในหน่วยงาน  คุณจะได้รถมือสองสภาพดี  ราคาเบาอยู่ไม่น้อย
    11. ซื้อรถจากคนสนิท  เพื่อนฝูง  คนรู้จัก ญาติๆ  เจ้านาย  ลูกน้อง  ในราคาที่คุยกันได้  แถมอาจเจรจาผ่อนจ่ายกันเป็นงวดๆแบบไร้ดอกเบี้ยอีกด้วย  
    12.  ไปงานประมูลรถยนต์  ของกรมศุลกากร  อันนี้ต้องพาคนมีตาและมีแววไปด้วย  ต้องคนดูสภาพรถเป็น  คุณจะได้รถราคาประหยัดเหมือนกัน  อันนี้ขอเตือนอย่าโลภตัดสินใจเอา แค่เพราะเห็นแก่ราคาเบาๆ  แต่ไม่ใช่รถที่เราอยากได้จริงๆ
    13. เมื่อมองทางไหนก็ติดขัด  ตีบตันไปหมด ลองลดอัตตาลงมาให้สุดๆ   หลังจากซื้อหนังสือตลาดรถมาพลิกชมรูปรถใหม่จนพรุนแล้ว  ให้มองรถมือสอง สาม สี่ห้า…  ที่ราคาไม่กี่หมื่นก็ยังใกล้เคียงกับปัญญาที่จะหาได้  เลือกให้ดี  คุยกับคนขายเย็นๆ  ก็เจอของดีเหมือนกัน  
    คนที่พอจะซื้อรถใหม่ป้ายแดงได้  ก็ขอแสดงความยินดีด้วย  เพราะคงไม่มีเรื่องปัญหาการซ่อมบำรุง  ส่วนคนที่ชีวิตพอดีๆกับรถมือสอง ( สาม สี่ ห้า ..)  ก็ต้องให้ความสำคัญและเลือกให้ถ้วนถี่สักนิด  เพื่อบรรเทาปัญญากวนใจจากสภาพรถ  ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้  อย่างน้อยๆก็บรรเทาจากการเสียตังค์มากมาเป็นเสียตังค์น้อยหน่อยก็ยังดี   ขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง  ไม่ได้เป็นเซียนรถอะไรกับเขานักหรอก  อาศัยการศึกษา  สอบถาม  ค้นคว้าหาอ่านตามเวบไซค์  แล้วได้ข้อมูลมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟัง  เพื่อประกอบการพิจารณาหารถมาสนองฝันตัวเองซะที  
    “1) เปิดฝากระโปรงหน้า เพื่อดูคานหน้า คานรถทุกคันจะมีรู กลมบ้าง เหลี่ยมบ้าง  ถ้ารูเบี้ยว ไม่คมก็แสดงว่าเคยโดนชนมา
    2) ป้ายทะเบียนรถ  ยับ มีรอยดัด ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเคยโดนมา แผ่น plate ที่แปะติดคานมา มีรอยยับหรือดัดมาก็เช่นกัน
    3)สันด้านข้าง  ตะเข็บความนูนเสมอกันหรือไม่ รอยอ๊อกจากโรงงานกับอู่เคาะพ่นสีจะต่างกัน
    4)สำหรับด้านหลัง ก็เปิดฝากระโปรงดู   ไฟท้ายทั้ง 2 ดวงเสมอเบ้าหรือไม่ รอยแยกต่อชิ้นเว้นช่องไฟเท่ากันหรือเปล่า  มีเบี้ยวมีเกยกันหรือไม่ คานหลังก็ใช้การสังเกตเหมือนคานหน้า  แต่ต้องรื้อพรมปูท้ายรถออกเพื่อให้เห็นพื้น
    5)พื้นรถด้านหลังโดยมากจะเป็นลอน ๆ ก็สังเกตดูว่าเท่ากันหรือเปล่า รถบางคันโดนชนหลังมาช่างเคาะทำดีมากดูแทบไม่ออก มาเสียตอนน้ำเข้าตรงไฟท้ายเข้าได้แต่ออกไม่ได้ ต้องเช็ด มีบางคันเศษกระจกหลังยังอยู่ให้เห็นเลย
    6) ด้านข้าง ดูเทียบสี จากโรงงานสีเดิมกับอู่สี สีจะเพี้ยนนิดหน่อยแต่ก็พอเห็น ใช้วิธีเคาะนิ้วมะเหงก เคาะรอบคัน  รถที่ทำสีมาแล้วเสียงจะทึบ ๆ ชิ้นที่สีเดิมจะมีเสียงโปร่ง ๆ  ฟังดีดีจะรู้ถึงความต่าง
    7)รถที่เคยหงายตะแคงล้อชี้ฟ้า ให้ดูหลังคารถเคาะ ๆ ดู สังเกตขอบคิ้วกระจกหน้าหลัง เหมือนกันหรือเปล่า  มีรอยแตกของสีโป๊วหรือไม่  ถ้าหลังคาสีสดสวยกว่าประตูข้างก็เป็นเรื่องน่าแปลกเพราะเป็นส่วนที่รับแดดเต็ม ๆ แต่ช่างเคาะ ช่างสีบ้านเราฝีมือดีมาก ทำได้เนียนเซียนในเต็นท์ยังมองไม่ออก                                                                           8)ถ้าเครื่องมีปัญหา หลวม จะเสียงดัง ไม่นิ่ง  รอบสูงบ้างต่ำบ้าง เวลาเครื่องร้อนให้ดูก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง  จะมีควันพุ่งออกมาหรือน้ำมันเครื่องจะกระเซ็นกระสายเป็นละอองออกมา  เอามือไปอัง ๆ ดู
    9)เกียร์ ชุดส่งกำลัง คลัช -ถ้าเข้าเกียร์ ออกตัวแล้วสั่น กระตุก เข้าเกียร์ก็ยาก นั่นคือมีปัญหา วิ่งๆ ไปมีเสียงประสาน หอน   ส่วนเกียร์ออโต้ก่อนเข้าเกียร์ให้เหยียบเบรกคาไว้ เข้าเกียร์ตำแหน่ง D ถ้าไม่กระตุกกระชากก็พอได้เปาะหนึ่ง เข้าตำแหน่งเดิม N แล้วไป R ก็ไม่มีอาการอะไรก็แสดงว่าผ่านไปได้แล้ว 70 % มาลองวิ่งดูว่าเกียร์ทำงานทุกเกียร์เปล่า   การออกตัวก็เช่นกัน ออกตัวดีหรือไม่ แต่ถ้าต้องรอสักพักถึงเคลื่อนตัวได้แสดงว่าท่าจะแย่
    10)ช่วงล่าง- เวลาขับไปเจอฝาท่อ ถนนคอนกรีตที่กร่อน มีหลุม บ่อเล็กๆ ให้ลุยเข้าไปเลย จะมีเสียงกรุ กระ ปรากฏถ้าไม่แน่น หรืออาจกระเทือนมาถึงพวงมาลัย แต่อย่าเร็วมาก  อาจเสียตอนที่เราทดสอบก็ได้   ตรวจดูสภาพ เบรกและสภาพยาง อาจเข้าร้านเปลี่ยนของใหม่เลย ปลอดภัยไว้ก่อน ชีวิตเราประมาทได้ที่ไหน ได้ไม่คุ้มเสียเลย  อาจเสียหายมาก เพราะมัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง นั่นเอง
    11)กลิ่นภายในห้องโดยสาร -ถ้าเปิดรถปุ๊บ สิ่งแรกที่กระทบจมูกคือกลิ่นอับ ๆ ชื้น ๆ แสดงว่าน้ำเข้ารถ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยิ่งอัดฉีดมา  ก็ง่ายต่อการดูมากเลย เอายางปูพื้นออก ดูว่าพื้นพรมมีรอยชื้นของน้ำเปล่า บางคันพื้นผุแบบทะลุ เปิดมาเห็นพื้น ถนนเลย
    12)ดูความเรียบร้อย คอนโซล แตกหรือเปล่า   รถเก่ามาก ๆ พลาสติกไม่แตกอย่างเดียวมันเหมือนจะละลายเลย   ช่องแอร์สมบูรณ์เปล่า ช่องแอร์เนี่ยซ่อมยาก   เก่ามาก ๆ ไม่มีอะไหล่
    13) เปิดแอร์ เบอร์ 1-4   มันไล่ระดับความแรงหรือเปล่า แรงลมสำคัญจะบอกได้ว่าตันหรือเปล่า ล้างแอร์สมัยนี้แพงหลายร้อย พันกว่าก็มีแบบไม่ถอดตู้ เปิดทิ้งไว้แล้วออกไปเดินดูรอบ ๆ รถ 5-6 ชั่วโมง ไม่ใช่ 5นาทีพอ แล้วเดินเข้าไปในรถก็จะรู้ว่าฉ่ำ หรือ ไม่ฉ่ำ มีเสียงอะไรดังผิดปรกติหรือเปล่า  แอร์ตัดตามปกติไหม          14) การซื้อรถมือสอง ต้องเตรียมเงินอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อถ่ายเปลี่ยนของเหลวในรถออกให้หมด เพื่อเริ่มทำการจดบันทึกใหม่ ทั้ง เลขกิโลเมตรและวันที่ว่าเราทำอะไรไปบ้างกับรถคันนี้เมื่อไหร่ มีประโยชน์มากมากเลยเวลาขายต่อเอาให้คนที่จะซื้อดู เครดิตมาอีก เราละเอียดขนาดนี้เขาชอบแน่นอน รถบางคันเจ้าของน่ารักมาก บอกหมดเลยเคยชนตรงไหนมา อะไรเพิ่งเปลี่ยน เปลี่ยนที่ไหน เมื่อไหร่ เพื่อความสบายใจในการขาย บรรยากาศก็ดูดีด้วย บริสุทธิ์ใจไม่ซื้อไม่ว่า ขายไปแล้วมีปัญหาโทรมาปรึกษาได้อีกต่างหาก”
    คนอยากได้รถยนต์  คงมีแนวทางการหารถอยู่บ้าง  ไม่ว่ารถมือหนึ่งหรือมือสอง ( สาม สี่ ห้า…แปด เก้า สิบ )  ที่เอามาเล่าสู่แบ่งปันกันฟัง  เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ขาดคู่คุยคู่คิดแถมยังไม่มีเวลาหาข้อมูล และที่สำคัญก็คือจะได้มีแนวร่วมที่กำลังมองหารถยนต์มาใช้กันอยู่    ฝันเป็นเรื่องดี  ถ้าเรามีฝันกับสิ่งใดแล้ว  จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้เกิดความพยายาม  มานะ  บากบั่นเพื่อให้ได้มันมา   ขอให้คนอยากมีรถทุกคน  ได้มีรถยนต์ใช้สมใจกันถ้วนหน้าค่ะ..

    จากคุณ : เพลงสน บนยอดภู - [ วันสุนทรภู่ 23:44:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com