Past 1 บทที่ 2
คืนนั้นผมโทรหาเธอ เธอยังเหมือนเดิม ยังร่าเริง หัวเราะง่าย แล้วไงล่ะ ผมกลัวเกินไปรึเปล่า เธออาจไม่ได้เป็นอย่างที่ผมกลัวก็ได้ นั่นละ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ หลังจากนั้นผมก็โทรคุยกับเธอ ว่างๆก็ชวนเธอไปกินข้าวกันไปดูหนัง และที่สำคัญเราต้องทำกิจกรรมของมหาลัยร่วมกันด้วย แต่ที่ผมไม่รู้ก็คือ เธอไม่เหมือนเดิมแล้วในใจ เธอเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งมาก ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไรไว้ข้างในบ้าง เรายังคุยกันเหมือนเดิม โดยบอกทุกคนที่ทักเวลาเจอเราเดินด้วยกัน ว่าเราเป็นเพื่อนกันเธอเองก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเหมือนเธอยอมรับทุกอย่างที่เป็นอยู่ จนกระทั่ง.....
วันสอบวันสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาของผม คืนก่อนหน้า เราคุยกัน เธอบอกว่ามีเรื่องจะคุย เดี๋ยวสอบเสร็จเร็วแล้วไปหาอะไรกินกัน เธอบอกว่าเธอไม่กวนผมนานหรอกเพราะรู้ว่าผมต้องไปฉลองกับพวกเพื่อนๆอยู่แล้ว ผมตกลง เราเจอกันตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง ผมตัดสินใจพาเธอไปกินอาหารในร้านที่ดูดีหน่อยในห้างแถวมหาลัย เรานั่งกินกันไปคุยกันไปถึงเรื่องจิปาถะ จนกินเสร็จเธอก็เงียบ ผมมองหน้าเธอว่ามีอะไรจะพูดรึเปล่า....เธอเริ่ม
คือ...เค้า...คิดว่า...ควรบอกให้พี่รู้..เพราะเราคงไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยๆเหมือนเดิมอีก...แล้วจริงๆที่เค้าคิดไว้ก็คือไม่อยากบอก...เพราะมันคงทำให้เราคุยกันแบบเดิมไม่ได้อีกเหมือนกัน..แต่เค้าอยากบอก..เพราะคิดว่ามันนานเกินไปแล้วที่เค้าจะเก็บมันไว้...เค้าไม่ได้ต้องการอะไรไรนะก็แค่อยากบอกเท่านั้นเอง...
ชันน์.... ผมขัดเธอ เพราะเธอเอาแต่จ้องจานข้าว แล้วก็พูดวนไปวนมา ไม่ถึงสิ่งที่จะบอกสักที ผมเลิกคิ้ว มองหน้าเธอ เห็นเธอกัดริมฝีปากเหมือนพยายามที่จะพูดสิ่งที่ยากเย็นเหลือเกินออกมา แล้วเธอก็พูด พูดสิ่งที่ผมกลัวมาตลอด
เค้า...รักพี่นะ
ชันน์!! ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเองเลยว่าตอบอะไร สงสัยว่าจะไม่ได้ตอบ เพราะเธอเองก็นิ่งไปเหมือนรอให้ผมตอบ....แต่ผมจะตอบอะไรเธอล่ะ ก็ในเมื่อผมไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเก็บทุกอย่างไว้มิดอย่างนี้
คือ....เรา..เอ่อ...นานแล้วล่ะชันน์ เรานัดเพื่อนไว้ งั้นเราไปกันดีกว่านะ นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมตอบเธอ ผมเหลือบมองหน้าเธอดูเธอจะไม่ตกใจกับปฏิกิริยาของผมเท่าไหร่ ผมว่าเธอคงเตรียมใจมาแล้ว ผมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน แล้วทำเหมือนเธอไม่เคยพูดอะไรเลย เธอเองก็นิ่งเหมือนกัน เฮ้อ...ผมรู้สึกแย่อีกแล้ว.....
หลังจากนั้นผมคิดว่าผมควรห่างเธอเหมือนคราวที่แล้วอีก..ดีมั้ย? แต่...คุณรู้มั้ย...เธอไม่เปลี่ยนเลย เธอทำเหมือนเธอไม่เคยพูดสิ่งนั้นกับผม เธอยังทำเหมือนเดิม โทรหาผมบ้างถ้าผมไม่ว่างเธอจะบอกว่าว่างแล้วค่อยคุยดีกว่าแล้วจะรีบว่าง นั่นทำให้พอผมว่างก็ต้องโทรหาเธอ...เธอไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก........ช่วงนี้ผมต้องทำงาน เราเลยไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เราโทรคุยกันเสมอ เธอบอกว่าตอนนี้เธอลงเรียนซัมเมอร์อยู่ไม่ว่างเหมือนกัน ปลายปีผมจะรับพระราชทานปริญญาแล้ว เธอบอกว่าเธอจะมาอวยพรผมด้วย เธอบอกอีกว่าเธอจะต้องรับปีหน้าให้ได้ เพราะเธออยากเรียนจบเร็วๆ เธอบอกว่าเธอมีสิ่งที่ต้องทำอย่างนึง ผมถามเธอว่าอะไร เธอไม่ตอบบอกว่าถึงเวลาเดี๋ยวผมจะรู้เอง....ใช่แล้ว...แล้วผมก็ได้รู้.....
ปลายปีผมรับปริญญาแล้วเธอมาร่วมงาน เธอให้นาฬิกาผมเรือนนึงแต่...มันไม่เดิน ผมมองหน้าเธอหาคำตอบ...เธอบอกผมว่าเวลาของเธอกับผมหยุดลง ณ วันและเวลาที่ปรากฏในนาฬิกานั้น เธอบอกผมว่าลองนึกดูดีๆว่าวันนั้นมันวันอะไร แล้วเธอก็ลากลับ บอกผมว่าเธอมีเรียนต่อ...เธอยิ้มให้ผม...แล้วก็หันหลังเดินจากไป...จากนั้นไม่นาน ไอ้เดย์หลานรหัสผมเดินมา มันคุยให้พวกๆผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นฟังว่า
เออ...พี่ตี้ เมื่อกี้ผมเจอไอ้ชันน์ด้วย ผมว่ามันหลงทาง จะเรียกก็เรียกไม่ทัน สงสัยมันหาพี่ไม่เจอ ร้องไห้ใหญ่เลย อึ้งครับ ไม่ใช่แค่ผมแต่ทุกคนยกเว้น ไอ้เดย์ อึ้งหมด....ผมทำอะไรผิดเนี่ย!!!
.....หลังจากนั้นเพื่อนผมก็คาดคั้นใหญ่ว่าให้ผมนึกถึงวัน เวลาที่หยุด ในนาฬิกานั้นทันที โธ่ ! ใครจะไปจำได้ตั้งเกือบปีนะ...ผมนั่งนับวัน เพราะเพื่อนๆผมมันนั่งเฝ้าตลอดเลย...จนกระทั่ง...
นึกออกแล้วสิมรึง...ไอ้ตี้ มันถามผมเพราะเห็นผมเลิกคิ้วขึ้นเหมือนนึกอะไรได้....ใช่ผมนึกออกแล้ว แต่จะให้ผมพูดได้ไงว่าวันนั้นคือ....วันที่เธอบอกรักผม...วันที่เราสอบเสร็จวันสุดท้าย
ว่าไงไอ้ตี้...มรึงทำอะไรไอ้ชันน์มันฮะ วันนั้น
เฮ้ย!กรูไม่ได้ทำ...ก็แค่....
แค่ไรของมรึงฮะ?
อืม...ไม่มีไร เออ...เดี๋ยวกรูเคลียร์เอง
แน่นะมรึง...อย่าทำไอ้ชันน์มันร้องไห้อีกนะมรึง...กรูสงสารมันว่ะ เห็นมันมานานแล้ว...เออ..กรูถามหน่อย มรึงกลัวไรวะฮะ แค่เริ่มต้นใหม่เนี่ย
เออน่า...มรึงไม่เข้าใจกรูหรอก ใช่มันไม่เข้าใจผมหรอก เพราะผมเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย
จากคุณ :
nongming55
- [
วันอาสาฬหบูชา 11:59:09
]