CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เวียดนาม...เพราะฝันถึง จึงไปหา (ตอนที่ 9)

    บันทึกส่งท้าย


    ถ้าว่าการจราจรในฮานอยนรกแตกมากแล้ว ขอบอกว่าเสียงอันเกิดจากแตรรถแต่ละคันนั้นร้ายกาจยิ่งกว่าหลายเท่า บนท้องถนน หากไม่ไปยุ่งกับมัน ไม่ได้คิดเดินข้าม ไม่ขับขี่พาหนะ ก็จะไม่ส่งผลอะไรเท่าใดกับชีวิตนัก แต่กับเสียงแล้ว แม้ยังนอนอยู่ในห้องปิดมิดชิด หรืออยู่ลึกเข้าไปในตรอกซอกซอย แต่เสียงแตรที่รถทุกคันตะบี้ตะบันบีบก็ยังสามารถตามมากรีดก้องอื้ออึงในโสตประสาทได้ทุกเมื่อ ความสงบเกิดขึ้นเฉพาะยามดึกจนกระทั่งฟ้าเริ่มสาง ท้องถนนว่างโล่ง รถวิ่งผ่านนาน ๆ คัน ทว่าถึงกระนั้นก็ยังอุตส่าห์บีบแตรแป๊น ๆ กันเป็นระยะ ๆ ทำเหมือนกับว่าเคยมือ ถ้าไม่ได้บีบแล้วคงเฉา  ผมอยู่ในฮานอย แม้อยากตื่นให้สายสักหน่อยก็ไม่สามารถทำได้ เพราะยังไม่ทันสว่างจัดดี บรรดารถมอเตอร์ไซคล์ของผู้คนจากทุกสารทิศก็เริ่มตะบึงออกจากบ้านวิ่งว่อนไปตามท้องถนน ทุกคันต้องบีบแตรไม่รู้เป็นอะไร สุดท้ายจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าลงไปเดินเล่นตามทาง ดูกับตาให้แน่ชัดไปเลยว่ามันอะไรของเขากันนัก

    วัฒนธรรมการขับขี่พาหนะในเวียดนามมีพื้นฐานมาจากจักรยานอย่างแท้จริง ในสมัยสงคราม ขณะที่อเมริกันใช้ยานหุ้มเกราะกับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทหารและยุทโธปกรณ์ แต่ทหารเวียดกงกลับใช้จักรยานบรรทุกจรวดลูกใหญ่ ๆ  ดินปืนกับบรรดาสรรพาวุธปั่นแต็ก ๆ ไปส่งแนวหน้าจนเอาชนะได้ในที่สุด  ย้อนหลังไปอีกหน่อยในยุทธภูมิเดียนเบียนฟู ใครเล่าจะคิดว่ากองกำลังชาวพื้นเมืองตัวเล็ก ๆ ล้าสมัยอย่างเวียดมินห์จะมีวิริยะอุตสาหะบากบั่นเคลื่อนกำลังพลและอาวุธหนักไปปิดล้อมฐานที่มั่นของฝรั่งเศสแล้วถล่มจนราบคาบ เป็นจุดเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์การพ่ายแพ้ของมหาอำนาจจอมอาณานิคมไปเลย  เมื่อสิ้นสงคราม ปริมาณจักรยานขยายเพิ่มอีกหลายเท่าตัวในการสร้างชาติสร้างเศรษฐกิจ ถนนทุกสายเต็มไปด้วยจักรยานกับผู้คนสวมงอบญวนหรือที่เรียกภาษาถิ่นว่า “โนน” อยู่บ้านเราไม่ค่อยได้เห็นจักรยานขนส่งอะไรได้มากนัก แต่ที่เวียดนาม เขาขนย้ายตู้ทั้งใบ ฟูกที่นอนหนา ๆ  พืชผักเป็นหลัวใหญ่ซ้อนกันสูงเลยหัวคนขี่ มีบางคนดัดแปลงรถจักรยานเป็นมินิมาร์ทเคลื่อนที่ ขายทั้งของหวานอาหารแห้งขนมนมเนยของเล่นของใช้จิปาถะ มีกระทั่งกระสอบใส่ยกทรงกางเกงในอัดกันแน่นห้อยขนาบล้อด้านหลัง ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกด้านหน้าจะขายล็อตเตอรี่เสียด้วย เอากับเขาซี  แต่ที่ผมชอบมากที่สุดคงเป็นจักรยานแม่ค้าดอกไม้ ดงดอกไม้ขายส่งที่ผมมีโอกาสได้ไปเห็นอยู่เลยออกมานอกเมืองฮานอยเล็กน้อย เขาขายกันยิ่งกว่าปากคลองตลาด มองเห็นเป็นลานสีสดสวยกว้างไกล จะมีแม่ค้าปลีกปั่นจักรยานมารับซื้อเนืองแน่น บรรทุกไว้ทั้งตะกร้าหน้ารถหลังรถแถมยังห้อยเอาไว้พะรุงพะรังสารพัดจะจัดหาที่แขวน รถแบบนี้ขี่ไปไหนก็มีแต่คนมอง ทว่าคนมองคงมีเพียงชาวต่างชาติเพราะชาวเวียดนามเองนั้นเห็นเป็นของคุ้นตา

    เมื่อจักรยานเข้ามามีบทบาท ถนนทุกสายจึงถูกก่อสร้างโดยยึดเอาความต้องการของคนใช้จักรยานเป็นหลัก พอเศรษฐกิจดีขึ้น มอเตอร์ไซคล์จึงได้ก้าวเข้ามาเคียงข้างและขยายจำนวนเพิ่มอย่างรวดเร็ว รถยนต์ยังคงมีน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ส่วนตัวยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่  ไปทางไหนหากไม่ใช่รถบรรทุกเล็กก็เป็นรถแท็กซี่อะไรพวกนั้นไปเสียหมด  กฏระเบียบของการจราจรชาวเวียดนามไม่เคร่งครัดนัก เน้นไปในทางตามอำเภอใจ แต่ไม่ใช่จะเลวร้ายเสียทีเดียว ที่ยอมรับกันยากลำบากหน่อยคงเห็นจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมการบีบแตรนี้แหละ ไม่ว่ากี่คนไปเวียดนามก็เห็นบ่นกันแทบทุกราย  


    ...

     
     

    จากคุณ : อันโตนิโอ - [ 16 ก.ค. 49 00:30:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com