บันทึกรักนักดับเพลิง
ต้นคูนที่เรียงรายเป็นทิวแถวริมรั้ว และสองข้างถนนทางเข้าสำนักงานเทศบาลออกดอกเหลืองอร่ามเป็นพวงย้อยเต็มกิ่งก้าน ลมร้อนพัดดอกนั้นพลิ้วไหวรับแสงตะวันที่กำลังลอยตัวสูงสาดส่องกระทบดูพริ้งพราย
ข้าพเจ้าขับรถกระบะคู่ชีพเคลื่อนไปอย่างเนิบช้า ผ่านพุ่มพฤกษ์ดอกสีทองแต่ละต้น ไม่อยากให้ถึงที่หมายเร็วไป ด้วยใจอยากจะชมความเหลืองอร่ามของดอกไม้ให้เต็มตาก่อนที่จะเข้าตบเท้ารายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาของวันแรกที่ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ตำแหน่งที่ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น
ขอต้อนรับหัวหน้าดับเพลิงคนใหม่ ผู้บังคับบัญชากล่าวทิ้งท้ายหลังจากข้าพเจ้าเข้ารายงานตัว
เมื่อออกจากห้องผู้บังคับบัญชาข้าพเจ้าตรงดิ่งไปที่หน่วยดับเพลิงที่อยู่ด้านหลังอาคารสำนักงาน ไม่นานนักพนักงานดับเพลิงแต่ละคนเข้ามาไหว้ทักทายข้าพเจ้าในฐานะผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของพวกเขา
.
ข้าพเจ้านั่งทบทวนและประเมินผลงานย้อนหลังจากหนึ่งปีที่ผ่านมานับแต่ย้ายมาใหม่ หากเป็นหน้าฝนพวกเราจะเบาใจ เพราะเหตุการณ์เกิดน้อยมากอันเนื่องจากสภาพความชื้น แต่ถ้าถึงคราหน้าหนาวและหน้าร้อนเมื่อไหร่ล่ะก็พวกเราจะไม่เป็นอันหลับอันนอน ต้องคอยระแวดระวังรอรับแจ้งเหตุ โดยเฉพาะเวรวิทยุ-โทรศัพท์จะต้องประจำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนข้าพเจ้าไปไหนมาไหนจะไม่ยอมห่างวิทยุมือถือ พร้อม ว.ประสานงานกับเครือข่ายใหญ่ตลอด
บ่อยครั้งที่ได้รับแจ้งเหตุ พวกเราจะไม่รีรอรีบบึ่งรถดับเพลิงระงับเหตุ หลายต่อหลายครั้งที่ได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาและชาวบ้านร้านตลาดที่สามารถระงับเหตุไฟไหม้ได้เร็วไวไม่ลุกลามใหญ่โต
บางครั้งพวกเราเหน็ดเหนื่อยจากการดับไฟ โดยเฉพาะวันนั้นดับไฟที่ลุกลามจากป่ามาตามตอซังข้าวเข้าใกล้บ้านเรือนท่ามกลางแสงแดดอันแผดกล้าของเที่ยงวัน ไม่มีถนนให้รถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำใกล้ๆ พวกเราต้องหักเอากิ่งไม้ที่มีใบหนาเข้าตบไฟ ทุกคนร้อนระอุจากแสงแดดระคนเปลวไฟ บางครั้งสำลักควัน แต่ถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและหิวกระหายสักเพียงใด พวกเราก็ยืนหยัดปกป้องอัคคีภัยให้ชาวประชา
ข้าพเจ้าขับรถกลับจากทำธุระมุ่งหน้าไปตามถนนที่ทอดผ่านชุมชนตัวอำเภอในเวลาอันเย็นย่ำเพื่อกลับหน่วยดับเพลิง พลันสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มควันที่พวยพุ่งสู่ท้องฟ้า เสียงร้องของผู้คนระเบ็งเซ็งแซ่ระคนตกใจฟังไม่ได้ศัพท์
ข้าพเจ้าจอดรถแล้วเดินไปหากลุ่มคนพวกนั้นเพื่อสอบถาม
แต่แล้ว...เมื่อข้าพเจ้าแหงนมองตามพวกเขา โอ!!!ให้ตายสิ...หญิงสาวคนนั้นร้องขอความช่วยเหลืออย่างตื่นตระหนกบนอาคารชั้นสามโดยมีเหล็กดัดคล้ายกรงขังนักโทษที่หน้าต่างปิดกั้น เปลวไฟและกลุ่มควันพวยพุ่งแรงขึ้นทุกขณะ
ข้าพเจ้าไม่รอช้า ว.แจ้งไปยังลูกน้องผู้เข้าเวรประจำหน่วยดับเพลิงที่อยู่ห่างออกไปราวครึ่งกิโลเมตร
ห้านาทีผ่านไปอย่างเนิบช้า เสียงหวออันโหยหวนของรถดับเพลิงดังแว่วมาแต่ไกล เวลานี้ผู้คนที่เรียกว่าไทยมุงเริ่มแน่นขนัด ข้าพเจ้าเป่านกหวีดให้ผู้คนหลีกทางให้รถผ่าน เมื่อรถดับเพลิงมาถึงข้าพเจ้าให้สัญญาณมือให้รถกระเช้าดับเพลิงเข้าประชิดตัวตึก
ไม่รอช้าข้าพเจ้ากระโดดขึ้นกระเช้าพร้อมส่งสัญญาณให้รถยกสูงสู่ที่หมายหญิงสาวที่ติดอยู่กับหน้าต่างเหล็กดัดนั้น
น้อง...ถอยไป ข้าพเจ้าร้องสั่งก่อนที่จะใช้ขวานเหล็กใหญ่สำหรับกู้ภัยฟันไปที่ลูกกรงเหล็กสองสามที แต่...ไม่มีทีท่าว่าลูกกรงเหล็กจะหักงอหรือพังทลาย ข้าพเจ้ามองหน้าเธอเวลานี้เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าที่ขาวซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
พลัน...กลุ่มควันจากเปลวไฟที่ถูกรถดับเพลิงคันอื่นระดมฉีดเข้าไปก็พวยพุ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง เธอกำลังสำลักควัน...
หมอบลง ข้าพเจ้าร้องบอกตามหลักวิชาการที่ฝึกอบรมมาว่ากลุ่มควันจะมีความบางเบาลอยตัวหากหมอบแนบพื้นจะพอมีอากาศหายใจ เธอปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายก่อนที่ข้าพเจ้าจับเอาหัวฉีดน้ำประจำกระเช้าฉีดเข้าไปในห้องเพื่อไล่กลุ่มควันนั้นเป็นการบรรเทาเบาบาง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน...ข้าพเจ้านึกในใจก่อนกระหน่ำฟันขวานลงบนเหล็กดัดหลายต่อหลายครั้งอย่างนับไม่ถ้วน เวลานั้นดูเหมือนว่าข้าพเจ้าไม่เหน็ด ไม่เหนื่อย คล้ายกับว่ามีพลังฮึดขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์
นานเท่าไหร่ไม่รู้-รู้เพียงว่าเหล็กดัดนั้นหักสะบั้นและพังทลายลง ข้าพเจ้าร้องเรียกหาเธอ-เธอยืนขึ้นยื่นมือมา ไม่รอช้าข้าพเจ้าคว้าข้อมือเธอดึงขึ้นกระเช้า ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและปรบมือของบรรดาไทยมุงอย่างดีใจ และโล่งอก เธอกอดข้าพเจ้าไว้แน่นอย่างหวาดกลัวความสูงระคนดีใจ
หลังจากกระเช้าลงพื้นเธอวิ่งไปสวมกอดและร่ำไห้กับบรรดาญาติพี่น้องที่ยืนรอจนลืมแม้กระทั่งจะขอบคุณข้าพเจ้า แต่ช่างเถอะข้าพเจ้าไม่ได้น้อยใจหรือตำหนิเธอแม้สักนิด
ค่ำคืนนั้นรถดับเพลิงเร่งฉีดสกัดกั้นการลุกลามของเปลวไฟ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเพราะมันได้ลุกลามไปหลายคูหา ผู้บังคับบัญชาสั่งขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงทั่วทั้งจังหวัดมาระดมฉีด
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเพลิงจึงอยู่ในวงจำกัด คงเหลือเพียงกลุ่มควันและเปลวไฟที่แดงฉานอยู่ไม่มากนัก พวกเราเข้าเคลียพื้นที่โดยการกู้ซากถ่านที่ยังมีแสงไฟเพื่อให้ดับสนิท
ผู้บังคับบัญชาสั่งกางเต็นท์เป็นศูนย์อำนวยการชั่วคราวเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยและให้พวกเราเฝ้าระวังดูแลความเรียบร้อย
ภายในเต็นท์เต็มไปด้วยเหยื่อเพลิงที่ร่ำไห้โหยหวนกับความสูญเสียอันใหญ่หลวงในชีวิต ภาพเบื้องหน้าสิบกว่าคูหาที่มอดไหม้ ยังคงเหลือเพียงต้นเสาที่โด่เด่อย่างทระนง ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้ากับความล้มเหลวในการฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามออกไปในครั้งนี้ แม้ว่าหลายต่อหลายคนจะบอกว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยและทำดีที่สุดแล้วก็ตาม
ไหน...ไหน...ไอ้หัวหน้าดับเพลิงมันอยู่ไหน ดับกันยังไงวะถึงเอาไม่อยู่จนซิบหายหมดอย่างนี้ เสียงเอะอะของชายวัยกลางเดินปรี่เข้ามาประชิดตัวแล้วปล่อยหมัดกระแทกปากข้าพเจ้าจนเซถลาล้ม ลูกน้องกรูกันเข้าจับตัวเขาไว้
ปล่อยเขาเถอะ ข้าพเจ้าลุกขึ้นบอกพลางยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลจากมุมปาก
ส่งตำรวจดีไหมครับหัวหน้า ลูกน้องยังจับตัวชายคนนั้นไว้แน่น
ไม่ต้อง...เขาสูญเสียมากพอแล้ว เป็นผมอาจทำเหมือนเขาก็ได้...ปล่อยเขา ข้าพเจ้ากระชากเสียง
ทันทีที่ลูกน้องปล่อยตัวเขา-เขาคุกเข่าลงกอดขาข้าพเจ้าแล้วร่ำไห้เหมือนเด็กๆ ปากพร่ำบ่นถึงความสูญเสียสิ้นเนื้อประดาตัว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านมาขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเคร่งเครียดกับกองเอกสาร
หัวหน้าครับมีแขกมาขอพบ ลูกน้องมารายงาน ข้าพเจ้าพยักหน้าให้เข้ามา
สวัสดีค่ะ เธอนั่นเอง ข้าพเจ้าตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกรีบเชื้อเชิญให้นั่งพลางมองดวงหน้าใสๆ จิ้มลิ้มที่รับกับเส้นผมที่ยาวสลวยนั้นเล่นเอาจังงังเหมือนถูกมนต์สะกดไปชั่วครู่
พิมมาขอบคุณที่ช่วยชีวิตวันนั้นค่ะ เธอส่งยิ้มหวาน
ไม่เป็นไรครับ...เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว น้ำเสียงข้าพเจ้าประหม่า
งั้นเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ พิมขอเลี้ยงข้าวเที่ยงคุณหัวหน้าดับเพลิงนะคะ หัวใจข้าพเจ้าพองโต ดีใจราวถูกหวย
เรียกผมยุทธก็ได้ครับ
ค่ะพี่ยุทธ เสียงหวานใสตอบรับทันควัน
เธอก้าวขึ้นรถที่ข้าพเจ้าเปิดประตูรอ ที่หมายคือร้านอาหารเรือนแพริมฝั่งน้ำ
ขอบคุณพี่ยุทธอีกครั้งนะคะที่ช่วยชีวิตพิม เธอย้ำขณะทานข้าว
ข้าพเจ้ายอมรับว่ามีความสุขมาก จากความอ้างว้างไม่เคยมีเพื่อนต่างเพศ บัดนี้เริ่มก่อตัวในใจให้ยอมรับว่านี่หรือคือรักแรก- รักแรกพบ ข้าพเจ้ายอมรับว่าเราคุยกันสนุกถูกคอ
เธอเล่าให้ฟังหลังจากที่ข้าพเจ้าช่วยเธอลงมา เธอวิ่งไปหาพ่อแม่และดีใจจนลืมขอบคุณข้าพเจ้า โชคยังดีบ้านมีประกันภัยจึงไม่เดือดร้อนนัก เวลานี้เธอกับครอบครัวไปซื้อบ้านจัดสรรหลังใหม่แล้ว
ก่อนจากกันหลังจากอาหารเที่ยงวันนั้น เธอถือโอกาสบอกลาข้าพเจ้า
พิมตัดสินใจไปทำงานบัญชีกับพี่สาวที่โรงงานทางภาคตะวันออกอาทิตย์หน้าค่ะ
อ้าวเหรอ...โอ..ผมคงคิดถึงพิมน่าดู
คิดถึงก็เขียนจดหมายหรือไม่ก็โทรหาได้นี่คะ
ครับ... ข้าพเจ้าเสียงอ่อยๆ
ระหว่างที่เธอรอวันเดินทาง ข้าพเจ้าถือโอกาสแวะเวียนไปหาเธอที่บ้านแทบทุกวัน
รถทัวร์เคลื่อนออกจากสถานี บขส. ข้าพเจ้าเห็นเพียงมือทีเรียวงามนั้นโบกลาในกระจกรถภาพนั้นค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา... โลกแห่งความเหงาเข้าครอบงำข้าพเจ้าเสียแล้ว
ไม่ถึงสิบวันจดหมายของเธอก็ส่งมาถึงมือ ข้าพเจ้าดีใจรีบเปิดซองด้วยมือที่สั่นระริก เธอบอกว่าปีหนึ่งกลับมาเยี่ยมบ้านได้เฉพาะในช่วงปีใหม่ เธอส่งรูปมาให้ดูต่างหน้า และเล่าถึงหน้าที่การงานของเธอที่โรงงานนั้น โรงงานอันเป็นธุรกิจของชาวญี่ปุ่น สิ่งสำคัญที่ข้าพเจ้าอดดีใจไม่ได้อีก นั่นคือเบอร์โทรศัพท์ที่เธอให้มา อ่านจบข้าพเจ้าหยิบรูปเธอขึ้นมาจุมพิต
ข้าพเจ้าไม่รีรอที่จะตอบจดหมายและโทรศัพท์ทางไกลไปหาเธอแม้ว่าค่าโทรจะหลายร้อยบาทก็ตามที จากนั้นมาสัปดาห์ละครั้งที่ข้าพเจ้าโทรไป หลายต่อหลายสัปดาห์ และนานหลายต่อหลายเดือน จนข้าพเจ้ากล้าพูดกับตัวเองว่ารักเธอเข้าเต็มเปาเสียแล้ว
ในที่สุดวันขึ้นปีใหม่ก็มาถึง ข้าพเจ้ามุ่งหน้าไปหาเธอที่บ้านอย่างไม่ลังเล ความหวังตั้งใจว่าจะชวนเธอไปทานข้าวแล้วหาโอกาสเหมาะๆ บอกรักเธอขอเธอแต่งงาน เพราะข้าพเจ้าตัดสินใจแล้วว่าจะมีครอบครัวกับเขาเสียที
ข้าพเจ้าชะลอรถช้าๆ หน้าบ้านเธอพร้อมหัวใจเต้นแรงอย่างประหม่า เมื่อรถจอดสนิทไม่ลืมที่จะหยิบเอาดอกไม้ช่อใหญ่ที่ซื้อมาแล้วขยับเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เข้ารูปเพื่อความมั่นใจ
สวัสดีค่ะพี่ยุทธ... เธอออกจากบ้านมาต้อนรับ
สวัสดีครับน้องพิม ผมยื่นดอกไม้ให้ เธอรับเอาพลางกล่าวขอบคุณ สักครู่มีชายตัวสูงขาว หน้าตาตี๋เดินตามเธอออกมา เธอหันไปพูดกับชายคนนั้นด้วยภาษาที่ข้าพเจ้าฟังไม่รู้เรื่อง
พี่ยุทธคะนี่คุณยาซากิ คู่หมั้นพิมค่ะ เราจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้แล้วไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เดี๋ยวการ์ดเชิญตามไปนะคะ
ราวฟ้าฟาดลงกลางใจจนหักสะบั้นเหมือนเหล็กดัดในวันที่เพลิงไหม้วันนั้น ข้าพเจ้าตัดสินใจไปจากที่นั่น โดยอ้างว่าลูกน้อง ว. มาแจ้งราชการด่วน น้ำตาของลูกผู้ชายอกสามศอก ชายผู้ได้ชื่อว่าวีรบุรุษไม่เคยไหลออกมาง่ายๆ แต่...ครานี้มันเอ่อซึมที่เบ้าตาได้อย่างไร ก้อนอะไรบางอย่างมากระจุกที่ลำคอ หลังมือถูกยกขึ้นเช็ดที่ดวงตาขณะรถเคลื่อนออกไปอย่างไร้ที่หมาย พลางสมน้ำหน้าตัวเองที่รักเขาข้างเดียว ...
@@@@@@@@@@@@@@@@
จากคุณ :
ป.ยุทธ
- [
28 ก.ค. 49 10:25:41
A:203.151.24.20 X:
]