เรื่องเล่าในวงเหล้า
สายลมหนาวพัดหอบเอาความหนาวเหน็บมาเยือนในตอนเย็นหลังเลิกงานวันนี้ ข้าพเจ้าเดินออกมายืนที่หน้าสำนักงานก่อนหันไปทางภารโรงที่กำลังเก็บจอบในสนามหญ้า
เลิกงานแล้ว...ไปซื้อเหล้ามาดื่มกันหน่อย เออ..อย่าลืมเอากับแกล้มด้วยล่ะ ข้าพเจ้ายื่นแบงก์ห้าร้อยให้เมื่อภารโรงวิ่งเข้ามาหา
ลุงมา...ทองพูนดื่มเหล้าด้วยกันนะวันนี้ ข้าพเจ้าหันไปทางพนักงานประจำรถขยะ
ครับปลัด โอ้วันนี้มีลาภปากอีกแล้ว ลุงมาพูดพลางยิ้มท่าทางดีใจ
เดือนละครั้งสองครั้งที่ข้าพเจ้ามักจะหาโอกาสดื่มหลังเลิกงานเช่นนี้
เหล้าพร้อมกับแกล้มถูกยกมาวางที่ม้าหินอ่อนใต้ร่มหางนกยูงหลังสำนักงาน
ลมหนาวยังพัดหวีดหวิวทุกระยะ ต้นข้าวที่ออกรวงเหลืองอร่ามตามผืนนาริมรั้วโอนเอนอ่อนไหวไปตามแรงลมรอการเก็บเกี่ยว ชาวนาต่างทยอยกันกลับสู่บ้านเรือนของตนเมื่อความมืดเริ่มคืบคลานกลืนแสงสว่างสู่เวลาย่ำค่ำ
เอ้า...ดื่มลุงดื่มเป็นไงทำงานเหนื่อยไหม ข้าพเจ้าชี้มือไปที่แก้วเหล้า แกยกขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย
ไม่หรอกครับปลัด.. งานในไร่ในนาหนักกว่านี้เยอะ ลุงมาตอบหลังถอนแก้วออกจากปาก
ทุกคนตักกับแกล้มเข้าปากคนละทีสองทีพร้อมจิบเหล้าไปด้วยทำให้การดื่มวันนี้มีรสชาติยิ่งขึ้น
ปลัดครับ.. ผมขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวนิดหนึ่ง
ได้สิลุง ข้าพเจ้าพูดแบบกันเอง
ปลัดไม่มีคุณนายหรือครับผมไม่เห็นมาอยู่ด้วยเลย ลุงมาถามแบบพาซื่อ
ยังสิครับถามได้ คนขี้เหร่อย่างผมใครจะมาเอา ข้าพเจ้าพูดพลางหัวเราะก่อนพูดต่อ
ถ้ามีผมก็ต้องเอามาอยู่ด้วยสิ ผมชี้มือไปที่บ้านพักที่อยู่ถัดไป
แล้วลุงล่ะบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่ไหนหรือว่าเป็นคนที่นี่โดยกำเนิด ข้าพเจ้าถามเรื่องส่วนตัวแกบ้าง
ผมย้ายมาจากจังหวัด......เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แกเอ่ยชื่อจังหวัดหนึ่งของภาคอีสาน
แล้วไปไงมาไงถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะลุงข้าพเจ้าถามเรื่อยเปื่อยแบบไม่ค่อยใสใจนัก
ที่จริงแล้วเรื่องของผมมันยาว แกหยุดถอนหายใจ
ยาวแค่ไหนก็ไม่เป็นไรนี่ลุงเหล้าตั้งกลมกว่าจะหมด ค่อยๆ เล่าสู่กันฟังก็ได้ข้าพเจ้าประชดประชันพร้อมทำเป็นคะยั้นคะยออยากฟัง
เอาเป็นว่าผมดื่มถูกคอกับปลัดผมจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน
อืม... ข้าพเจ้าพยักหน้า
สมัยเป็นหนุ่มก่อนที่จะแต่งงานกับยายสีแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ลุงมายกแก้วเหล้าก่อนพูดต่อ
ช่วงนั้นผมมักจะไปมาหาสู่กับญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ฟากแม่น้ำโขงฝั่งโน้น เหตุการณ์ครั้งนั้นผมยังจำได้ดีไม่มีวันลืม ลุงมาทำสีหน้าเคร่งขรึม
เป็นไงลุง ข้าพเจ้าถาม
วันนั้นผมข้ามฝั่งโขงไปเยี่ยมญาติเช่นครั้งก่อนๆ ช่วงนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองเขายังสงบร่มเย็น สัตว์ป่าชุกชุม ของป่ามากมายหลายอย่าง แกเว้นระยะ
แต่ละวันญาติมักจะพาผมไปล่าสัตว์ ได้เก้ง กวาง มาทำอาหารกินกัน หากเหลือเราก็จะทำเป็นเนื้อแห้งเก็บไว้กินในวันข้างหน้า
ล่าสัตว์ก็สนุกดีนี่ครับ ทำไมลุงต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้น ข้าพเจ้าขัดคอเล่นๆ
ครับ...ฟังต่อ ผมอยู่ครั้งนี้นานกว่าทุกครั้งจนลืมว่าตัวเองเป็นคนไทย และแล้ววันหนึ่งทางการมาเกณฑ์คนไปเป็นทหารผมก็โดนเกณฑ์ไปด้วย ผมไม่กล้าบอกว่าเป็นคนไทยกลัวโดนข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และอีกอย่างในสมัยนั้นประเทศเขาก็ไม่มีใครมีบัตรประชาชนกัน ผมจึงเลยตามเลยจนถูกฝึกเป็นทหารอยู่ประจำกองร้อยอารักขาท่านเจ้าแขวง
น่าสนุกนะครับทหารประเทศนั้น
ข้าพเจ้าเริ่มสนุกไปกับการเล่าเรื่องของแก
แรกๆ ไม่ค่อยสนุกนักหรอก แต่บังเอิญวันนั้นทหารที่เป็นหัวหน้าสั่งให้ผมนำหนังสือไปเสนอท่านเจ้าแขวงที่จวน พอผมย่างก้าวเข้ารั้วเท่านั้นหมาที่แกเลี้ยงไว้สี่-ห้าตัวก็โดดรุมกัดผมแบบไม่ให้ตั้งตัว กว่าจะมีคนมาไล่ออก ผมต้องลงไปนอนคลุกฝุ่นน่วมทั้งตัว แต่แปลกที่ว่าผมไม่มีแผลเลยสักแห่งทั้งๆ ที่โดนรุดกัดขนาดนั้น ท่านเจ้าแขวงรู้เข้าเลยทึ่งเอาผมไปเป็นทหารรับใช้ที่จวนของแกพร้อมเลื่อนยศให้ผมเป็นนายสิบ ลุงมาหยุดพูดยกแก้วจิบ
ทำไมหมากัดลุงไม่เข้าล่ะ มีของดีอะไรเหรอ ข้าพเจ้าสงสัย
อาจเป็นเพราะผมห้อยหลวงพ่อที่คอตอนนั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว
เสียงลมหนาวยังพัดดังหวีดหวิวทุกระยะ แต่ความหนาวคลายลงบ้างแล้ว อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่พวกเราดื่มเข้าไปออกฤทธิ์แล้วก็เป็นได้
เล่าต่อครับลุง กำลังสนุก ข้าพเจ้าเร่ง
เหตุการณ์บ้านเมืองสงบได้ไม่นานก็ต้องมีอันเปลี่ยนแปลง ช่วงนั้นรัฐบาลมีการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่มีทหารจากประเทศทางตะวันออกมาเสริมกำลังขับไล่เข่นฆ่าและจับชาวบ้านไปสัมมนาความจริงก็คือกักขังนะแหละ ลุงมาถอนหายใจ
บ้านเมืองพวกเขาเกิดระส่ำระสาย เจ้าแขวงถูกเรียกตัวเข้าเมืองหลวงแล้วหายตัวไป ชาวบ้านหลายครอบครัวอพยพหนีเข้าไทยกันจ้าละหวั่น ลุงมาเว้นระยะ
ผมกับทหารกลุ่มหนึ่งคิดจะปักหลักสู้ แต่ปืนใหญ่ยิงถล่มค่ายเราทุกระยะ พวกเรามีแต่ปืนเล็กเท่านั้นจึงไม่มีโอกาสต่อสู้กันจะจะ และแล้ว...ใกล้รุ่งของวันนั้นเองค่ายเราถูกยิงถล่มหนัก รถถังข้าศึกหลายคันบุกยิงทำลายค่ายเรายับเยินทุกคนหนีเอาตัวรอด ผมกระโดดข้ามรั้วค่ายวิ่งหนีเหมือนกัน ลุงมาหยุดยกแก้วขึ้นดื่มก่อนเล่าต่อ
ผมวิ่งไปตามถนนในตัวเมืองที่มีสภาพไม่ต่างจากหมู่บ้านในเมืองเราเท่าใดนัก หมายมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด ลูกปืนใหญ่ตกแต่ละครั้งดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว ผมวิ่งมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่มีสภาพเป็นตึกเจ้าของบ้านมีพ่อ แม่ ลูกสาว และหลานชายตัวเล็กอีกคนพากันวิ่งออกมาจากบ้านพร้อมห่อสัมภาระ พวกเขาเห็นผมรู้ว่าเป็นทหารเลยว่าจ้างให้ช่วยพาหนีเข้าไทยโดยจะให้ทองจำนวนหนึ่งเป็นรางวัล ผมตอบตกลงให้พวกเขาตามมา ตอนนั้นผมไม่ได้คิดหรอกว่าจะยุ่งยากลำบากในภายหน้า คิดแต่เพียงว่าอยากได้ทองเป็นทุนตั้งตัวเมื่อถึงเมืองไทยเท่านั้น ผู้เป็นพ่อขอให้ช่วยอุ้มหลานชายของแก เพราะตามลำพังตัวแกกับเมียก็เดินลำบากอยู่แล้วส่วนลูกสาวร่างบอบบางเกินไป ผมเอาหลานแกเกาะด้านหลังแล้วเอาผ้าขาวม้ารัดเอาไว้อีกทีหนึ่ง แกหยุดคิดชั่วครู่
ผมดูก็รู้ว่าครอบครัวนี้มีเชื้อสายจีนอาชีพค้าขายฐานะดี เวลานั้นชาวบ้านวิ่งหนีกันขวักไขว่เต็มไปหมด รถจิ๊บติดปืนกลหลายคันแล่นตรวจการณ์ไปมาตามถนนพร้อมเสียงปืนกลดังรัวเป็นระยะ ๆ ผมพาพวกเขาวิ่งหลบไปทางสวนหลังบ้าน
ลูกสาวแกสวยไหมลุง ข้าพเจ้าขัดขึ้นด้วยความอยากรู้ตามประสาหนุ่มๆ แกพยักหน้าเนิบ ๆ แล้วทำหน้าเศร้าขึ้นยิ่งทำให้ข้าพเจ้าสงสัยและคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ นา ๆ
ผมขอเสื้อผ้าจากพ่อเธอใส่แทนชุดทหารเพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตา การหนีของเราช้ามากเพราะผู้เป็นพ่อกับแม่ไม่เคยลำบากเมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล้วได้แต่บ่นว่าเหนื่อยไปไม่ไหว และในที่สุดสองผัวก็ชุบซิบกันก่อนที่บอกให้ผมพาลูกสาวกับหลานชายแกหนีล่วงหน้าไปก่อน แต่ลูกสาวแกไม่ยอมท่าเดียวได้แต่ร้องไห้กอดพ่อ กับแม่ไว้แน่น ผมส่ายหน้าเห็นใจแต่ช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้เพราะแม้แต่ตัวเองยังจะเอาไม่รอด เรานั่งพักครู่ใหญ่ ๆมีชาวบ้านมาสมทบอีกสาม-สี่คนผมสังเกตเห็นแต่ละคนมีห่อผ้าสัมภาระแต่เมื่อผมมองห่อผ้าพวกเขา เขาจะกอดไว้แน่นราวกับว่ากลัวผมจะแย่งเอา ผมคิดว่าต้องเป็นห่อทรัพย์สินเงินทองแน่ ๆ ลุงมายกเหล้าขึ้นจิบก่อนเล่าต่อ
พวกเราเดินทางต่อเสียงลูกปืนใหญ่ตกดังเป็นระยะ ๆ และแล้วเสียงปืนกลก็ดังขึ้นเป็นชุด ๆ ผมมองเห็นทหารข้าศึกวิ่งเข้ามาด้วยสัญชาตญาณผมดึงเอาแขนลูกสาวแกกระโดดหลบลงท่องร่องแล้ววิ่งหนี เด็กที่อยู่บนหลังกอดคอผมไว้แน่น เธอร้องเรียกหาพ่อแม่ตลอดเวลาพอผมโผล่หน้าขึ้นแอบดูเห็นพ่อแม่ของเธอกลับกลุ่มชาวบ้านนอนจมกองเลือด เธอร้องไห้ผมเอามือปิดปากไว้พลางส่ายหน้าว่าพวกมันจะได้ยินเดี๋ยวหนีไม่รอดพวกเขาไปดีแล้วหมดทุกข์แล้ว โชคดีที่พวกมันสนใจอยู่ที่ห่อผ้าสัมภาระผู้ตาย ลุงมาพักดื่มเหล้าเหมือนกระหาย
จากคุณ :
ป.ยุทธ
- [
2 ส.ค. 49 08:11:11
]