รถคันงามแล่นออกจากคฤหาสน์ของตัวเองเมื่อตอนพลบค่ำหลังจากรับประทานอาหารเลิศรสที่แม่ครัวจัดเจรียมไว้ให้เสร็จ... ชั่วขณะหนึ่งที่เขานึกจะสั่งให้ทำอาหารใส่กล่องไปให้คนที่ถูกขังอยู่บนคอนโด หากแล้วก็เปลี่ยนใจ
ให้กินแต่ข้าวกับไข่ไปอย่างนั้นล่ะดีแล้ว...หัวลากินอะไรก็ยังดื้ออยู่เหมือนเดิม
ดังนั้นจิรภัทรจึงกลับไปด้วยสองมือที่ว่างเปล่า ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่หน้าห้องพัก ไขกุญแจที่ล็อคไว้อย่างใจเย็น
นลินสะดุ้งสุดตัวเมื่อประตูนั้นเปิดผางเข้ามาโดยไม่มีเสียงเคาะบอกก่อน รีบเก็บสมุดบันทึกที่ตัวเองกำลังเขียนไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว หากก็ไม่พ้นไปจากสายตาช่างจับผิดของอีกฝ่าย ที่มองเขม็งตรงมาอย่างไม่พอใจ
ทำอะไรน่ะเมื่อกี้
ไม่ได้ทำ หญิงสาวปฏิเสธเสียงขึงขัง
ไม่ได้ทำอะไร เห็นอยู่ว่าเขียนอะไรลงไปในสมุด มีอะไรต้องแอบซ่อนฉัน หา?
บอกว่าไม่มีก็ไม่มี... ไม่ต้องมายุ่ง
มือเรียวบางผลักอกกว้างที่ก้าวเข้ามาประชิดคุกคามใกล้เต็มแล้วแล้ววิ่งกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ปิดประตูตามหลังเสียงดังแล้วลงกลอนด้านใน
อย่าให้ฉันรู้นะว่าเธอมีแผนอะไรอยู่ในสมอง ...ฉันเล่นงานเธอไม่ปล่อยแน่
เงียบ... ไม่มีเสียงตอบ...คนด้านนอกจึงสบถออกมาด้วยความหวังเสีย ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่อีกทาง ไม่มีโอกาสได้เห็นเลยว่า ในห้องนอนเล็กๆ ที่หญิงสาวเข้ามาจับจองอยู่ชั่วคราวนั้น นลินทรุดร่างลงนั่งพิงบานประตูอย่างอ่อนล้า หยิบสมุดจดพล็อตที่ตัวเองเขียนเอาไว้เมื่อสักครู่ขึ้นมาเปิดดูแล้วพลันภาพด้านหน้าก็พร่าลายเป็นหลายชั้น... อะไรที่ผ่านเข้ามาผ่านออกไปอย่างไม่ต้องถูกบันทึกลงไปในสมอง เพราะตอนนี้มันมีเพียงแต่ภาพบ้านเก่าๆ ของหล่อนปรากฏสว่างชัด ภาพอดีตในวันเก่าก่อนที่อยู่กันมาได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องมีใครมานั่งทำหน้ารังเกียจดูถูกให้เห็น ไม่ต้องมีคำพูดเหยียดหยามมากรอกหู ว่าตัวหล่อนเองนั้นต่ำต้อยด้อยค่าเหลือเกิน
เมื่อทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบแล้ว หญิงสาวก็ลุกขึ้นมานั่งบนขอบด้านหนึ่งของเตียงตัวเองอย่างเงียบๆ หยิบปากกาขึ้นมาเขียนโครงเรื่องของตอนต่อไปอย่างอ่อนล้า... เขียนไปได้สักพักก็หยุด วางปากกาแล้วนั่งเหม่อลอย...
วัช...พี่รู้ว่าพี่อาจจะขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้... แต่ตอนนี้พี่อยากให้เธอกลับมาจังเลย...กลับมาแล้วกลับไปอยู่ในโลกของเรา อย่าไปยุ่งกับครอบครัวชั้นสูงครอบครัวนี้อีก เราก็อยู่ของเราได้ ไม่จำเป็นให้เขาต้องมาดูถูก
ช่างเถิด...
บอกตัวเองให้ทำใจแล้วลุกขึ้นทอดฝีเท้าไปยังหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้ครึ่งๆ ชะโงกหน้าออกไปมองด้านล่างแล้วแปลบขึ้นมาในช่องท้อง หวาดเสียวจนบอกไม่ถูก... ความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในสมอง...
กระโดดหนี...
ไม่!
ถึงแม้หล่อนจะไม่พอใจสถานการณ์แบบนี้... แต่ก็ต้องสู้... ทำไมจะต้องเอาชีวิตมาแลกกับแค่คำพูดของคนที่ไร้ค่าไร้ความหมาย เพียงเพราะเขาร่ำรวยไม่ได้หมายความว่าคำพูดของเขาจะมีค่าพอให้หล่อนเก็บเอามาใส่ในใจ
ลิน...แกโง่หรือบ้า...ทำไมต้องคิดสั้น... ไม่จำเป็น...เพราะมันไม่ใช่ทางออกของคนฉลาดเลยแม้แต่นิดเดียว...
รอ...รออีกสักนิด...ประเดี๋ยวเขาได้น้องสาวเขาคืน...เราก็จะได้มีชีวิตอิสระของเรา!
แสงจันทร์ทอสว่างอยู่บนฟากฟ้าของเมืองกรุง สีที่เหลืองนวลอ่อนทำให้ใจของหล่อนเริ่มคลายจากความรุ่มร้อน... ในธาตุแท้ใจนี้ก็ไม่ได้มีอะไร นอกเสียจากความอ่อนโยนละมุนละไมอย่างคนมีศิลปะอยู่ในความคิด บางครั้งก็แอบซ่อนความอ้างว้างหงอยเหงา
...เขา...ก็คงรักน้องสาวของเขามาก....เขา...ก็คงไม่ได้มีความสุข เพราะตลอดเวลาลึกลงไปในความโกรธมีแต่ความเจ็บปวดฉายชัดอยู่ในดวงตา...
หากกลับกัน...หากให้นลินไปยืนอยู่ตรงจุดที่จิรภัทรยืนอยู่บ้าง หล่อนจะทำอย่างนี้กับน้องสาวของตัวเองไหม หากหล่อนเป็นพี่ชายที่ร่ำรวยมหาศาล และมีน้องสาวที่รักและหวงเหมือนไข่ในหินอยู่เพียงคนเดียว หล่อนจะกล้าวางใจปล่อยน้องสาวไว้ในความดูแลของคนเดินดินคนหนึ่งไหม?...
ไม่ทราบ....นลินบอกตัวเองไม่ได้...
ใช่...เพราะหล่อนไม่เคยร่ำรวย...ไม่เคยร่ำรวยเหมือนกับที่จิรภัทรเป็น...
(มีต่อ)
จากคุณ :
พิณณ์อวี
- [
24 ก.ค. 49 19:16:37
]