ปากแดง ๆ จะไว้ใจได้กา.. แก้มใส ๆ จะไว้ใจได้กา... เพลงของนักร้องสาวที่กำลังโด่งดัง บนเครื่องเล่นซีดีขางฝากหยุดแค่นั้น พัดลมและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้านที่กำลังทำงานอยู่ก็สะดุดกึก แล้วแน่นิ่งไปทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่อมพิวเตอร์แก่ ๆ ที่เธอกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่อย่างขะมักเขม้น มันไม่ได้ติดตั้งเครื่องสำรองไฟไว้ด้วย นรี ยกคีย์บอร์ดกระแทกลงบนโต๊ะอย่างขัดใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินอย่างเซ็ง ๆ ไม่แปลกใจเลยสักนิด เมื่อเริ่มได้ยินเสียงคนคุยกันแว่ว ๆ มามันเหมือนเป็นปฎิกิริยาลูกโซ่ เมื่อไฟดับ คนในบ้านจะเดินไปหน้าบ้าน เมียง ๆ มอง ๆ บ้านข้าง ๆ ดูว่าไฟดับด้วยไหม หรือบางทีถ้าอัธยาศัยที่ดีต่อกันก็ ชวนกันคุยเรื่องสัพเพเหระ
จนกว่าไฟจะมา แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตปกติ สะสางงานที่คั่งค้าง ทั้งที่จริง ๆ แล้วบางบ้านก็ไม่ได้จำเป็นอะไรมากไปกว่าการใช้ไฟฟ้าในช่วงบ่ายสองโมง ที่แดดกำลังร้อนเปรี้ยง ๆ แบบนี้
เธอพักอยู่ทาวเฮ้าส์สองชั้น ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งมาเช่าได้สองเดือน บริษัทฯ ส่งเธอมาทำงานเกี่ยวกับการวิจัยผลผลิตทางการเกษตรให้แก่บริษัท จึงออกค่าเช่าให้ ทีมของเธอมีสามคน เป็นหญิงสอง ชายหนึ่ง ตอนนี้สามคนนั้นออกนอกพื้นที่ เหลือเธอที่อยู่เคลียร์เอกสารอยู่ที่บ้านเช่า หรือจะเรียกว่าสำนักงานก็ไม่ผิด
เธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของบ้าน หวังจะนั่งรับลมที่ระเบียง เก้าอี้หวายตัวโปรดยังคงอยู่ที่เดิม แถมยังมีหนังสือเล่มหนึ่งกางคาไว้ที่โต๊ะเล็ก ๆ ข้าง ๆ เก้าอี้หวายรูปทรงกลม เธอมักจะเรียกมันว่ารังนก เสียงผู้คนจากบ้านข้าง ๆ ที่ออกมาสนทนากัน ดังชัดขึ้น เมื่อเธอออกมาสู่ที่โล่งจับใจความได้ว่ากำลังถามไถ่กันให้เซ็งแซ่ มันเริ่มต้นจากคำว่าไฟดับเหมือนกันไหม..แล้วก็เรื่อยไป จนคร้านที่จะใส่ใจเรื่องราวเหล่านั้น
หญิงสาวเดินไปหยิบหนังสือ และลงไปนอนเขลงอ่านหนังสือต่อจากหน้าที่กางไว้ เป็นนวนิยายของนักเขียนชื่อดัง ที่เพื่อนของเธอคงอ่านค้างไว้ อ่านไปได้สองหน้าก็วางมันลงที่เดิม เหม่อมองไปที่ท้องฟ้า สีฟ้าใส
อกหัก..ใช่เธอกำลังอยู่ในอาการนั้นแหละ พอหัวหน้าบอกว่าออกพื้นที่ จึงแล่นไปขออาสาเป็นคนแรก ตอนนี้แผลนั้นมันก็จางไปเยอะแล้ว เพราะเธอกับเขาจากกันด้วยดี จะว่าไปก็ผิดที่เธอมากกว่าที่ไม่แสดงท่าทีให้เขารู้ยกความเป็นเพื่อนมาอ้าง จนในที่สุด เขาก็ได้พบใครอีกคน ที่คิดว่าใช่ เขาจะแต่งงานกันในไม่ช้านี้ และนรีก็ได้รับบัตรเชิญในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว เธอยิ้มขื่น ๆ กับท้องฟ้า ถอนหายใจ
ความรู้สึกของคนเรากับประสบการณ์ที่มันผ่านไปแล้ว มันคิดถึงแล้วใช่ว่าจะได้ความรู้สึกเดิมที่ไหนล่ะ ต่างเวลากัน คิดถึงเรื่องเดียวกัน บางทีจากหัวเราะขำ ๆ กลายเป็นร้องไห้ได้ง่าย ๆ เหมือนกันนะ
เธอรู้จักคำว่า แฟน กันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ สายลมโชยเอื่อย ๆ ไฟฟ้ายังไม่มา เพราะเสียงคุยของคนข้างบ้านยังดัง สลับกับเสียงหัวเราะ ช่วงกลางวันอย่างนี้ไม่มีเสียงเด็ก คงเป็นเพราะเด็กในซอยนี้เป็นวัยศึกษากันหมด จึงไม่หนวกหูอะไรมากนัก
สมัยอนุบาล หรือปอหนึ่ง ไม่แน่ใจ เพื่อนมันเริ่มล้อว่าเราเป็นแฟนกับลูกชายเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาจจะเป็นเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และมักจะแบ่งปันกันเรื่องการบ้านเสมอ ๆ ติดอยู่กลุ่มเรียนเก่งก็อย่างนี้แหละ เธอติดอยู่ในกลุ่มเรียนเก่งของห้อง แต่ก็ไม่เคยสอบได้ที่หนึ่งสักหน
สมัยเด็ก.. นรียิ้มเป็นยิ้มที่สดใสขึ้นดวงตาหรุบลง และปิดตา ไม่เคยนอนคิดอะไรเล่น ๆ แบบนี้นานแล้ว สมัยเด็กเคยเล่นไล่กอดกันไม่รู้ว่าถ้าเป็นสมัยนี้คงได้พ่อ-แม่ ผู้ปกครองไม่รู้จะวิ่งโร่ไปแจ้งความไหม ถ้าเวลาลูกสาวมาฟ้องมา เด็กชายคนนั้นมาเล่นวิ่งไล่กอด อยู่กลางสนามโรงเรียน
ฤดูหนาว หนาวของจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย ก็ประมาณสิบกว่าองศา ครูมักจะพานักเรียนออกไปนั่งเรียนนอกห้อง เพื่อจะได้ผิงแดดอุ่น ๆ ยามเช้าประมาณแปด-เก้าโมง
สมัยอนุบาล ห้องเรียนของเธอเจ๋งมาก ถ้าไม่ใช่เล้าไก่ ก็เล้าหมูดี ๆ นี่เอง ภาพที่ปรากฏในมโนนึกทำเอามุมปากเธอเปิดกว้างโดยไม่รู้ตัว อาคารชั้นเดียว ครึ่งปูนครึ่งไม้ไผ่ หลังคามุงจาก ลาดพื้นด้วยซีเมนต์ ที่เป็นเพียงปูนปนทรายปูทับด้วยเสื่อน้ำมัน เสาเป็นไม้ เหมือนนำต้นไม้เล็ก ๆ มาวางปักไว้ 6-10 ต้น ถ้าจำไม่ผิด ก่ออิฐบล็อกล้อมรอบทุกทาง เวลานักเรียนจะเข้า-จะออก ผู้ปกครองก็อุ้มหย่อนลงไปทางประตู หรือไม่ก็ไต่บันไดปูน ปีนข้ามอิฐบล็อกที่ว่า ตีล้อมรอบทุกด้านด้วยไม้ไผ่เป็นซี่ ระแนง มีประตูปิด-เปิด แบบว่าเหมือนขังอยู่ในเล้าไก่จริง ๆ นะ เรียกเล้าไก่แล้วให้ความรู้สึกดีกว่าเรียกเล้าหมู เพราะมันรู้สึกใกล้ ๆ เคียง ๆ ความจริงตอนนี้ รอยยิ้มแต้มมุมปากเป็นระยะ
ในห้องมีกระดานดำ นักเรียนนั่งเรียนกับพื้นที่ปูด้วยเสื่อน้ำมันนั่นแหละ ทั้งห้องมีโต๊ะอยู่สามตัว ตัวหนึ่งเป็นโต๊ะครูอยู่หน้าห้อง อีกสองตัวตั้งชิดข้างฝาไว้วางหนังสือ พักเที่ยงเสร็จ ครูก็ให้นอน ใครที่พกขวดนมไปก็ให้กินนมก่อน หรือใครไม่มีก็นอนเขลง แยกเป็นสองแถว หันเอาศีรษะเข้าหากัน เว้นช่องว่างตรงกลางไว้สำหรับครูเดินตรวจแถวนักเรียนนอน เออ แฮะ.. เท่าที่จำได้เธอเคยมีขวดนมไปกินที่โรงเรียนกับเขาด้วย
เออ..แล้วนี่อากาศมันร้อนหรือเราเสียสติหรือเปล่านะ นรีถามตัวเอง ลืมตามองท้องฟ้าใส ๆ สีฟ้ามีปุยเมฆบางเบาล่องลอยอยู่ ไฟยังไม่มา แต่เสียงคุยก็ยังดังมาเรื่อย ๆ ช่างมัน ถ้าจะคิดถึงความรักเมื่อสิบ-ยี่สิบกว่าปีก่อนแล้วเป็นบ้าก็ช่างมัน เธอถอนหายใจหลับตานอนต่อ ทั้งที่เมื่อคืนก็นอนดึก แต่นอนเล่นอย่างนี้ก็เลยง่วง ๆ เหมือนเธอพลิกตัวนอนหลับตาไม่คิดถึงความหลังแล้วจะให้คิดอะไรล่ะ แฟนก็ไม่มีเหมือนคนอื่นเขานี่
สมัยก่อนประมาณปี 2519 ซึ่งตอนนั้นนรีอายุได้สักสี่ขวบ ยังคงมีจักรยานคล้ายๆ กับจักรยานเสือภูเขา คือจะมีเหล็กขวางจากแฮนด์ถึงเบาะคนขับ สมัยนั้นเรียกว่า จักรยานผู้ชาย เพราะผู้หญิงถ้าไม่สูงจริงไม่มีใครกล้าขี่หรอก อีกอย่างผู้หญิงบ้าน ๆ มักจะนุ่งผ้าถุง สามสิบกว่าปีที่แล้ว กางเกงในก็ยังไม่เป็นที่นิยม นั่นแหละพาหนะสุดหรูที่พานรีไปถึงโรงเรียน แต่ว่าน้าผู้ชายเป็นคนไปส่ง ไม่ค่อยอยากหรอก
เพราะน้าไม่หล่อ อยากให้พ่อไปส่งมากกว่า แต่พ่อกับแม่อยู่คนละบ้าน นรีอยู่กับยาย.. อยู่กับย้าย... มาตั้งแต่เล็ก.. อยู่กับยายมาตั้งแต่เด็ก เธอยังจำเพลงที่เพื่อนเอามาล้อเลียนตอนโตขึ้นมาหน่อยได้ แต่ก็ไม่ได้มีปมด้อยอะไร เพราะยายทั้งรักและห่วงใย ดูแลอย่างดีตอนนั้นก็เด็กเกินกว่าจะคิดมากด้วย พ่อ-แม่ไม่เลี้ยง อยู่กับยายมีความสุขดี ยิ่งยายเอาใจเก่ง ก็คำสั่งของยายอีกแหละ ที่ให้น้าไปส่ง
แถมยังสงสารนั่งซ้อนท้ายจักรยานของน้าไปโรงเรียน ไอ้เจ้าที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานสมัยก่อนมันเป็นเหล็กดี ๆ นี่เอง ฤดูหนาวเหล็กนี่จะเย็นมาก ที่นั่งซ้อนท้ายสมัยนั้นไม่ได้สบายเหมือนสมัยนี้หรอกที่หุ้มด้วยฟองน้ำและหนังเทียมอีกที ยายเขาก็เย็บหมอนเล็ก ๆ มัดติดไว้บนเหล็ก อากาศหนาวเราก็ไม่เย็นก้นแถมนุ่มสบาย หรูจะตาย
ไม่รู้ใครจะว่านรีแก่แดดไหม เพราะมีแฟนตั้งแต่สมัยอนุบาล ภาพเด็กชายตัวเล็ก ๆ ผอมกะหร่อง แต่หน้าตาดี ตาสวยเชียว ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ นายคนนี้ชื่ออะไรหนอ.. นายหนึ่ง อ้อเด็กชายสิ..เด็กชายหนึ่ง ถูกล้อคู่กันมา น่าจะถึงปอหก มีอยู่คนเดียวเห็น ดูเหมือนนรีไม่ใช่คนมีแววเจ้าชู้ รักเดียว รักจริง ตั้ง 7 ปี แต่เท่าที่จำได้ เธอเรียนอนุบาลปีเดียว ครูคนแรกในโรงเรียนชื่อ ครูจันทร์สม เป็นผู้หญิงสาวสวยสูง ผิวขาว หน้าตาดีเธอรักครูคนนี้มากเพราะใจดีให้เรียนอนุบาลแค่ปีเดียว ก็ให้ผ่านไปอยู่ปอหนึ่ง ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นเรียนกันสองปี
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 01:07:43
จากคุณ :
ก่ำปุ้งตั๋วอ้วน
- [
22 ก.ค. 49 01:05:10
]