CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยังคิดถึงสายน้ำบนผิวดิน กนกพงศ์ สงสมพันธุ์

    คิดถึงสายน้ำบนผิวดิน

    วัยเด็ก
    ข้างบ้านของผมมีหย่อมป่าอุ้มน้ำ
    เมื่อข้างบนร้อนลงไปก็เย็นโดยยังไม่ได้อาบ อาการขี้คร้านน้ำเกิดกับผมหลายครั้ง
    ผมเป็นเด็กชายที่ต้องอาบน้ำก่อนไปโรงเรียน ทำไมต้องอาบทุกวันแม้แต่วันที่ฝนตก
    ในหมู่บ้านผมมีน้ำบนผิวดินหลายแห่ง ผมเกิดมาทันเห็น
    พอผมเริ่มเรียนมัธยมน้ำเริ่มเหือดหายเพราะป่าถูกเปลี่ยนให้เลี่ยนโล่ง
    และสวนยางก็ติดกันตลอด ทางราชการมาขุดสระตรงที่มีสายน้ำบนผิวดินเดิม

    ข้างบ้านผมมีหย่อมป่าอุ้มน้ำที่เล็กลง
    แต่ยังมีน้ำออกจากรากไม้ เป็นบ่อบนผิวดิน เพราะการอนุรักษ์ของพ่อ
    ยังไม่เคยมีใครยกย่องพ่อในฐานะผู้อนุรักษ์น้ำบนผิวดินกับหย่อมป่าอุ้มน้ำใกล้บ้าน
    แต่ผมยกย่องพ่อและแม่ในฐานะผู้อนุรักษ์สรรพสิ่งเลยทีเดียว

    ในหย่อมป่าอุ้มน้ำมีต้นลูกพรวน เงาะป่าที่เปรี้ยวจนไม่อยากกิน
    มีไม้ทุ้งฟ้าที่พุ่งขึ้นไปเป็นร่มใหญ่อยู่ข้างบนที่ผมชอบยืนมอง
    มีต้นไทรที่ในวัยเด็กมีนกเปล้าสิบกว่าตัวบินมาเกาะ
    ตัวมันเหมือนนกเขาแต่โตกว่าตัวสีเขียวสวยแปลกดี
    ยังทันเห็นแซงแซวที่มีหางแบบขากรรไกรมากันเป็นกลุ่มเสียงดังเหมือนเถียงกัน
    ปัจจุบันเห็นแต่นกเอี้ยงที่กล้าทำอย่างนี้
    นกกรงหัวจุกยังทำรังที่ต้นไม้และโบกบินส่งเสียงร้องรอบตัวเรา
    ต่อมามีคนจับใส่กรงเสียจนไม่มีในธรรมชาติ
    ขณะนั่งรอรถตู้ที่หน้าหอหาดใหญ่ ผมกลับได้ยินเสียงนกเหล่านี้หลายตัว
    เสียงยังไพเราะเรียกเมืองถามเมืองในกรงที่เล็กเกินไป
    ไม่มีคู่ให้เลือก ไม่สะดวกที่จะสืบพันธุ์
    ขอให้สมรรถภาพทางเพศของคนทรมานนกขัดข้องทุกประการ

    ใกล้กับที่อาบน้ำมีส้มหลุมพีและส้มระกำที่ธรรมชาติให้เรามากินเล่น
    รสชาติหวานอมเปรี้ยวแต่ชื่นใจ
    อ๋อ มีต้นกระท้อนใหญ่มีย่านเชือกพะรุงพะรังให้เราปีนเล่นด้วย
    ผมเคยพยายามฝึกนอนให้สมดุลบนย่านเชียก

    ผมคิดว่าต้นไม้เป็นจุดสมดุลของฟ้าดิน
    มันหยั่งรากลึกลงสู่แผ่นดิน และแผ่กิ่งก้านรับพลังจากฟ้า
    หากทำลายต้นไม้ก็เหมือนทำลายดุลยภาพของฟ้าดิน
    ถ้าไอน์สไตน์จะรวมแรงทั้งสี่ได้เขาต้องหาดุลยภาพของมันให้พบ
    ณ จุดนั้นแรงเหล่านั้นจะสยบอำนาจของระเบิดปรมาณูลงได้

    ในช่วงชีวิตวัยรุ่นผมได้ไปอยู่ที่สวนโมกข์ราวสองเดือน
    เรียนรู้ชีวิตเสียจนอิ่มล้น อิ่มเอม เปรมปรีย์ในทางธรรม
    ผมเป็นเพียงคนรักป่า ชื่นชอบบูโน่ คนกลิ่นหญ้า
    แต่ไม่เคยเข้ากลุ่มกับนักอนุรักษ์อย่างเป็นทางการ
    ท่านอาจารย์พุทธทาสสอนให้ผมเป็นนักอนุรักษ์โดยทางอ้อม
    นอกจากอนุรักษ์ป่าแล้วยังต้องอนุรักษ์จิตใจของเพื่อนมนุษย์ด้วย

    กลับจากสวนโมกข์ผมสละที่ดินสิบหกไร่จากที่พ่อแม่ยกให้สร้างธรรมาศรม
    แต่ความประสงค์จริงจริงคือรักษาพันธุ์ไม้หลุมพอ
    เราเหลือไม้หลุมพอขนาดใหญ่อยู่เพียงต้นเดียว แต่ให้เมล็ดหลุมพอมากมายทุกปี
    ในขณะที่ทุกที่มีแต่พอนไม้พอขนาดใหญ่
    ถ้าพอนไม้พอเหล่านั้นยังมีชีวิตมันจะสง่างามเพียงใดหนอ
    ในขณะที่ทุกที่โค่นป่าลงมาเพื่อปลูกยางพารา
    ขณะที่ผมมีความสุขกับการสละพื้นที่สิบหกไร่ให้ไม้หลุมพอ
    สุขกับดุลยภาพในเศรษฐกิจพอเพียงที่อยู่บนฐานเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ

    ธรรมาศรมควนประสมถกัมมัฏฐานกำเนิดอย่างเงียบง่าย
    คงจะค่อยเติบโตตามสบายเหมือนไม้หลุมพอ
    รวบรวมสิ่งดีเท่าที่โลกมีให้มาไว้ให้ครบถ้วน
    ฤาษีดัดตน โยคะ จงกรม สมาธิ และนวดเท้าแบบไทย
    แล้วประสบการณ์ชีวิตก็สอนให้ผมสร้างวัดแบบเอกชน

    ธารน้ำจากเขาเหมนไหลผ่านบ้านหน้าเขาเหมนหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งเบื้องล่าง
    ปัจจุบันหลั่งไหลเฉพาะในเวลาฝนตกหนัก นอกนั้นไหลตามท่อน้ำประปาแทน
    และหยุดแค่เขื่อนกั้นน้ำเพื่อรดสวนผลไม้ของคนที่อยู่ข้างบนกว่า
    อาลัยเล็กเล็กกับสายน้ำเย็นสดชื่นที่เราลงอาบเล่นอย่างสนุกสนานในวัยเด็ก
    ครั้งหนึ่งมีคนขับช้างสวนสายน้ำขึ้นมาเด็กอย่างเราหลบเกือบไม่ทัน
    บัดนี้นั่งลงบนก้อนหินแห่งวัยเยาว์กลางลำธารที่ไม่มีสายน้ำ

    ที่บางขัน
    คนเฒ่าเล่าว่ามีคลองใหญ่ที่ไสยาสน์ คนพักหลับนอนระหว่างเดินทางจึงเรียกไสยาสน์
    วันเพ็ญสิบห้าค่ำมีคนเคยเห็นขันทองอร่ามเรืองลอยเหนือน้ำเพื่อรำลึกถึงพระนางเลือดขาว
    ครั้งหนึ่งพระองค์มาลอยขันทองไว้ในสายน้ำนี้เพื่อบูชาพระพุทธองค์
    ปัจจุบันมีคลองเล็กเล็กแต่ไม่มีน้ำ

    ต้นน้ำหายไปเราใจหาย เสียดายอย่างไร
    กนกพงศ์จากไปก็ใจหาย เสียดายอย่างนั้น

    กับกนกพงศ์แม้ไม่สนิทเป็นการส่วนตัวแต่ชื่นชอบงานเขียน
    เมื่อเขาเสียชีวิตเร็วเกินไปผมรู้สึกคิดถึงและเสียดาย
    เหมือนที่รู้สึกต่อสายน้ำบนผิวดินที่หายไป
    ในเรื่องเล่าเชิงบันทึกทัศนะจากหุบเขาฝนโปรยไพร ยามเช้าของชีวิต
    เขาได้กระทำการที่โลกวัตถุนิยมต้องหัวเราะค้างและงุนงง เชิญสดับ

    “หนุ่มน้อยควาญขับคงนึกแปลกใจอยู่หรอก ที่เห็นเราไม่อนาทรร้อนใจเมื่อเจอจงอาง
    เขาอาสากวาดพงรกริมตลิ่งให้ พังทำลายเพิงดินโพรงถ้ำนั้นเสีย
    แต่ผมกลับหัวเราะเหมือนนั่นหาใช่เรื่องสำคัญ “อย่าลำบากเลย ถือว่าเอาไว้ดูเล่น”
    “ไว้ดูเล่น?” ภาพมือตักของแบ็คโฮชะงักค้างอยู่กลางอากาศนั้นคงติดประทับอยู่ในใจผมตลอดไป”

    “ปักจอบลงตรงไหนเป็นเจอไส้เดือน ผมมีพนักงานพรวนดินเต็มสวนไปหมด
    ผมรู้สึกรักมันขึ้นมาจริงจริง แต่ชาวหมู่บ้านไม่เข้าใจหรอก
    คราใดพวกเขาผ่านมาเห็นเราหวดถางหญ้าจนเหงื่อโทรม มักหยุดทักเพื่อแนะนำให้เราใช้ยาฉีดฆ่า
    และทุกครั้งผมเลือกยืนยันเหตุผล ฉีดยาฆ่าหญ้าไส้เดือนก็ตายหมดสิ
    พวกเขาต้องคิดว่าผมบ้า!”

    “นึกถึงบทกวีของพี่ประมวล

    ฟังว่าความตายนั้นสวยสด
    ดั่งดักแด้เปลื้องปลดภาวะหนอน
    เป็นผีเสื้อสดงามตามขั้นตอน
    เผยอปีกรำฟ้อนในรุ่งราง”

    “ทันทีที่ตายจากภาวะดักแด้ การเกิดใหม่เป็นผีเสื้อทำให้ชีวิตมีจุดหมาย
    แล้วผีเสื้อก็ต้องโฉบจากดอกไม้ดอกโน้นสู่ดอกนี้ เราเห็นเป็นอากัปกิริยาของความร่าเริง อิสระ สวยงาม
    การเริงระบำของผีเสื้อคือการดำเนินอยู่ในภาวะของการงาน
    หากว่านั่นคือชีวิตที่สนุก มันก็สนุกเพราะชีวิตได้ตระหนักและเข้าถึงคุณค่าในจุดมุ่งหมาย
    แท้แล้วการมีชีวิตของผีเสื้อคือการสร้างสรรค์โลก ทั้งยังสร้างสรรค์โดยไม่คำนึงถึงดอกผล
    และผีเสื้อทุกตัวล้วนบรรลุถึงการมีชีวิต บรรลุในคุณค่าและความหมายของชีวิต”
    “หนึ่งชั่วชีวิตคนดูเหมือนนาน แต่ความจริงแล้วไม่นานเลย
    คนหลายคนตายไปโดยไม่ทันเฉียดกรายเข้าใกล้ความหมายของชีวิตเลยด้วยซ้ำ
    ตายไปโดยที่มิทันมีชีวิตด้วยซ้ำ
    หนึ่งชั่วชีวิตคน ดูเหมือนน้อยสำหรับการค้นหาความหมายของชีวิต
    แต่หากเราเริ่มต้นค้นหาแต่วันนี้ วินาทีนี้ ในขณะลมหายใจนี้ เวลาเท่าไหร่ก็ไม่น้อยเลย
    เพราะชีวิตสามารถค้นพบได้ในแวบใดแวบหนึ่ง ขณะใดขณะหนึ่ง
    แท้แล้วเราสามารถค้นพบชีวิตได้ในทุกขณะ
    เสมือนการขยับปีกของผีเสื้อ แต่ละแวบ แต่ละหน
    ล้วนเปี่ยมเต็มอยู่ด้วยคำว่าชีวิต”

    ผมเห็นด้วยและผูกพันธ์กับทุกประโยคของกนกพงศ์ข้างบนนี้
    ความตายไม่สามารถหยุดชีวิต และชีวิตก็ไม่สามารถหยุดความตาย
    จากกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ดั๊กแด้แห่งวรรณกรรม
    ไปสู่ผีเสื้อแห่งคนธรรพ์ผู้รักบทกวี ดนตรีและธรรมชาติ
    ขอนอบน้อมคนธรรพ์แห่งศรีธรรมราช
    ผู้รักษาไส้เดือนและงูจงอางได้อย่างมิตรสหาย
    คงเป็นมิตรสหายกับผู้มอบที่ดินให้ไม้หลุมพอได้หลงเหลือชีวิต

    คุณไม่รังเกียจไส้เดือนและจงอางอย่างไร ผมก็ไม่รังเกียจชีวิตหลังความตายอย่างนั้น
    ถ้าคุณแวะมาเราคงได้สนทนากัน
    จะถามว่า รู้จักท่านอาจารย์พุทธทาสไหม ครบรอบหนึ่งร้อยปีของท่านในปีสี่เก้านี้
    องค์การสหประชาชาติยกย่องท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้วย ท่านบอกว่า
    “พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย
    ..............................................................
    ทุกวันนัดสนทนาอย่าเลิกแล้ง
    ทำให้แจ้งที่สุดได้เลิกตายกัน”
    ถ้าพบท่านด้วยทางใดได้ ก็บอกความเป็นอยู่ของท่านเล่าสู่กันฟัง
    อ๋อ แล้วปีนี้ยังพิเศษอีกอย่างคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบหกสิบปี
    พระองค์ทำให้พวกเรารู้สึกว่า ประเทศของเรามีความเป็นผู้ใหญ่ ใจบุญ ขยัน และมั่นคง
    ภาพที่คนนับแสนใส่เสื้อเหลืองอยู่เบื้องหน้าพระองค์ช่างน่ามหัศจรรย์
    เพราะสีหน้าของเขาเหล่านั้นยินดี ไม่มีท่าทีว่าถูกเกณฑ์มา แต่อยู่ที่นั้นด้วยหัวใจของตน
    สิ่งที่พระองค์แนะนำมาตลอดชีวิตพวกเราก็ทำได้หมดแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวลใช่ไหม

    อ๋อ อีกเรื่องที่คุณต้องรู้จักท่านดีแน่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ศิษย์เอกฆราวาสของสำนักเขาอ้อ พัทลุง
    ท่านมีอายุได้ร้อยแปดปี เป็นนายตำรวจที่ประยุกต์ใช้พลังไสยเวทได้อย่างดี ได้เสียชีวิตลงแล้ว
    คุณยังกินกินกาแฟได้อยู่ไหม ถ้ากินได้จะชงไว้ให้แก้วหนึ่ง

    นักปราชญ์ที่แท้อยู่เรียบง่าย ตายเงียบเรียบง่ายเหมือนมดปลวก
    ตระหนักชัดว่า ความตายเป็นเพียงจุดเปลี่ยนของชีวิต
    ที่ว่างข้างล่างนี้เว้นไว้นิดหน่อย
    เพื่อให้ทุนนิยมได้หัวเราะเย้ยพวกเรา เหมือนที่พญามารพึงทำต่อสาธุชน

    จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 8 ก.ค. 49 15:19:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com