ความคิดเห็นที่ 1 คุณคายตรี นกปีกหัก ถลา กลับรังรัก หวังที่พึ่ง พอพัก ไม่ผลักไส หวังมีผู้ ดูแล ทำแผลใจ หวังมือคอย ลูบไล้ ให้คลายตรม หวังวจี เอ่ยวาจา พร่ำว่าปลอบ หวังวงแขน โอบกอด ให้สุขสม หวังแววตา ว่าพร้อม จะชื่นชม หวังรอยยิ้ม คลายระทม ขมขื่นใจ เพราะเผชิญ ความโหดร้าย มาเสียหนัก ดั่งพายุ พาพัด ความโชคร้าย โหมกระหน่ำ จนชีวิต แทบปลิดไป ปีกน้อยน้อย เกินทานไหว จึงหักลง หากมิมี ที่พึ่งใด ให้พอพัก หากมิมี ความรัก คงพลัดหลง กลางพายุ ชั่วร้าย หมายปลิดปลง นกน้อยคง ถลาหล่น ลงวางวาย... ........................ ฝนตกหนัก ไม่มีนกปีกหัก มีแต่คนอกหัก...อยู่แถวนี้ จากคุณ : ทิวลิปสีน้ำเงิน - [ 28 มิ.ย. 49 19:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากรู้นัก ว่า คายตรี แปลว่าอะไรคะ เขียนได้น่ารัก..มีวิญญาณมากค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 มิ.ย. 49 20:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โดนคนทำย่ำยีพี่สงสาร อ่านแล้วพาลน้ำตาไหลใช่ลวงหลง คายตรีเขียนเห็นภาพซึมซาบลง แม่ลูกคงหิวตายไปด้วยกัน ทิวลิปฯรับต่อกลอนพี่ถอนอก น่าตระหนกกลอนจากใจใช่หุนหัน สัมผัสได้กลั่นจากจิตติดผูกพัน จะกี่วันไม่ลืมได้น้ำใจคน ทั้งสองอันเพราะมากอยากบอกเล่า เป็นเรื่องเศร้าที่กินใจได้ทุกหน เก็บเอาไว้กลอนดีดีที่น่ายล ไว้เป็นผลงานบันทึกนึกเรื่องราว จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 29 มิ.ย. 49 06:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เลือดสาด ราดสด รดพื้น เถลือกลื่น หล่นไถล ใจหาย ชีพชิง กลิ้งเกลือก เสือกกาย ชีพวาย เกินฝืน คืนรังรวง ลูกเจ้า เขาคอย อยู่บ้าน คู่ลาน ด้วยทั้ง หวงห่วง แม้จน จันทร์สาด ลาดยวง โอ้...ทรวง เมียรัก จักแหลกลง ขอเน้นมุมกล้องอีกที ครับผม จากคุณ : คมลิขิต - [ 29 มิ.ย. 49 07:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นาที สุดท้าย ทรมาน คมลิขิต เน้นขาน บอกใบ้ เจ็บปวด ร้าวราน ปานใด เลือดไหล แถกแถ แลมอง ห่วงเมีย ห่วงลูก ผูกติด ครุ่นคิด ตัวตาย ให้สยอง สัตว์เล็ก คนนึก ตรึกตรอง สอดส่อง ลึกล้ำ คำคม เขียนไว้ ได้เพราะ เสนาะหู อ่านดู  สัมผัส จัดสวยสม อักษรนอก สระใน ไห้ระทม ขื่นขม ไม่วาย คล้ายเห็นจริง กลอนแบบนี้เขาเรียกอะไรนะคะ กลอนด้นหรือเปล่า ที่มีแค่หกเจ็ดคำน่ะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 29 มิ.ย. 49 08:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อกลอนครับ แม้นปีกหัก จักมี สองขาเดิน เหนื่อยเหลือเกิน แต่จะเดิน ไปรักษา เดินสุดล้า แต่ไร้ คนเยียวยา เมื่อนั้นหนา นกปีกหัก คงไร้แรง ปล คุณคายตรี ขยันจังครับ จากคุณ : ยิ้มแย้ม - [ 29 มิ.ย. 49 15:36:28 A:203.153.173.79 X: TicketID:097737 ]

ความคิดเห็นที่ 7 (ดูท่าคนเข้ามาอ่านจะเก่งกว่าเจ้าของกระทู้แหะ) คุณทิวลิปสีน้ำเงิน : เจอกันบ๊อย-บ่อย กลอนคุณเพราะมาก ไว้คราวหน้าจะไปต่อกร(กลอน)ด้วย คุณtiki_ทิกิ : คายตรีแปลว่า                  ...ชื่อนี้ปรากฏในประวัติพระพุทธเจ้า คือเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเจริญพระชนมายุได้ 8 พรรษา ทรงเรียนวิชากับท่านวิศวามิตร(เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย) ท่านวิศวามิตรได้ทูลให้พระพุทธเจ้าเขียนอักษรตามคาถาบทที่ตนพูดเป็นประโยคไป เรียกคาถาบทนั้นว่า "คายตรี"แต่ผู้ที่จะทำเช่นนั้นได้ต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ รู้แจ่มแจ้งทั้งหมดแล้ว ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงทำได้ ซ้ำยังเขียนเป็นอักษรพิศดารหลายอย่าง... ความจริงเอาลงไว้ในกระทู้"ธารสายใจ"แล้วนะ แต่ถามมาก็ตอบไป สบายใจดี...เอย ขอบคุณสำหรับคำชมจ้ะ คุณนัทตี้ : ขอบคุณหลายเด้อที่เข้ามาอ่าน (เห็นชื่อบ่อยๆ) ชอบกลอนของคุณด้วย คุณคมลิขิต : ...............(แบบว่า อึ้ง ไม่รู้จะตอบอะไรดี) คุณยิ้มแย้ม : ไม่ขยันหรอกน้า เพียงแต่กลัวว่าถ้าไม่ส่งทุกๆสัปดาห์ เดี๋ยวชื่อจะหายจากสารบบน่ะ .....................................โชคดี see you again นะ.... จากคุณ : คายตรี - [ 1 ก.ค. 49 11:07:25 ]