สายลมผัดผ่านขุนเขาที่คุ้นเคย ผ่านมาก็ทักทายตามประสาของคนรู้จักมักจี่กัน เพียงแต่วันนี้ไม่เป็นเช่นทุกวัน มันเริ่มต้นบทสนทนาที่น่าสนใจที่เดียว
นี่เจ้าขุนเขาเอ๋ย เจ้ารู้หรือไม่ว่า อะไรเป็นสิ่งที่ถูกลืมทันทีที่เวลาผ่านไปแม้วินาทีเดียว
เอ๊ะ วันนี้นี่เจ้าเริ่มต้นบทสนทนาแปลก ๆ นะ แล้วที่เจ้าว่านะมันอะไร
เจ้าก็ลองเดาดูก่อนซิ ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกลืมทันทีผ่านพ้นเวลาไปแม้วินาทีเดียว
เอ้า ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตอบเจ้าว่า คนที่เดินสวนทางกัน
ผิด เจ้าลองนึกถึงคำตอบของเจ้าดี ๆ นะ ถึงแม้ว่าคนที่เดินสวนทางกันไป อาจจะลืมกันทันทีที่เข้าเดินผ่านกัน แต่หากว่า เขาเหล่านั้นได้เจอคนที่คุ้นหน้า หรือ เจอคนที่ต่อไปจะได้รู้จักกัน รับรองได้ว่า เขาเหล่านั้นไม่มีวันจะลืมได้ หากจะต้องจำและนำไปคิดถึงต่อ บ้างก็คิดเพื่อว่าจะระลึกว่าเขา หรือเธอคนนั้นที่ฉันเจอเป็นใคร บ้างก็คิดเพื่อนึกหน้า ถึงเขา แลเธอคนนั้นที่เจอเพื่ออยากรู้จัก เป็นต้น แล้วอย่างนี้จะเรียกได้อย่าไงว่า เป็นสิ่งที่ถูกลืมทันทีหลังจากเวลาผ่านพ้นไปแม้วินาทีได้อย่างไร
อะ ถ้าอย่างนั้นก็ ความผิดหวังไง คงไม่มีใครอยากจะจำมันซักวินาทีเดียว
ผิด สิ่งที่เจ้าตอบข้า ดูเหมือนจะมีคำตอบอยู่ในตนเองแล้ว ว่าทำไมคำตอบข้อนี้ของเจ้าถึงผิด ความผิดหวังเป็นสิ่งที่ทุกคน อยากที่จะลืม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะลืมมันได้ง่าย ๆ บางคนอาจจะต้องใช้เวลแสนนานกว่าจะลืม หรือบางคนอาจจะต้องใช้เวลาของเขาเกือบช่วยชีวิตที่จะลืมอะไรซักอย่างหนึ่ง แล้วอย่างนี้จะเรียกได้ว่า ความผิดหวังเป็นสิ่งที่จะถูกลืมได้ในเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีได้อย่าไร เช่นเดียวกันความยินดี ปรีดา เผื่อเจ้าจะตอบข้าดวยคำตอบนั้นต่อไป ความยินดีปรีดา ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกลืม แม้ว่าคนเรามักจะจดจำสิ่งที่เป็นเรื่องเศร้าใจ ผิดหวังได้ยาวนานกว่า ก็ตาม แต่วความยินดีก็มักเป็นสิ่งที่คนจะจดจำได้เมื่อระลึกถึงในยามมีความสุข หรือต้องการความสุขจากอดีต สังเกตได้จากคนมีอายุแล้วมักจะจดจำความสุขในอดีตของตนถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องเล่าผ่านไปยังคนรุ่นหลัง ๆ ของพวกเขาเหล่านั้น
อืม ก็จริงของเจ้านะ เจ้าสายลม ถ้าอย่างนั้นคำตอบของข้าข้อนี้คงเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วละ หากถ้าไม่ถูกเจ้าก็คงต้องเฉลย ให้ข้าฟังแล้วละ เอานะ คำตอบของข้าก็คือ ความดี อย่างไรละ ที่มักจะถูกลืมง่าย ๆ หรืออาจจะไม่มีใครได้จำมันเลยก็ได้
นั่นก็ยังคงเป็นคำตอบที่ผิดอยู่ดี ดูเหมือนเจ้าจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่นะเจ้าขุนเขา รู้หรือไม่ว่า ความดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกลืม ตรงกันข้ามมันจะตราเอาไว้ในโลกนี้ ผ่านไปยังสถานที่ เรื่องเล่า ตัวหนังสือ แม้กระทั้งเวลาจะผ่านไปจนคนรุ่นที่รู้จักคนที่ทำความดีนั้นตายจากไปหมดแล้ว ยิ่งความดีเหล่านั้นจะต้องเป็นความดีมุ่งทำให้คนส่วนมากได้รับผลของการกระทำของเขาเหล่านั้นแล้ว ความดีก็จะยิ่งตราตรึงอยู่นาน เช่นเดียวกับความชั่วด้วย แต่สิ่งที่ตราตรึง และไม่ทำให้คนที่ทำ ความชั่ว ถูกลืมกับไม่ใช่การยกย่อง นะ แต่มันจะเป็นคำสาปแช่ง เกลียดชังต่างหาก
ถ้าอย่างนั้น คำตอบที่เจ้าจะให้ข้าคืออะไรหรือเจ้าสายลม อะไรคือสิ่งที่เวลาผ่านไปแม้วินาทีก็จะเป็นสิ่งที่ถูกลืม
เอาละ เจ้าฟังข้านะ สิ่งที่ผ่านไปแม้วินาที่เดียวก็ถูกลืม ก็คือ รอยเท้าอย่างไรละ ดูซิ ข้าไม่เห็นใครซักคนที่หันกลับไปมองรอยเท้าของพวกเขาเหล่านั้นที่เดิมผ่านไปแล้ว
จริงของเจ้า รอยเท้าเป็นสิ่งที่ถูกลืมทันที่คนได้เดินผ่านไป แม้เสี้ยววินาทีเดียว มันก็จะถูกลืมไปเสียแล้ว
ขณะที่ทั้งสองสิ่งได้สนทนากันอยู่นั้น บทสนทนาของทั้งสองได้ยินไปถึง เงาของเจ้าขุนเขา มันจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
สิ่งที่เจ้าสายลมพูดนะ ก็ถูกอยู่หรอกนะ แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าอยากพูดกับพวกเจ้าเหลือเกินว่า คงไม่มีแต่รอยเท้าเท่านั้นที่แม้แต่ตัวข้า เจ้าขุนเขาก็ลืม ไม่จำเป็นที่ต้องย่ำผ่านสิ่งใด ๆ ทั้งนั้น เงานี่แหละคือคนที่ถูกลืมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เอ๊ะ เจ้าเงา เจ้าว่าเจ้าถูกลืมได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าอยู่กับข้าตลอดเวลา เจ้าจะเป็นสิ่งที่ข้าลืมได้อย่างไรเจ้านี่พูดอะไรเพ้อเจ้อ เจ้าขุนเขาต่อว่า เจ้าเงาของตนเอง
ถ้าอย่างนั้นเข้าอยากถามเจ้าซักคำหนึ่งว่า ข้าอยู่กับเจ้าตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมงจริงหรือ มีไหมที่ข้าจะไม่อยู่กับเจ้า เจ้าเงาเอ่ยถามเจ้าขุนเขา
เจ้าอยู่กับเราตลอดนั่นแหละไม่ต้องสงสัยเลย ไม่มีแม้วินาทีเดียวทีเจ้าจะไม่อยู่กับข้า เจ้าขุนเขาตอบด้วยความโมโหที่เจ้าเงา ถามคำถามที่เจ้าขุนเขาฟังดูแล้วงี่เง่าที่สุดในความรูสึกของมัน
ผิด เราไม่ได้อยู่กับเจ้าตลอดเวลาหรอก เรามีเวลาพักผ่อนมีเวลาได้ไปอยู่ร่วมกันเพื่อน ๆ ของข้า และมีเวลาที่ข้าจะได้ไม่ต้องสนใจเจ้าติดตามตัวเจ้าอยู่
เวลาไหนของเจ้า และใครเป็นเพื่อนเจ้า นอกจากข้า ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก เจ้าขุนเขาเถียงเจ้าเงาอย่างไม่ยอมแพ้
ก็เวลาที่ไม่มีแสงอย่างไรละ เมื่อใดก็ตามที่ไม่มีแสง ข้าก็ไม่ได้อยู่กับเจ้าแล้ว ข้าได้อยู่กับเพื่อน ๆ ของข้า ก็คือ ความมืด ไง ส่วนเจ้าเองก็คงไม่รู้หรอกว่า ในช่วงเวลาไหนบ้างที่ข้าไม่ได้อยู่กับเจ้า
ขุนเขาพูดอะไรไม่ออก เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งที่มันไม่เคยได้สังเกตเลยว่าในช่วงที่ไม่มีแสงสว่าง เจ้าเงาไม่เคยได้อยู่กับมันเลย ดูเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมันมากที่สุด แต่ก็กลับเป็นสิ่งที่มันไม่ได้สังเกตได้ว่า เป็นใคร รู้สึกอย่างไร มา และไปตอนไหน
เจ้าอย่ามัวไปคิดคำตอบให้กับเจ้าสายลมเลย ข้าจะตอบแทนเจ้าเอง สิ่งที่ถูกลืม หรืออาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้รับการจดจำเลยมากกว่า ก็คือเงาที่ติดตัวของแต่ละคน แต่ละสิ่งของเหล่านั่นเองมากกว่า แต่ก็นั่นละนะ ที่ข้าต้องเอ่ยปากตอบออกมานี้ ข้าไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้เจ้ามาจดจำข้าตลอดเวลาหรอก พียงแต่อยากจะบอกว่า หากเจ้าให้เวลาแม้วินาทีหนึ่งหันมามองสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เจ้าบ้างเจ้าจะรู้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร พวกเขาอยู่กับเจ้า หรือไปจากเจ้าตั้งแต่เมื่อไร อย่าเพียงจดจำ หรือมองแต่ไกลตัวของพวกเจ้าให้มากก็เท่านั้น แม้กระทั้งรอยเท้าที่เป็นคำตอบของเจ้าสายลมก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวของคนทุก ๆ และเป็นสิ่งที่สะท้อนคน ๆ นั้นได้ด้วยซ้ำว่า เขาเป็นคนเช่นไรจากรอยเท้า แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ถูกลืม ดังนั้นทางที่ดี ข้าว่า พวกเจ้าลองหันกลับไปมองใหม่ดีกว่า ว่าสิ่งใกล้ตัวพวกเจ้าอะไรบ้างที่ถูกหลงลืมไป แล้วช่วยเอาใจใส่ และจดจำพวกมันบ้าง ก็เพียงพอ ไม่ใช่ถูกลืม และไม่เอาใจใส่ จนสิ่งเหล่านั้น หรือคนที่ถูกลืมเหล่านั้นจากเราไป นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเจ้าเงาที่มันได้บอกกับเจ้าขุนเขา และเจ้าสายลม ก่อนที่ล้มตัวลงนอนเป็นเจ้าเงาของเจ้าขุนเขาโดยไม่มีปาก ไม่มีเสียงต่อไป
แล้วคุณละลงลืมอะไรในชีวิตของตนเอง ทั้งที่เป็น คน สัตว์ สิ่งของ ที่อยู่ใกล้ ๆ คุณบ้าง ลองนึกดูนะครับ เพื่อว่าจะได้ไม่เสียใจในภายหลังว่า เราไม่น่าลืมคนนั้นเลย ไม่ลืมทำสิ่งนั้นเลย ไม่น่าลืม
..
โดย ภูผากานต์
จากคุณ :
mukamuka
- [
31 ก.ค. 49 17:01:46
]