CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ลา

    ลมพัดมาทำให้พื้นน้ำที่เรียบสงบเกิดมีเกลียวคลื่นเล็กๆขึ้นมา  มนทิราเหม่อมองเกลียวคลื่นที่กำลังเล่นลมเหล่านั้น  สายลมค่อยๆพัดผ่านใบหน้าขาวนวลของเธอไป  ดวงตากลมของเธอที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายอยู่ในนั้น   วันนี้ครบร้อยวันพอดีที่เธอมานั่งรอใครบางคนอยู่ที่ตรงนี้  ซึ่งที่ตรงนี้เธอกับเข้าได้วาดฝันกันเอาไว้  และที่ตรงนี้ที่ทั้งสองได้สัญญากันว่าจะมาพบกัน

     

    แววตาของมนทิราดูเศร้าสร้อยเพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมารอเขา  พรุ่งนี้เธอจะไม่มารอเขาอีกเธอรู้สึกว่าเธอรอเขามานานแล้ว  มนทิราหลับตาลงแล้วค่อยปล่อยใจให้สัมผัสกับความทรงจำเก่าๆกับที่แห่งนี้   ปล่อยอารมณ์ไปกับท่วงทำนองของความรู้สึกดีๆ



    “มลครับ  มารอนานหรือยัง”  มนทิรายิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น  หันมามองทางต้นเสียง  เขากำลังเดินตรงมาหา

     

    “นี่ครับ”  มนทิรามองช่อดอกกุหลาบที่เวคินยื่นให้กับเธอ   ซึ่งเธอรับไว้อย่างเต็มใจ



    “ขอบคุณค่ะเว  สวยจังที่มาช้าเพราะไปหาซื้อดอกไม้เหรอคะ”  มนทิรามองดอกกุหลาบช่อนั้น  และบรรจงวางไว้บนตักของเธอ



    “เปล่าครับ  พอดีติดงานที่ออฟฟิสมาปัญหานิดหน่อย”   มนทิราชำเรืองมองหน้าเวคินด้วยหางตา



    “เลยเอาดอกไม้มาด้วยเพื่อชดเชยเหรอคะ”  น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของมนทิรา  ทำให้เวคินเอามือมาลูบท้ายทอยตัวเองป้อยๆเหมือนเด็กที่กำลังถูกจับทางได้



    “มลไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ   เวอย่าคิดมาสิ”  เวคินยิ้มออกมาให้กับมนทิรา  เป็นรอยยิ้มที่เธอได้รับทุกครั้ง  และเธอก็รักรอยยิ้มนี้เหลือเกิน



    “แบบนี้เวต้องโดนทำโทษ  หลับตาก่อนสิคะ”  มนทิราค่อยๆหอมแก้มของเวคิน



    “นี่เป็นการลงโทษที่มาช้านะ”  เวคินหัวเราะร่วนมองมนทิราที่กำลังเขินอายอยู่



    “คราวหน้าเวจะมาช้ากว่านี้อีก  มลจะได้ทำโทษเวหลายๆที”  น้ำเสียงของเวคินที่มนทิราได้ยินต้อนนี้แล้วอยากจะหยิกเสียให้เนื้อหลุด



    “แน้   คนขี้โกง  ถ้าช้ากว่านี้จะไม่รอแล้วจ๊ะ  กลับไปนอนบ้านดีกว่า”  มนทิราค้อนเวคินเข้าให้



    “จริงเหรอ  มลจะไม่รอเวจริงๆเหรอ”  เวคินทำน้ำเสียงออดอ้อนจนมนทิรากลั้นเอาไว้ไม่ไหวต้องยิ้มออกมาอีก



    มนทิราแพ้เวคินเวลาอ้อนเธอแบบนี้   เวคินเข้ามาในชีวิตของมนทิราได้สองปีแล้วเป็นคนสม่ำเสมอไม่เคยขาด  เคยทำอะไรให้ก็ทำตลอดทุกเช้าเวคินจะโทรมาปลุกมนทิรา  และมารับไปทำงาน  กลางวันจะพามนทิราไปทานข้าวยกเว้นวันที่ติดประชุม  จะโทรบอกก่อนทุกครั้ง  ไม่ละลาบละล้วงกับมนทิราเลย  ทั้งๆที่มีโอกาส  เวคินทำงานที่เดียวกับมนทิรา  เจอกันตอนที่ไปอมรมเพราะบริษัทส่งไปเกาหลีพร้อมกันหลายเดือน  จึงสนิทกันตอนอยู่ที่เกาหลี  



    จำได้ว่าครั้งแรกที่พบกันไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่  เพราะเวคินเป็นคนขี้เล่นแต่มนทิราเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาเล่นหน้าเล่นตา  แต่สิ่งที่ทำให้มนทิรารักเวคินนั้นนอกจากรอยยิ้มแล้ว   ยังมีอีกอย่างที่เธอไม่เคยลืม  วันนั้นที่เกาหลีหิมะตก  มนทิราไม่เคยไปจึงไม่รู้ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวไปเลย  มนทิราใส่เสื้อบางๆเพื่อออกไปข้างนอกพอออกมายืนที่หน้าประตูเท่านั้นก็ถึงกับก้าวไม่ออก  แล้วเวคินก็เอาเสื้อโค้ตสองตัวมาคลุมให้เธอแล้วก็เดินหายไปทั้งๆที่ตัวเองไม่มีเสื้อคลุม  ตอนเย็นเวคินถึงกับจับไข้  มนทิราประทับใจในน้ำใจของเขาจึงมีเวคินเป็นเงาตั้งแต่นั้นมา



    “คนอะไรไม่รู้งอนแล้วน่ารัก”  



    “ถึงโดนแกล้งให้งอนบ่อยๆใช่ไหมล่ะ”  เวคินหัวเราะหึๆ  



    “ว้ารู้ทันซะแล้ว  ละเมื่อตะกี้งอนทำไมเหรอจ๊ะ”  



    “ก็มีคนบางคนบอกว่างอนแล้วน่ารัก  เลยงอนให้ดูซะเลย”  เวคินยิ้มอีกครั้งเป็นรอยยิ้มที่มนทิราไม่เคยเบื่อเลย



    “มล  อยากเห็นคนที่เวรักมากที่สุดไหม”  มนทิราหันมามองหน้าเวคินมองด้วยสายตาที่กำลังสงสัย  ว่าวันนี้จะมาไม้ไหนอีก



    “มองเข้ามานัยน์ตาเวสิ....เห็นอะไรไหม”  มนทิรามองตาของเวคิน  แล้วยิ้มออกมา



    “ขี้ตา...ก้อนใหญ่”  คำตอบของมนทิรา  ทำให้เวคินหุบยิ้มกุลีกุจอหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดตาทั้งสองข้าง  ยังไม่ย่อท้อต่อมุขนี้  พอเช็ดเสร็จก็ทำตาหวานๆอีกครั้ง



    “อ่ะมองใหม่คราวนี้เห็นอะไร”  



    “ก็เห็นตาดำกับตาขาว  ไม่เห็นมีใครเลย”  เวคินหุบยิ้มก้มหน้าลงกับคำตอบของมนทิรา  จนมนทิราหัวเราะร่วน



    “โอ๋ๆ   เห็นสิจ๊ะ  ก็เห็นมลอยู่ในนั้นไง”  เวคินมองมนทิราด้วยหน้าที่เหมือนเด็กที่กำลังจะโกรธก็ไม่ใช่จะดีใจก็ไม่เชิง



    “คนเค้าอุส่าบอกว่าคนที่อยู่ในแววตาเป็นคนที่เค้ารักที่สุด  โถ่หมดอารมณ์เลย”   มนทิราหัวเราะออกมาอีกกับใบหน้าที่เวคินกำลังปั้นตอนนี้



    “ยังจะมาหัวเราะอีก  งอนแล้ว”  มนทิราพยายามกลั้นเอาไว้



    “โอ๋ๆ  อย่างอนเลยนะ  มลล้อเล่นนิดเดียวเอง”  มนทิราอ้อนเวคินบ้าง



    “แบบนี้ต้องทำโทษ  หลับตาเลย”  เวคินทำหน้าตาขึงขัง  มนทิรายังขำอยู่แต่ก็หลับตาลงตามที่เวคินบอก



    มลรู้สึกว่าเวคินไปยุ่มย่ามกับนิ้วของเธอแทนที่จะหอมแก้มเหมือนเธอลงโทษเขา  แต่ก็ไม่กล้าลืมตามาดูจนกว่าเวคินจะบอก  เพราะมีกฎว่าห้ามลืมตาจนกว่าจะเสร็จ



    “ลืมตาสิจ๊ะมล”



    มนทิราค่อยๆลืมตาขึ้นมา  นิ้วนางข้างซ้ายของเธอตอนนี้มีแหวนวงหนึ่งสวมอยู่  มนทิราจ้องตาเวคินที่กำลังจ้องตาเธออยู่เหมือนกัน



    “แต่งานกับผมนทิราะมล”   มนทิรายิ้มออกมาไม่คิดว่าเข้าจะขอเธอแต่งงานมาก่อน



    “เวจะคอยดูแลมลเอง  จะไม่ทำให้มลร้องให้  จะทำให้มลมีความสุข”  



    มนทิราไม่พูดอะไร  ได้แต่เพียงยิ้มอย่างเป็นสุข



    “มลจะไม่ตอบเวหน่อยเหรอว่าจะตกลงไหม”



    มนทิราค่อยๆหอมแก้มเวคินเบาๆแทนคำตอบจากปากของเธอ  แล้วค่อยๆเอียงหัวซบลงตรงไหล่ของเวคิน  ไหล่ที่มนทิราซบทุกครั้งที่เธอเหนื่อยล้า  แต่วันนี้มนทิรารู้สึกว่ามันช่างอบอุ่นกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา  มนทิราหลับตาพริ้มที่ไหล่นั้น



    “มลมาอยู่ที่นี่เอง  ตามหาซะทั่วเลย  จะไปกันหรือยัง”



    มนทิราลืมตาขึ้น  มองรัชนีที่กำลังเดินมาหา   ในชุดสีดำ  



    “วันนี้ครบร้อยวันทำบุญให้เวคิน  เธอจะไปไหมมล”  หยดน้ำตาของมนทิราค่อยๆหลั่งออกมาคิดถึงคำสัญญาที่เวคินเคยบอกกับเธอ  รัชนีนั่งลงข้างๆมนทิรา  แล้วโอบเพื่อนเอาไว้  ด้วยรู้ดีว่าตอนนี้มนทิรารู้สึกอย่างไร  มนทิรามานั่งตรงนี้ทุกๆวันตั้งแต่เวคินประสพอุบัติเหตุทางเครื่องบินเพื่อเดินทางไปต่างประเทศจนถึงวันนี้วันที่หนึ่งร้อยหลังจากเครื่องบินตก  รัชนีก็จนปัญญาที่จะช่วยเพื่อนของเธอเหมือนกัน  ได้แต่คอยดูอยู่ห่างๆปล่อยให้เวลารักษามนทิราไปเรื่อยๆจนกว่าสักวันหนึ่งวันที่มนทิราจะตื่นจากฝันร้ายครั้งนี้



    “ไปกันหรือยังนี”  มนทิราเช็ดน้ำตาออกแล้วถามเพื่อนที่กำลังกอดเธอเอาไว้



    นีค่อยๆประคองมนทิราลุกขึ้นแล้วเดินไปจากที่ตรงนั้น



    ...ลาก่อนนะเว  วันนี้คุณคงจากฉันไปชั่วนิรันดร...

    จากคุณ : ลายหมึก - [ วันเข้าพรรษา 15:19:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com