เอาเถอะ..อย่าหาว่าฉันไม่คิดถึงเพื่อนๆนะ คิดถึงก็เลยเอาเรื่องนี้เตรียมมาเล่าให้ฟังหวังว่าจะเป็นนิยายให้เพื่อนๆอ่านยามว่าง … ตอนพิเศษ … เพื่อนฉันบอกว่าควรให้ชื่อว่า “หน้าแป้นแล่นตามตี๋” หรือ “รักเกิดที่โคเปน” ๕๕๕๕ แต่ฉันว่าเนื้อเรื่องมันเป็นหนังสืบสวนสอบสวนมากกว่า ชิงรักหักสวาทอะไรทำนองนั้น ชื่อหลังควรตัดออก (เก็บไว้ใช้เวลาที่ฉันเจอคู่ … อย่างว่า คงได้เก็บลืม) ๕๕๕๕๕ กำลังว่าจะส่งสคริปต์ไปฮอลลี่วูด … เด็ดกว่า Brokeback mountain มันกว่า Match Point ๕๕๕๕๕ ฉันคิดคำโปรโมตไว้แล้วนะ … She used him as a sex slave, He used her as a tool for other love, what’s a romantic love story.

ตอนนี้กำลังซ่อนอยู่ข้างเตียง ทำเป็นหลับ เปิดโคมแค่อันเดียว เพราะ หล่อนกะลังจะต้องทำเค้กไปโชว์พรุ่งนี้ … แต่หล่อนขึ้นไปให้เจ้าของบ้านช่วยแล้วหล่ะ รอดตัว … ไม่มีทางหลงกลอีกหรอกya (ฉันว่าคงไปขอให้เขาทำให้เลยมั้ง … จะเอาไปโชว์แต่ไม่เคยลองไม่เคยทำเอง Muengคงจะทำเป็นหรอกya … แต่ยังไงเขาก็คงไม่สนหรอก .. หลอกใช้ชาวบ้านง่ายกว่า

ตอนนี้แอบอยู่พร้อมเปิดเพลงรักฟัง … อัลบั้มร้อยเพลงรัก แต่เป็นเพลงฝรั่ง … หวังว่าฉันคงไม่เผลอร้องออกไปเดี๋ยวมันรู้ ๕๕๕๕๕

โอ๊ย E-นี่ร้องเพลงในห้องน้ำอีกแล้ว … คงเป็นเวรกรรมของฉันที่ชอบเปิดเพลงตอนเข้าห้องน้ำทรมานหูชาวบ้าน .. กรรมของหนู

ยังค่ะ ขอฉันบ่นก่อนแล้วกัน … อันดับแรก ขอถามก่อนค่ะ … เนื่องจากในสายตาฉันคุณถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา … อิฉันจึงขอถามว่า แมงกระพรุนเนี่ยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (mammal) เหรอคะ … คือไม่ยักกะเคยเห็นว่าแมงกระพรุนมีนม หรือมันซ่อนอยู่ในที่ลับสุดใจค่ะ … คนสมองระดับธรรมดาอย่างอิฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อน สงสัยเซลล์ประสาทฉันจะติดขัดทำงานไม่ค่อยดี เลยนึกว่าแมงกระพรุนเป็น marine invertebrates ซะอีก … คือคุณสู่รู้หนะค่ะ … เธอคุยให้ลูกเจ้าของบ้านที่เป็นนักคอมฟังว่า ตอนเธอเรียนโทที่เมืองไทยทำโปรเจ็คไฮโซมาก … ตัดต่อพันธุกรรมในแมงกระพรุน ซึ่งมันเป็น แมมมอล … ฉันหล่ะอึ้งไปเลย … งานของเธอสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับคนได้ .. ตายห่*า … อุ๊ยขอโทษค่ะ ประเทศชาติล่มจม … แล้วเท่าที่ฉันรู้เธอแค่ตัดต่อยีนในแลปหนะแต่มันเป็นยีนจากแมงกระพรุน หล่อนอธิบายซะอย่างกับจับเอาแมงกระพรุมมาตัดต่อทางพันธุกรรม ได้เป็น “ไอ้แมงกระพรุน” ออกมา พอฉันถามเธอเป็นภาษาไทยมันคนละเรื่อง … แล้วพอเขาถามเธอว่าเธอทำงานวิจัยเรื่องอะไรเธอก็ตอบอะไรไม่รู้มั่วมาก … ขนาดเป็นงานที่ตัวเองจะต้องทำที่นี่นะเนี่ย เอาเถอะค่ะ … ด้วยการวิจัยระดับสูงประกอบกับความสามารถระดับสี่ช้วน คงทบทวนดีแล้วว่าแมงกระพรุนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม … อย่าไปเถียงเธอเลยค่ะ ปัญญาระดับพืชไร้ดอกอย่างเรา อย่าไปเผยอสู้กับพาราไซต์ชั้นสูง พวกพืชมีดอกแบบนั้น

ว่าก็ว่าเถอะ ฉันไม่รู้ว่าเธอไปได้ สี่ มาได้ไง … เธอเป็นคนที่มั่วมาก ความสามารถทางภาษาอังกฤษเธอก็สูงมาก สำเนียงไทยแท้ แกรมม่าชั้นเด็กเตรียม …. อนุบาล แต่ความมั่นใจระดับศาสตราภิจารย์ ถึงขนาดเพื่อนฉันบอกว่าก็คงได้เพราะ ความตอแ-ล แหละ … อาจารย์เมืองไทยชอบ … อาจจะจริง … ไม่รู้wa แต่ที่สัมผัสมาไม่เห็นเคยจะมีความจริงทางวิชาการหลุดจากปากเธอเลย … แล้วที่ชอบเป็นที่สุด คือ คำว่า รู้แล้วรู้แล้ว … เออดีจะได้ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม … แล้วเดี๋ยวเธอก็มาถามอีก ตูหละเบื่อ แต่จริงๆ แล้วควรจะบอกว่า ไม่เห็นเคยมีความจริงใดๆ หลุดจากปากเธอ ต่างหาก

ยังค่ะยัง … ขอบ่นต่ออีกหน่อย … นอกจากพฤติกรรมโสโครกของเธอที่ได้เคยนำเสนอไปแล้วนั้น เธอยังมีความเลิศทางปัญญาในการสร้างปัญหาเป็นอย่างมาก … แก … มันไม่ผิดหรอกนะถ้าจะเปิดเครื่องซักผ้าไม่เป็น … แล้วเที่ยววิ่งมาบอกว่าเครื่องซักผ้าเสีย ก็ถ้าหล่อนไม่ปิดฝาแล้วเครื่องมันจะยอมเดินเหรอ เครื่องฝาหน้า น้ำก็กระจายสิคะ .. แล้วยังพูดประมาณว่าฉันกั๊กไม่บอกวิธีเปิด … โอ จอร์จ มันบ้ามาก เครื่งอิเลคโทรนิคชั้นต่ำแบบนี้มันคงง่ายไปที่จะใช้ สำหรับปัญญาระดับอัจฉริยะ เรียก E-เดียด อย่างเธอ … ที่นี้เรามาทดสอบความสามารถของอัจฉริยะสายพันธ์มีดอกกันเพิ่มเติม … ด้วยเครื่องอิเลคทรอนิกชั้นต่ำอีกเล็กน้อย ที่เรียกกันว่า เครื่องอบผ้า … เนื่องจากอุปกรณ์ชิ้นนี้ประกอบไปด้วยปุ่มหมุนสำคัญที่อุดมไปด้วยภาษาเดนมาร์ก … อิฉันก็บอกว่าเวลาใช้ให้หมุนไปที่ปุ่ม Extra dry ที่มันเป็นภาษาเดนนิส … โดยปกติแล้วก็่น่าจะจำได้ว่าไอ้ตัวเนี้ยมันเขียนว่ายังไง เพราะแค่หมุนกลับด้านแก๊กเดียว ทีนี่ เธอก็ขึ้นไปหาเจ้าของบ้านอีก … เครื่องเปิดไม่ได้ ก็หล่อนไม่ได้กด ON เครื่องบ้านบรรพชนคุณคงจะทำงานหรอกค่ะ ที่นี้ก็เป็นเรื่องอีกค่ะ เนื่องจาก (พยายามจินตนาการบ้านฉันตามนะคะ) เมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามามันจะเจอห้องเก็บของซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ต่อเติมใหม่ เพราะฉะนั้นท่อเครื่องอบผ้ามันก็เลยไปออกอยู่ที่ห้องนั้น ทีนี้พอมองไปทางซ้ายก็จะเจอประตูเข้าบ้านจริงๆ ซึ่งพอเปิดปั๊บ ตรงไปเป็นห้องฉัน แต่จะผ่านห้องน้ำก่อน ทางซ้ายมือ … ส่วนถ้ามองไปทางขวามือก็จะเป็นห้องเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า แล้ว เข้าไปในห้องนั้นก็จะเป็นห้องหล่อนคนนั้น .. ซึ่งกลิ่นห้องจะเป็นกลิ่นอับคล้ายห้องคนรับใช้ ไม่รู้ทำไม จริงๆ นะ ถึงแม้ตัวเธอจะประพรมน้ำหอมและอาบน้ำแทบทุกวันทั้งๆ ที่มันหนาวจะแย่แล้วมันก็ไม่สกปรกเหมือนเมืองไทย ที่นี้ ฉันก็พร่ำบอกเธอว่า เมื่อเปิดเครื่องอบผ้ากรุณาเปิดประตูบ้านเพื่อไล่ไอน้ำออก ไม่งั้นของที่เก็บไว้ในห้องเก็บของจะชื้นหมดเลย … ครั้งที่หนึ่ง ลืม เออ ไม่เป็นไร .. ครั้งที่สอง .. ลิม ชักเคืองๆ เลยไปบอก ครั้งที่สาม … เหมือนประชด มันเปิดประตูทั้งสองบานเลย จะได้ช่วยกันระบาย … ทีนี้ลมที่นี่มันแรง นอกจากมันจะพัดเอาไอน้ำกลับเข้ามาหมดยังเป็นลมหนาวยะเยือกเข้ามาด้วย … ฉันไม่รู้ว่าหล่อนใช้สมอกซีกไหนหรือไขสันหลังส่วนไหนคิด อ้อ .. ที่นี่ก็มีเครื่องอิเลคทรอนิกชั้นต่ำสุด สองชิ้น … เครื่องแรก เตาอบขนาดเล็กมีปุ่มปฏิบัติการเพียงปุ่มเดียว คือปุ่มปรับเวลา …. ฉันก็ไม่รู้เธออบไก่แช่แข็งยังไง ไหม้ เป็นตอเลย … สองครั้งแล้ว … หรือหวังจะฆ่าฉันเป็นไปได้ โชคดีชะตายังไม่ถึงฆาต แล้วแทนที่หล่อนจะเปิดประตูไล่กลิ่นและควัน … เธอกลับปกปิดความผิดด้วยการเอาสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นกุหลาบ แบบเดียวกับลูกเหม็นในห้องน้ำมาฉีด โอยทีนี่อย่างกับกลิ่นงานฌาปนกิจ แล้วควันก็ปกคลุมไปทั่วส่วนตัวหล่อนก็ปิดประตูห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีอีก .. ตู้เย็น ... คือปลั๊กมันยาวไม่พอฉันเลยต้องเอาปลั๊กแบบมีปุ่มปิดเปิดไปเสียบ (ปลั๊กที่นี่มันจะมีปุ่มปิดเปิด เซฟดี ที่นี้รวมกันมันก็ต้องเปิดสองปุ่ม เอออาจเป็นความผิดฉัน) แล้วพอเธออบไก่เสร็จ เธอก็ถอดปลั๊กออกหมดรวมทั้งปลั้กตู้เย็น … เออ อาจไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็เลยบอก ที่นี้ ก็เอาอีก … หล่อนไม่ถอดปลั้ก แต่หล่อนปิดสวิตที่ปลั๊กต่อ … kuจะบ้า ฉันเลยเอาสติกเกอร์ไปปิดสามจุดทำกากบาทไว้บนสวิชท์เลย (ฉุนจัด) แล้วพอแม่เธอมา แม่เธอก็ปิดอีก .. kuจะบ้า ที่ฉุนมากเพราะปกติหล่อนไม่เคยปิดอะไรเลย ชอบเปิดทุกอย่างทิ้งไว้ แล้วMuengเป็นเพี้ยนอะไร ต้องมาปิดปลั๊กตู้เย็น