Midnight My Love part 1
ในคืนที่แสงจันทร์สว่างไสว เรไรร้องดังคลอเคลียกับเสียงสายลมจากทะเล ช่วยให้ค่ำคืนสุดท้ายที่เกาะพงันไม่เงียบเหงาเกินไปนัก ผมนั่งในชายคาบ้านกลางสวน ละสายตาจากหนังสือในมือ เหม่อมองหาที่มาของเสียงเรไรบนยอดมะพร้าวซึ่งกำลังสั่นไหว ผมตั้งใจฟังเสียงใบไม้เสียดสีด้วยแรงลมเอื่อย เสียงแมลงเล็กๆที่ช่วยกันร้องประสาน ไม่ทันคิดว่าภาพเหตุการณ์มากมายจะปรากฏขึ้นที่นั่น
แสงแดดยามเช้าทำให้ภาพที่มองเห็นมีสีสันสดใส ทางมะพร้าวทางหนึ่งกำลังถูกตัดหลุดจากต้นด้วยมือคู่เล็กๆ กลุ่มเด็กผู้ชายรอรับทางมะพร้าวนั้นอยู่ด้านล่าง และหนึ่งในนั้นมีผมรวมอยู่ด้วย ต่างคนต่างช่วยกันใช้มีดเหลาทางมะพร้าวให้กลายเป็นดาบตามแต่ละคนจะคิดสร้างสรรค์ขึ้น เมื่อทุกคนได้อาวุธสมใจจึงเริ่มใช้ทำสงครามเล็กๆกันอย่างสนุกสนาน นับเป็นความสุขแสนยิ่งใหญ่ของเด็กชายวัยสิบขวบ
ขณะที่สงครามของพวกเรากำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ที่ม้านั่งหน้าบ้านหลังหนึ่งเด็กผู้หญิงสามคนกำลังช่วยกันหั่นผัก สับหมูกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อนำมาทำแกงจืด หนึ่งในนั้นคือเมย์ เมย์เป็นเพื่อนหญิงที่สนิทกับผมตั้งแต่เด็ก เล่นโลดโผนด้วยกันมาตลอด จนกระทั่งช่วงนี้ที่ผมเริ่มรู้สึกว่าเธอเป็นผู้ใหญ่กว่าผมมากมายนัก
ด้วยความที่เมย์อายุมากกว่าผมสองปี เธอจึงมักจะเป็นฝ่ายสอนผมแทบจะทุกเรื่อง เธอชอบวาดรูปผู้หญิงใส่ชุดสวยๆมาอวดผมอยู่เสมอ ทุกคนต่างชมว่าเธอวาดรูปสวย แต่ผมเป็นคนเดียวที่ถามเธอว่าทำไมถึงไม่วาดรูปผู้ชายบ้าง แล้วก็ได้คำตอบ...เธอวาดรูปผู้ชายไม่เป็น ครั้งหนึ่งเธอวาดรูปเจ้าสาวในชุดแต่งงานถือดอกไม้ช่อสวยยืนอยู่เพียงลำพัง ผมเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกสงสารเจ้าสาว จึงอาสาวาดรูปเจ้าบ่าวให้มายืนเคียงข้าง ผมตั้งใจวาดสุดฝีมือ แต่ด้วยความสามารถของเด็กฝึกหัดทำให้เมื่อวาดเสร็จแล้วเจ้าบ่าวกลับตัวเตี้ยกว่าเจ้าสาว พอเมย์เห็นภาพนั้นเธออมยิ้มเล็กๆก่อนจะพูดว่า เจ้าบ่าวตัวเตี้ยกว่าเจ้าสาวอีก เหมือนเรากับจีเลยเนอะ ผมไม่มีแรงพูดตอบอะไรเธอ
ภาพรอยยิ้มของเมย์ในช่วงเวลานั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นรอยยิ้มเดียวกับที่ทำให้เขาหลงรักเธอ
ตั้งแต่วันที่ผมรู้สึกกับเมย์เปลี่ยนแปลงไปทำให้รู้สึกอึดอัดใจที่จะเข้าไปพูดคุยทักทาย รู้สึกหวั่นใจทุกครั้งที่ไปตะโกนเรียกเธอหน้าบ้าน ไม่กล้าสบตาเวลาที่นั่งคุยกันใกล้ๆ จนเธอเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจึงถามว่าผมเป็นอะไร ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอแล้วเหรอ ผมได้แต่ก้มหน้ากล้ำกลืนคำตอบเหล่านั้นไว้ในใจและพยายามทำตัวให้เหมือนเดิมที่สุด
วันเปิดเทอมใกล้เข้ามาทุกที เมย์ต้องกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อและเข้าเรียนชั้นมัธยมหนึ่งในโรงเรียนประจำ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆเริ่มเข้าใกล้ความรู้สึกของการจากลา...การบอกลาครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่อยากให้มันมาถึง
...ยากจะหยุดยั้งกาลเวลา ผมเห็นเมย์ยืนอยู่หน้าบ้านมีรถของพ่อเธอจอดอยู่พร้อมจะพาเธอจากไป เธอเดินมาเรียกผม แม่เปิดประตูให้เธอเข้ามาในบ้าน ผมนั่งเงียบ เธอจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน คำพูดที่เปี่ยมด้วยความหวังดีแบบที่พี่สาวคนหนึ่งมีต่อน้องชาย
จี...เจอกันอีกทีเราก็จะเป็นเด็กสาวอายุสิบสาม ส่วนจีจะเป็นเด็กผู้ชายอายุสิบเอ็ด ถึงตอนนั้นเราคงจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักมายจีก่อนหรือเดินเข้ามาหาจีในบ้านอย่างนี้ไม่ได้แล้ว มันคงไม่เหมาะสมน่ะ เข้าใจใช่มั้ย ดังนั้นถ้าวันปิดเทอมคราวหน้าเราได้มาที่นี่อีก จีต้องเป็นฝ่ายเข้ามาทักเราก่อน มาคุยกับเราก่อนนะ...มันเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษ
ผมได้แต่ก้มหน้าฟัง มองหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงพื้น เธอยื่นถุงกระดาษถุงหนึ่งมาให้แล้วเดินจากไปทิ้งให้ผมตกอยู่ในภวังค์
เสียงสตาร์ทรถเรียกให้ผมรู้สึกตัว เช็ดน้ำตาก่อนเดินออกไปหน้าบ้าน ผมสบตาเมย์ที่นั่งอยู่ในรถ เธอชี้มาที่ถุงกระดาษแล้วโบกมือลาพร้อมกับที่รถเริ่มแล่นออกไป แต่ผมไม่ได้โบกมือตอบ ผมรู้สึกว่าถุงกระดาษเล็กๆใบนั้นมันหนักเหลือเกิน หนักเกินกว่าจะยกมือโบกตอบเธอได้
ภาพนั้นยังคงชัดเจน ภาพที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งนอนกอดถุงกระดาษแล้วร้องไห้จนน้ำตาท่วมหมอน ร้องไห้จนกระทั่งหลับไป เขาตื่นขึ้นมาเปิดถุงกระดาษนั้นดูในวันรุ่งขึ้น ข้างในมีซองจดหมายหลายซอง กระดาษเขียนจดหมายเล่มหนา สแตมป์นับสิบดวง พร้อมกระดาษจดชื่อที่อยู่ของเมย์และโน้ตสั้นๆที่เขายังจำได้จนทุกวันนี้
หัดวาดรูปเจ้าบ่าวให้หล่อๆแล้วมาวาดด้วยกันอีกนะ.....เมย์
ใบไม้หยุดสั่นไหวเมื่อไร้ซึ่งสายลม ผมเดินไปหยิบสมุดวาดรูปคู่ใจขึ้นมาวาดรูปชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวจนเสร็จเรียบร้อยเพื่อเป็นหลักฐานว่าวันนี้ผมคิดถึงเธอ เก็บสมุดใส่กระเป๋าเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯในวันรุ่งขึ้น ในขณะที่เตรียมตัวเข้านอนนั้น แสงสวยจากพระจันทร์ดวงกลมโตดึงดูดให้ผมเดินลงจากบ้านเพื่อจะได้มองจันทร์ให้เต็มตา เสียงเรไรเงียบลงแล้ว ทุกอย่างสงบนิ่ง แล้วสายลมอุ่นๆก็ผ่านมากระทบที่ใบหน้า เป็นสายลมเดียวกับที่เคยผ่านมาในฤดูร้อนครั้งนั้น.......สายลมที่พัดผ่านไปพร้อมกับรักแรกของเด็กชายคนหนึ่ง
แด่ เมย์ เด็กหญิงดรุณี อารีย์วานิชย์
จาก เด็กชายจิรเดช ทองสุข
ขอบคุณความรัก...ที่ช่วยขังเราสองคนไว้ในความทรงจำ
จากคุณ :
Midnight_Gee
- [
17 ก.ค. 49 18:41:40
]