สายลมนำพาความรัก...มาพบพาน...มาผูกพัน...กระชับมั่น...ด้วยสายธารแห่งกาลเวลา
ภายในห้องมีเพียงเสียงเพลงดังอย่างแผ่วเบา ในวันนี้ฉันต้องอยู่คนเดียวเพราะนีรชาพี่สาวฝาแฝดไปภูกระดึงเพื่อทำใจกับข่าวการแต่งงานระหว่างพาแก้วกับธันยธรณ์ เพื่อนสนิทที่รชาหลงรัก ฉันเองก็อยากไปด้วยแต่รชาขอไว้ ทำให้มีเวลาพอจะทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเคยสะกิดใจมาหลายครั้งแต่ไม่กล้าพอที่จะค้นหาคำตอบ ฉันคิดไปคิดมาอยู่หลายตลบก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขที่ต้องการทันทีเพราะกลัวตัวเองจะเปลี่ยนใจ
สวัสดีจ้า สายลมแห่งความคิดถึงสายไหน ที่ช่วยพัดและดลใจให้สาวน้อยฌัชฌมนท์ โทร.หาหนูเล็กได้
เสียงใสๆ พร้อมคำทักตามแบบฉบับของหนูเล็กเริ่มขึ้นหลังจากปล่อยให้ฉันฟังเสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง
ทำไมจ๊ะ มนท์โทร.หาหนูเล็กไม่ได้หรือ
ได้จ้า ได้ทุกเวลาเลย แหม...อย่างงอนสิ แค่แซวเล่นนิดเดียวเองเสียงออดอ้อนดังมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นึกภาพได้ว่าคนพูดกำลังทำหน้าตาแบบไหนอยู่
หนูเล็กจ๊ะ ช่วงนี้งานที่ร้านยุ่งมากไหม
ไม่นี่นา มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า
คืองี้นะ ถ้าพรุ่งนี้มนท์ขอไปบ้านหนูเล็ก
ฉันกลั้นใจรอคำตอบของเพื่อน เพราะถึงแม้เราจะสนิทกันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ฉันทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนหนูเล็กกลับไปดูแลกิจการเล็กๆ ของครอบครัวที่จังหวัดบ้านเกิด
ไหนบอกใหม่อีกทีสิ หนูเล็กกลัวว่าตัวเองหูฝาดไปน่ะ
เอ่อ...มนท์ถามว่าขอไปเที่ยวบ้านหนูเล็ก พอดีช่วงนี้พอจะมีเวลาว่าง
เย้ๆๆ
ทำไมจะไม่ได้ เกือบปีแล้วสิ หลังจบเราเจอกันนับครั้งได้เลย รู้รึเปล่าหนูเล็กดีใจแค่ไหนชวนกี่ทีก็ไม่มา แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่ามาแล้วห้ามบ่นไม่มีที่เที่ยว เพราะจังหวัดนี้เล็กนิดเดียวเสียงใสร่ายยาวมาเป็นชุด
จ้า ก็แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากกรุงเทพฯ บ้าง มนท์ไม่ได้ไปรบกวนแน่นะ
โอ๊ย...ไม่เลยสักนิด ดีเสียอีกหนูเล็กจะได้มีเพื่อน วันๆ เห็นคนอยู่ไม่กี่คนเบื่อจะตายอยู่แล้วพร้อมกับเสียงทุ้มนุ่มที่แทรกเข้ามา
ใครเบื่อพี่ หึหน้าตาเป็นไง นินทาอะไร พี่ได้ยินนะ
พี่รองนิสัยไม่ดี มาแอบฟังเค้าคุยโทรศัพท์
เพิ่งรู้นะ..ว่าแบบนี้เค้าเรียกว่าแอบฟัง เอ...ไม่ใช่มั้งเสียงคุยลั่นบ้านขนาดนี้ สี่ขาข้างล่างยังได้ยินเลย
พี่รองจะไปไหนก็ไปไม่ต้องมากวนเลย หนูเล็กจะคุยกับเพื่อน... ไปสิยืนอยู่ได้เสียงที่ได้ยินทำให้อดนึกถึงรชาไม่ได้ ถ้าวันนี้รชาอยู่บ้าน ฉันคงจะเล่าเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมาให้ฟัง...
มนท์จะมายังไง
ขับรถไปเอง แล้วจะโทร.ถามทางเป็นระยะจ้ะ
ได้สิ ไม่มีปัญหา รชามาด้วยไหม
ไม่จ้ะรชาไม่อยู่ มนท์ก็เลยจะไปหาหนูเล็กไง
หลังจากนั้นเราคุยกันเรื่องเส้นทางและกำหนดเวลาออกเดินทางต่ออีกครู่ใหญ่ ก่อนขอตัวมาจัดเตรียมกระเป๋าและของบางอย่างเพื่อการเดินทางในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้นฉันออกเดินทางแต่เช้าโดยเลือกใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯมุ่งสู่อยุธยา ตลอดทางฉันคิดถึงเรื่องราวบางอย่างที่ค้างคาในใจ เรื่องที่มีส่วนผลักดันให้ต้องเดินทางในครั้งนี้นอกเหนือจากการไปเยี่ยมหนูเล็ก ระหว่างทางฉันแวะส่งจดหมายโดยใช้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ถ้าจดหมายไปถึงเรื่องราวคงกระจ่างเสียที
เมื่อแวะเติมน้ำมันรถก็อดไม่ได้ที่จะเข้าร้านมินิมาร์ทเพื่อเลือกซื้อขนมเปี๊ยะติดมือไปด้วย ก่อนเดินทางต่อโดยเลือกใช้เส้นทาง สายตากฟ้า เขาทราย เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางสายเอเชีย จนถึงแยกที่ต้องการจึงชะลอรถเข้าข้างทางเพื่อโทรศัพท์หาหนูเล็ก
หวัดดีจ้า ถึงไหนแล้ว
ตอนนี้มนท์เลี้ยวจากแยกมาราวๆ 15 กิโลน่ะ
อืม งั้นขับตรงมาอีกสัก 3 กิโล สังเกตทางขวามือ แยกที่ต้องเลี้ยวจะมีร้านขายเครื่องเรือนจำพวกไม้ มีแยกเดียวแหละ
เห็นแล้ว ด้านขวามือข้างหน้าเห็นมีพวกเก้าอี้ไม้วางขาย
ใช่แล้วเลี้ยวขวามาเลยนะ ตามถนนข้างๆ ร้านนั่นแหละฉันเปิดไฟเลี้ยวขวาก่อนหมุนพวงมาลัยไปทางนั้น
เลี้ยวมาแล้วจ้า
งั้นคราวนี้ขับช้าๆ ตรงมา แล้วมองทางซ้ายมือนะ เดี๋ยวหนูเล็กจะวิ่งออกไปรออยู่หน้าบ้าน
ฉันขับรถไปเรื่อยๆจนเห็นหนูเล็กมายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างทาง จึงเลี้ยวรถเข้าไปผ่านประตูรั้วที่เปิดรอไว้ หนูเล็กปราดเข้ามาทักทายแล้วชวนเข้าบ้าน แต่ไม่ลืมที่จะเอื้อมมือมารับถุงขนมเปี๊ยะของฝากติดไปด้วย
ไปๆ ขึ้นบ้านกันดีกว่า ขณะเดินขึ้นบันไดบ้าน หนูเล็กเล่าคร่าวๆ ถึงสมาชิกหลักของบ้าน ได้แก่คุณอา หนูเล็ก พี่รอง ป้าสมใจและลุงสมนึกคนเก่าแก่
ภาพใหญ่เด่นบนฝาผนังห้องโถงทำให้ฉันถึงกับชะงักฝีเท้าที่กำลังเดินกลายเป็นหยุดยืนมองอย่างชื่นชม แล้วอดถามไม่ได้
หนูเล็ก..ภาพนี้สวยจัง นกอะไรน่ะ แล้วถ่ายที่ไหนเหรอ
อ้อ .. ภาพยามเช้า เป็นภาพที่ฝูงนกเป็ดน้ำที่ถลาบินตัดกับแสงแดดยามเช้าและผืนน้ำ ภาพนี้ถ่ายที่บึงน้ำกลัดน่ะ
ใครถ่ายไว้ ฝีมือพี่รองใช่ไหม
ไม่ใช่หรอก เอ่อ...พี่ใหญ่เป็นคนถ่ายน่ะ
พี่ใหญ่...ใครหรือ ไม่เห็นหนูเล็กเคยพูดถึงฉันมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย
ตอนนี้เค้ายังไม่อยากพูดถึงขอโทษนะมนท์ คุยเรื่องอื่นได้ปะสีหน้าและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหนูเล็กทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าเซ้าซี้ถามต่อ จึงได้แต่เดินตามเพื่อนเอาของไปเก็บที่ห้อง
ก่อนรับประทานอาหารเย็นฉันได้พบกับพี่รองอีกครั้งหลังไม่ได้พบนานมากแล้ว เราช่วยกันวางแผนคร่าวๆ ว่าวันพรุ่งนี้จะไปเที่ยวที่ไหน หนูเล็กได้ถามข่าวคราวของเพื่อนที่ช่วงหลังบางส่วนขาดการติดต่อกันไป เพราะบางคนไปทำงานไกลหรือบางคนมีครอบครัวไปแล้ว
เราย้ายจากห้องรับประทานอาหารมานั่งดูรายการโทรทัศน์ในห้องโถง หนูเล็กเริ่มเล่าประวัติของเมืองพิจิตรให้ฟัง โดยที่มีพี่รองนั่งทำงานอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ฉันเห็นเขาเหลือบมองพวกเราที่คุยกันอยู่เป็นระยะๆ แต่ไม่มาร่วมวงด้วย ช่วงหนึ่งหนูเล็กเริ่มท่องคำขวัญประจำจังหวัด
ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน
เอ่อ.. หนูเล็กจะไปประกวดท่องคำขวัญที่ไหนหรือคำตอบที่ได้มากลายเป็นหมอนอิงที่ถูกโยนใส่ จากนั้นสงครามหมอนขนาดย่อมก็เริ่มขึ้น
โอ๊ย...พอเหอะหนูเล็ก ไม่ไหวแล้ว
ก็ใครก่อกวนก่อนล่ะ คนเขาท่องให้ฟังยังมาแซวอีก
แหม...อย่างอนน่า ไม่ได้เล่นงี้มานานเล่นซะหอบเลย
งั้นถามอีกนิดนะ หนูเล็กรู้ปะว่าชื่อจังหวัดมีความหมายว่าไง สงสัยไม่รู้แหะ เงียบยังงี้
เชอะใครไม่รู้ หนูเล็กซะอย่างเรื่องแค่นี้พลางทำเสียงขึ้นจมูกก่อนตอบว่า พิจิตร มีความหมายว่า เมืองงาม หนูเล็กหันมายักคิ้วให้
งั้นถามต่อ เมืองโอฆะบุรีกับเมืองสระหลวง คือเมืองอะไร
ยัยมนท์...หล่อนรู้คำตอบหมดแล้วนี่ มาแกล้งถามเค้าทำไม
แหม..มนท์รู้นิดหน่อยเองเคยมีเพื่อนคนนึงบอกมาจ้ะแต่จำไม่ค่อยได้แล้ว หนูเล็กเล่าหน่อยนะ
อืมม..ก็ได้ พิจิตรเคยถูกเรียกขานมาหลายชื่อ ในสมัยสุโขทัยเราจะเรียกว่าเมืองสระหลวง แต่มาในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็คือ เมืองโอฆบุรี ที่หมายถึง เมืองในท้องน้ำ
ถ้างั้นที่มนท์เคยอ่านเจอว่ามีเมืองพิจิตรเก่ากับเมืองพิจิตรใหม่ มันเป็นยังไงจ๊ะ
อ๋อ..เมืองพิจิตรใหม่ก็คือเมืองที่ย้ายมามาตั้งที่บ้านคลองเรียง ในสมัยร.5 หลังจากที่ทรงให้ขุดคลองเรียงขึ้นเพราะแม่น้ำน่านสายเดิมตื้นเขิน คลองเรียงจึงกลายเป็นแม่น้ำน่าน แล้วก็คือเมืองพิจิตรในปัจจุบัน
ส่วนเมืองพิจิตรเก่าก็คือบริเวณที่แม่น้ำน่านสายเดิมไหลผ่าน ปัจจุบันก็คืออุทยานเมืองเก่า เป็นไงหนูเล็กเก่งเปล่าแล้วพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวถ้ามนท์ทำตัวน่ารักๆหนูเล็กหัวเราะเสียงใสทำให้อดที่จะหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่ามีคนมองอยู่ พอหันไปก็เห็นพี่รองหันกลับไปสนใจหนังสือในมือต่อเหมือนกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้มองมาเลย
จ้า เก่งมากจ้ะ แต่ตอนนี้ไปนอนก่อนได้ปะ มนท์ง่วงแล้ว
ก็ดีเหมือนกันหนูเล็กหันไปทางพี่รองพลางบอกว่างั้นพวกเราไปนอนก่อนนะพี่รอง
อืมม..ไปเถอะ ตอนแรกพี่นึกว่าเราจะนั่งคุยกันจนถึงเช้า...หนูเล็กคว้าหมอนโยนใส่พี่รองทันทีที่เขาพูดจบ ฉันต้องรีบดึงหนูเล็กเข้าห้องนอนก่อนที่สงครามหมอนครั้งใหม่จะเริ่มขึ้น
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 49 21:48:41
จากคุณ :
AmeliaM
- [
12 ก.ค. 49 21:47:22
]