CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    อิสรภาพของด่าง

    แดดยามสายส่องประกายร้อนไปทั่วบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งของภาคอีสาน

    “ด่าง ด่าง ด่าง... จุ๊ จุ๊”      
         
    ไอ้ด่างได้ยินเสียงเรียก มันกระดิกหางอย่างดีใจวิ่งเข้าหาเจ้านายใหญ่อย่างนอบน้อม พลางเลียแข้งเลียขาเอาอกเอาใจ        
         
    เจ้านายใหญ่รีบจับตัวแล้วกอดรัดมันไว้แน่น      
         
    “มา..มาเอาเร็วๆ  จับไว้แล้ว”        
         
    ชายแปลกหน้าเดินเข้าใกล้แล้วเอาเชือกรัดที่คอกระชากอย่างแรง  มันสะดุ้งตกใจ  ดิ้นสะบัด แต่ยิ่งดิ้นยิ่งรัดแน่นหายใจแทบไม่ออก  เจ้านายใหญ่ของมันเข้ามาจับตัวมันอีกครั้งมันจึงหยุดดิ้น  และแล้วคนแปลกหน้าอีกคน  อ้อมมาด้านหลังค่อยๆ จับตัวมันแทนเจ้านายใหญ่  จากนั้นมันถูกโยนเข้าไปในกรงที่อยู่บนรถกระบะอย่างแรงจนดังโครม        
         
    มันยอมรับว่าในชีวิตไม่เคยเจ็บปวดครั้งไหนมากเช่นครั้งนี้มาก่อน  มันเจ็บปวดเสียจนร้องเสียงหลง      
         
    “เอ๋ง  เอ๋ง  เอ๋ง”      
         
    มันถูกดึงมาประชิดลูกกรง  ก่อนที่จะถูกแก้เชือกออกจากคอ  น้ำตาของมันเอ่อซึมออกมาอย่างไร้การปลอบประโลมหรือได้รับการลูบหัวใดๆ ทั้งสิ้น      
         
    มันมองรอบๆ กรงเหล็กสี่เหลี่ยมอย่างหวาดกลัว และยอมรับว่าไม่เคยกลัวครั้งใดมาก เช่นครั้งนี้มาก่อนในชีวิต      

    มันมองเจ้านายใหญ่ที่ยืนพูดคุยกับคนแปลกหน้าอย่างกระหยิ่ม
         
    “นี่ครับถังน้ำ” คนแปลกหน้าพูด พลางยื่นให้      
         
    “ขอสองใบไม่ได้เหรอ? ตัวมันอ้วนนะไม่เหมือนหมาตัวอื่น”      
         
    “ไม่ได้หรอกครับเดี๋ยวขาดทุน”      
         
    “เอา...ใบเดียวก็ใบเดียว เอาไปให้พ้นเสียที  หมาอะไรก็ไม่รู้  วันๆ กัดเป็ด กัดไก่ชาวบ้าน บางวันกัดคน เสียเงินเสียทอง  เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ”      
         
    “คิดถูกแล้วล่ะครับที่ให้พวกผมเอาไปจัดการให้”    พูดจบคนแปลกหน้าก้าวขึ้นรถขับออกไป      
         
    ไอ้ด่างได้แต่สงสัยว่าคนพวกนี้จะเอาตัวมันไปไหน ทำไมเจ้านายใหญ่ยอม  นี่ถ้าคนแปลกหน้าพวกนี้ไม่เอาเชือกรัดคอและเจ้านายใหญ่ไม่อยู่ใกล้ๆ ล่ะก็  จะแว้งกัดสู้แบบจนตรอกทีเดียว      
         
    มันมองบ้านที่เคยอาศัยอยู่กิน  ซึ่งบัดนี้ห่างออกไป ห่างออกไปจนถูกบดบังจากบ้านหลังอื่น      

    อิสรภาพที่เคยมี บัดนี้จบสิ้นเสียแล้วหรือ
         
    “โหล...โหล...หนึ่งสองสาม  สวัสดีครับ  วันนี้หน่วยบริการถังน้ำแลกหมามาแล้วครับ... ถังน้ำแลกหมา- หมาตัวไหนดื้อ เกเร เลี้ยงไม่เชื่อง กัดเป็ด-กัดไก่-กัดผู้-กัดคน  เอามาแลกถังน้ำได้  หมาหนึ่งตัวแลกถังน้ำหนึ่งใบ”  เสียงประกาศดังออกจากวัตถุบนหัวรถ  ดังเสียงแหลมจนแสบแก้วหู  เวลานี้ไอ้ด่างแสดงอาการหวาดผวา ตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด มันมึนงงตาลาย และวิงเวียนไปกับรถที่พาเคลื่อนไปข้างหน้า แล้วก็หยุดเป็นช่วงๆ      
         
    ไม่นานนักมันเริ่มมีเพื่อนร่วมกรง  การเข้ามาของเพื่อนๆ จะถูกโยนเข้ามาตัวแล้วตัวเล่าไม่ต่างจากมันเลย  
         
    เพื่อนใหม่แต่ละตัวไม่มีตัวใดกล้าแสดงอำนาจ หรือทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักนิด ทุกตัวอยู่อย่างสงบสันติ เจียมเนื้อเจียมตัว และหดหู่  ช่างต่างจากอยู่ข้างนอกกรง ที่แต่ละตัวเจอกันเป็นไม่ได้ต้องแสดงอำนาจบาตรใหญ่ โดยการยิงฟันคำรามใส่กันและกัน  กระทั่งกระโดดกัดฟัดเหวี่ยงจนกว่าจะมีผู้แพ้และล่าถอย      
         
    ไอ้ด่างมองเพื่อนแต่ละตัวไม่ต่างไปจากมันนัก      
         
    มันและเพื่อนๆไม่รู้ตัวว่า เจ้านายยอมให้คนแปลกหน้าพวกนี้ จับตัวโยนเข้ากรง มีจุดเพื่ออะไร  ไปไหน  และไปทำไม        
         
    พลัน...มันดีใจกระดิกหางเมื่อรถวิ่งช้าๆ กลับมาทางเดิมแล้วผ่านบ้านเจ้านายของมันอีกครั้ง      
         
    “เอาไอ้ด่างของผมคืนมา  เอาคืนมา  ฮือๆ” เจ้านายน้อยของมันร้องตะโกนทั้งน้ำตาพลางกวักมืออยู่ไวไว โดยมีเจ้านายใหญ่รั้งตัวไว้      
         
    “อย่า...ลูก  ให้เขาเอามันไปเถอะ มันเกเร มันเป็นหมาไม่ดี เราหามาเลี้ยงใหม่นะ มีเยอะแยะ เดี๋ยวพ่อจะพาไปขอเอา”      
         
    “ไม่เอา...จะเอาไอ้ด่าง  ทำไมเขาต้องเอาไอ้ด่างของเราไปด้วย  ฮือ ฮือ...”      
         
    มันเห็นเจ้านายน้อยดิ้นจนหลุดจากมือเจ้านายใหญ่  แล้ววิ่งตามรถมา  โดยมีเจ้านายใหญ่วิ่งไล่ตามหลังมาติดๆ      
         
    ไอ้ด่างดีใจ...แสดงว่าเจ้านายทั้งสองของมันพยายามที่จะวิ่งมาช่วยมันเป็นแน่  แต่...มันก็ต้องสิ้นหวัง  เมื่อรถห่างไกลออกมาจนเลือนหายไปกับโค้งถนนที่มีกอไผ่บดบัง      
         
    รถเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางถนนดำบ้าง  แดงบ้าง และบางครั้งก็กระแทก  กระโดดหลุม  จนไอ้ด่างกับเพื่อนๆ ต่างกระเด็นกระดอนปวดระบมไปทั้งตัว      
         
    รถผ่านหมู่บ้านเมื่อไหร่ มันจะเห็นคนแปลกหน้าที่ขับรถพามันมา  โยนเพื่อนใหม่เข้ามาในกรงสภาพที่ไม่แตกต่างจากมันนัก  เพื่อนใหม่แต่ละตัวจะร้องเหมือนมันทุกครั้งไป  โดยเฉพาะคราวนี้ ถูกโยนเข้ามาหลายตัว บางตัวกระแทกกับเพื่อนที่อยู่ในกรงร้องประสานเสียงด้วยความเจ็บปวดอยู่นาน        
         
    “เอาไปหน่อย...หลายตัวจริงๆ เปลืองข้าวตั้งนาน...ทำไมช่วงนี้ไม่เห็นมานานแล้ว?”      
         
    “ไปเดินสายทางอื่นนะครับ  ทำไมคราวนี้มีหลายตัวล่ะครับ?...ดีจังเลย”      
         
    “ลูกมันดก...ไม่มีใครมาขอไปเลี้ยงเลย...แย่จริง  ยังดีที่มีหน่วยบริการแลกถังน้ำจะได้แลกไว้ใช้  ประหยัดเงินซื้อ”      
         
    “ครับผม...ขอตัวก่อนนะครับโอกาสหน้าจะมาใหม่ อย่าลืมเลี้ยงไว้เยอะๆ” พูดจบก็ก้าวขึ้นรถขับไป      
         
    เวลานี้กรงที่ขังมันกับเพื่อนๆ เริ่มแออัดยัดเยียด  หากรถหยุดนิ่งเมื่อไหร่  มันจะรู้สึกว่าอึดอัดหายใจไม่ออก จะค่อยยังชั่วก็ต่อเมื่อรถเคลื่อนไปเท่านั้น      
         
    และแล้วรถก็หยุดนิ่ง-นิ่งอยู่กลางแดดจ้า ไอ้ด่างแหงนมองที่มาของลำแสงและความร้อน มันเพ่งมองได้แว๊บเดียว ก็ต้องเบือนหน้าหนี เพราะสิ่งนั้นทำให้สายตาของมันพร่ามัว  บัดนี้ความร้อนที่ได้รับ ทวีความรุนแรงจนมันกับเพื่อนๆ ลิ้นห้อยกระเส่าไปตามๆ กัน      
         
    “ว้า...ต้นไม้ริมทางไม่มีซักต้นเลยลูกพี่ กะว่าจะจอดให้หมาพวกนี้เข้าร่มซะหน่อยเดี๋ยวตายซะก่อน”        
         
    “เออนี่...ข้าว่าเอ็งเอาไอ้ตัวผอมโซตัวนั้น มาทำเป็นกับข้าวเที่ยงหน่อยวะ  ข้าซักน้ำลายไหล  ไม่ได้กินเนื้อพวกนี้มาหลายวันแล้ว”      
         
    “ดีเหมือนกันลูกพี่ ผมว่าไอ้ตัวนั้นมันไปไม่ถึงบ้านหรอกตายกลางทางแหงๆ”        
         
    “เดี๋ยวข้าไปก่อไฟรอที่กระท่อมนาโน่นนะ”      
         
    ไอ้ด่างมองคนแปลกหน้าค่อยๆ หย่อนเชือกที่เป็นบ่วงลงไปที่คอไอ้ผอมโซตัวนั้น-ตัวที่มันนึกสมเพชกับความผอมแห้งขี้โรค ขณะที่สวมลงที่คอ  ไอ้ผอมโซกำลังนั่งแลบลิ้นหอบแหกๆ  คล้ายจะไม่รอด      
         
    พลัน!!!...มันและเพื่อนๆ ทุกตัวก็ต้องสะดุ้งโหยง ตะลึงงันไปกับภาพที่เห็น      
         
    นรก...เป็นพยาน      
         
    ไอ้ผอมโซถูกเชือกโยงที่คอขึ้นกับลูกกรงด้านบน ขาทั้งสี่ดิ้นสะบัดไปมา ดวงตาถลน  ของเหลวราดออกจากทวารหนัก  กระเด็นเรี่ยราดลงมาถูกเพื่อนด้านล่าง    แม้แต่ไอ้ด่างก็ยังโดนเปรอะที่หัว มันจำต้องสลัดหัวไป-มาอย่างแรงสี่-ห้าที เพื่อทำความสะอาด      
         
    คนแปลกหน้าเอาร่างที่แน่นิ่งของไอ้ผอมโซออกทางประตูกรง   มันมองตามอย่างไม่วางตา      
         
    ร่างไอ้ผอมโซถูกโยงไว้กับต้นไม้ แล้วถูกมีดเฉือนเอาเนื้อหนังออกมาให้อีกคนหั่นลงกระทะที่ตั้งไฟจนเดือด  กลิ่นหอมโชยมากระทบจมูก ไอ้ด่างรู้ตัวแล้วว่ากำลังหิว-หิวจนตาลาย มันเลียปากแลบๆ เพื่อนๆ ร่วมกรงก็ไม่ต่างกัน   มันยอมรับว่าหิวที่สุดของที่สุดที่เคยหิวมา มันนึกถึงจานข้าวที่เจ้านายเคยให้  มันกินและเลียอย่างเอร็ดอร่อย      
         
    ไอ้ด่างได้แต่คิดว่าสักวันจะต้องได้กลับไปกินเช่นนั้นอีก        
         
    มันมองคนแปลกหน้าโยนเศษกระดูก เศษข้าวที่เหลือกินทิ้ง  เวลานี้มันอยากดลใจให้โยนมาทางมันเหลือเกิน  แต่...ไร้วี่แวว      
         
    “เฮ้ย...เอ็งไปเอาผ้าคลุมกรงไว้หน่อย เดี๋ยวพวกมันตายเสียก่อน  เจ๊งนะเว้ย อย่าลืมนะว่าเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น ชำแหละมาโลละสาม-สี่ร้อยเชียว”      
         
    “โอ้...จริงนะครับลูกพี่  ผมลืมไปว่ามีผ้า”      
         
    ความร้อนคลายไปบ้างแล้ว  แต่...ความหิวยังคงดังเดิม  ลำคอแห้งเป็นผง ไอ้ด่างได้แต่นอนคดคู้จนผล็อยหลับ      
         
    มันรู้สึกตัวว่ารถเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่นานก็มีเพื่อนใหม่ขึ้นมาสมทบทั้งๆ ที่แน่นอัดอยู่แล้ว ยิ่งแออัดเข้าไปอีก หายใจแทบไม่ออก  มันเห็นเพื่อนบางตัวถูกทับจนหายใจรวยรินจะตายมิตายแหล่

    จากคุณ : ป.ยุทธ - [ 8 ส.ค. 49 12:45:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com