วันนี้ขยันมาก
05.00 น. กระวีกระวาดลุกมากดนาฬิกาปลุกเหมือนเดิม
แต่วันนี้ไม่ชนแก้วน้ำเพราะเมื่อคืนก่อนนอนเอาไปล้างเก็บแล้ว
05.40 น. วันนี้ออกช้ากว่าวันแรกถึงแม้ว่าจะเป็นวันที่ 2
ของการออกกำลังกายก็เถอะแต่สงสัยจะเป็นเพราะเราหักโหม
เกินไปบวกกับระบบที่อยู่ข้างในมันปรับตัวไม่ทันเลยทำให้เพลีย
หนักกว่าที่เคยเป็น แถมปวดขาเป็นบ้าเลย
คิดอยู่ในใจทำไมนะเราเองก็นักฟุตบอลเก่า แล้วกับอีแค่
วิ่งระยะทางแค่นี้ทำไมมันถึงปวดนักบ้าชิบแต่ก็เอาเถอะเพื่อการ
ขับไล่ไขมัน เราต้องทน
05.50 น. เริ่มสืบเท้าออกวิ่งหลักจากอบอุ่นร่างกายแล้ว
ฟังดูดีนะคำว่าอบอุ่นร่างกายแต่จริงๆแล้วเราเสียเวลาอยู่กับ
การตัดสินใจว่าวันนี้จะวิ่งตรงไหนดีซะมากกว่า ก่อนที่จะรู้ว่าควร
วิ่งรอบสนามบาสที่ซึ่งผู้คนขวักไขว่และไม่มีหมาให้เสียประสาท
ที่สำคัญวันนี้มีเรื่องต้องให้คิดเยอะเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
ซึ่งเมื่อคืนได้ดูทีวีแล้วมีการแนะนำท่าที่สามารถกำจัดห่วงยางรอบ
ตัวได้ไหนๆก็เห็นแล้วคาดว่าวันนี้คงสนุก
05.55 น. ความระบมของขาทั้งสองข้างทำให้ทุกอย่างดูจะ
หนักเป็นสองเท่า ขณะที่สืบเท้าออกวิ่งในสมองก็คิดถึงสิ่งที่ทำเมื่อวาน
เรื่องอาหารการกิน เราเองผิดหวังเล็กๆที่ไม่สามารถหยุดยั้งช่างใจไม่ให้ซัดข้าว
ตอนดึกได้ ในทำนองที่ว่าทำดีมาทั้งวันแต่มาตายตอนสุดท้ายและดันเป็น
ตอนที่คนลดความอ้วนคนออกกำลังกายแทบทุกคนรู้กันดีอยู่แกใจว่านั่นเป็น
มื้อต้องห้าม เพราะมันจะเป็นการสะสม
แต่ทำไงได้ว่ะก็ในเมื่อหิว แล้วอีกอย่างการทรมานตัวเองก็ใช่ว่าเป็นสิ่ง
ที่ดี ไม่เป็นไรอย่างน้อยวันนี้เราก็ตื่นมาวิ่งอย่างที่ตั้งใจ
06.00 น. เหนื่อยว่ะเมื่อไหร่จะครบ 20 นาทีว่ะ เสียงบ่นดังอยู่ในหัว
ตลอดเลยหลังจากที่ก้มดูนาฬิกาจับเวลาขาเราเองก็ก้าวไม่ค่อยจะออกหรือว่า
เราจะพอแค่นี้ ใช่ว่าเราขี้เกียจนะแต่รู้สึกว่าวิวที่อยู่ข้างตัวเรามันดูจะเป็นอะไร
ที่น่าเบื่อมากเลย ไม่มีทะเลสาบ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีที่สำหรับทอดสายตาไปข้างหน้า
ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมีแต่ตึก แล้วก็ตึกยังไงว่ะเนี่ยเอาไงดีหยุดดีมั้ย แค่นี้ก็ผอม
อย่างที่ตั้งใจแล้ว
06.05 น. เริ่มเบนทิศทางการวิ่งเพราะขืนวิ่งวนอยู่ตรงนี้มีสิทธิ์ที่จะล้ม
เลิกกิจกรรมการออกกำลังของเราแน่นอน และก็ไม่กลัวหมาแล้วด้วยเพราะเชื่อ
ว่าตอนนี้พวกมันคงถูกเสียงเครื่องยนต์ปลุกออกมาหมดแล้ว หรือไม่ก็คงรีบลุกมาหา
เศษอาหารอย่างที่พวกมันควรจะทำ ขืนช้ามีสิทธิ์อดได้เพราะเมื่อกี้เห็นรถขยะวิ่ง
ผ่านไปเราเริ่มวิ่งเลาะไปตามตึกต่างๆ ด้วยความหวังที่ว่าความรู้สึกเบื่อจะหมด
ไปจากใจ
06.10 น. จริงด้วยความรู้สึกเบื่อหายไปจริงๆ แต่สิ่งที่กลับมาแทนที่กลับ
เป็นความล้าที่เกาะกลุ้มขาทั้งสองข้างยังไม่ทันที่จะถึงมุมตึกที่ตั้งใจไว้เลย ความรู้สึก
เหนื่อยก็สั่งการมาที่สมองให้หยุด โชคดีที่ตอนคำสั่งหยุดออกมานั้น เป็นจังหวะวิ่งสวน
กับเพื่อนนักวิ่งที่สงสัยว่าจะเจอเมื่อวานเค้าพยักหน้าทักทายทำให้เราลืมเหนื่อยไปอึดใจ
แหมขืนหยุดตอนนั้นก็เสียฟอร์มซิจริงป่ะ แต่จนแล้วจนรอดก็จำต้องหยุดเพราะรู้สึกว่า
ระบบการหายใจไม่อำนวยบวกกับรู้สึกว่าลมจะแดก แต่โชคดีนะที่วิ่งได้ตามเวลาที่ตั้งใจ
ถึงแม้จะไม่ได้ 30 นาที่อย่างที่คิดไว้แต่ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเมื่อวานหรอก
06.30 น. เดินยกแขนเพื่อคลายความล้าที่เกาะอยู่ที่หัวไหล่ ในใจยังคงภูมิใจอยู่กับ
เวลาที่ทำไว้ 20 นาทีของการวิ่งในวันสองวันนี้ต้องผอมเยอะแน่เลย แต่ไม่ได้หรอกถ้าเราเดิน
อยู่แบบนี้ต้องไม่ทั่วแน่ๆความคิดที่จะซิดอัพเกิดขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยจะการวิ่ง แต่
การที่ได้เดินพักก็ทำให้รู้สึกว่าพร้อมที่จะออกกำลังกายในสแต็บต่อไปได้แล้วที่สำคัญอาการ
ลมแดกหายไปแล้ว เราเดินกลับมาที่ก้อนปูนขนาดใหญ่ก้อนเดิม แล้วเริ่มที่จะซิดอัพเพื่อเป็น
การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องตามความรู้ที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ก็อย่างว่าเราคงจะล้าไป
นานเลยจบอยู่ที่ 20 ครั้งไม่ต่างจากเมื่อวานและดูท่าวันนี้จะเหนื่อยหนักกว่าเก่าด้วยเพราะว่า
มันปวดเมื่อยไปหมด ยังดีนะที่ความตั้งใจยังคงอยู่
หลังจากเดินทอดน่องเล็กน้อยเพื่อเป็นการเบรคกล้ามเนื้อ เราก็เริ่มหยิบเอาท่าใหม่ที่
ได้ดูทางทีวีมาประยุกต์ใช้ ในความเป็นจริงมันก็เป็นท่าการออกกำลังการพื้นๆทั่วๆไปที่ครูพละ
เค้าบอกเราตั้งแต่เรียนนั้นแหละแต่ว่าเราไม่ได้เอามาใช้เอง ท่าที่ว่าก็แบบยืนตัวตรงกางขาทั้งสอง
ข้างออก คิดง่ายๆยืนให้ไข่รับลมพร้อมกับยกแขนขึ้นข้างหนึ่งก่อนที่จะเอนตัวไปด้านข้าง
ของตัวเองพร้อมกับงอขาข้างที่ข้างที่ไม่ได้ยกแขนแล้วเอามือข้างเดียวกันแตะที่ปลายเท้า
พร้อมกับโยกไปมา ไม่อยากจะบอกว่าทำได้แค่ข้างละ 10 ทีก็ต้องทรุดตัวลงมานั่งนิ่งๆไม่ใช่อะไรนะ
แต่ว่าแม่งปวดสีข้างชิบหาบเลย ก่อนที่จะเดินกลับบ้านอย่างภูมิใจเพราะว่ายังไงวันนี้ก็ผอมสุดๆชัวร์
12.00 น. ออกไปสรุปเรื่องงานที่ อโศก พร้อมกับความหิว แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะวันนี้
เปลี่ยนแนวคิดใหม่แล้ว แบบว่าจะยับยั้งช่างใจให้มากกว่าเก่าจะกินข้าวก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน
ไม่เอาแล้วกินแต่ยำไม่อิ่มแถมต้องกินเยอะด้วย ไม่ได้หรอกนะเดี๋ยวอ้วน ก่อนที่ทุกอย่างจะจบก็เย็นแล้ว
ก็กินยำตะไคร้ก่อนกลับบ้านถือว่าวันนี้ประสบความสำเร็จมากๆในการลดน้ำหนักและการห้ามใจตัวเอง
แต่ขอบอกว่าหิวชิบหายเลย
จากคุณ :
ศรัทธา/รัก/มุ่งมั่น/สำเร็จ
- [
6 ส.ค. 49 20:30:33
]