CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หลงเงา

    สวัสดีครับ เอาเรื่องสั้นอีกเรื่องมาฝากครับ

    เมื่อคืนเจ้าภาพเยอรมันชนะ ได้ที่สาม คืนนี้มาลุ้นกันว่าใคร
    จะเป็นแชมป์โลก พร้อมๆ กับลุ้นชายเดี่ยววิมเบลดัลด้วย
    ครับ มือ1 มือ2 เข้าอีกกันเองอีกครั้งเหมือนรายการก่อน
    แต่แชมป์จะคนเดิมอีกมั้ยต้องติดตาม เพราะโรเจอร์ เค้า
    เก่งบนหญ้า  

    นอกเรื่องซะไกลเลยครับ ไปอ่านกันเลย  
    +++++++++

    เธอและเขาเจอกันเมื่อหลายปีก่อนตรงป้ายรถเมล์หน้าบริษัทย่านกลางเมือง  คงเป็นเพราะความรีบร้อนของเธอ เลยไม่ทันมองว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนหอบเอกสารอยู่เต็มสองมือ

    ใช่แล้ว...มันเป็นอย่างที่คุณคิด เธอเดินไปชนเขาเหมือนในนิยายรักทั่วไป จากนั้นทั้งสองจึงรีบก้มลงเก็บของ ปากพร่ำคำขอโทษจนตาสบตา วินาทีนั้น...ต่างรู้สึกพึงใจในรูปโฉมของอีกฝ่าย

    ใช่แน่แล้ว...บุพเพสันนิวาส ต่อมา...สายสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นที่ป้ายรถเมล์เก่าคร่ำคร่าใกล้แยกไฟแดงแห่งนั้น

    วันหนึ่งในยามเที่ยง ไอแดดยังคงร้อนระอุเหมือนดั่งวันวาร  เธอเดินลงมาทานข้าวช้ากว่าปกติเพราะต้องเร่งงานให้เสร็จก่อนเจ้านายจะบ่น  มาถึงด้านล่างเห็นเขายืนลับๆ ล่อๆ ตรงซุ้มม้านั่งใต้ตึกข้างพุ่มดอกเฟื่องฟ้า ต่างจากทุกครั้งที่ยืนแอบมองเธออยู่ข้างเหลี่ยมเสา  ในที่สุดเขาก็เข้ามาทักทายเมื่อเธอตัดสินใจหันไปมอง

    “บังเอิญจังเลยครับ” เขาพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น เธอแอบอมยิ้ม รอดูทีท่าว่าจะมาไม้ไหน

    “ทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” เขาเอ่ยปากออกมา พร้อมทั้งลอบระบายลมหายใจยาวเหยียด เธอแอบเห็น คิดในใจว่านายคนนี้เป็นเอามาก...แต่ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ    

    “มีเพื่อนทานก็ดีเหมือนกันค่ะ” เธอว่าพร้อมทั้งยกหาเหตุผล  ก่อนออกเดินไปพร้อมกัน เธอหันไปล้อเขาว่า “คราวหน้าคราวหลังไม่เห็นต้องยืนแอบหลบอยู่ข้างเสาเลยนี่คะ  อยากคุยก็เขามาทักได้เลย ” เธอบอก คราวนี้ส่งยิ้มหวานเผยลักยิ้มเก๋ไก๋  เขาขัดเขินที่โดนจับได้ เดินไปสะดุดริมบาทวิถีหน้าแทบคะมำกับพื้น

    เธอและเขาหัวเราะภาษาเดียวกันด้วยเสียงอันสดใส เช่นเดียวกับดอกเฟื้องฟ้าเบื้องหลังชูช่อดอกสีสันสดใสในวันที่แดดแผดจ้า      

    หลังจากนั้น ข้างกายเธอก็มีเขาเป็นเสมือนเงาตามตัว    ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่คนละทางกันก็ตาม  ไม่ว่าจะกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว หรือไม่สบาย ข้างกายเธอยังมีเขาเสมอ  

    วันคืนล่วงผ่านรวดเร็วคล้ายติดปีก เธอและเขามั่นใจว่านั่นคือ ‘ความรัก’  ทั้งสองนั่งมองหนทางแล้ววาดฝันอนาคตร่วมกัน บ้าน รถ เครื่องประดับหรือกระทั่งหมาพันธุ์ดีมีชื่อสักตัว ควรสร้างฐานะให้มั่นคงแล้วค่อยแต่งงาน   แล้ววันหนึ่งขณะท้องฟ้าสดใสแต้มด้วยปุยเมฆสีขาวกระจ่าง เธอทนต่อเสียงออดอ้อนรบเร้าไม่ไหวเลยตัดสินใจต้อนรับเขามาอยู่ร่วมกันในห้องพักแคบๆ แห่งหนึ่ง  ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องประหยัด  

    เธอและเขาคิดกันอย่างนั้น

    อย่างที่บอก วันคืนล่วงผ่านรวดเร็วคล้ายติดปีก เธอและเขาใช้ชีวิตคู่ตามสมัยนิยมคืออยู่ก่อนแต่งมาได้หลายฤดูฝน  นานถึงกับขนาดว่าบางครั้งจำอาหารมื้อสุดท้ายกับหนังที่เคยดูด้วยกันครั้งสุดท้ายนั้นไม่ได้เสียแล้ว  อะไรที่เคยกระหนุงกระหนิงก็ดูจะห่างหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน  ต่างมุ่งทำงานหาเงินมาเติมฝันกันตัวเป็นเกลียว

    เธอ...กลับบ้านดึกขึ้นเพราะต้องทำล่วงเวลากับค่าแรงสองเท่า

    เขา...นานๆ กลับมาบ้านพักสักครั้งเพราะต้องย้ายไปประจำสาขาย่อยตามชานเมือง ตามคำสั่งกับความเจริญในหน้าที่การงาน

    แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับหนทางสายฝัน  เธอมักได้ยินคำรักและห่วงหาอาทรมาทางสายโทรศัพท์เสมอ  หญิงสาวยิ้มตื้นตันกับข้อความที่ว่า ‘เธอยังคงสวยงามในใจเขาเสมอ’ ก่อนกดวางสายแล้วก้มหน้าทำงานต่อไป  ภาพครอบครัว เธอ เขา และลูกตัวน้อยสักคน วิ่งเล่นบริเวณบ้าน สิ่งเหล่านี้เข้ามาเสริมสร้างกำลังใจยามเมื่อร่างกายอ่อนล้า หรือแม้กระทั่งยามทำงานได้ไม่เป็นที่พอใจผู้เป็นนายก็ตาม  

    หลายวันต่อมาในช่วงวัดหยุดสุดสัปดาห์  หลานสาววัยรุ่นจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมเธอโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้เธอไม่มีเวลาเตรียมตัวใดๆ  จะโล่งใจอยู่บ้างก็ตรงที่สัปดาห์นี้คนรักยังติดงานไม่สามารถปลีกตัวมาได้

    แต่เธอก็ต้องยิ้มหน้าเจื่อน แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ เมื่อหลานสาวเดินสำรวจไปทั้งห้องพัก เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของใช้ของ ‘ผู้ชาย’ เป็นหลักฐานมัดให้ปากเธอขยับได้ไม่เต็มคำมากนัก

    “ของเพื่อนน้าเองจ้ะ  นี่คงเอามาลืมไว้” เธอรีบบอก

    หลานสาวหัวเราะคิดคักตามวัยอยากรู้อยากเห็น และสาวน้อยก็รู้เรื่องพวกนี้พอดู  “ของเพื่อน  หรือของแฟนกันแน่คะ” ว่าแล้วก็หัวเราะ  ผู้เป็นน้าถึงกับหน้าถอดสี “เอาเถอะค่ะ  หนูไม่กลับไปบอกลุงกับป้าหรอกค่ะ”

    หลานสาวกลับบ้านไปแล้ว แต่คืนนี้เธอนอนข่มตาให้หลับได้อย่างยากลำบาก  ด้วยเข้าใจดีว่าไม่วันใดวันหนึ่งเรื่องนี้ต้องเข้าหูพ่อกับแม่แน่ๆ และอาจจะเลยไปถึงกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านให้ได้อับอาย จะอย่างไรเสีย ที่หมู่บ้านของเธอยังหัวโบราณอยู่กับประเพณีดั้งเดิมอยู่มาก

    “ได้ข่าวมาว่าลูกสาวแกท้องก่อนแต่งรึ ตามั่น” ใครคนหนึ่งอาจมาถามพ่อ

    “เห็นคนเขาพูดกันปากต่อปาก เรื่องมันเท็จจริงยังไงละพี่มั่น”

    “อ้าว...ก็ไหนคุยหนักคุยหนาว่าลูกสาวนิสัยเรียบร้อยไง  งามหน้าไหมละนั่น  เอ้อ...เด็กสมัยนี้”

    และอีกมากมาย...  เพราะสมัยเธอยังเป็นเด็ก พี่สาวข้างบ้านขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ แต่ไม่จบ แถมยังท้องหาพ่อไม่ได้ กลับมาบ้าน ผู้เป็นพ่อแม่ต้องย้ายครอบครัวหนีเพื่อนบ้านด้วยความอับอาย...เธอยังจำได้ดี เคยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ประพฤติตัวอย่างนั้นเป็นอันขาด

    หากเป็นเธอบ้างเล่า....!?  

    เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อเอาเธอตายแน่ ทางเดียวคือต้องรีบเก็บเงินแล้วรีบแต่งงาน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา    เธอคลายความกังวลลงไปได้มากเมื่อคิดถึงชายคนรัก  เขาเอาใจใส่เธอเสมอมา  คงไม่ทำให้เธอเสียใจเป็นแน่

    ตะวันยอแสงสว่างจ้ามาทางบานหน้าต่าง  หญิงสาวตกใจตื่น  รีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเร็วเป็นปรากฏการ เนื่องจากสายมากแล้ว  การออกจากบ้านสายเพียงห้านาทีทำให้เธอเข้าทำงานสายเป็นชั่วโมง เพราะเวลาส่วนใหญ่ติดอยู่บนรถเมล์  

    การมาทำงานสายของเธอนอกจากโดนหัวหน้างานดุแล้วยังต้องทำชดเชยเวลาที่เสียไปอีก รวมกับการทำล่วงเวลาไปด้วย ทำให้เดินต้องกลับบ้านช้ากว่าปกติ  ถึงจะเหนื่อยล้า  แต่ทุกครั้งกับสิ่งที่หวังไว้ในอนาคตเบื้องหน้ามันทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมีมากโข

    ท้องฟ้ายามราตรีของเมืองหลวงไร้ซึ่งดาวเดือน  แสงไฟจ้าจากท้องถนนกับเมืองที่ไม่เคยหลับใหลเป็นตัวเสริมชั้นดี  ยามนี้หากว่าอยู่ที่บ้านเกิดไม่พ้นแสงดาวคงระยิบระยับเต็มฟ้าไปหมด  เมื่อครั้งยังเด็กเธอมักถามยายว่า ‘ยายจ๋า ที่บ้านของจ๋อมแจ๋มมีดาวอย่างบ้านหนูไหมคะ?’  จ๋อมแจ๋มคือเพื่อนเล่นของเธอในวัยเยาว์ อยู่ถัดไปไม่กี่หลังคาเรือน

    ยายผู้ใจดียิ้มจนน้ำหมากกระเซ็น เอามืออันเหี่ยวย่นลูบหัวเธอแล้วบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูว่า ‘ที่ไหนๆ มันก็มีดาวทั้งนั้นแหละยัยหนู’   เธออมยิ้มทุกครั้งที่คิดถึงมัน และตอนนี้เธอคงค้านคำของยายผู้ล่วงลับเมื่อหลายปีก่อนได้  

    อีกนิดเดียวจะถึงห้องพักเสียที สำหรับวันที่ยาวนาน เธอเดินคิดฝันไปพร้อมกับครอบครัวที่อบอุ่น  

    หญิงสาวเดินจ้ำผ่านร้านรวงหน้าปากซอยเห็นผู้คนยังคงแน่นร้าน  ต่างใจจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรทัศน์  เสียงเฮจากบรรดาพวกเชียร์ฟุตบอลโลกยังคงดังไล่ลังเข้ามาในซอยเปลี่ยวให้พออุ่นใจ  

    ทันใดนั้น...แสงจ้าหน้ารถจากเบื้องหน้าพุ่งมาหาเธออย่างรวดเร็วเกินกว่าจะตั้งตัว  อะไรก็ไม่รู้มาปะทะร่างจนกระเด็นตามมันไป หน้าครูดไปบนพื้นถนน  รู้สึกเจ็บแปลบตรงโคนขา หน้าชา  ได้ยินเสียงเอะอะดังมาแต่ไกล  รู้สึกเหมือนมีใครมาดึงกระเป๋าเธอไป  พยายามรั้งเอาไว้ แต่ไม่มีแรง แม้แต่คำพูดก็เปล่งออกมาไม่ได้  

    เธอตาลาย เห็นดาวพร่างพรายเต็มท้องฟ้า แล้วสติก็ดับวูบตรงนั้น  


    ตรงป้ายรถเมล์เก่าคร่ำคร่าในยามเที่ยงยังคงคับคั่งด้วยผู้คน  หญิงสาวคนหนึ่งนั่งตัวลีบตรงม้านั่ง รู้สึกชาชินแล้วกับสายตาที่มองมายังเธอ เมื่อสามเดือนก่อนเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น เธอยิ้มขื่นกับโชคชะตา  หากว่าชีวิตเปรียบดังนิยายสักเรื่อง ตอนนี้คงมาถึงบทโศกขอตัวละคร  คงมีเธอเล่นเป็นตัวดำเนินเรื่องเคล้าด้วยรอยน้ำตา  

    หากไม่จำเป็นเธอคงไม่มา ตอนนี้เธอกำลังนั่งรอเวลา รอเพื่อพิสูจน์ความจริงที่แสนจะเจ็บปวด

    อุบัติเหตุคราวนั้นดับสลายความฝันราวกับโดนกลั่นแกล้ง  เธอเคยพอใจกับรูปโฉมของตัวเอง หากบัดนี้ส่องกระจกทีไรก็เห็นแผลเป็นเหมือนแม่มดหรือปิศาจที่สิงห์สู่  ซ้ำร้ายเธอกลายเป็นคนพิการสังเวยให้กับนักพนันคนหนึ่ง เพียงเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้    

    ครอบครัว เธอ เขา และลูกน้อย บ้าน  รถ ที่เคยหวังกลายเป็นเพียงภาพฝัน  แต่สิ่งที่เธอเจ็บปวดที่สุดคือ ‘เขา’  ความห่างเหินของชายอันเป็นที่รักนับวันจะห่างเหินขึ้นเรื่อยๆ   หลังจากเธอออกโรงพยาบาลมาฟักฟื้นที่บ้านได้ไม่นาน เขาก็เปลี่ยนไป

    คราบน้ำตาในวันนั้นยังคงเปียกชื้นทุกครั้งเมื่อหวนคิดถึง “เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก” เขาว่า

    “ทำไมคะ ?” เธอสะอื้น  ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ “เพราะฉันหน้าตาอัปลักษณ์ใช่ไหม คุณถึงได้ทิ้งฉันไป” อดไม่ได้ที่ต้องถาม

    เธอและเขาโต้เถียงกันรุนแรงเป็นครั้งแรกและคงครั้งเดียวตั้งแต่คบกันมา  แล้วไม่นานเขาก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่เคยแสนหวาน  คำพร่ำรักในวันที่เธอเป็นของเขาคงเป็นเพียงลมปากของผู้ชายคนหนึ่งให้ฟังไพเราะเสนาะหู  ไม่มีแล้วประโยคที่ว่า ‘เธอยังคงสวยงามในใจเขาเสมอ’

    หญิงสาวนั่งละเลียดความหลังแล้วพาน้ำตาไหลซึม  ภาพที่เธอและเขาเดินจูงมือไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันคงไม่หวนคืนมาอีกแล้ว  ใครจะกล้าเดินควง ‘ยัยหน้าผี’ อย่างเด็กในซอยมักล้อเธอเป็นที่สนุกสนาน  เพราะตอนนี้มีสาวสวยคนใหม่หน้าตาจิ้มลิ้มมาแทนที่เธอ อย่างที่เพื่อนส่งข่าวมาบอกจริงๆ  

    ถึงจะยอมรับความจริงมาบ้างแล้วก่อนออกจากบ้าน หากพอมาเห็นจริงกับภาพตำตาก็ยากจะทำใจ  โอ...อนิจจา เขาเพียงแค่หลงเงารูปลักษณ์ภายนอกเสมือนมายาในสังคมเท่านั้น  แม้แต่ดอกเฟื้องฟ้าข้างตึกก็ถึงวันเหี่ยวเฉา  

    หญิงสาวลุกขึ้นเดินกะเผลกหนีจากภาพนั้นมาด้วยดวงตาพร่ามัวเหม่อลอย  มาถึงแยกไฟแดงการจราจรยังคับคั่ง แดง เหลือง เขียว

    เอี๊ยดดดดด!!!!....

    +++++++++

    เจอกันใหม่เรื่องหน้าครับ แต่คงอีกนานเลยครับ zax

    ขอบคุณทุกท่านจากใจอนงค์นางครับ

    แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 49 15:48:01

    จากคุณ : อนงค์นาง - [ 9 ก.ค. 49 15:42:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com