********************************
สงวนลิขสิทธิ์
ห้ามทำการดัดแปลง คัดลอก ทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใด
รวมทั้งนำไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่อง เป็นลายลักษณ์อักษร
********************************
My LOve Story #1
สุดปลายฝัน รักแรกของผม (เรื่องสั้นเกย์ โดย แบทแมนน้อย)
พี่ครับ
ผมอยากจะบอกพี่ว่า...
แปดปีก่อน สมัยผมยังนุ่งกางเกงขาสั้น หัวเตียน ๆ เพราะต้องเรียนรด.ทุกวันพุธ ช่วงมัธยมปลายนั้น...ซึ่งเป็นครั้งแรกกับหัวใจของผมที่หวั่นไหวราวกับหลุดเข้าไปในมิติแห่งความฝัน...
ผมไปบ้านพี่ครั้งแรก เพราะว่าต้องไปบอร์ดกิจกรรมกับน้องของพี่เป็นเพื่อนของผมซึ่งเป็นหัวโจกของกลุ่ม ผมเห็นพี่ในชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตขาว เน็คไทสีเหลือง กำลังเดินขึ้นบันไดบ้าน โดยมีลูกน้องถืออุปกรณ์ติดตั้งสายอากาศเพื่อติดบนดาดฟ้าตามมาด้วย ผมประทับใจพี่ตั้งแต่แรกเห็น ผมเห็นบุคลิกที่สุภาพ ขรึม อบอุ่น ฉลาด และมีความเป็นผู้ใหญ่ ด้วยพี่อายุห่างจากผมเก้าปี จากวันนั้นผมก็รู้สึกว่าสักวันผมจะต้องเป็นแบบพี่ให้ได้ เพราะเพื่อนผมบอกว่าพี่เก่งมาก
คืนนั้นผมค้างบ้านเพื่อน ผมได้แต่แอบมองพี่ด้วยความชื่นชม จริง ๆ พี่ชายคนโตของพี่ก็เก่ง แต่ผมชอบพี่ ซึ่งเป็นคนที่มาดขรึม จนผมไม่เคยพูดกับพี่เกินสามคำ ครับ ป่าวครับ ไม่ทราบครับ แต่ได้แค่นั้นผมก็ดีใจมากเหลือเกิน
ผมกับเพื่อนทำงานกันจนดึกสองคน พี่ก็บอกน้องพี่ว่า ถ้าเสร็จงานแล้วให้พาผมไปกินเหล้าอีกฝั่งแม่น้ำ พี่รู้ไหมครับว่าผมกินเหล้าไม่เป็น แต่ผมอยากไปนั่งกับพี่มาก หากแต่เจ้าเพื่อนของผมนี่สิ แกล้งทำงานให้ไม่เสร็จซะที ผมก็เลยได้แต่ปล่อยให้ใจของผมข้ามแม่น้ำไปนั่งเป็นเพื่อนพี่ก่อน
พี่ครับ ทุก ๆ ครั้งที่ผมไปบ้านพี่ ผมได้แต่อธิษฐานว่าขอให้พี่กลับจากต่างประเทศและอยู่บ้านด้วย พี่เชื่อไหมครับ หลายครั้งมันฟลุคจริง ๆ ผมไปกี่ครั้งก็มักจะได้เจอพี่โดยบังเอิญ
วันหนึ่ง ผมรู้สึกเสียใจที่ไปบ้านพี่แล้วไม่เจอพี่ แต่คืนนั้นขณะที่ผมดูทีวีกับเพื่อน ก็ได้ยินเสียงกดกริ่งด้านล่าง เพื่อนผมก็ใช้ให้ผมไปเปิดประตู เมื่อบิดลูกบิดออก พี่ก็โผล่หน้าเข้ามา ผมตกใจและดีใจมาก แต่คำพูดที่หลุดไป ก็ได้แต่บอกว่า สวัสดีครับพี่ แล้วก็วิ่งขึ้นบ้านด้วยหัวใจที่เต้นกระดึ๊บ ๆ แถบจะกระเด้งออกมาจากอก ตอนนั้นผมไม่ได้ทักทายอะไรพี่สักคำ เพราะว่ามันพูดไม่ออกครับ แต่ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้เปิดประตูบ้านให้กับคนที่กลับจากงาน โดยคน ๆ นั้นคือคนที่ผมประทับใจ
บางทีดูทีวีกับพี่แค่สองคน ผมก็จะถามพี่ว่า ทำงานสนุกไหมพี่
พี่ก็จะตอบว่า ทำงานนะ ไม่ได้ไปเที่ยว
เวลาที่ค้างบ้านพี่ พี่เคยสังเกตไหมครับว่า ผมมักจะเอาเสื้อของบริษัทพี่มาใส่ทุกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เสื้อของพี่ชายคนโตพี่อีกบริษัทหนึ่งก็มีแต่ผมไม่เคยใส่
ครั้งหนึ่งผมทำเปิ่นอีกแล้ว เมื่อผมไปค้างบ้านพี่โดยคิดว่าพี่ยังไม่กลับจากต่างประเทศ ผมก็เลยถอดเสื้อผ้าโยนกองไว้บนเตียงเต็มไปหมด ด้วยคิดว่าห้องนี้เพื่อนใช้นอนตอนที่พี่ไม่อยู่ ปรากฏว่าพอผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็นุ่งผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องมาโดยไม่ได้เคาะประตู แล้วก็ตกใจอีกแล้วครับ พี่กำลังนอนเล่น โดยเลื่อนเสื้อผ้าผมและกางเกงในไว้อีกข้างหนึ่ง ผมได้แต่ยิ้มแหะ ๆ และสวัสดีให้พี่ พี่ก็ยิ้มแหะ ๆ ให้ผม แล้วผมก็หอบเสื้อผ้ามาใส่ข้างนอก
ทุกครั้งที่ผมไปบ้านเพื่อน ผมจะหาโอกาสที่เพื่อนผมเผลอ ๆ เปิดประตูห้องพี่เพื่อดูรูปภาพที่ตั้งโต๊ะของพี่ มันเป็นภาพเท่ ๆ ของพี่นั่นเอง ผมหลับตานึกถึงพี่ทุกครั้ง อธิษฐานให้ได้เจอพี่อีกเร็ว ๆ
ปีก่อนที่ผมจะเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา ผมไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่กับเพื่อน ๆ ที่บ้านพี่ พอเช้าขึ้นมา พี่ก็ชวนน้องพี่กับพี่ชายคนโตไปเชียงใหม่ เพื่อนผมก็ชวนผมซึ่งไม่ติดเสื้อผ้าอะไรมาเลยไปด้วย เพราะพี่ไปไงครับ ผมจึงไม่ลังเล แวะซื้อแค่ยาสีฟันอย่างเดียวเพียงสามสิบสามบาท และก็ใช้เสื้อผ้าของพี่นั่นแหล่ะ สามสิบสามบาทไปถึงเจียงใหม่เจ้า.... แล้วค่อยโทรบอกที่บ้าน (ฮา....)
แม้การเดินทางครั้งนั้นจะมีแฟนสาวสวยของพี่ไปด้วย แต่ผมไม่รู้สึกเสียใจเลยนะ พี่รู้ตัวป่าวว่าผมแอบมองพี่ที่กระจกหลังด้วยแหล่ะ แต่ก็ต้องเขินเมื่อพี่มองมาพอดี ผมเลยไหลตัวมานอนเล่นกับเพื่อนบนเบาะ
ขณะที่รถวิ่งผ่านตึกที่มีสัญลักษณ์บริษัทพี่ ผมนึกในใจว่าจะมีโอกาสได้ทำงานใกล้ ๆ พี่ไหมนะ
เมื่อถึงเชียงใหม่ ในโรงแรมที่เราพักนั้น ผมอาบน้ำนาน พี่ก็ตะโกนแซวว่า อาบน้ำนานจัง ออกมาได้แล้ว ผมเขินนะพี่ โกรธด้วย ฮ่ะ ๆ
ตอนกลางคืน เราเคาะกระป๋อง เล่นกีต้าร์กัน แม้อากาศจะเย็น แต่ผมมีความสุขและอุ่นใจมากครับ
พอนอน พี่ก็นอนเต้นท์กับแฟนพี่ แต่คืนที่สองนอนรวมกัน ผมก็ถือโอกาสนอนติดพี่ล่ะ ฮ่ะ ๆ
ตอนอยู่บ้านเพื่อน เพื่อนหยิบนามบัตรของพี่คนโตมาให้ผม แต่ผมแอบหยิบของพี่มาด้วย
เวลาผ่านไป ผมเรียนระดับอุดมศึกษาแล้ว และวันเกิดผมมาถึง ผมอยากให้พี่อวยพรวันเกิดให้ผม ผมจึงโทรไปหาพี่ แต่ก็ไม่กล้าคุย จึงวางสาย ....ผมเขินอ่ะพี่ เลยเมลไปแทน
รู้ไหมครับพอได้เมลตอบกลับ น้ำตาผมไหลเลย แต่ที่ไหนได้อ่ะพี่ พอเปิดอ่านเขาก็บอกว่า ผมส่งไปผิดอีเมล์ ให้ลองเช็คใหม่ว่ามีตัวอักษรชื่อเมลหล่นไปบ้างไหม เป็นอย่างที่เขาบอกครับ... ผมส่งไปผิดแอดเดรสอ่ะ (ฮ่ะ ๆ เสียน้ำตาฟรี) แต่ผมไม่ยอมแพ้ครับ ไปหาอันที่ถูกมาจนได้ ผมส่งไปใหม่ และพี่ก็ตอบกลับมาว่า ... Hi guy
Dont worry and dont be afraid ,Happy birthday to you สั้น ๆ แต่ทำให้ผมจำมันได้ดี ผมปริ้นและเก็บใส่กระเป๋าตังค์ไว้ตลอดเลยครับ
หลังจากนั้นผมก็เมลไปหวัดดีปีใหม่พี่แทบทุก ๆ ปี พี่ก็ตอบมาสั้น ๆ ว่า good, ok อะไรแนว ๆ นี้ จะมีลืมส่งไปหวัดดีปีใหม่บ้างก็ตอนที่ผมเจอคนอื่น ๆ เข้ามา แต่ผมก็ไม่ลืมพี่หรอกนะครับ ตอนที่ผมผิดหวังหรือคิดถึงใครจับหัวใจ พี่จะเป็นคนแรกที่ผมเรียกชื่อ
ผมมีเรื่องที่จะขอโทษพี่อีกเรื่องหนึ่งนะครับ พี่กลับจากต่างประเทศแล้วซื้อเชอร์รี่เชื่อมมาโหลใหญ่ ๆ เก็บไว้ในตู้เย็น แต่วันนั้นพี่ไม่อยู่และบังเอิญผมไปบ้านพี่พอดี เพื่อนมันหยิบมาให้กินแล้วบอกว่าพี่ซื้อมา ผมเลยเขมือบไปเกือบครึ่ง กินกับเพื่อนสนุกสนาน เพื่อนมันเอาลิ้นพันก้านให้เป็นปมได้ด้วย ผมกับเพื่อนไปบ้านเพื่อนอีกคนต่อ ก็เทใส่ถุงไปด้วย พอกลับมาบ้านพี่ ก็เปิดตู้เย็นเอาออกมากินอีก แหะ ๆ ผมกินซะหมดขวดเลยอ่ะครับ (น้องพี่ก็ด้วยนะ ไม่ใช่ผมคนเดียว แต่ผมกินเยอะกว่ามันเท่านั้น) ไม่รู้ว่าน้องพี่มันบอกพี่ยังว่าฝีมือผม จากวันนั้น ของหวานในดวงใจผมก็คือเชอร์รี่เชื่อมครับ
วันเวลาผ่านมาแปดปี ผมก็ยังไปบ้านพี่บ้าง และก็ยังหัวใจเต้นทุกครั้ง
พี่รู้ไหม จากวันที่นั่งรถผ่านตึกของบริษัทพี่คราวนั้น ในที่สุดปัจจุบันนี้ผมก็มีโอกาสอยู่ใกล้พี่แล้วครับ ตึกผมอยู่ข้าง ๆ พี่นี่เอง ผมยังเคยแอบขึ้นไปดูชั้นที่ทำงานพี่เลย
ตอนผมขึ้นลิฟต์ไปชั้นของพี่ ผมคิดในใจถ้าลิฟต์เปิดแล้วเจอพี่ ผมจะตอบพี่อย่างไรดีนะ จะบอกว่าน้องของพี่ฝากความคิดถึงถึงพี่ก็กระไรอยู่ คิดแล้วก็ยังตื่นเต้นไม่หาย แค่ลิฟต์เปิดออกแล้วเจอป้ายบริษัทของพี่ ผมก็รีบกดให้รีบปิดประตูแทบไม่ทัน
จากคุณ :
X RoBiN
- [
21 ก.ค. 49 22:55:34
]